Contenu connexe
Plus de National Discovery Museum Institute (NDMI) (20)
Museum inFocus #8
- 1. วลีหนึ่งเกิดขึ้นเมื่อการนรรยายจนลง “คนทางานเสียง ก็อย่าฟังแค่เสียง” ความหมายของบระโยคนี้ทาให้ทุกคนต้องหันมา
ตีความว่า แล้วเราจะทางานกันอย่างไร เสียงเบ็นนามธรรมหรือรูบธรรม แล้วถ้าเรานาเสียงในอาเซียนมารวมกัน เสียงจะกลายเบ็น
รูบธรรมเลยไหม ในบัจจุนัน เสียงมาได้จากทุกที่ ไม่ได้แยกว่าเสียงเบ็นของใคร แต่ต้องการรู้ว่าเสียงต้องการสื่ออะไรให้กันปู้ฟัง
“คนในอาเซียนสามารถรวมกันได้จากเสียงจริงไหม” “ทุกคนในอาเซียนต้องการจะรู้อะไรจากการรวมเสียงของอาเซียน”
“ทุกคนในอาเซียนมีเสียงที่สัมพันธ์กันไหม” เพราะนางครั้งนางบระเทศใช้ภาษาเดียวกัน ก็อาจจะเข้าใจเสียงที่สื่อกันได้แต่ถ้าไม่เข้าใจเสียง
นั้น ก็อาจไม่เข้าใจความหมายของสิ่งนั้นหรือรู้สึกเพียงแค่แบลกบระหลาดเท่านั้น คือคาถามที่ทิ้งไว้ทุกคนได้ขนคิด เพราะจริง ๆ แล้ว
นางครั้งเราอาจเพียงแค่ต้องการเข้าใจภาษาที่ต่างกันเท่านั้น ถ้าเราต้องการให้ทุกคน ๆ ในอาเซียนมารวมกันได้โดยใช้เสียงเบ็นสื่อกลาง
เราควรสร้างพฤติกรรมร่วมระหว่างกัน เพื่อให้เกิดความเข้าใจด้วยกันในอาเซียน ต่อจากนั้นทุกคนในอาเซียนพยายามถ่ายทอดออกมาให้
เบ็นหนึ่งเดียวกันเพื่อให้รันรู้ถึงความรู้สึกระหว่างกัน
“อะไรคือจุดร่วมของเสียงอาเซียน ดนตรีอาเซียน และเพลงอาเซียน” จุดร่วมมาจากอะไร ในเมื่ออาเซียนอาจเบ็นเพียงแค่จุด
เล็ก ๆ ของพื้นที่นนโลกในนี้ ความคิดเกี่ยวกันการรวมกันด้วยการใช้เสียง ดนตรี และเพลง จะเกิดขึ้นได้ในอาเซียนหรือไม่ ในเมื่อแต่ละคน
ยังไม่เข้าใจกันและกัน ความรู้สึกแบลกอาจเกิดขึ้นและอาจไม่มีอย่างอื่นเกิดตามมาอีกเลย
ความสาคัญของเสียง คือ การใช้งานของเสียงว่าจะนาไบใช้แนนไหน นางครั้งอาจมีการใช้ทั่วไบหรือใช้แนนลึกซึ้ง ยกตัวอย่าง
โฆษณาท่องเที่ยวของบระเทศพม่าและบระเทศไทย บระเทศพม่าใช้เสียงดนตรีที่แสดงความเบ็นตัวเอง เรียนง่ายแต่สื่อความหมายได้ดี
ในขณะที่บระเทศไทย ใช้การนาเสนอแนนเสียงของรายการท่องเที่ยวทั่วไบ ที่ทาซ้า ๆ มาจากคนอื่น ไม่ได้แสดงความเบ็นตัวตนหรือแสดง
จิตวิญญาณภายในตัวเองให้ปู้อื่นได้รันรู้ กระนวนการในการใช้เสียงทาให้รู้ว่าความสนใจเสียงมีความแตกต่างกันอย่างมาก นอกจากนั้น
ควรมองสิ่งต่าง ๆ ให้ทะลุเสียง มองอะไรให้มองเห็นเบ็นภาพและนาภาพมาเขียนเบ็นเพลงซึ่งวิธีนี้เบ็นวิธีที่น่าสนใจ เพราะเราต้องมองข้าม
ทุกอย่างที่มาจากเสียงเพื่อให้ปัสสะได้สัมปัสสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นได้ทันที
การรันรู้เสียงอาจมีมากมาย นางครั้งปู้ฟังอาจไม่เข้าใจเสียงที่ได้ยินเลย ปู้สร้างก็อย่าได้กังวลหรือคาดหวังอะไรจากสิ่งที่ทาลงไบ
ต้องบล่อยให้เบ็นไบจังหวะของเรื่องราวเหล่านั้น การคาดการณ์อาจเบ็นการสร้างความกดดันให้กันทุกคนที่เข้าไบฟังหรือรันรู้สิ่งนั้น การ
เข้าใจหรือการรันรู้อาจไม่เกิดขึ้นเลยเมื่อเรานาเสนองานออกไบก็เบ็นได้ แต่เราควรเบิดใจยอมรันทุกเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นเพื่อให้การรันรู้นั้น
ไม่มีขีดจากัดระหว่างปู้สร้างกันปู้รันรู้
เมื่อเสียงได้กระจายออกไบแล้ว การควนคุมเสียงเบ็นสิ่งที่ทายากมาก เพราะนางครั้งก็มีการเอาเสียงหรือดนตรีหลาย ๆ อย่างมา
รวมกันเบ็นเพลง ซึ่งอาจไม่มีอะไรแตกต่างและอาจรวมกันได้เบ็นอย่างดี แต่เมื่อมันกระจายออกไบแล้วเราก็คงต้องบล่อยให้มันเบ็นไบ ซึ่ง
อาจสร้างปลที่ดีกันปลงานชิ้นนั้นก็เบ็นได้ ปู้สร้างอาจต้องเบิดใจกว้างที่จะยอมรันความเห็นหรือข้อโต้แย้งต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่ได้
กระจายออกไบแล้ว ถ้าวันหนึ่งเรื่องเสียงเบ็นส่วนหนึ่งของอาเซียน เรื่องการยอมรันความแตกต่างจะกลายเบ็นเรื่องที่สาคัญขึ้นมาทันที
ตอนนี้ไม่มีใครให้คาตอนได้ว่า “เสียงอาเซียน” ที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ จะมีรูบร่างหน้าตาอย่างไร ความแตกต่างที่มีอยู่ตอนนี้จะ
ส่งปลต่ออาเซียนมากน้อยเพียงใด แต่สิ่งหนึ่งที่พอจะเห็นทิศทาง คือ การเบิดใจให้กว้างและการมองข้ามเสียงนั้นออกไบ แล้วจะเข้าใจ
เสียงมากขึ้น
ASEA(R)N : การตีความอาเซียนจากหู
ดร. อโณทัย นิติพน
รองคณนดีสถานันดนตรีกัลยาณิวัฒนา