Contenu connexe
Similaire à การปฐมพยาบาลขั้นต้น 65.pdf (20)
Plus de praphan khunti (10)
การปฐมพยาบาลขั้นต้น 65.pdf
- 6. เป็นลม
• หมายถึง การมีภาวะหมดสติชั่วคราวเกิดขึ้นทันทีทันใดเนื่องจากเลือดไปเลี้ยงสมองลดลงและจะพบว่ามีการสูญเสียการทรงตัว
• อาการแสดง
1 ไม่รู้สึกตัว คลาชีพจรเบาเร็ว
2 หายใจช้าหรือเร็วผิดปกติ
3 มีอาการอาเจียน กระวนกระวาย หมดสติ
4 มีอาการแน่นหน้าอก หายใจหอบถี่ เหงื่อออกมาก
• การรักษาเบื้องต้น
1 ประเมินระดับความรู้สึกตัว
2 จัดให้อยู่ในสถานที่ร่ม อากาศถ่ายเทได้ดี นอนราบไม่ต้องหนุนหมอน
3 ถ้ามีภาวะหายใจผิดปกติใช้ผ้าหนุนใต้ไหล่จัดศีรษะแหงนไปด้านหลัง ตรวจดูในปากให้โล่ง
4 ถ้าอาการไม่ดีขึ้น มีหัวใจล้มเหลวหรือระบบไหลเวียนโลหิตไม่ทางานให้ช่วยฟื้นคืนชีพ
5 ถ้าเกิดจาก Vasovagal reflex ให้ทาการนวดหลอดเลือด Carotid artery ข้างละ 5-10 วินาที
6 ส่งต่อไปยังสถานบริการที่มีความพร้อม
- 7. การจมน้า
• Drowning หมายถึง การจมน้าซึ่งผู้ป่วยเสียชีวิตในที่เกิดเหตุหรือเสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมงแรก
• Near drowning หมายถึง การจมน้าและยังมีชีวิตอยู่เกิน 24 ชั่วโมงซึ่งผู้ป่วยอาจจะหายเป็นปกติหรือเสียชีวิตก็ได้
• อาการแสดง
1 หมดสติ ชักเกร็ง
2 ระบบไหลเวียนโลหิตและระบบหายใจหยุดทางาน
3 ได้รับบาดเจ็บ เช่น มีบาดแผลตามร่างกาย
4 หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตลดลง
5 มีการสูดสาลัก
• การรักษาเบื้องต้น
1 ประเมินระดับความรู้สึกตัว
2 ตรวจดูสิ่งแปลกปลอม เช่น ฟันปลอม เสมหะ เลือด ถ้ามีให้รีบเอาออก
3 ถ้าระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตทางานให้ช่วยฟื้นคืนชีพ
4 ให้ออกซิเจน ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
5 ให้สารน้าทางหลอดเลือดดา
6 กรณีมีบาดแผลให้การดูแลบาดแผลและประเมินอาการบาดเจ็บอื่นๆร่วมด้วย
7 ส่งต่อไปยังสถานบริการที่มีความพร้อม
- 8. กระดูกหัก
• หมายถึง การแยกออกจากกันหรือการเสียความต่อเนื่องของโครงสร้างหรือส่วนประกอบของกระดูก
• กระดูกหักสามารถแบ่งตามลักษณะของบาดแผลเป็น 2 ชนิด คือ
1 กระดูกหักชนิดไม่มีแผลติดต่อกลับภายนอก
2 กระดูกหักชนิดมีแผลติดต่อกลับภายนอก
• อาการแสดง
1 กระดูกหักชนิดมีแผลเปิด แผลสกปรก
2 กระดูกหักที่มีการเสียเลือดมาก
3 กระดูกหักที่มีการทาลายเส้นเลือดแดง เส้นประสาท กล้ามเนื้อ
4 การเคลื่อนไหวตาแหน่งที่บาดเจ็บลดลง
5 บวมผิดรูป
6 หมดสติจากการเสียเลือด
• การรักษาเบื้องต้น
1 ประเมินระดับความรู้สึกตัว
2 ให้ออกซิเจนถ้าหายใจไม่ดี
3 ให้สารน้าทางหลอดเลือดดา
- 9. การตกเลือดอย่างรุนแรง
• หมายถึง ภาวะที่ร่างกายเสียเลือดมากกว่าหรือเท่ากับ 40 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณเลือดในร่างกายทาให้เกิดความดันโลหิต
ลดลงมีอาการหัวใจเต้นเร็วทาให้อวัยวะต่างๆในร่างกายทางานล้มเหลว
• อาการแสดง
1 กระสับกระส่าย เหงื่อออก ตัวเย็น วิงเวียน ชัก หมดสติ
2 ความดันโลหิตลดลง
3 ปัสสาวะไม่ออก
4 ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลตามร่างกาย
• การรักษาเบื้องต้น
1 ประเมินสภาพผู้ป่วย ความรู้สึกตัว ระบบหายใจ ระบบไหลเวียนโลหิต หรือสาเหตุที่ทาให้เสียเลือด
2 แก้ไขสาเหตุของการเสียเลือด เช่น ห้ามเลือด
3 ให้สารน้าชดเชยทางหลอดเลือดดา
4 ให้ออกซิเจน
5 ใส่สายสวนปัสสาวะคาไว้เพื่อลดปริมาณปัสสาวะ
6 ทาการส่งต่อไปสถานบริการที่มีความพร้อม
- 12. ชัก
• ลักษณะของการชักแบ่งออกได้ดังนี้
1 เป็นการชักที่เริ่มจากจุดใดจุดหนึ่งของร่างกายอาจจะกระจายไปทั่วร่างกายหรือไม่ก็ได้
2 การชักที่เกิดขึ้นทั้งตัวผู้ป่วยจะไม่รู้สึกตัว
• อาการแสดง
1 การเกร็งกระตุก
2 เหม่อลอย ตาค้าง
3 น้าลายไหล คลื่นไส้ อาเจียน
4 จาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ หมดสติในเวลาต่อมา
• การรักษาเบื้องต้น
1 ประเมินความรู้สึกตัว
2 ดูแลระบบหายใจ ให้ออกซิเจน ทาทางเดินหายใจให้โล่ง
3 จัดให้ผู้ป่วยอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย ป้องกันอุบัติเหตุ
4 ให้สารน้าทางหลอดเลือดดาเพื่อให้ยาฉีดเวลาชัก
5 ในกรณีที่ชักจากไข้สูงให้ทาการลดไข้
6 ในกรณีที่ชักไม่หยุดอาจต้องใช้ยาระงับชักทางหลอดเลือดดาหรือสวนทวารหนัก
7 ส่งต่อไปยังสถานบริการที่มีความพร้อม
- 14. งูกัด
• งูแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ งูมีพิษและงูไม่มีพิษ
1. งูมีพิษ
1.1 งูที่มีพิษต่อระบบประสาทได้แก่ งูเห่า งูจงอาง งูสามเหลี่ยม
อาการแสดง : 1.มึนงง เวียนศีรษะ หนังตาตก 2. ขากรรไกรแข็ง อ้าปากไม่ขึ้นอ่อนเพลีย หมดแรง 3. หายใจลาบาก 4. หมดสติ 5.
ตาย
1.2 งูที่มีพิษต่อระบบเลือด ได้แก่ งูกะปะ งูแมวเซา งูเขียวหางไหม้
อาการแสดง : 1. ปวดมาก บวมมาก 2. มีเลือดออกจากแผล เหงือกและฟัน ริมฝีปาก 3. มีจ้าเลือด ปัสสาวะเป็นเลือด 4. กะสับกะ
ส่าย ชีพจรเบาเร็ว 5. ปวดท้องแน่นหน้าอก 6. หมดสติ
1.3 งูที่มีพิษต่อระบบกล้ามเนื้อ ได้แก่ งูทะเลบางชนิด งูแสมรัง งูชายธง งูคออ่อน
อาการแสดง : 1. ปวดเมื่อยตามแขนขา ลาตัว 2.กลอกตาไม่ได้ 3. ไม่สามารถเคลื่อนไหวแขนขาและร่างกายได้ 4. กล้ามเนื้ออักเสบ
รุนแรง 5. ระบบปัสสาวะล้มเหลว 6. ระบบหายใจล้มเหลว
2. งูที่ไม่มีพิษ เช่น งูแม่ตะงาว งูเห่ามัง งูเหลือม งูหลาม เป็นต้น
อาการแสดง : อาจมีอาการปวดบวม เลือดออกไม่มาก ผู้ป่วยไม่มีอาการผิดปกติอื่นใด
- 15. • การรักษาเบื้องต้น
1 ประเมินระดับความรู้สึกตัว
2 ถ้าระบบหายใจและไหลเวียนโลหิตหยุดทางานให้ช่วยฟื้นคืนชีพ
3 ตรวจดูบาดแผลและรอยเขี้ยวพิษ
4 งดน้าและงดอาหารทางปากไว้ก่อน
6 ไม่ควรใช้ปากดูดแผล
7 ไม่ควรใช้สมุนไพรใดๆมาพอกที่แผล
8 ส่งต่อสถานบริการที่มีความพร้อม
- 16. ผึ้ง ต่อ แตนต่อย
• อาการแสดง
1 หมดสติ
2 ชัก
3 หายใจลาบาก หัวใจเต้นผิดปกติ คลื่นไส้อาเจียน เจ็บแน่นหน้าอก เป็นลม
4 ปวด บวมมาก ถ้าอาการไม่มาก เช่น ปวดบวมเฉพาะที่
• การรักษาเบื้องต้น
1 ประเมินความรู้สึกตัว
2 ถ้าระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตหยุดทางานให้ทาการฟื้นคืนชีพ
3 ให้ออกซิเจน ให้สารน้าทางหลอดเลือดดา
4 ส่งต่อไปสถานบริการที่มีความพร้อม
หมายเหตุ ถ้ามีเหล็กในคาอยู่ให้รีบเอาออกเพื่อลดพิษที่อยู่ในถุงน้าพิษโดยใช้ปลายเข็มสะกิดออกและประคบด้วยความเย็นเพื่อลด
ความปวดถ้าปวดมากให้รับประทานยาแก้ปวด
- 17. แมงป่องต่อย ตะขาบ แมงมุมกัด
• อาการแสดง
1 หมดสติ
2 มีภาวะ Anaphylaxis
3 ชัก
4 หายใจลาบากหัวใจเต้นผิดปกติ
5 คลื่นไส้อาเจียนเจ็บแน่นหน้าอก
6 กระสับกระส่าย
• การรักษาเบื้องต้น
1 ประเมินความรู้สึกตัว
2 ถ้าระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตหยุดทางานให้ทาการช่วยฟื้นคืนชีพ
3 รักษาแบบ Anaphylaxis
4 ให้ออกซิเจน ให้สารน้าทางหลอดเลือดดา
5 ส่งต่อไปสถานบริการที่มีความพร้อม
6 ประคบบริเวณที่ถูกต่อยด้วยน้าเย็นเพื่อลดความเจ็บปวด
7 ให้รับประทายยาแก้ปวด ให้ยาแก้แพ้ ในกรณีแพ้ คัน หรือบวม
8 สังเกตอาการและติดตามการรักษา
- 18. สิ่งแปลกปลอมเข้าจมูก
• อาการ : หายใจมีกลิ่นเหม็น จมูกข้างหนึ่งมีน้ามูกออกคล้ายหนองหรือเลือดปนหนอง
• การรักษา
1 หากสงสัยว่ามีสิ่งแปลกปลอมให้ลองเอาออกโดยการปิดรูจมูกข้างที่ดีแล้วบอกให้ผู้ป่วยสั่งจมูกแรงๆถ้าไม่ได้ผลให้ใช้ลวดเส้นเล็กๆ
ตรงปลายงอค่อยๆแยงและเขี่ยออก
2 ท่านมีการอักเสบให้ยาปฏิชีวนะ เช่น Penicillin V , Amoxicillin นาน 5-7 วัน
- 19. สิ่งแปลกปลอมเข้าหู
• สิ่งแปลกปลอม เช่น เมล็ดผลไม้ ลูกปัดกระดุม แมลงเป็นต้น อาจเข้าไปในหูทาให้มีอาการหูอื้อ ปวดหู และอาจทาให้เกิดการติด
เชื้ออักเสบได้
• การรักษา
1 ถ้าเป็นสิ่งมีชีวิตเช่นมดแมลงให้หยอดหูด้วยน้ามันมะกอก น้ามันมะพร้าว น้ามันถั่วเหลือง จะทาให้แมลงตายและลอยขึ้นมาเอง
2 ถ้าเป็นสิ่งไม่มีชีวิตอื่นๆให้ตะแคงหูข้างนั้นลงและเคาะที่ศีรษะเบาๆ หากสิ่งนั้นขนาดเล็กจะหลุดออกมาเอง
3 ถ้าทาแล้วไม่ได้ผลให้ส่งต่อโรงพยาบาลเพื่อใช้เครื่องมือคีบออก
- 20. การได้รับสารพิษหรือยาเกินขนาด
• สารพิษสามารถเข้าสู่ร่างกายได้โดย
1 การรับประทาน
2 การสูดดม
3 การดูดซึมผ่านทางผิวหนัง
4 การฉีดเข้าสู่ร่างกาย
• อาการแสดง
1 หมดสติ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง
2 ถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะราด
3 มีการเปลี่ยนแปลงของระบบประสาท เช่น ขนาดของม่านตาผิดปกติ ง่วงซึมกระสับกระส่าย
4 ความดันโลหิตลดลง ช็อก
• การรักษาเบื้องต้น
1 ประเมินความรู้สึกตัว
2 ถ้ามีระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตหยุดทางานให้ทาการ CPR
3 ให้ออกซิเจนถ้าหายใจไม่ดี
4 ให้สารน้าทางหลอดเลือดดา
5 ขจัดและลดความรุนแรงของสารพิษหรือยาโดย
1 ถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนสารพิษออก ล้างพิษที่ติดอยู่หรืออาบน้าให้
2 ทาให้อาเจียนในรายที่รู้สึกตัวดี
- 22. 4. การรักษาเบื้องต้นการหมดสติต้องทาอย่างไร
• ก. ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
• ข. ให้ทานน้าหวาน
• ค. ให้ทานอาหาร
• ง. ให้ผู้ป่วยนอนหงาย
5. ภาวะช็อกคือ
• ก. เลือดไปเลี้ยงร่างกายเยอะเกินไป
• ข. ความสมดุลของร่างกายมากเกินไป
• ค. เลือดไปเลี้ยงร่างกายน้อยเกินไป
• ง. การตกใจ
6. การเป็นลมคือ
• ก. การหลับ
• ข. การหมดสติชั่วคราว
• ค. เลือดไปเลี้ยงสมองเยอะไป
• ง. การไม่สบาย
- 23. 7. การเป็นลมสาเหตุมาจากข้อใด
• ก. นอนมากเกินไป
• ข. ทางานเกินความสามารถ
• ค. เหนื่อยมากเกินไป
• ง. ออกกาลังบ่อยเกินไป
8. การรักษาเบื้องต้นคนจมน้าคือข้อใด
• ก. คลาหน้าผากผู้ป่วย
• ข. ตรวจสิ่งแปลกปลอมในปาก
• ค. เอาน้าราดหน้าผู้ป่วย
• ง. ถอดเสื้อผ้าผู้ป่วยออก
9. สาเหตุของการตกเลือดอย่างรุนแรง
• ก. การหกล้มจนเลือดออกเยอะ
• ข. การโดนมีดบาดจนเลือดออกเยอะ
• ค. การมีเลือดออกทางช่องคลอด
• ง. การไอเป็นเลือด
- 24. 10. สาเหตุของการเป็นแผลไฟไหม้
• ก. ยืนกลางแดดนานเกินไป
• ข. การยืนใกล้กองไฟ
• ค. การถูกความเย็นมากเกินไป
• ง. การถูกไฟฟ้าช็อต
11. งูที่มีพิษต่อระบบประสาทได้แก่งูอะไรบ้าง
• ก. งูเห่า
• ข. งูแมวเซา
• ค. งูชายธง
• ง. งูเหลือม
12. งูที่มีพิษต่อระบบเลือดได้แก่งูอะไรบ้าง
• ก. งูจงอาง
• ข. งูเขียวหางไหม้
• ค. งูคออ่อน
• ง. งูหลาม
- 25. 13. งูที่มีพิษต่อระบบกล้ามเนื้อได้แก่งูอะไรบ้าง
• ก. งูชายธง
• ข. งูเหลือม
• ค. งูสามเหลี่ยม
• ง. งูเขียวหางไหม้
14. ถ้าเราโดนงูที่มีพิษต่อระบบประสาทกัดจะมีอาการอย่างไร
• ก. เป็นลม หมดสติ
• ข. มึนงง เวียนศีรษะ หนังตาตก ลืมตาไม่ขึ้น
• ค. ขากรรไกรแข็ง อ้าปากไม่ขึ้น
• ง. ถูกทุกข้อ
15. สารพิษสามารถเข้าสู่ร่างกายได้โดยวิธีใดบ้าง
• ก. การรับประทานหรือการสูดดม
• ข. การดูดซึมผ่านทางผิวหนัง
• ค. การฉีดเข้าสู่ร่างกาย
• ง. ถูกทุกข้อ
- 26. 16. ถ้าเราได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกายจะมีอาการอย่างไร
• ก. ไม่มีอาการใดๆ
• ข. หมดสติ คลื่นไส้อาเจียน ง่วงซึม กะสับกะส่าย ระบบประสาทอัตโนมัติทางานผิดปกติ
• ค. นอนไม่หลับ
• ง. น้าหนักขึ้น
17. การเสียเลือดอย่างรุนแรงมีกี่สาเหตุ
• ก. 1 สาเหตุ
• ข. 2 สาเหตุ
• ค. 3 สาเหตุ
• ง. 4 สาเหตุ
18. บาดแผลไฟไหม้น้าร้อนลวกแบ่งได้กี่ขนาด
• ก. 1 ขนาด
• ข. 2 ขนาด
• ค. 3 ขนาด
• ง. 4 ขนาด
- 27. 19. การชักก่อให้เกิดความผิดปกติอย่างไรบ้าง
• ก. นอนไม่หลับ
• ข. การเกร็งกระตุก ตาลอย ตาค้าง ตัวอ่อนหมดสติ
• ค. ไม่มีความผิดปกติ
• ง. ไม่มีข้อใดถูก
20. การชักแบ่งออกได้กี่ลักษณะ
• ก. 3 ลักษณะ
• ข. 2 ลักษณะ
• ค. 5 ลักษณะ
• ง. 7 ลักษณะ