Contenu connexe
Similaire à บทที่ 4 วิสุทธิ
Similaire à บทที่ 4 วิสุทธิ (20)
Plus de Onpa Akaradech (8)
บทที่ 4 วิสุทธิ
- 2. บาลีแหงวิสุทธิ มีอยู 2 บท คือ
1. ปฺญาย ปริสุชฌติ ยอมหมดจดดวยปญญา
ฺ
พุทธภาษิตนี้ แสดงใหเห็นวา ความบริสทธิ์จะเกิดขึ้นไดก็
ุ
ดวยปญญาเทานั้น คือ ใชปญญาเปนเครื่องพิจารณาหา
แนวทางแหงการประพฤติปฏิบัติ
2. เอส มคฺโค วิสุทธิยา นั่น(นิพพิทา)เปนทางแหงวิสุทธิ
คําวา “นิพพิทา” ความหนายทุกข จะเกิดขึ้นไดก็ดวยการ
ใชปญญาพิจารณาใหเห็นวา สั้งขารทังปวง ไมเทียง เปน
้
่
ทุกข เปนอนัตตา
- 4. แตทางพุทธศาสนา สอนวา...
อตฺตนา ว กตํ ปาป
อตฺตนา สงฺกิลิสฺสติ
อตฺตนา อกตํ ปาป
อตฺตนา ว วิสุชฺฌติ
สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ
นาฺโญ อฺญํ วิโสธเย
ทําบาปเอง ยอมเศราหมองเอง ไมทําบาปเอง ยอม
หมดจดเอง ความหมดจดหรือความเศราหมองเปน
ของเฉพาะตัว คนอื่นยังคนอื่นใหหมดจดหาไดไม
- 7. 4. อาทีนวานุปสสนาญาณ ปรีชาคํานึงถึงโทษ หมายถึง
ญาณที่พิจารณาเห็นโทษของสังขาร
5. นิพพิทานุปสสนาญาณ ปรีชาคํานึงดวยความนาเบื่อ
หนาย หมายถึง ญาณที่พิจารณาเห็นสังขารวาเปนของ
นาเบื่อหนาย
6. มุญจิตุกัมยตาญาณ ปรีชาคํานึงดวยใครจะพนไปเสีย
หมายถึง ญาณที่พิจารณาเพื่อหาทางเปลื้องตนไมให
พัวพันติดของอยูในสังขาร
- 8. 7. ปฏิสังขานุปสสนาญาณ ปรีชาคํานึงดวยการพิจารณา
หาทาง หมายถึง ญาณที่พิจาณาเลือกหาทางที่จะปลด
เปลื้องตนจากสังขาร
8. สังขารุเปกขาญาณ ปรีชาคํานึงดวยความวางเฉยเสีย
หมายถึง ญาณที่พิจารณาเห็นความจริงของสังขาร
แลววางใจใหเปนกลางในสังขารทั้งหลายได
9. สัจจานุโลมิกญาณ ปรีชาเปนไปโดยสมควรแกการ
กําหนดรูอริยสัจ หมายถึง ญาณที่พิจารณาอนุโลมไป
ตามสัจจะ
- 10. มรรค ๘ อยาง
******************************
1. สัมมาทิฏฐิ เห็นชอบถูกตอง
5. สัมมาอาชีวะ เลี้ยงชีพถูกตอง
2. สัมมาสังกัปปะ ดําริที่ถูกตอง
6. สัมมาวายมะ ความเพียรที่ถูก
3. สัมมาวาจา วาจาที่ถกตอง
ู
7. สัมมาสติ ความระลึกที่ถูก
4. สัมมากัมมันตะ งานถูกตอง
8. สัมมาสมาธิ ความตั้งใจที่ถูก
- 12. 3. สัมมาวาจา หมายถึง วาจาที่ถูกตอง ไดแก การพูดจาที่
เวนจากวจีทุจริต ๔ คือ ไมพูดเท็จ สอเสียด คําหยาบ
และเพอเจอ
4. สัมมากัมมันตะ หมายถึง การงานที่ถูกตอง ไดแก การ
เวนจากกายทุจริต ๓ คือ ไมฆาสัตว ไมลักทรัพย ไม
ประพฤติผิดในกาม
5. สัมมาอาชีวะ หมายถึง การเลี้ยงชีพที่ถูกตอง ไดแก
เวนการเลี้ยงชีวิตที่มีโทษทั้ง ๒ ฝาย คือ โทษทางโลก
และโทษทางพระบัญญัติ รูประมาณในการหา,รับ,ทาน
- 13. 6. สัมมาวายามะ หมายถึง ความเพียรที่ถูกตอง ไดแก
ความเพียรใน ปธาน ๔ คือ เพียรมิใหบาปเกิดขึ้น
เพียรละบาปที่เกิดขึ้นแลว เพียรใหกุศลเกิดขึ้น เพียร
รักษากุศลที่เกิดขึ้นแลว
7. สัมมาสติ หมายถึง ความระลึกที่ถูกตอง ไดแก ความ
ระลึกไดในสติปฏฐาน ๔ คือ กาย เวทนา จิต ธรรม
8. สัมมาสมาธิ หมายถึง ความตั้งใจที่ถูกตอง ไดแก
ความตั้งใจมั่นในการเจริญฌานทั้ง ๔ คือ ปฐมฌาน
ทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌาน
- 14. ธรรมทั้ง ๘ อยางนี้ เปนทางอันยอดสามารถทําใหผูปฏิบัติบรรลุถึง
ความดับทุกข หรือความบริสุทธิ์แหงทัสสนะได คือ วิสทธิ ๗ อยาง
ุ
ได
วิสุทธิ ๗ อยาง
1. สีลวิสุทธิ
5. มัคคมัคคญาณทัสสนวิสุทธิ
2. จิตตวิสุทธิ
6. ปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ
3. ทิฏฐิวิสุทธิ
4. กังขาวิตรณวิสุทธิ
7. ญาณทัสสนวิสุทธิ
- 15. 1. สีลวิสุทธิ ความหมดจดแหงศีล คือ ความบริสุทธิ์ที่ได
จากการรักษาศีลของตนไวอยางเครงครัด สํารวมระวัง
มิใหขาดหรือดางพรอยไปได
2. จิตตวิสุทธิ ความหมดจดแหงจิต คือ ความบริสุทธิ์ที่
ไดจากการรักษาจิต ใหสงบตั้งมั่นอยูในอารมณของ
กัมมัฏฐาน จนจิตปราศจากนิวรณ ทั้ง ๕
3. ทิฎฐิวิสุทธิ ความหมดจดแหงทิฏฐิ คือ ความบริสุทธที่
เกิดจากการทําความเห็นใหถูกตอง คือ รูวา รางกาย ไม
เที่ยง เปนทุกข เปนอนัตตา
- 16. 4. กังขาวิตรวิสุทธิ ความหมดจดแหงญาณเปนเครื่องขาม
พนความสงสัย คือ ความบริสุทธิ์แหงปญญาที่ละ
ความสงสัยในสักกายทิฏฐิความเปนตัวตนของรูปนาม
5. มัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ ความหมดจดแหงญาณ
เปนเครื่องเห็นวาทางหรือมิใชทาง คือ เมื่อหมดความ
สงสัยในนามรูปก็พิจาณาวา ทางไหนถูก ทางไหนผิด
6. ปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ ความหมดจดแหงญาณเปน
เครื่องเห็นทางปฏิบัติ คือ เมื่อรูวานี้เปนทางปฏิบัติที่
ถูกตองก็นอมจิตสูวิปสสนาญาณ
- 17. 7. ญาณทัสสนวิสุทธิ ความหมดจดแหงญาณทัสสนะ คือ
ความบริสุทธิ์ของปญญาที่มีนิพพานเปนอารมณ เปน
เหตุใหตัดกิเลสตัณหาละสังโยชนไดอยางสิ้นเชิง คือ
เปนญาณของอริยมรรค ๔ (โสดาปตติมรรค จนถึง
อรหัตตมรรค)
วิสุทธิ ๗ นั้น
ขอ ๑ - ๕ เปน โลกิยะ
ขอ ๖ - ๗ เปน โลกุตตระ
- 18. มรรค ๘ เทียบกับ วิสุทธิ ๗
1. สัมมาวาจา, สัมมากัมมันตะ, สัมมาอาชีวะ
เทียบกับ สีลวิสุทธิ
2. สัมมาวายะ, สัมมาสติ, สัมมาสมาธิ
เทียบกับ จิตตวิสุทธิ
3. สัมมาทิฏฐิ, สัมมาสังกัปปะ, เทียบไดกับวิสุทธิอีก ๕
ขอที่เหลือตามลําดับ คือ สัมมาทิฏฐิ ทําหนาที่พิจารณา
สัมมาสังกัปปะ ทําหนาที่สันนิษฐานเปนชั้น ๆ ขึ้นไป
อยางนี้ คือ...
- 19. 1. การพิจารณาสังขารโดยกฎของไตรลักษณ คือ ไมเที่ยง
เปนทุกข เปนอนัตตา จัดเปนทิฏฐิวิสุทธิ
2. การพิจารณาเล็งเห็นความเปนไปของสังขารวาเนื่อง
ดวยเหตุ คือ อาศัยเหตุเกิดขึ้น ยอมดับเพราะความแตก
สลายแหงเหตุ จัดเปนกังขาวิตรณวิสุทธิ
3. พิจารณาสังขารโดยใชโยนิโสมนสิการควบคุม ใหรูจัก
วาทางไหนถูก ทางไหนผิด จัดเปนมัคคามัคคญาณ
ทัสสนวิสุทธิ