Contenu connexe
Similaire à File เพาะพันธุ์ปัญญา
Similaire à File เพาะพันธุ์ปัญญา (20)
Plus de Monthon Sorakraikitikul
Plus de Monthon Sorakraikitikul (19)
File เพาะพันธุ์ปัญญา
- 2. ผู้นาเสนอ
• การศึกษา ป. เอก วิศวกรรมเครื่องกล University of
Queensland, Australia
• อดีต รองผู้อานวยการ และผู้อานวยการฝ่ ายอุตสาหกรรม
สานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจย (สกว.) ผู้ริเริ่มโครงการยุว
ั
วิจยต่ างๆ ของ สกว.
ั
• ปัจจุบัน
–รองศาสตราจารย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม. สงขลานครินทร์
–หัวหน้ าหน่ วยประสานงานกลางโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา
08/03/56 2
- 6. Clip การปฏิรูปการศึกษาสื่ อถึงอะไร
1. ต้ องพัฒนาระบบคิดความเป็ นเหตุเป็ นผล
2. ต้ องจัดโดยการมีส่วนร่ วมของ
1. ท้ องถิ่น
2. เครือข่ ายวิชาการ
3. การศึกษาต้ องพัฒนาทักษะ (skills)
อะไรคือทักษะ?
08/03/56 6
- 7. 21st Century Skills การศึกษาสาหรับ 21CS
1. ทักษะเกิดจากประสบการณ์ ตรงที่ได้ ปฏิบัติ ปฏิบติ
ั
2. นาผลการปฏิบัตมาคิดใคร่ ครวญด้ วยสาระวิชาทีมีอยู่จน
ิ ่ ปฏิเวธ
“เข้ าใจ”
3. คิดสั งเคราะห์ ต่อจากความเข้ าใจ จนเกิดความรู้ ใหม่ ปริ ยติ
ั
4. จึงเป็ น Learning by Doing โดยมี PBL หรือ RBL เป็ น
mean
สอนน้อย เรี ยนมาก
08/03/56 7
- 8. John Dewey (1859-1952)
„ เรียนรู้ เมื่อผู้เรียนลงมือกระทา (learning by doing) แล้ วเรียนรู้
จากประสบการณ์ ทเี่ กิดขึน (learning from experience) ซึ่งจะ
้
เป็ นความเข้ าใจคงทนสะสมเป็ นประสบการณ์ ใหม่
„ การศึกษาจึงต้ องให้ อสระกับผู้เรียน โดยครู มีหน้ าทีออกแบบให้
ิ ่
สอดคล้ องกับประสบการณ์ และจริตการเรียนรู้ ยึดผู้เรียนเป็ น
ศูนย์ กลาง ให้ ได้ ความรู้ ทเี่ กิดประโยชน์ จริงในชีวตประจาวัน
ิ
โครงงาน ป. 2
08/03/56 8
- 10. ต้ นกาเนิดมาจากไหน?
• 2545 สกว. ตั้งชุดโครงการวิจยแห่ งชาติ: ยางพารา
ั
• 2546 มีโครงการประกวดเขียน proposal วิจยเกียวกับยางพารา
ั ่
สาหรับโรงเรียนมัธยมในภาคใต้ เนื่องในวาระครบรอบ 10 ปี
สกว.
08/03/56 10
- 11. ข้ อค้ นพบ
• โรงเรียนเข้ าใจวิจยในลักษณะเดียวกับการทาโครงงานประเภท
ั
“ทาของ”
• โครงการของโรงเรียนไม่ สามารถบูรณาการสาระวิชาได้
• ครู ไม่ เข้ าใจวิจยแบบ exploratory ปล่ อยให้ นักเรียนเขียน
ั
proposal “ทาของ” ทีคุ้นเคย
่
• การประเมิน/ประกวดทาให้ โรงเรียนแข่ งทาของทีเ่ กินการเรียนรู้
ของนักเรียน
08/03/56 11
- 15. ข้ อค้ นพบ
• เมื่อเข้ าโรงเรียนจึงเห็นความตั้งใจของครู แต่ ครู ไม่ รู้ ว่าทาอย่ างไร
• เห็นผลงานที่ขอ คศ. 3 จึงทราบว่ างานวิจยของครู ตด “กับดัก”
ั ิ
methodology และเครื่องมือ ที่เน้ นศาสตร์ การวิจยและสถิตมาก
ั ิ
เกินพอดี ผลคือ
–ครู กลัววิจย ั
–“วิจยในชั้นเรียน” ไม่ เกิดประโยชน์ กบการพัฒนาการเรียนรู้
ั ั
ของนักเรียน
–เกิดปรากฏการณ์ “จ้ างทาผลงาน”
08/03/56 15
- 18. จุดตั้งต้ น
• จึงเกิดโครงการ “ยุววิจยยางพารา” เมื่อ 2546 สาหรับนักเรียน
ั
มัธยมในภาคใต้ และขยายออกเต็มประเทศในทุกพืนทีทปลูก
้ ่ ี่
ยางพารา โครงการมี 2 เปาหมาย
้
–พัฒนากาลังคนในระยะยาวให้ เป็ นนักวิจย ั
–ทดสอบ model การพัฒนาการศึกษาแบบ Research-Based
08/03/56 18
- 19. จุดตั้งต้ น
• ปัจจัยหนุน คือ คนทีดูแลงานนีให้ สกว. (รศ. ไพโรจน์ คีรีรัตน์ )
่ ้
เป็ นอาจารย์ คณะวิศวฯ ซึ่งเป็ นศาสตร์ สาหรับโจทย์ แบบ
ปลายเปิ ด (มีคาตอบได้ หลายทาง)
• 2556 บมจ. ธนาคารกสิ กรไทย และ สกว. สนับสนุนแนวคิด
RBL ในรู ปแบบใหม่ ภายใต้ ชื่อ “เพาะพันธุ์ปัญญา” เป็ นเวลา 5 ปี
08/03/56 19
- 20. แนวคิด/แนวความเชื่อ RBL (ยุววิจัยยางพารา )
• เชื่อว่ า “วิจยคือกระบวนการเรี ยนร้ ู” ไม่ ใช่ “วิจยคือกระบวนการ
ั ั
หาความร้ ู” (อย่ างเดียว)
• กระบวนการเรียนรู้ จากงานวิจยมุ่งเปาทีผู้เรียน ไม่ ใช่ ม่ ุงเปาทีการ
ั ้ ่ ้ ่
ค้ นพบ
• ใครๆ ก็ทาวิจยเพือพัฒนาปัญญาตนเองได้
ั ่
• ฐานคิดสาคัญของ RBL คือ “ผลเกิดจากเหตุ” “เหตุย่อมมีเหตุ
ของเหต.ุ .” ซึ่งเป็ นฐานคิดสาคัญของการทา backward design
• ครู ต้องการ coach
08/03/56 20
- 21. ข้ อค้ นพบจาก “ยุววิจัยยาง”
• งาน “วิจยจ๋ า” อยู่ในโรงเรียนดังๆ ทีมีครู ดจากมหาวิทยาลัย เป็ น
ั ่ ี
เรื่องใกล้ lab แต่ ไกลตัวนักเรียน
• โรงเรียนจะพัฒนานักเรียนได้ ดี หากคนในพืนที่ไม่ ละเลย และ
้
เข้ าไปช่ วยคนละไม้ คนละมือ
• ครู เป็ นคนทีมีภาระงานมาก มีความอดทนสู ง ครู จานวนมากมี
่
ประสบการณ์ (tacit knowledge ดีๆ) ทีน่าสนใจ มีจตวิญาณ
่ ิ
ความเป็ นครู ต้ องการพัฒนา แต่ อบจนหนทาง เพราะ “ติดกับ
ั
ดัก” การประเมิน
08/03/56 21
- 22. ข้ อค้ นพบจาก “ยุววิจัยยาง”
• ระบบ top-down ในการจัดการการศึกษาทาให้ โรงเรียนสั บสน
กับ “model ความหวังดีใหม่ ๆ” ของกระทรวงฯ จนทาให้ ครู ไม่
ต้ องคิดอะไรเอง เกิดวัฒนธรรมไม่ เคยคิด ไม่ อยากคิด
• คณะวิชาด้ านวิทยาศาสตร์ ควรช่ วยพัฒนาครู เรื่องระบบคิดทีเ่ ป็ น
เหตุผล ทีจะนาไปสู่ Research-Based Learning และทา
่
Backward Design ได้
08/03/56 22
- 23. เราประเมิน RBL ยุววิจัยยางพาราอย่ างไร?
• เพราะ RBL สร้ างความคิดวิเคราะห์ สั งเคราะห์ วิพากษ์
• ยุววิจยประเมินโดย
ั
–ผลงานวิจย และ
ั
–“การสะท้ อนคิด” ของการทางาน/การเรียนรู้ ของทั้งครู และ
นักเรียน
www.trfrubber.wordpress.com
08/03/56 23
- 24. เราพัฒนาครูอย่ างไร?
• ยุ/ส่ งเสริมให้ อ่านหนังสื อดีๆ
• จัดกระบวนการกลุ่ม
– กิจกรรมทางจิตวิญาณให้ สงบพร้ อมเรียนรู้ใหม่
– กิจกรรมส่ งเสริมกระบวนการคิดอย่ างเป็ นระบบ
– การหนุนเสริมแบบ coaching ในการเขียน proposal การวิเคราะห์
สั งเคราะห์ ผล ทั้งโดยตรงและผ่ าน ICT
– มีเวทีให้ ฮึกเหิมในความสาเร็จ
• เราพัฒนาครู ทต้นทาง
ี่
08/03/56 24
- 27. ครูและโรงเรียน
Analytical & Critical พัฒนาตนเองด้ วย
Thinking เกลียว PDCA
RBP
จิตตปัญญาศึกษา
„ ปรับกระบวนการจิตใจ • จิตตปัญญา
„ ปรับกระบวนการคิด มีกระบวนการ
• Systems Thinking
„ มีโครงงานให้ ปฏิบัติ
ทีถูกออกแบบ
่
• RBP
เฉพาะ
„ มีเวทีเรียนรู้ • KM/PLC
08/03/56 27
- 28. เป้ าหมายโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา
• 80 โรงเรียน 19 จังหวัด 8 มหาวิทยาลัย (เป็ นพีเ่ ลียง @ 10 โรง)
้
• สนับสนุน (ต่ อปี ) 800 โครงงาน นักเรียน 3,000 คน ครู 400 คน
• โรงเรียนละ 1 ห้ องๆ ละ 10 โครงงาน (สนับสนุนทุน 80,000 บาท)
• โครงงาน 3 ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ -คณิตศาสตร์ สั งคมศาสตร์ -
เศรษฐศาสตร์ มนุษยศาสตร์ -ประวัติศาสตร์ (ท้ องถิ่น)
สพม. ที่เกียวข้ อง
่
เชียงราย พะเยา ลาปาง แพร่ ลาพูน อุบลฯ อานาจเจริญ ยโสธร
ศรีสะเกษ สุ รินทร์ ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม
08/03/56 สุ ราษฎร์ ฯ นครศรีฯ สงขลา พัทลุง สตูล 28
- 29. บทบาท สิ่ งทีได้
่
ใช้ resource พัฒนาประเทศ
สกว. + ธนาคาร
เป็ นผูนาการใช้ RBL ปฏิรูปการศึกษา
้
กาหนดเป้ าหมายและประเมินผล
ใช้องค์ความรู้ที่มีให้เกิดประโยชน์ทางกว้าง
หน่วยจัดการกลาง
ได้ประสบการณ์การจัดการการศึกษา
พัฒนากระบวนการ RBL ให้พี่เลี้ยง
KPI มหาวิทยาลัยรับใช้สงคม
ั
Coach จังหวัด
องค์ความรู ้ใหม่ดานการจัดการการศึกษา
้
สนับสนุนการทา RBL ให้ครู
ผลกับโรงเรี ยน
โรงเรี ยน 1-10 ความเชื่อมโยงกับพื้นที่
ผลงาน RBL
ครู และนักเรี ยนทา RBL ผลวิจยกระบวนการเรี ยนรู้
ั
ระดับ project ประเด็นหลัก ผลกับครู
Sci Thinking & character
ผลกับนักเรี ยน
ระดับโครงงาน 3 ศาสตร์ Soc Hum ผลสัมฤทธิ์วชา
ิ
08/03/56 29
- 30. ตัวอย่ างโครงงาน “อาชีพทอผ้ า...”
1. อัตราการเติบโตของหนอนไหมในสภาวะการเลียงต่ างๆ ชีวฯ-ฟิ สิกส์
้
2. การทนการซักล้ างของสี ย้อมธรรมชาติจากแหล่ งสี ต่างๆ เคมี-ฟิ สิกส์
3. ปัจจัยและลักษณะการขาดของเส้ นไหมยืนในการทอผ้ าด้ วย... ฟิ สิกส์
4. ผลกระทบของกระบวนการผลิตต่ อสมบัติทางกลของเส้ น
ไหม บูรณาการวิทย์
5. ท่ านั่งและลักษณะการทอทีส่งผลต่ อโรคปวดกล้ ามาเนือของผู้
่ ้
ทอผ้ า บูรณาการวิทย์
08/03/56 30
- 31. ตัวอย่ างโครงงาน “อาชีพทอผ้ า...”
6. ความเชื่อและแหล่ งทีมาของภูมิปัญญาของการเลียงตัวไหม ษย์ศาสตร์
่ ้ มนุ
7. รู ปแบบเรขาคณิตของลายผ้ าทอทีใช้ ในพิธีกรรม...และ
่
ความหมาย วิทย์-มนุษย์
8. ปัจจัยความสาเร็จของการรวมกลุ่มทอผ้ าไหมกลุ่ม... สังคมฯ
9. ผลของการรณรงค์ ใช้ ผ้าไทยของส่ วนราชการที่มีต่อเศรษฐกิจ
ชุมชน.... เศรษฐศาสตร์
10. เส้ นทางมูลค่ าเพิมและผลตอบแทนทีตกค้ างในชุมชนของผ้ า
่ ่
ทอพืนบ้ าน เศรษฐศาสตร์
08/03/56
้ 31
- 33. ตอนที่ 2
โรงเรียน ครู และการเรียนการสอนในสภาพปัจจุบัน
08/03/56 33
- 35. พุทธิพสัยในการศึกษา
ิ
คิดวิพากษ์
คิดประเมิน
คิดสั งเคราะห์
วิจย
ั
คิดวิเคราะห์
ประยุกต์
เข้ าใจ เรียน
รู้ /จา
ระบบประเมินครู และ O-Net ทาให้ การศึกษาติดที่บันไดขั้นแรก
08/03/56 35
- 37. รู้ไหมว่ า O-Net 30% จาก 4 ตัวเลือก
แปลว่ าร้ ู 7 ใน 100
„ รู้ 7
„ ไม่ รู้ 93 เดาเอาได้ 93/4 ได้ มาอีก 23 แปลว่ าล้มเหลว
„ รวมได้ 7+23 = 30 30% แปลว่ ารู้ 7
ไม่ รู้เลยยังได้ 25%
เอาสถิติมาประยุกต์
เข้ าใจสถิติ 4 ตัวเลือก
08/03/56
O-net ได้ 30% 37
- 39. ได้ ยนแล้วฉันก็ลม
ิ ื ความรู้ ทเี่ หลือ
Passive Learning ฟังบรรยาย 5%
อ่านเอง
10%
ใช้ สื่อภาพและเสี ยง 20%
ได้ เห็นฉันได้ เพียงจา ดูสาธิต
30%
อภิปรายกลุ่ม ทาเป็ นกลุ่ม
Active Learning
50%
เมือได้ ทาฉันจึงเข้ าใจ
่ เรียนจากลงมือปฏิบัติ งานปฏิบติ
ั
75%
สอนผู้อน/นาเสนอ
ื่ นาเสนอเวที
90%
เมือวิจัยจึงบรรลุร้ ู
่ วิจัยค้ นคว้ าให้ รู้เอง แนวทางวิจย
ั 100%
08/03/56 39
- 40. ตอนที่ 3
ความคิดในวงการการศึกษาและการพัฒนาทีต้องการ
่
สาหรับ RBL: ประสบการณ์ จากเพาะพันธุ์ปัญญา
08/03/56 40
- 42. แล้วจัดเป็ นข้ อมูลเพือ
่
เกิดปัญญาความเข้ าใจความจริง จา
วงจรพัฒนา
ปัญญา เป็ นข้ อมูลแก่ โลกภายใน
เพือให้ เกิด
่
คิด
เอาไปใช้ ทาให้
วงจรพัฒนา โลกภายนอก
อารยธรรม
ทา อารยธรรม
เพือให้ เกิด
่
08/03/56 พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตตฺ โต) 42
- 43. คิดปรุงแต่ งเป็ นทาสอารมณ์ ความรู้สึก
ทิฏฐิ รับใช้
ความคิด
ทาให้ เกิด ความจริง
ตัญหา รับใช้ (พัฒนาปัญญา)
ความคิด
ทาให้ สาเร็จประโยชน์
ทาให้ เกิด (พัฒนาอารยธรรม)
ข้ อมูล ความรู้ ความอยากได้ ความจริง
08/03/56 พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตตฺ โต) 43
- 44. ด้ อยพัฒนา
ขีเ้ กียจ อ่อนแอ ไม่ สู้ งาน
ตัณหา สุ ขจากผัสสะ หาเสพ ไม่ เรียกร้ องหาปัญญา
เพราะไม่ เข้ าใจ RBL การทาวิจยหาปัญญาจึงเป็ นความทุกข์
ั
พัฒนา
ความเพียร ความเข้ มแข็ง ความอดทน ทักษะปฏิบัติ
ฉันทะ สุ ขจากสภาพทีดีขึน
่ ้ หาทา เรียกร้ องหาปัญญา
เพราะเข้ าใจ RBL การทาวิจยหาปัญญาจึงเป็ นความสุ ข
ั
08/03/56 44
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตตฺ โต)
- 45. ฉันทะการเรียน RBL กับการปรับเปลียนนิเวศการเรียนรู้
่
ร่ วมมือ ไม่ ปลอดภัย
ผล ฉัน
บันดาลใจ ระแวง
เข้ าใจกัน เธอ
ผูกพัน ห่ างเหิน
เรา แรงกระตุ้น เรา
ไว้ ใจ จากภายนอก ท้ อแท้ เบื่อ
เธอ ไม่ เข้ าใจ
ปลอดภัย ต่ อต้ าน
ฉัน แรงกระตุ้น
ผล
08/03/56 จากภายใน 45
- 46. เรียนรู้
สถานการณ์
มองทางเลือก
ความรู้สึก
ความคิด
ตอบโต้
ตกหล่ม
08/03/56
จาก M.J. Adams “Change Your Questions Change Your Life” 46
- 47. ทัศนคติของนักตัดสิ นและนักเรียนรู้
นักตัดสิ น นักเรียนรู้
• ชอบตัดสิ นตนเองหรือคนอืน ่ • ยอมรับตัวเองและคนอืน ่
• มีปฏิกริยาโต้ ตอบอัตโนมัติ
ิ • รับผิดชอบและรอบคอบ
• รู้ ดไปหมดทุกอย่ าง
ี • ให้ คุณค่ ากับความไม่ รู้
• ไม่ ยดหยุ่น ไม่ ปรับตัว
ื • ยืดหยุ่นและรู้ จกปรับตัว
ั
08/03/56
จาก M.J. Adams “Change Your Questions Change Your Life” 47
- 48. ทัศนคติของนักตัดสิ นและนักเรียนรู้
นักตัดสิ น นักเรียนรู้
• คิดว่ าตนเองเป็ นฝ่ ายถูก • อยากรู้ อยากเห็น
• กลัวความแตกต่ าง • ให้ คุณค่ ากับความแตกต่ าง
• ปกปองสมมุตฐานตนเอง
้ ิ • ตั้งคาถามกับสมมุตฐานทีใช้
ิ ่
• มองว่ าความเป็ นไปได้ มี • มองว่ าความเป็ นไปได้ มีขด
ี
ขีดจากัด ไม่ จากัด
• อารมณ์ พนฐานปิ ดกั้นตัวเอง
ื้ • อารมณ์ พนฐานอยากรู้ -เห็น
ื้
08/03/56
จาก M.J. Adams “Change Your Questions Change Your Life” 48
- 49. ความสั มพันธ์ จากทัศนคติของนักตัดสิ นและนักเรียนรู้
นักตัดสิ น นักเรียนรู้
• มีความสั มพันธ์ แบบได้ -เสี ย • ความสั มพันธ์ ได้ ท้ง 2 ฝ่ าย
ั
• รู้ สึกแปลกแยกจากคนอืน ่ • ไม่ มีความรู้ สึกแปลกแยกจาก
คนอืน ่
• โต้ เถียง • แลกเปลียนความคิดเห็น
่
• แสดงความคิดเห็นขัดแย้ งกับ • ใช้ เหตุผลในการวิเคราะห์
คนอืน ่ ความเห็นคนอืน ่
08/03/56
จาก M.J. Adams “Change Your Questions Change Your Life” 49
- 50. ความสั มพันธ์ จากทัศนคติของนักตัดสิ นและนักเรียนรู้
นักตัดสิ น นักเรียนรู้
• ฟังเพือหาถูก/ผิด เห็นด้ วย/ • ฟังเพือหาข้ อเท็จจริง ความ
่ ่
ไม่ เห็นด้ วย เข้ าใจ ความร่ วมมือ
• มองความคิดเห็นคนอืนว่ า
่ • เห็นคุณค่ าความคิดเห็นคน
ปฏิเสธ อืน
่
• มองหาการโจมตีหรือปกปอง • มองหาทางแก้ ไข/สร้ างสรรค์
้
ตนเอง
08/03/56
จาก M.J. Adams “Change Your Questions Change Your Life” 50
- 51. การตั้งคาถามของนักตัดสิ นและนักเรียนรู้
นักตัดสิ น นักเรียนรู้
• มีอะไรผิด? • มีอะไรทีใช้ ได้ ผล?
่
• ใครผิด? • ฉันต้ องรับผิดชอบอะไร?
• ฉันจะพิสูจน์ ได้ อย่ างไรว่ าฉัน • ข้ อเท็จจริงคืออะไร?
ถูก?
• ฉันจะควบคุมมันได้ อย่ างไร? • ฉันมีทางเลือกอะไรบ้ าง?
• ฉันพ่ายแพ้ได้ อย่ างไรกัน? • อะไรมีประโยชน์ ต่อเรื่องนี?
้
08/03/56
จาก M.J. Adams “Change Your Questions Change Your Life” 51
- 52. การตั้งคาถามของนักตัดสิ นและนักเรียนรู้
นักตัดสิ น นักเรียนรู้
• เกิดเรื่องไม่ ดกบฉันได้
ีั • ฉันสามารถเรียนรู้ อะไรได้
อย่ างไร? บ้ าง?
• ทาไมพวกเขาไม่ รู้ อะไรเลย? • คนอืนๆ รู้ สึกอย่ างไร?
่
• ทาไมพวกเขาทาตัวน่ า • คนอืนๆ ต้ องการอะไร?
่
หงุดหงิดอย่ างนี? ้
• ทาไมมันถึงน่ าเบื่ออย่ างนี?
้ • มีอะไรทีเ่ ป็ นไปได้ ?
08/03/56
จาก M.J. Adams “Change Your Questions Change Your Life” 52
- 53. เสี ยงสะท้ อนจากเด็ก เด็กสะท้ อนอะไร?
(WS ครู พพปญ. ที่ศรี สะเกษมีนกเรี ยน ม. 1 -3 เข้าร่ วมประมาณ 10 คน)
ั
„ “การเรียนอย่างทีทามา 2 วันนี้ต่างจากทีเ่ รียนที่โรงเรียนอย่ างไร”
่
„ “สนุก..แต่ เกร็ง” เด็กมีศักยภาพเป็ นนักเรียนรู้ แต่ ศักยภาพถูกกดทับไว้
„ “ทาไมต้ องเกร็งด้ วย?” เพราะไม่ เคยชินกับการเรียนในพืนที่ปลอดภัย
้
„ “เพราะต้ องเรียนกับครู ไม่ เคยเรียนพร้ อมกับผู้ใหญ่ มาก่ อน”
„ “เรี ยนพร้ อมกันอย่ างนี้ทาให้ ร้ ูอะไรบ้ าง”
„ “ครู น่าจะเข้ าใจเด็กอย่ างพวกผมมากขึน เวลาทีผมเรียนไม่ เข้ าใจ” ครู เป็ นนักตัดสิ น
้ ่
„ “หมายความว่ าอย่างไร?”
„ “เพราะครู กทาผิดได้ เหมือนกัน” เด็กออกนอกกรอบคิดเดิม และรู้ สึกอิสระ
็
เราต้ องเปลียนทัศนคติของครู จากนักตัดสิ นมาเป็ นนักเรียนรู้
่
08/03/56 เพือจัดความสั มพันธ์ ในห้ องเรียนใหม่
่ 53
- 54. ทัศนคติการเรียนรู้ของครู (ข้ อเรียนรู้จาก พพปญ.)
„ ผอ. ไม่ สนใจจดหมายทีไม่ มีตราครุฑ
่
„ ครู เบื่อการอบรมทีไม่ ได้ อะไรกลับไป แต่ ต้องการ “ใบประกาศฯ”
่
„ ครู ไม่ เคยชินกับการต้ องคิดเอง
„ ครู สับสนระหว่ างเหตุผลและความคิด ใช้ เหตุผลตืนๆ และชอบเอา
้
ความคิดมาเป็ นเหตุผล
„ ครู ขาดจินตนาการ
„ ชีวตครู ขาดกระบวนการกลุ่มในการ ลปรร.
ิ
08/03/56 54
- 56. ครูขาดทักษะการประยุกต์ ความรู้แก้ ปัญหา
• เค้ กสี ส้มมีหน้ าสี ขาวอร่ อยมาก เราจะแบ่ งเป็ น 2 ส่ วนให้ ได้ เนือและหน้ า
้
เค้ กเท่ าๆ กันได้ อย่ างไร โดยตัดเป็ นเส้ นตรงเส้ นเดียว
1) เส้ นทีลากผ่ านจุดศูนย์ กลางของสี่ เหลียม จะแบ่ งสี่ เหลียมออกเป็ น 2 ส่ วนเท่ าๆ กัน
่ ่ ่
2) จุดศูนย์ กลางคือจุดตัดของเส้ นทแยงมุม
08/03/56 56
- 57. ครูแยกเหตุผลกับความคิดไม่ ได้
„ ให้ หาคู่เหตุผลทีผด หรือไม่ เป็ นเหตุเป็ นผลต่ อกัน
่ ิ
หางลูกศรคือเหตุ หัวลูกศรคือผล
ดู TV ง่ วงนอน เมฆ แดด
ง่ วงนอน ตื่นสาย ฟาแลบ
้ ฟาร้ อง
้
กินยาแก้ แพ้ ง่ วงนอน ยาบ้ า ยาเสพติด
08/03/56 57
- 58. ถาม ฟ้ าร้องกับฟ้ าแลบอะไรเป็ นเหตุ อะไรเป็ นผล?
ตอบ เกิดพร้อมกัน
ถาม อันหนึ่งเป็ นแสง อีกอันเป็ นเสี ยง เป็ นสิ่ งเดียวกัน
หรื อไม่?
ตอบ ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน
ถาม ตกลงเกิดพร้อมกันใช่ไหม?
ตอบ ถ้าอย่างนี้.... ไม่น่าจะใช่
ถาม อะไรเป็ นเหตุของอะไร?
ตอบ ฟ้ าแลบ
08/03/56 58
- 59. ถาม รู้ได้ไง?
ตอบ เห็นฟ้ าแลบก่อนฟ้ าร้อง
่
ถาม การเห็นก่อนสามารถสรุ ปได้วาเกิดก่อนใช่ไหม?
ตอบ น่าสรุ ปได้
ถาม จริ งหรื อ... ลองคิดใหม่ เพราะแสงเดินทางเร็ วกว่าเสี ยง
ฟ้ าแลบอาจเกิดหลังได้
ตอบ เออนะ... ถ้าจะจริ ง
08/03/56 59
- 60. ถาม คิดใหม่อะไรเป็ นเหตุของอะไร? เพราะเกิดฟ้ าแลบจึง
เกิดฟ้ าร้อง หรื อเพราะฟ้ าร้องมันจึงแลบ
ตอบ ฟ้ าร้องเป็ นเหตุ
ถาม เพราะอะไร?
ตอบ เหมือนกะเทาะหิ นก่อไฟ หิ นกระทบกัน เกิดเสี ยงก่อน
เกิดประกายไฟ
่ ั
ถาม สมัยอยูมธยมเคยเรี ยนเรื่ องการเกิดฟ้ าร้องฟ้ าแลบไหม?
ตอบ เคย... แต่ไม่เคยต้องสงสัยว่าอะไรเป็ นเหตุของอะไร
08/03/56 60
- 61. ครูต้องพัฒนาอะไร?
1. ความคิดในระบบวิทยาศาสตร์ เพือให้ คดเป็ น ประกอบด้ วย
่ ิ
ก) ความคิดเชิงเหตุผล (รู้ ว่าผลเกิดจากเหตุ)
ข) ความคิดเชิงระบบ (เห็นความเชื่อมโยงของสรรพสิ่ ง)
ค) ความคิดวิเคราะห์ สั งเคราะห์ (ช่ วยเด็กให้ เป็ น
constructivist)
ขณะนีครู คดได้ แค่ ไหน?
้ ิ
08/03/56 61
- 62. ครูต้องพัฒนาอะไร?
2. ทักษะ backward design ในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้
ของนักเรียน ประกอบด้ วย
ก) รู้ สาระทีแท้ จริงของวิชา
่
ข) รู้ เปาหมายทีนักเรียนต้ องรู้ ทั้งสาระและทักษะ
้ ่
ค) รู้ ข้นตอนการเข้ าสู่ เปาหมาย
ั ้
ง) รู้ learning style ของนักเรียน
จ) มีความคิดสร้ างสรรค์ ในการออกแบบกระบวนเรียนที่ผสม
08/03/56
กิจกรรม ขณะนีครู ร้ ู อะไร แค่ ไหน?
้ 62
- 63. อะไรคือ systems thinking
• คือวิธีการคิดแบบหนึ่ง ที่ทาให้ เข้ าใจความจริงว่ าสรรพสิ่ งไม่ ได้
อยู่เดียวๆ แต่ มีความสั มพันธ์ จน “เห็นทั้งหมด” และ “สภาพที่
่
สั มพันธ์ กน” ว่ าระบบ คือ กลุ่มขององค์ ประกอบทีมปฏิสัมพันธ์
ั ่ ี
กัน (interrelated) ปฏิบัตเิ ชื่อมกัน (interacting) หรือขึนต่ อกัน
้
(interdependent) ทีรวมกันเป็ นความซับซ้ อนในหนึ่งเดียว
่
(complex and unified whole) ทีมีเปาหมายเฉพาะ และคงอยู่
่ ้
ได้ กเ็ พราะการทางานขององค์ ประกอบย่ อย
• Systems thinking มีพลังมากกว่ า Mind map ทีครู คุ้นเคย
่
08/03/56 63
- 64. ความคิดเชิงเหตุผลทาให้ เกิด RBL ทีถูกต้ อง
่
โครงงานศึกษาการปลูกกล้ วยป้ องกันไฟไหม้ สวนยาง
สมมุตฐาน “การปลูกกล้ วยนาว้ าสามารถเพิมความชื้นในดินได้ ”
ิ ้ ่
ความชื้นดิน
ตัวแปรตาม
ตัวแปรต้ น
เป็ นงานวิจยลูกศรเดียว รู้ เพียง what
ั
08/03/56 64
- 66. เฉลย
ร่ มเงา อุณหภูมดน
ิ ิ นากลันตัวกลางคืน
้ ่
การระเหยนาจากดิน
้
ความชื้นดิน
วิจัยคือการพิสูจน์ ความสั มพันธ์ ของลูกศร
ซึ่งทาให้ รู้เหตุผลทีละเอียดขึนถึง why
่ ้
08/03/56 66
- 67. วิจยทีละเอียดขึน
ั ่ ้ อิทธิพลของใบ
ร่ มเงา อุณหภูมดน
ิ ิ นากลันตัวกลางคืน
้ ่
การระเหยนาจากดิน
้
รากดูดนามาแพร่ นาให้ ดน
้ ้ ิ ความชื้นดิน
นาในดินชั้นบน
้
ดึงนาใต้ ดน
้ ิ นาในต้ นกล้วย
้
อิทธิพลของราก นาในดินชั้นล่าง
้
08/03/56 67
- 69. ความสงสั ย คิดสร้ างสรรค์ /ประยุกต์
คิดเชิงเหตุผล
..........จึงคิดว่า.........แล้วพบว่ า...............ซึ่งเราสามารถจะ..................
คิดใคร่ ครวญ + สาระวิชา
โครงงาน RBL คิดเชิงระบบ บันได 3 ขั้นสุ ดท้ าย
ของ Bloom
ข้ อมูลของโครงงาน คิดสั งเคราะห์
คิดวิเคราะห์
08/03/56 69
- 70. ตอนที่ 4
แนวทางการช่ วยเหลือครู : ประสบการณ์ จากโครงการ
เพาะพันธุ์ปัญญา
08/03/56 70
- 71. โค้ ชคือใคร? มีคุณสมบัตอย่ างไร?
ิ
• รู้ เปาหมาย
้
• รู้ จุดบกพร่ อง ทีเ่ ป็ นเหตุไม่ ถงเปาหมาย
ึ ้
• รู้ เทคนิค/วิธีแก้ จุดบกพร่ อง
• แนะนาให้ ปฏิบัติ แล้ วเฝ้ าดูเพือปรับปรุง
่
08/03/56 71
- 72. Coach กับการ Detox ครู
• พิษร้ ายทีมีอยู่
่
– การฝึ กอบรมวิจัยครู ได้ สร้ าง “มายาคติ” วิจัย ทีทาให้ ครู กลัวการทาวิจัย
่
– O-Net และการประเมินทาให้ ครู ให้ ความสาคัญเนือวิชามากกว่ ากระบวนการ
้
– ระบบประเมินทาให้ การสอน(ติว)ตอบสนอง O-Net ดีกว่ าการฝึ กทักษะ
• ระบบทาให้ ครูสับสนระหว่ างเหตุผลกับความคิด ไม่ กล้าคิดต่ าง ไม่ อยาก
คิดเอง
• ถอนพิษด้ วย workshop Learning by Doing + สร้ างแรงบันดาลใจ เพือ ่
– เข้ าถึงความคิดเป็ นเหตุผล (หายกลัววิจัย)
– เข้ าถึงกระบวนการของนักจัดการการเรียนรู้ ด้วย (ได้ backward design)
08/03/56 72
- 73. การพัฒนาภาคีทางาน
• สกว. ฝึ กทีมมหาวิทยาลัย 8 แห่ งให้ เข้ าใจ RBL สาหรับการศึกษา
ขั้นพืนฐาน
้
• ทีมมหาวิทยาลัยแต่ ละแห่ งฝึ กกลุ่มครู แกนนา 40-50 คน (จาก 10
โรงเรียน)
• ครู แต่ ละโรงเรียนฝึ กนักเรียน 35-40 คนให้ ทาโครงงานฐานวิจยั
RBP ทั้งห้ อง โดยบูรณาการสาระให้ เป็ น RBL
• ทีมมหาวิทยาลัยทั้ง 8 รวมเป็ น PLC การฝึ ก RBL แก่ ครู
• ครู ในโครงการรวมเป็ น PLC การเป็ นฝึ ก RBL แก่ นักเรียน
08/03/56 73
- 74. ต้ นนา
้ กลางนา
้ ปลายนา
้
สอนโครงงานแบบบูรณาการ
จิตตปัญญา พัฒนาครู น.ร. ทา RBP รายงานวิจัย
ทักษะวิจัย เวทีนาเสนองาน
ทักษะคิด ทักษะคิด
ทักษะ ST วิเคราะห์ สั งเคราะห์ KM/PLC
ฝึ กทักษะ 1 ฝึ กทักษะ 2 ฝึ กทักษะ 3 PDCA ของครู
คิดประเมิน
เข้ าใจและ
จิตใจพร้ อม คิดเชิงเหตุผล คิดวิเคราะห์ คิดสั งเคราะห์ คิดวิพากษ์
08/03/56 74
- 75. ปัญหาตามบริบท
หลักการวิจย
ั
เวทีวพากษ์
ิ
สมมุตฐานจากทฤษฎี
ิ
ทักษะการสื่อสารวิชาการ 1 สร้ างโจทย์
6 เขียน/นาเสนอ 2 ออกแบบเก็บข้ อมูล
พ.ค.
มี.ค. 57 ทีมครู 4-5 คน มิ.ย.
ออกแบบการเรียนรู้
พัฒนาการสอน ก.ค.
ธ.ค. ส.ค.
เวทีวพากษ์
ิ เวทีวพากษ์
ิ
ก.ย.-พ.ย. 3 เขียน proposal
5 วิเคราะห์ /สังเคราะห์
สรุป
รูปแบบการเขียน
ทักษะคิด 4 เก็บข้ อมูล
08/03/56 เครื่องมือ 75
- 76. Workshop คิดเชิงเหตุผล
รูปแบบแผนการสอน
เวทีวพากษ์
ิ
รูปแบบการเขียน 1 เตรียมความพร้ อม
6 ฝึ กเขียน/นาเสนอ 2 จัดทาแผนการสอน
ม.ค.
ม.ค. 57 ทีมพีเ่ ลียง
้ มี.ค.
พัฒนาทักษะครู
ธ.ค. มิ.ย.
เวทีวพากษ์
ิ เวทีวพากษ์
ิ
ก.ย.-ต.ค. 3 ออกแบบกิจกรรม/ฝึ กสอน
5 วิเคราะห์ /สังเคราะห์
สรุป
Backward design
AAR นิเทศงาน 4 ฝึ กวิเคราะห์ สังเคราะห์
08/03/56 Workshop คิดวิเคราะห์ /สังเคราะห์ 76