SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  33
Télécharger pour lire hors ligne
บทที่ 6
ดาวฤกษ์ (STAR)
ดาวฤกษ์ (STAR)
 ดาวฤกษ์ส่วนใหญ่ร้อยละ 80 มีขนาดเล็กกว่าดวงอาทิตย์
 ดาวฤกษ์ที่เราเห็นแสงสว่างด้วยตาเปล่า มีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์
 ในกาแล็กซีทางช้างเผือก ดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ขนาดใหญ่
ลักษณะดาวฤกษ์
 ดาวฤกษ์มีลักษณะเป็นทรงกลมใหญ่ของแก๊สร้อน
 ส่วนใหญ่เป็น ธาตุไฮโดรเจน ผลิตพลังงานด้วยปฏิกิริยานิวเคลียร์แบบฟิวชัน
วิวัฒนาการของดาวฤกษ์
ดาวฤกษ์ เกิดจากการยุบรวมตัวของ เนบิวลา
จุดจบของดาวฤกษ์จะต่างกันขึ้นอยู่กับมวลของดาว
ดาวฤกษ์ที่มีมวลน้อย
เช่น ดวงอาทิตย์ มีแสงสว่างไม่มากจะใช้เชื้อเพลิงในอัตราที่น้อย
มีช่วงชีวิตยาว และจบชีวิตลงด้วยการไม่ระเบิด กลายเป็นดาวแคระขาว
ดาวกฤษ์ที่มีขนาดใหญ่
มีมวลมาก สว่างมาก ใช้เชื้อเพลิงในอัตราที่สูงมาก
มีช่วงชีวิตที่สั้นกว่า และจบชีวิตด้วยการระเบิดอย่างรุนแรง (Supernova)
แรงโน้มถ่วงจะทาให้ดาวยุบตัวลงกลายเป็นดาวนิวตรอน หรือ หลุมดา
ดาวกฤษ์ที่มีขนาดใหญ่
ทาให้เกิดธาตุหนักต่างๆเช่น ยูเรเนียม ทองคา
ซึ่งถูกสาดกระจายออกสู่อวกาศกลายเป็นส่วนประกอบของเนบิวลารุ่นใหม่
และเป็นต้นกาเนิดของดาวฤกษ์รุ่นต่อไป
สิ่งที่เหมือนกันของดาวฤกษ์
 มีพลังงานและแสง ในตัวเองและมีวิวัฒนาการ
 เป็นแหล่งกาเนิดของธาตุต่าง ๆ เช่น ธาตุฮีเลียม ลิเทียม เบริเลียม
กาเนิดและวิวัฒนาการของดวงอาทิตย์
ดาวฤกษ์ (STAR)
กาเนิดและวิวัฒนาการของดวงอาทิตย์
ดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ที่มีมวลน้อยถึงปานกลางและอยู่ใกล้โลกที่สุด
ดวงอาทิตย์เกิดจากยุบรวมตัวของเนบิวลา เมื่อประมาณ 5,000 ล้านปีมาแล้ว
และจะฉายแสงสว่างต่อไปอีกประมาณ 5,000 ล้านปี
กาเนิดและวิวัฒนาการของดวงอาทิตย์
พลังงานของดวงอาทิตย์เกิดที่แก่นกลาง เป็นจุดที่มีอุณหภูมิและความดันสูงมาก
ทาให้เกิดปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์ (thermonuclear reaction)
นิวเคลียสของ Hหลอมไปเป็นนิวเคลียสของ He พร้อมกับเกิดพลังงานจานวนมหาศาล
กาเนิดและวิวัฒนาการของดวงอาทิตย์
ทุกวินาทีดวงอาทิตย์จะหลอมมวลของไฮโดรเจนประมาณ 600 ล้านตัน
ไปเป็นฮีเลียม 596 ล้านตัน ประมาณ 4 ล้านตันถูกเปลี่ยนไปเป็นพลังงาน
ทาให้ดวงอาทิตย์ผลิตพลังงานได้ 3.85 x 1026 วัตต์
ความส่องสว่างและโชติมาตรของดาวฤกษ์
ดาวฤกษ์ (STAR)
ความส่องสว่างและโชติมาตรของดาวฤกษ์
 เมื่อเราดูดาวจากโลกจะเห็นดาวแต่ละดวงมีความสว่างต่างๆ กัน
 ความสว่างที่เห็นนั้นไม่ใช่ความสว่างที่แท้จริง เช่นสว่างแต่อยู่ไกลจะปรากฏแสงริบหรี่ได้
 ความสว่างของดาวที่สังเกตจากโลกของเราเรียกว่า ความสว่างปรากฏ
ความส่องสว่าง (brightness)
เป็นพลังงานจากดาวฤกษ์ที่ปลดปล่อยออกมาในเวลา 1 วินาทีต่อหน่วยพื้นที่
จะบอกในรูปของอันดับความสว่าง (magnitude) ซึ่งไม่มีหน่วย
เป็นตัวเลขที่กาหนดขึ้น จากผู้สังเกตดาวฤกษ์ด้วยตาเปล่า
อันดับความสว่าง
ดาวที่มีความสว่างมาก อันดับความสว่างยิ่งน้อย
อันดับความสว่างสามารถนาไปใช้กับดวงจันทร์และดาวเคราะห์ได้
ถ้าอันดับความสว่างต่างกัน n แสดงว่าดาวทั้งสองดวงจะสว่างต่างกัน (2.512) n เท่า
ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้
ดาว ก.มีอันดับความสว่าง -1 ดาว ข.มีอันดับความสว่าง 2 สามารถสรุปได้ว่า
ดาว ไก่ มีอันดับความสว่าง 5 ดาว ไข่มีอันดับความสว่าง 1 สามารถสรุปได้ว่า
ตารางแสดงอันดับความสว่างของดาวดาวบนท้องฟ้า
อันดับความสว่าง ตัวอย่าง
-26.7 ดวงอาทิตย์
-4.5 ดาวศุกร์เมื่อสว่างที่สุด
-3.5 ดาวศุกร์เมื่อริบหรี่ที่สุด
-2.7 ดาวอังคารเมื่อสว่างที่สุด
-2.5 ดาวพฤหัสบดีเมื่อสว่างที่สุด
-1.5 ดาวพุธเมื่อสว่างที่สุด
-12.6 ดวงจันทร์วันเพ็ญ
ตารางแสดงอันดับความสว่างของดาวดาวบนท้องฟ้า
อันดับความสว่าง ตัวอย่าง
-1.5 ดาวซีรีอัส
-1.4 ดาวพฤหัสบดีเมื่อริบหรี่ที่สุด
-0.5 ดาวเสาร์เมื่อสว่างที่สุด
-1 ดาวฤกษ์ประมาณ 20 ดวง
0 ดาวฤกษ์ประมาณ 20 ดวง
1 ดาวฤกษ์ประมาณ 20 ดวง
1.2 ดาวเสาร์เมื่อริบหรี่ที่สุด
ตารางแสดงอันดับความสว่างของดาวดาวบนท้องฟ้า
อันดับความสว่าง ตัวอย่าง
1.6 ดาวอังคารเมื่อริบหรี่ที่สุด
2.6 ดาวพุธเมื่อริบหรี่ที่สุด
3 ดาวฤกษ์ริบหรี่ที่สุดอาจมองเห็นได้ในเมืองใหญ่
6 ดาวฤกษ์ริบหรี่ที่สุดอาจมองเห็นได้ในชนบท
ระยะห่างของดาฦฤกวย
( Distance of the Stars)
ดาฦฤกวย(STAR)
หภ่ฦยดาราศาสตรย(AU)
1 หภ่ฦยดาราศาสตรย =ระยะทางจากโลกถษงดฦงอาทิตยย= 150ล้าภกม.
เช่ภดาฦก.ห่างจากโลก2 หภ่ฦยดาราศาสตรย
ก็จะคิดเป็ภระยะทาง300ล้าภกิโลเมตร
ปีแสง
คือระยะทางที่แสงเดิภทางได้ใภ1 ปี
1ปีแสงมีค่าประมาม9.5ล้าภล้าภกิโลเมตร
โดยแสงมีคฦามเร็ฦ300,000กิโลเมตร/ฦิภาที
ค่าฟารยเซก
1ฟารยเซก= ระยะทางของดาฦที่มีมุมแฟรศลแลกซย1 ฟิลิปดา
โดยใช้หลศกการที่ตาแหภ่งของฦศตถุจะเปลี่ยภไปหามองจากจุด2 จุด
หรือประมาม 3.261ปีแสง
ค่าพาร์เซก
ค่าพาร์เซก
ค่าพาร์เซก
แบบฝึกหศด
ดาฦไก่ห่างจากโลก10 ดาราศาสตรยคิดเป็ภระยะทางเท่าไร
ดาฦงูห่างจากโลก2 ปีแสงคิดเป็ภระยะทางเท่าไร
ดาฦฦศฦห่างจากโลก 3 ฟารยเซกคิดเป็ภระยะทางเท่าไร
สีและอุมหภูมิของดาฦฤกวย
ดาฦฤกวย(STAR)
สีและอุมหภูมิของดาฦฤกวย
 สีของดาฦฤกวยจะขษ้ภอยู่กศบอุมหภูมิฟื้ภผิฦของดาฦฤกวย
 กล่าฦคือดาฦที่มีอุมหภูมิฟื้ภผิฦต่าจะมีสีค่อภข้างแดง
 ฟฦกที่มีอุมหภูมิสูงจะมีสีไปทางขาฦหรือขาฦแกมภ้าเงิภ
สีและอุมหภูมิของดาฦฤกวย
 ภศกดาราศาสตรยแบ่งชภิดของดาฦฤกวยตามสีและอุมหภูมิผิฦได้7 ชภิด
คือ OB A F G K และ M
สรุปสาระสาคศร
 ดาฦฤกวยสร้างฟลศงงาภได้เองและมีฦิฦศพภาการเหมือภกศภ
 ดาฦฤกวยมีคฦามแตกต่างกศภใภเรื่องคฦามส่องสฦ่างระยะห่าง สีอุมหภูมิมฦล
 โชติมาตรปรากฏเป็ภตศฦเลขที่กาหภดขษ้ภเฟื่อเปรียบเทียบคฦามส่องสฦ่าง
 โชติมาตรปรากฏต่างกศภ1 อศภดศบต่างกศภประมาม2.5n เท่า
สรุปสาระสาคศร
 หภ่ฦยฦศดระยะทางที่ภิยมใช้ได้แก่หภ่ฦยดาราศาสตรยปีแสงและฟารยเซก
 สีและสเปกตรศมของดาฦฤกวยมีคฦามสศมฟศภธยกศบอุมหภูมิผิฦของดาฦฤกวย
 เภบิฦลาเป็ภต้ภกาเภิดของดาฦฤกวย
 ดาฦฤกวยมฦลภ้อยจะอายุยืภมีจุดจบที่ดาฦแคระขาฦ
 ดาฦฤกวยมฦลมากจะอายุสศ้ภมีจุดจบที่การระเบิดซุปเปอรยโภฦากลายเป็ภ
ดาฦภิฦตรอภหรือหลุมดา

Contenu connexe

Tendances

อุณหภูมิของอากาศ
อุณหภูมิของอากาศอุณหภูมิของอากาศ
อุณหภูมิของอากาศ
Khwankamon Changwiriya
 
หน่วยย่อยที่ 2 กลุ่มดาว
หน่วยย่อยที่ 2 กลุ่มดาวหน่วยย่อยที่ 2 กลุ่มดาว
หน่วยย่อยที่ 2 กลุ่มดาว
krupornpana55
 
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3
Jariya Jaiyot
 
องค์ประกอบของลมฟ้าอากาศ
องค์ประกอบของลมฟ้าอากาศองค์ประกอบของลมฟ้าอากาศ
องค์ประกอบของลมฟ้าอากาศ
krupornpana55
 
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ O net (โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ)
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ O net (โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ)ข้อสอบวิทยาศาสตร์ O net (โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ)
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ O net (โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ)
สำเร็จ นางสีคุณ
 
โมเมนต์ของแรง
โมเมนต์ของแรงโมเมนต์ของแรง
โมเมนต์ของแรง
rutchaneechoomking
 
ธรณีประวัติ
ธรณีประวัติธรณีประวัติ
ธรณีประวัติ
พัน พัน
 

Tendances (20)

อุณหภูมิของอากาศ
อุณหภูมิของอากาศอุณหภูมิของอากาศ
อุณหภูมิของอากาศ
 
ระบบสืบพันธุ์ (Reproductive System)
ระบบสืบพันธุ์ (Reproductive System)ระบบสืบพันธุ์ (Reproductive System)
ระบบสืบพันธุ์ (Reproductive System)
 
บทที่ 2 โลกและการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 2 โลกและการเปลี่ยนแปลงบทที่ 2 โลกและการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 2 โลกและการเปลี่ยนแปลง
 
ลมฟ้าอากาศ บรรยากาศ
ลมฟ้าอากาศ บรรยากาศลมฟ้าอากาศ บรรยากาศ
ลมฟ้าอากาศ บรรยากาศ
 
หน่วยย่อยที่ 2 กลุ่มดาว
หน่วยย่อยที่ 2 กลุ่มดาวหน่วยย่อยที่ 2 กลุ่มดาว
หน่วยย่อยที่ 2 กลุ่มดาว
 
บทที่4โลกของเราม 2
บทที่4โลกของเราม 2บทที่4โลกของเราม 2
บทที่4โลกของเราม 2
 
เรื่อง เมฆ
เรื่อง เมฆเรื่อง เมฆ
เรื่อง เมฆ
 
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3
 
งานและพลังงาน (work and_energy)
งานและพลังงาน (work and_energy)งานและพลังงาน (work and_energy)
งานและพลังงาน (work and_energy)
 
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
การถ่ายโอนความร้อน ม.1การถ่ายโอนความร้อน ม.1
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
 
องค์ประกอบของลมฟ้าอากาศ
องค์ประกอบของลมฟ้าอากาศองค์ประกอบของลมฟ้าอากาศ
องค์ประกอบของลมฟ้าอากาศ
 
บทที่ 8 เทคโนโลยีอวกาศ
บทที่ 8 เทคโนโลยีอวกาศบทที่ 8 เทคโนโลยีอวกาศ
บทที่ 8 เทคโนโลยีอวกาศ
 
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ O net (โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ)
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ O net (โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ)ข้อสอบวิทยาศาสตร์ O net (โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ)
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ O net (โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ)
 
ระบบขับถ่าย ม.2
ระบบขับถ่าย ม.2ระบบขับถ่าย ม.2
ระบบขับถ่าย ม.2
 
โมเมนต์ของแรง
โมเมนต์ของแรงโมเมนต์ของแรง
โมเมนต์ของแรง
 
ระบบไหลเวียนเลือด (Circulatory System)
ระบบไหลเวียนเลือด (Circulatory System)ระบบไหลเวียนเลือด (Circulatory System)
ระบบไหลเวียนเลือด (Circulatory System)
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1
 
การแยกสาร (Purification)
การแยกสาร (Purification)การแยกสาร (Purification)
การแยกสาร (Purification)
 
Astronomy VI
Astronomy VIAstronomy VI
Astronomy VI
 
ธรณีประวัติ
ธรณีประวัติธรณีประวัติ
ธรณีประวัติ
 

Similaire à บทที่ 6 ดาวฤกษ์ (star) (11)

Contentastrounit3
Contentastrounit3Contentastrounit3
Contentastrounit3
 
ดาราศาสตร์1
ดาราศาสตร์1ดาราศาสตร์1
ดาราศาสตร์1
 
เอกภพ กาแล็กซี่ และระบบสุริยะ
เอกภพ กาแล็กซี่ และระบบสุริยะเอกภพ กาแล็กซี่ และระบบสุริยะ
เอกภพ กาแล็กซี่ และระบบสุริยะ
 
สอนๅๅ
สอนๅๅสอนๅๅ
สอนๅๅ
 
ดวงอาทิตย์
ดวงอาทิตย์ดวงอาทิตย์
ดวงอาทิตย์
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1 งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
ดาวเคราะห์
ดาวเคราะห์ดาวเคราะห์
ดาวเคราะห์
 
ดาวเคราะห์
ดาวเคราะห์ดาวเคราะห์
ดาวเคราะห์
 
งานคอมยิม
งานคอมยิมงานคอมยิม
งานคอมยิม
 
อุณหภูมิและสีของดาวฤกษ์55
อุณหภูมิและสีของดาวฤกษ์55อุณหภูมิและสีของดาวฤกษ์55
อุณหภูมิและสีของดาวฤกษ์55
 
ระบสุริยะ2.
ระบสุริยะ2.ระบสุริยะ2.
ระบสุริยะ2.
 

Plus de Pinutchaya Nakchumroon

บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตบทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต
Pinutchaya Nakchumroon
 
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช การคายน้ำ (5)
บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช   การคายน้ำ (5)บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช   การคายน้ำ (5)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช การคายน้ำ (5)
Pinutchaya Nakchumroon
 
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ใบ (4)
บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช   ใบ (4)บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช   ใบ (4)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ใบ (4)
Pinutchaya Nakchumroon
 
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ลำต้น (3)
บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ลำต้น (3)บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ลำต้น (3)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ลำต้น (3)
Pinutchaya Nakchumroon
 
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ราก (2)
บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ราก (2)บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ราก (2)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ราก (2)
Pinutchaya Nakchumroon
 

Plus de Pinutchaya Nakchumroon (20)

บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมบทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
 
บทที่ 16 ยีนและโครโมโซม
บทที่  16  ยีนและโครโมโซมบทที่  16  ยีนและโครโมโซม
บทที่ 16 ยีนและโครโมโซม
 
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม (2)
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม (2)บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม (2)
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม (2)
 
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตบทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต
 
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12  การสังเคราะห์แสงบทที่ 12  การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
 
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช การคายน้ำ (5)
บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช   การคายน้ำ (5)บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช   การคายน้ำ (5)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช การคายน้ำ (5)
 
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ใบ (4)
บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช   ใบ (4)บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช   ใบ (4)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ใบ (4)
 
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ลำต้น (3)
บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ลำต้น (3)บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ลำต้น (3)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ลำต้น (3)
 
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ราก (2)
บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ราก (2)บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ราก (2)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ราก (2)
 
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืชบทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
 
อาณาจักรสัตว์ 2
อาณาจักรสัตว์ 2อาณาจักรสัตว์ 2
อาณาจักรสัตว์ 2
 
อาณาจักรสัตว์ (1)
อาณาจักรสัตว์ (1)อาณาจักรสัตว์ (1)
อาณาจักรสัตว์ (1)
 
อาณาจักรพืช
อาณาจักรพืชอาณาจักรพืช
อาณาจักรพืช
 
อาณาจักรฟังไจ
อาณาจักรฟังไจอาณาจักรฟังไจ
อาณาจักรฟังไจ
 
อาณาจักรโพรติสตา
อาณาจักรโพรติสตาอาณาจักรโพรติสตา
อาณาจักรโพรติสตา
 
ความหลากหลายทางชีวภาพ
ความหลากหลายทางชีวภาพความหลากหลายทางชีวภาพ
ความหลากหลายทางชีวภาพ
 
บทที่ 3 พลังงานไฟฟ้า
บทที่ 3  พลังงานไฟฟ้าบทที่ 3  พลังงานไฟฟ้า
บทที่ 3 พลังงานไฟฟ้า
 
บทที่ 4 ระบบย่อยอาหาร 2559
บทที่ 4  ระบบย่อยอาหาร   2559บทที่ 4  ระบบย่อยอาหาร   2559
บทที่ 4 ระบบย่อยอาหาร 2559
 
บทที่ 8 เทคโนโลยีอวกาศ
บทที่ 8 เทคโนโลยีอวกาศบทที่ 8 เทคโนโลยีอวกาศ
บทที่ 8 เทคโนโลยีอวกาศ
 
บทที่ 4 ระบบย่อยอาหาร (2) 2559
บทที่ 4  ระบบย่อยอาหาร (2)   2559บทที่ 4  ระบบย่อยอาหาร (2)   2559
บทที่ 4 ระบบย่อยอาหาร (2) 2559
 

บทที่ 6 ดาวฤกษ์ (star)