Publicité

Contenu connexe

Présentations pour vous(20)

Publicité
Publicité

เทียนหอมแฟนซี Fancy candle

  1. เทียนหอมแฟนซี Fancy Candle โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็นส่วนหนึ่งของวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6 ปีการศึกษา 2557
  2. จัดทำโครงงำนโดย ปิยะธิดา ปรากฎวงศ์ เลขที่ 1 ชั้น ม.6/5 ปาณิตา อังคะนาวิน เลขที่ 17 ชั้น ม.6/5 ชื่อครูที่ปรึกษำ คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ
  3. ที่มำและควำมสำคัญของโครงงำน ควำมเป็นมำของเทียนหอมแฟนซี ในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ มนุษย์ยังไม่มีการรู้จักใช้ไฟ รู้จักเพียงแต่ความมืดในเวลากลางคืน และความสว่างในเวลากลางวัน ต่อมาเริ่มรู้จักการใช้ไม้มาเสียดสีกันให้ได้ความร้อน แล้วเกิด เป็นเปลวไฟเกิดขึ้น และเริ่มใช้ไฟมาหุงหาอาหาร ให้แสงสว่าง และป้ องกันภัยจากสัตว์ร้าย ต่างๆ และวิวัฒนาการก้อได้เริ่มพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง เริ่มมีการใช้คบเพลิง เพื่อเป็นการให้ แสง ส่องสว่าง มีการประยุกต์นามาใช้เป็นการติดต่อสื่อสารในระยะไกลจะเห็นได้จากไฟใน ประภาคาร ที่มีการติดต่อสื่อสารระหว่างยามฝั่งกับเรือ และให้สัญญาณต่างๆระหว่างภูเขาแต่ ละลูก โดยมีรหัสที่เข้าใจตามแต่จะตกลงกันในสมัยนั้นจะเห็นได้ว่ามนุษย์ได้มีการใช้ไฟ เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตประจาวัน และต่อมาในสมัยศตวรรษที่ 19 ได้มีการนาเทียนเข้ามา เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมเป็นอย่างมาก
  4. เนื่องจากไฟ มีเป็นสัญลักษณ์ของการเผาผลาญ และความโชติช่วงชัชวาลย์ และมนุษย์บางเผ่าในสมัยนั้นนับถือให้เป็นเทพไฟ มีการบวงสรวงและประกอบ พิธีกรรมทาง ศาสนา หรือตามแต่ความเชื่อ จะเห็นได้จาก พิธีการแต่งงาน ซึ่งมีความหมายของการเริ่มต้นแสงแห่งเปลวเทียนจะนาทางไปสู่ความสว่าง ไสวในชีวิตคู่ ชาวอเมริกันนิยมนาเทียนมาประดับประดาบนโต๊ะอาหาร แสดงถึงฐานะ ความภูมิฐาน และมีรสนิยม และเพื่อให้เกิดความสว่างไสว อีกทั้งแสงสว่าง ของเทียน สามารถสร้างบรรยากาศ และดูสวยงามอีกด้วย
  5. ในปัจจุบันได้มีการประยุกต์ให้นอกจากเทียนมีความสวยงามแล้ว ยังมีการนา กลิ่นหอม หรือน้ามันหอมละเหยมาผสมเพื่อให้ได้กลิ่นตามต้องการ และ นอกจากนี้กลิ่นน้ามันหอมละเหยนี้มีคุณสมบัติพิเศษซึ่งแตกต่างกันออกไป เช่น บางชนิดสามารถที่จะรักษาโรคได้ แก้อาการเครียด และทาให้ร่างกาย ผ่อนคลาย กลิ่นบางชนิด สามารถไล่ยุงได้ น้ามันหอมละเหยเหล่านี้ได้มาจาก การสกัดจากพืช และสมุนไพรทางธรรมชาติ และบางชนิดได้มาจากการ สังเคราะห์ ซึ่งในปัจจุบันได้รับความนิยม ด้วยคุณลักษณะที่เป็นสิ่งที่ได้จาก ธรรมชาติและช่วยรักษาสุภาพ ราคาไม่แพง เหมาะที่จะนาไปเป็นของขวัญ ของที่ระลึกฝากคนที่คุณรัก
  6. ประวัติของเทียนหอม แสงสว่าง นับว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่จาเป็นมากต่อมนุษย์และแสงสว่างนี้ก็ถือกาเนิด มานานมากแล้วนับได้ว่าแสงสว่างจะมีในทุกๆที่ที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ มนุษย์ (บรรพบุรุษสุดฉลาด)ก็ได้คิดหาวิธีที่จะให้กาเนิดแสงสว่างที่ นอกเหนือจากดวงอาทิตย์ที่เป็นแหล่งพลังงานความร้อนและพลังงานแสงที่ใหญ่ ที่สุดจนบังเกิดเทียนที่ให้แสงสว่างหลักๆ ในยามค่าคืนแก่มนุษย์ในอดีตแต่ใน ปัจจุบันเทียนไขก็ยังคงเป็นอุปกรณ์ที่ให้แสงสว่างแก่มนุษย์อยู่ดีถึงแม้ว่า วิวัฒนาการจะก้าวหน้ามากขึ้นอย่างรวดเร็ว และมนุษย์มีไฟฟ้ าใช้แต่ในยามที่ ไฟฟ้ าดับ เทียนไขเพื่อนยากก็เป็นที่พึ่งที่คอยส่องแสงสว่างสุกใสให้แก่มนุษย์
  7. นอกจากเทียนไขจะให้แสงสว่างในบ้านในยามไม่มีแสงสว่างจากไฟฟ้ าแล้ว เทียนไขยังมีความสามารถที่จาเป็นมากในทางด้านพระพุทธศาสนาเพราะจะ เห็นได้ว่ามนุษย์ชาวพุทธมักจะใช้เทียนไขจุดก่อนไหว้พระและมีการถวายเทียน พรรษาแด่วัดต่างๆในวันเข้าพรรษาจะเห็นได้เด่นชัดเลยทีเดียวว่า เทียนมี ความสาคัญมากแต่วิวัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงไปทาให้เทียนมีการสร้างสรรค์ ลูกเล่นต่างๆลงไปในเทียน หนึ่งในนั้นก็มีวิธีการใส่น้าหอมให้เทียนเกิดกลิ่นที่ หอมบางๆเวลาที่ถูกไฟจุดที่ไส้เทียนสีขาวนวล ประโยชน์ที่กล่าวมาข้างต้นจึงนับเป็นประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ของเทียนแต่ นอกจากนั้นแล้ว เทียนที่มีกลิ่นหอมของเรานั้นตีตลาดการเปิดสถานบริการ นวดแผนต่างๆ และสปา ที่หลายๆคนคงจะเคยได้ยินกัน
  8. ในอดีต เทียน มีความจาเป็นกับมนุษย์มาก เนื่องจากในอดีตไม่มีไฟฟ้ าใช้เหมือนอย่าง ปัจจุบันและในปัจจุบันรูปแบบของเทียนก็มีการวิวัฒนาการไปมากไม่ว่าจะเป็นเทียนไล่ ยุง เทียนหอม หรือจะเป็นเทียนลายดอกไม้อบแห้ง เป็นต้น ที่กลุ่มของข้าพเจ้าเลือกเทียนหอม เพราะนอกจากจะเป็นสินค้า OTOP แล้ว ยังมีสีสัน สวยงามสามารถนาไปประดับตกแต่ง เพิ่มความสวยงามให้กับบริเวณต่างๆของห้องได้ หรือจุดเทียนเพื่อเพิ่มบรรยากาศในโอกาส พิเศษต่างๆได้มากมาย นอกจากนี้ยังขยายไป ถึงธุรกิจอื่นๆ ได้ด้วย นั่นคือ “สปา” คือสปามักจะใช้จุดเทียนหอมเพื่อช่วยในการผ่อน คลายแก่ลูกค้าและสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่เข้าไป ด้วยรูปลักษณ์ที่ถูกออก แบบอย่างสวยงานและมีการพัฒนาให้รูปแบบสวยงามขึ้นเรื่อยจึงทาให้ “เทียนหอม” เป็น ที่นิยมกันมาจนถึงทุกวันนี้และมีแนวโน้มว่าจะคงความเป็นที่นิยมแบบนี้ไปอีกในอนาคต
  9. ความสาคัญของเทียน เทียนนอกจากจะให้แสงสว่างแล้ว ยังมักจะถูกนามาเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมต่างๆ โดยเฉพาะสาหรับชาวพุทธที่ใช้เทียนในการบูชาพระ และประเพณีการแห่เทียน พรรษาที่ถูกสืบทอดมาอย่างยาวนาน ซึ่งแสดงออกถึงวิวัฒนาการด้านศิลปะอีก ด้วย ถึงแม้ว่าในปัจจุบันเทียนจะถูกลดความสาคัญลง เนื่องจากการมีไฟฟ้ าใช้ และป้ องกันปัญหาด้านอัคคีภัยจากการใช้งาน แต่ก็ยังมีการใช้เทียนในกิจกรรม ด้านต่างๆอยู่ เพราะเทียนเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังและแรงบันดาลใจ แสง เทียนสามารถสะท้อนได้ถึงความอบอุ่นและความอ่อนไหวที่แสงจากดวงไฟไม่ สามารถทดแทนในส่วนนี้ได้ เสน่ห์ของมันอยู่ที่ความวูบไหวยามที่สายลมพัด ผ่าน แท่งเทียนที่ถูกความร้อนหลอมละลายกลายเป็นน้าตาเทียนที่ไหลหยดย้อย ลงมาสร้างสรรค์เป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง
  10. มนุษย์เราเริ่มเรียนรู้การใช้แสงสว่างจากเปลวเทียนด้วยไขมันของสัตว์ ต่อมา ได้พัฒนาเป็นไขมันจากพืช ในปัจจุบันเป็นผลิตภัณฑ์จากกระบวนการกลั่น น้ามันปิโตเลียมและวัสดุปรุงแต่งอื่นๆที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเทียนให้ดี ขึ้น และยังได้มีการนาเทียนมาเพิ่มมูลค่าด้วยการออกแบบให้มีรูปลักษณ์ที่ เปลี่ยนไปตามประเภทการใช้งาน หรือกิจกรรมต่างอีกด้วย
  11. เทียนนอกจำกจะถูกใช้เพื่อให้แสงสว่ำงหรือประกอบพิธีกรรม ต่ำง ๆ แล้ว ยังสำมำรถใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่งบ้ำนในโอกำส ต่ำง ๆ แตกต่ำงกันไป ดังนั้นจึงอาจจาแนกประเภทของเทียนได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. เทียนทั่วไป (Basic or General Candle) 2. เทียนประดับ (Decorative Candle) ซึ่งอาจจาแนกย่อยได้อีก 2 ประเภท ดังนี้ 2.1 เทียนแฟนซี (Fancy Candle) 2.2 เทียนหอม (Fragranced Candle)
  12. 1. เทียนทั่วไป (Basic or General Candle)
  13. 2. เทียนประดับ (Decorative Candle) 2.1 เทียนแฟนซี (Fancy Candle) ได้แก่ เทียนที่ทาเป็นรูปทรง ต่างๆ เช่น รูปผลไม้ ดอกไม้ และสัตว์เป็นต้น
  14. 2.2 เทียนหอม (Fragranced Candle) ได้แก่ เทียนที่มีการเติมกลิ่น น้าหอมผสมลงไปในเนื้อเทียนเมื่อจุดเทียนจะมีกลิ่นหอมทั้งนี้มีประโยชน์ได้ หลายอย่าง เช่น เพื่อความหอม และการบาบัด เป็นต้น
  15. เหตุผลที่เลือกทาเทียนหอมแฟนซี เหตุผลที่เลือกคือ ปัจจุบันเทียนหอมเป็นที่ต้องการของตลาดผู้คนนิยม นามาใช้เพื่อประดับตกแต่งเพิ่มแสงสว่างทาให้มีแสงสว่างที่สวยและยังมี กลิ่นหอมอ่อนๆ การทาเทียนหอมแฟนซีต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการ ทา ในการออกแบบรูปร่างและการเลือกกลิ่น และยังเป็นการใช้เวลาว่าง ให้เป็นประโยชน์ และสามารถทาเป็นอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้เสริมได้ อีกด้วย กลิ่นของเทียนหอมบางชนิดก็มีคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างกัน ออกไป
  16. เช่น บางชนิดสามารถที่จะรักษาโรคได้ แก้อาการเครียดและทาให้ร่างกาย ผ่อนคลาย สามารถไล่ยุงได้ ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่นิยม ด้วยคุณลักษณะที่ เป็นสิ่งที่ได้จากธรรมชาติ และช่วยรักษาสุขภาพ ราคาไม่แพง เหมาะที่จะ เป็นของขวัญหรือเป็นของที่ระลึกได้ จึงได้เลือก ทาผลิตภัณฑ์นี้ และยังต้นทุนต่า สามารถทาที่บ้านได้ วิธีการทาง่ายไม่ยาก แหล่งซื้อวัตถุดิบก็หาไม่ยาก ซื้อได้ตามตลาดทั่วไป และยังสามรถขาย ได้ในราคาที่ดีอีกด้วย
  17. วัตถุประสงค์ - เพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ - เกิดความคิดสร้างสรรค์ - สามารถทาตามแบบที่ต้องการได้ - ประหยัดค่าใช้จ่าย - สามารถนาไปเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ได้
  18. ขอบเขตโครงงาน สร้างสื่อวีดีทัศน์ เพื่อเผยแพร่ความรู้สื่อเพื่อการเรียนรู้โดยใช้ กล้อง Smart Phone GALAXY S4 1. วัสดุ อุปกรณ์เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนาได้แก่ 1.1 เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 1.2 Smart Phone GALAXY S4 1.3 วัสดุ-อุปกรณ์ ในการทาเทียนหอม คือ เทียนไขสีขาว ไส้เทียน สีผสมอาหาร น้าหอม แก้วขนาดเล็ก ช้อน กรรไกร มีด ไมโครเวฟ
  19. หลักการและทฤษฎี ควำมหมำยของเทียนหอม เทียนหอม หมายถึง ผลิตภัณฑ์ ที่ได้ จากการนาพาราฟิน และไขผึ้งมาหลอม ละลายรวมกัน อาจเติมสีและเติมน้ามันหอมระเหย นาไปปั้นด้วยมือ หรือหล่อ แบบขึ้นรูป หรือกดจากพิมพ์ให้มีรูปทรงตามต้องการอาจประกอบด้วยวัสดุอื่น เพื่อให้ เกิดความสวยงาม เช่น ดอกไม้แห้ง มีไส้เทียนสาหรับจุดไฟ และมีกลิ่น หอมของน้ามันหอมระเหย เทียนหอมแฟนซีเน้นการใช้ประโยชน์และความ สวยงาม โดยมีกลิ่นหอม แบบสวย และอาจจะใช้ไล่ยุงหรือแมลงได้อีกด้วย
  20. ทั้งนี้แล้ว เทียนหอมแฟนซี ยังมีการทาเป็นธุรกิจSMEขนาดย่อม มีการ ลงทุนที่น้อยกว่า แต่ได้กาไรเยอะ เนื่องจากเป็นงานhandmade ทาให้ ผู้คนสนใจในตัวสินค้าเทียนหอมแฟนซี หรือ Fancy Aroma Candle นั้น ทาจากส่วนผสมไม่กี่อย่าง ทาง่ายและตกแต่งง่าย โดยใช้ต้นทุนเพียงไม่กี่บาท ก็สามารถประดิษฐ์มันขึ้นมาได้แล้ว
  21. เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ - เทียนไขสีขาว - ไส้เทียน - กากเพชร - น้าหอม - แก้วขนาดเล็ก - ช้อน - สีเทียน - ตะเกียบ - ไมโครเวฟ - โทรศัพท์มือถือ (สาหรับถ่ายวีดีโอ) - คอมพิวเตอร์พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (สาหรับลงภาพนิ่ง)
  22. อุปกรณ์
  23. เทียนไขสีขาว
  24. กากเพชร
  25. น้าหอม
  26. แก้วขนาดเล็ก
  27. สีเทียน
  28. ตะเกียบ
  29. ไมโครเวฟ
  30. ขั้นตอนการทา 1.นาเทียนมาหักใส่ในแก้วแล้วนาเข้าไมโครเวฟ 3 นาที 2.นาแก้วออกจากไมโครเวฟและนาสีเทียนสีน้าเงินและน้าหอมใส่ลงไป คนให้เข้ากัน แล้วเทลงไปในแก้วที่ต้องการ ปักไส้เทียน พักไว้ 10 นาที 3. นาเทียนมาหักใส่ในแก้วแล้วนาเข้าไมโครเวฟ 3 นาที 4. นาแก้วออกจากไมโครเวฟและนาสีเทียนสีฟ้ าและน้าหอมใส่ลงไป คนให้เข้ากัน แล้วเทลงไปในแก้วที่ต้องการ พักไว้ 10 นาที 5.นาเทียนมาหักใส่ในแก้วแล้วนาเข้าไมโครเวฟ 3 นาที
  31. 6. นาแก้วออกจากไมโครเวฟและนาสีเทียนสีเขียวเข้มและน้าหอมใส่ลงไป คนให้เข้ากัน แล้วเทลงไปในแก้วที่ต้องการ พักไว้ 10 นาที 7.นาเทียนมาหักใส่ในแก้วแล้วนาเข้าไมโครเวฟ 3 นาที 8. นาแก้วออกจากไมโครเวฟและนาสีเทียนสีเขียวอ่อนและน้าหอมใส่ลง ไป คนให้เข้ากัน แล้วเทลงไปในแก้วที่ต้องการ พักไว้ 10 นาที 9.นาเทียนมาหักใส่ในแก้วแล้วนาเข้าไมโครเวฟ 3 นาที 10. นาแก้วออกจากไมโครเวฟและนาสีเทียนสีส้มและน้าหอมใส่ลงไป คนให้เข้ากัน แล้วเทลงไปในแก้วที่ต้องการ พักไว้ 10 นาที 11.นาเทียนมาหักใส่ในแก้วแล้วนาเข้าไมโครเวฟ 3 นาที 12. นาแก้วออกจากไมโครเวฟและนาสีเทียนสีแดงและน้าหอมใส่ลงไป คน ให้เข้ากัน แล้วเทลงไปในแก้วที่ต้องการ พักไว้ 10 นาที
  32. 1.นำเทียนมำหักใส่ในแก้วแล้วนำเข้ำไมโครเวฟ 3 นำที
  33. 2.นำแก้วออกจำกไมโครเวฟและนำสีเทียนสีน้ำเงินและ น้ำหอมใส่ลงไป คนให้เข้ำกัน แล้วเทลงไปในแก้วที่ต้องกำร ปักไส้เทียน พักไว้10 นำที
  34. 3. นำเทียนมำหักใส่ในแก้วแล้วนำเข้ำไมโครเวฟ 3 นำที
  35. 4. นำแก้วออกจำกไมโครเวฟและนำสีเทียนสีฟ้ำและ น้ำหอมใส่ลงไป คนให้เข้ำกัน แล้วเทลงไปในแก้วที่ต้องกำร พักไว้10 นำที
  36. 5.นำเทียนมำหักใส่ในแก้วแล้วนำเข้ำไมโครเวฟ 3 นำที
  37. 6. นำแก้วออกจำกไมโครเวฟและนำสีเทียนสีเขียวเข้มและ น้ำหอมใส่ลงไป คนให้เข้ำกัน แล้วเทลงไปในแก้วที่ต้องกำร พักไว้10 นำที
  38. 7.นำเทียนมำหักใส่ในแก้วแล้วนำเข้ำไมโครเวฟ 3 นำที
  39. 8. นำแก้วออกจำกไมโครเวฟและนำสีเทียนสีเขียวอ่อนและ น้ำหอมใส่ลงไป คนให้เข้ำกัน แล้วเทลงไปในแก้วที่ต้องกำร พักไว้10 นำที
  40. 9.นำเทียนมำหักใส่ในแก้วแล้วนำเข้ำไมโครเวฟ 3 นำที
  41. 10. นำแก้วออกจำกไมโครเวฟและนำสีเทียนสีส้มและ น้ำหอมใส่ลงไป คนให้เข้ำกัน แล้วเทลงไปในแก้วที่ต้องกำร พักไว้10 นำที
  42. 11.นำเทียนมำหักใส่ในแก้วแล้วนำเข้ำไมโครเวฟ 3 นำที
  43. 12. นำแก้วออกจำกไมโครเวฟและนำสีเทียนสีแดงและ น้ำหอมใส่ลงไป คนให้เข้ำกัน แล้วเทลงไปในแก้วที่ต้องกำร พักไว้10 นำที แล้วโรยกำกเพชรลงไป
  44. ประโยชน์ของเทียนหอม 1. จุดเพื่อให้เกิดแสงสว่างและเพิ่มบรรยากาศ 2. ประดับตกแต่งในสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสวยงาม 3. ดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ 4. ทาเป็นเทียนวันเกิด 5. ใช้ในพิธีต่างๆ เช่นงานแต่งงาน งานดินเนอร์ งานเลี้ยง 6. ใช้เป็นของชาร่วยในงานต่างๆ เช่น งานบวช งานแต่งงาน 7. ใช้เป็นของฝากของขวัญ 8. จุดเพื่อไล่ยุง(ใช้น้ามันหอมกลิ่นตะไคร้หอม)
  45. วิธีจุดเทียนหอมให้ปลอดภัย - เมื่อจุดเทียนครั้งแรก ควรทิ้งให้เทียนเผาไหม้จนขี้ผึ้งละลายเป็นน้ามาถึง บริเวณขอบเทียน และทุกครั้งที่จุดเทียน ควรทิ้งให้เทียนเผาไหม้เป็นระยะ เวลานานพอที่จะทาให้ผิวด้านบนของแท่งเทียนหลอมละลายจนเกือบทั้งหมด เพื่อช่วยให้ผิวด้านบนแท่งเทียนเรียบ ไม่เป็นหลุม - อาจเกิดควันขึ้นเล็กน้อยเมื่อจุดเทียนครั้งแรก ทิ้งให้ไส้เทียนดูดขี้ผึ้งเหลวมา จนถึงระดับหนึ่ง ควันก็จะหายไปแต่หากเห็นควันมากผิดสังเกตขณะที่เทียน กาลังจุดอยู่ ให้ดับเทียน ทิ้งไว้ให้เย็น ตัดเล็มไส้เทียนให้เหลือความยาว ¼ นิ้ว แล้วจึงจุดเทียนใหม่อีกครั้ง
  46. - วางเทียนในห้องที่มีอากาศถ่ายเท และพ้นจากลมเสมอ เพราะกระแสลมอาจ ทาให้เปลวไฟเกิดเขม่าดาและควันได้ - เพื่อการกระจายความหอมอย่างทั่วถึง ควรจุดเทียนทิ้งไว้สักระยะหนึ่ง แล้วจึงดับ - ดับเทียนด้วยที่ดับเทียน - พยายามไม่ให้มีเศษผง เศษขยะอยู่ในขี้ผึ้งเหลว และทาความสะอาดเทียน เมื่อเทียนเย็นแล้วเท่านั้น- ตัดเล็มไส้เทียนให้มีความยาว ¼ นิ้วขณะที่เทียนเย็น ก่อนจุดทุกครั้ง เพื่อให้เกิดการเผาไหม้เต็มที่ รวมถึงป้ องกันไม่ให้เกิดควัน และยัง ช่วยไม่ให้ไส้เทียนที่ไหม้แล้วหล่นลงมาตกค้างในขี้ผึ้งเหลวได้
  47. - กาจัดฝุ่นและน้าตาเทียนโดยรอบออกด้วยผ้านุ่ม เมื่อเทียนเย็นเท่านั้น - อย่าใช้มีดหรือของมีคมในการกาจัดน้าตาเทียนออกจากภาชนะใส่เทียน นา ภาชนะไปวางไว้ในช่องทาน้าแข็ง - ขี้ผึ้งก็จะหลุดออกอย่างง่ายดาย เสร็จแล้วสามารถนาภาชนะใส่เทียนไปใช้ เป็นกล่องใส่ของที่ระลึกได้อีกด้วย - เก็บเทียนให้ใช้ได้นาน โดยวางตั้งขึ้น ให้ไส้เทียนอยู่ด้านบน และเก็บให้พ้น จากแสงแดดและความร้อน
  48. กำรเก็บรักษำเทียนหอม
  49. 1. ควรเก็บเทียนในภาชนะปิดสนิทเพื่อรักษากลิ่นไม่ให้ระเหยออกจนกว่าจะ มีการจุด โดยอาจเก็บในถุงพลาสติกปิดผนึก หรือห่อกระดาษแก้วก็ได้ผลดี เช่นกัน 2. ไม่ควรนาเทียนเก็บไว้ในตู้เย็น เพราะจะทาให้เทียนแตก หัก และกรอบได้ 3. ควรเก็บเทียนไว้ไม่ให้โดนแสงแดดเพราะจะทาให้สีซีด เนื้อไม่เป็นเงา และ ละลายได้ในที่มีอุณหภูมิสูงประมาณ 38 องศาเซลเซียสขึ้นไป
  50. วิธีดาเนินงาน แนวทำงกำรดำเนินงำน การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์เทียนหอมแฟนซี คณะผู้จัดทาโครงงานมีวิธีการดาเนินงานโครงงาน ตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
  51. ขั้นตอนการดาเนินการ 1. คิดหัวข้อโครงงานเพื่อนาเสนออาจารย์ที่ปรึกษา 2. ศึกษาค้นคว้ารวบรวมข้อมูล ที่เกี่ยวข้องกับโครงงานในการสร้างสื่อวีดี ทัศน์ 3. จัดทาโครงร่างโครงงานเสนออาจารย์ที่ปรึกษา 4. ออกแบบสื่อวีดีทัศน์ 5. จัดทาโครงงานสร้างสื่อวีดีทัศน์ เรื่อง เทียนหอมแฟนซี 6. เผยแพร่ผลงานโดยการนาเสนอผ่านสื่อวีดีทัศน์ 7. ทาเอกสารสรุปรายงานโครงงาน
  52. วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล 1. ศึกษา เรื่อง ที่มาของเทียนหอมแฟนซี 2. ศึกษา เรื่อง ประวัติของเทียนหอม 3. ศึกษา เรื่อง วิธีการทาเทียนหอมแฟนซี 4. ศึกษา เรื่อง ความสาคัญของเทียนหอม
  53. งบประมาณ ประมำณ 200-300 บำท (ค่ำซื้อวัสดุ อุปกรณ์)
  54. ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
  55. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. สามารถทาเทียนหอมได้ด้วยตนเอง 2. สามารถนาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ 3. สามารถนาไปเป็นของขวัญ ของที่ระลึกได้ 4. สามารถจาหน่ายได้
  56. สถานที่ดาเนินการ บ้ำนของผู้จัดทำโครงงำน
  57. กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง - กลุ่มสาระการเรียนรู้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร - กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
  58. แหล่งอ้างอิง http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8 %97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0% B8%AB%E0%B8%AD%E0%B8%A1 http://candleind.exteen.com/20110525/entry-1 http://3004201d2.webs.com/d2_7_1.pdf https://sites.google.com/site/suree2535/home/khwa m-pen-ma-khxng-theiyn-hxm-faensi
  59. http://www.thaigoodview.com/node/131368 http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNe ws.aspx?NewsID=9550000011317 https://piyanuchhealthy.wordpress.com/2013/02 /07/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0 %B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%9A %E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8 %A9%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%97%E0 %B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AB %E0%B8%AD%E0%B8%A1/
Publicité