Contenu connexe
Similaire à การทำหมันในเพศชายและหญิง 335 (11)
การทำหมันในเพศชายและหญิง 335
- 2. ครูผู้สอน
นายวิชัย ลิขิตพรรักษ์ ตาแหน่ง ครูชานาญการ (คศ.2)
สาขาวิชาชีววิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1
- 3. สมาชิกกลุ่มที่ 4 ห้อง 335
นายณชพล สุวินทรากร เลขที่ 26
นายปรวัฒน์ ปรีชาวุฒิเดช เลขที่ 33
นายภูวิช ป้อมพิมพ์ เลขที่ 34
นายพัสกร ลีลานันทกิจ เลขที่ 35
นายเมธัส วังอรรครัชต์ เลขที่ 38
- 4. คานา
งานนาเสนอนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาชีววิทยา 3 (ว30244) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง
335 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์คือ เพื่อนาเสนอข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับการทาหมันใน
หญิงและชาย เช่น วิธีการทาหมันในหญิงและชาย ความเสี่ยงที่เกิดจากการทาหมันในหญิงและชาย เป็น
ต้น
คณะผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า งานนาเสนอชิ้นนี้จะมีประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการ
ทาหมันในหญิงและชายไม่มากก็น้อย
คณะผู้จัดทา
- 6. การทาหมัน คืออะไร
ทาหมัน (Female/Male Surgical Sterilization) เป็นวิธีคุมกาเนิดแบบถาวรสาหรับผู้ชายและผู้หญิง โดยทางการแพทย์
หมายถึงการป้องกัออสุจิหรือสเปิร์มเข้าไปปฏิสนธิกับไข่จนเกิดการฝังตัวขึ้นในโพรงมดลูกของผู้หญิง ทาให้เกิดการตั้งครรภ์ขึ้นในอนาคต ซึ่งถือว่า
เป็นวิธีคุมกาเนิดที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพและป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีกว่าวิธีอื่น
จุดประสงค์ในการทาหมัน
การทาหมันเป็นการคุมกาเนิดถาวรสาหรับผู้ใหญ่วัยเจริญพันธุ์ที่ไม่ต้องการจะมีบุตรด้วยหลายเหตุผล อาจเป็นความสมัครใจในการ
เลือกคุมกาเนิดระหว่างคู่ครองกันเอง บางรายหากเกิดการตั้งครรภ์อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของฝ่ายหญิง หรือไม่ต้องการถ่ายทอดความผิดปกติ
ทางด้านพันธุกรรมของพ่อแม่ไปยังบุตร
การทาหมันในผู้ชายเรียกว่า การทาหมันชาย (Vasectomy/Male Surgical Sterilization) และการทาหมันในผู้หญิงเรียกว่า การทาหมัน
หญิง (Tubal Ligation/Female Surgical Sterilization) โดยหลักการถือว่าเป็นการคุมกาเนิดแบบถาวรเหมือนกัน แต่แตกต่างกันใน
รายละเอียด
- 7. ขั้นตอนในการทาหมันชาย
การทาหมันชายเป็นการคุมกาเนิดถาวรด้วยการตัดและผูกท่อนาอสุจิ เพื่อป้องกันตัวอสุจิจากอัณฑะเคลื่อนไปผสมกับน้าเลี้ยงอสุจิ
และไปยังท่อปัสสาวะ ซึ่งจะปล่อยออกมาเมื่อถึงจุดสุดยอดขณะมีเพศสัมพันธ์ ทาให้น้าอสุจิที่หลั่งออกมาไม่มีตัวอสุจิ จึงไม่เกิดการปฏิสนธิเกิดขึ้น
การทาหมันชาย
การทาหมันชายมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที อาจทาในโรงพยาบาลหรือคลินิก โดยแพทย์หลายสาขาซึ่งวิธีการทาหมันชายที่นิยมทาใน
ปัจจุบันมี 2 วิธี
การทาหมันชายแบบดั้งเดิม (Conventional Vasectomy) ในขั้นตอนแรกแพทย์จะทาความสะอาดบริเวณลูกอัณฑะและถุงอัณฑะด้วยน้ายาฆ่าเชื้อ ใน
บางรายอาจต้องโกนขนบริเวณนั้นให้เรียบร้อย รวมทั้งต้องรับประทานยาหรือฉีดยาที่ช่วยให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดผ่อนคลาย จากนั้นแพทย์จะคลาหาท่อนา
อสุจิบริเวณถุงอัณฑะ เพื่อหาตาแหน่งในการผ่าตัดและฉีดยาชา ก่อนกรีดเปิดผิวหนัง 1-2 แผลยาวประมาณ 1 เซนติเมตร จากนั้นจึงลงมือตัดและผูกท่อนา
อสุจิ ก่อนเย็บปิดผิวหนังที่กรีดให้เรียบร้อย
การทาหมันเจาะ (Non-Scalpel Vasectomy/Nonsurgical Vasectomy) ขั้นตอนคล้ายกับวิธีแรก แต่แพทย์จะใช้เครื่องมือขนาดเล็กที่มีปลาย
แหลมเจาะผิวหนังเข้าไปตัดและผูกท่อนาน้าอสุจิแทนการใช้ใบมีดกรีดเปิดผิวหนัง ทาให้แผลมีขนาดเล็ก ไม่ต้องเย็บปิดแผล และเสี่ยงกับภาวะเลือดออกน้อย
กว่าการทาหมันชายแบบดั้งเดิม แต่ให้ผลค่อนข้างมีประสิทธิภาพเหมือนกัน
- 8. การเตรียมตัวก่อนการทาหมันชาย
การทาหมันชายสามารถทาได้ในทุกช่วงอายุ ในกรณีที่ผู้เข้ารับการผ่าตัดมีอายุไม่เกิน 30 ปีและยังไม่มีบุตร แพทย์อาจแนะนาไม่ให้
ทาหมัน เนื่องจากเป็นวิธีการคุมกาเนิดถาวรและหากต้องการมีบุตรภายหลังจะค่อนข้างยุ่งยาก วิธีการผ่าตัดแก้หมันนั้นซับซ้อน และการแก้หมัน
อาจไม่ประสบความสาเร็จ ดังนั้นจึงควรปรึกษาคู่ครองให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ เมื่อได้ข้อสรุปว่าจะเข้ารับการผ่าตัด แพทย์จะอธิบายขั้นตอน
พร้อมพูดคุยกับผู้เข้ารับการผ่าตัดเกี่ยวกับรายละเอียดในการผ่าตัด ทั้งผลดี ผลเสีย ความเสี่ยงด้านสุขภาพหลังเข้ารับการผ่าตัด หรือวิธีคุมกาเนิด
อื่น ๆ ที่เหมาะสม
หากผู้เข้ารับการผ่าตัดมีโรคประจาตัวหรือรับประทานยาเป็นประจา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ รวมทั้งการใช้ยา สมุนไพร วิตามิน หรืออาหารเสริม
ในขณะนั้น และสภาวะความผิดปกติของร่างกายอื่น ๆ โดยทั่วไปแพทย์จะแนะนาให้หยุดรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือดก่อนเข้ารับการ
ผ่าตัด ทั้งนี้ การเตรียมตัวก่อนมาโรงพยาบาลในวันที่เข้ารับการผ่าตัด ควรทาความสะอาดร่างกายให้เรียบร้อย และเตรียมกางเกงชั้นในที่สวมใส่
ได้กระชับ เพื่อช่วยปกป้องถุงอัณฑะ แต่ในบางราย แพทย์อาจมีคาแนะนาตามความเสี่ยงเฉพาะบุคคล
- 9. หลังการผ่าตัดสามารถกลับบ้านได้ภายในวันเดียวกัน ระยะเวลาการพักฟื้นจะอยู่ที่ประมาณ 1 สัปดาห์แต่
สามารถกลับไปทางานได้ปกติภายใน 1-3 วัน ขึ้นอยู่กับประเภทของงาน ในวันแรกหลังการทาหมันอาจมีอาการปวดและ
บวม จึงควรใช้ไอซ์แพคหรือไอซ์เจล (Ice Pack) ช่วยประคบ สวมใส่กางเกงชั้นในที่ช่วยปกป้องบริเวณถุงอัณฑะ
(Jockstrap) หลีกเลี่ยงการทากิจกรรมหรือการออกกาลังกายที่กระทบกระเทือนบริเวณที่ผ่าตัด และการยกของหนักใน
ช่วงแรกของการพักฟื้น
การทาหมันชายไม่ส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศ ผู้เข้ารับการทาหมันสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติหลังการผ่าตัดอย่าง
น้อย 1 สัปดาห์หรือแผลผ่าตัดหายดี อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องคุมกาเนิดด้วยวิธีอื่นจนกว่าจะได้รับการตรวจน้าเชื้อว่าไม่
พบตัวอสุจิ ซึ่งต้องกลับไปตรวจกับแพทย์อีกครั้งในช่วง 6-12 สัปดาห์ถัดมาหรือสามารถใช้ชุดตรวจสอบจานวนอสุจิ
สาเร็จรูป
หลังการผ่าตัดหากพบอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที
• อัณฑะบวม ปวด มีขนาดใหญ่มากขึ้น
• มีน้า เลือด อาการบวมแดง หรือหนองบริเวณแผลผ่าตัด
• มีไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว
• มีปัญหาในการปัสสาวะ
การดูแลหลังการทาหมันชาย
- 10. การทาหมันชายส่วนใหญ่ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรง ผู้ชายส่วนใหญ่จะมีอาการเจ็บ ปวด บวม ความรู้สึก
ไวรอบ ๆ ถุงอัณฑะในช่วง 2-3 วันหลังการผ่าตัด แต่ในบางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ค่อนข้างร้ายแรงขึ้นได้ เช่น
• เลือดออกและเกิดลิ่มเลือดบริเวณถุงอัณฑะ เป็นการคั่งของเลือดในเนื้อเยื่อรอบ ๆ เส้นเลือดที่ฉีกขาดบริเวณรอบท่อ
นาน้าอสุจิ มักจะมีปริมาณไม่มาก โดยปะปนออกมาในน้าอสุจิ แต่หากเกิดการคั่งของเลือดมากจะทาให้ถุงอัณฑะบวม และ
ก่อให้เกิดอาการปวด ซึ่งจาเป็นต้องกลับมาผ่าตัดแก้ไขอีกครั้ง
•ก้อนในถุงอัณฑะ การตัดท่อนาอสุจิในขณะทาหมันอาจทาให้เกิดการรั่วของตัวอสุจิเข้าไปในเนื้อเยื่อรอบ ๆ จึงส่งผลให้
เกิดการกระจุกของตัวอสุจิเป็นก้อน ส่วนมากไม่ค่อยมีอาการเจ็บปวด แพทย์อาจให้รับประทานยากลุ่มลดการอักเสบ ใน
กรณีที่ไม่ดีขึ้นอาจต้องใช้การผ่าตัดออก
•แผลติดเชื้อ หลังจากการทาหมันมีโอกาสติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นจากการที่แบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายทางแผลผ่าตัด ดังนั้น จึง
ควรรักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศและหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้า
•ปวดที่บริเวณอัณฑะเรื้อรัง โดยปกติหลังการผ่าตัดอาการปวดจะค่อย ๆ ดีขึ้นจนหายเป็นปกติ แต่ผู้เข้ารับการผ่าตัด
บางรายอาจมีอาการปวดในลักษณะเป็น ๆ หาย ๆ ไม่หายขาด และมีอาการปวดไม่มาก เนื่องจากระหว่างการผ่าตัดทา
หมันอาจเกิดการบาดเจ็บของเส้นประสาทหรือเส้นประสาทโดนบีบรัดได้
ผลข้างเคียงของการทาหมันชาย
- 11. การทาหมันชายเป็นวิธีคุมกาเนิดที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และปลอดภัย โอกาสที่จะเกิดการตั้งครรภ์
พบได้น้อยมาก โดยผู้หญิง 1,000 คนที่คู่สมรสทาหมันชายนั้นตั้งครรภ์เพียง 1-2 คนในช่วงปีแรก
อย่างไรก็ตาม การทาหมันไม่ได้ทาให้ผู้ชายเป็นหมันทันทีหลังการผ่าตัดและยังคงเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์อยู่ เพราะตัวอสุจิ
ตกค้างอยู่ในท่อนาอสุจิส่วนบน จึงควรคุมกาเนิดด้วยวิธีอื่นไปสักระยะจนกว่าจะเข้ารับการตรวจน้าเชื้อเพื่อยืนยันว่าไม่พบ
ตัวอสุจิ หรือในบางกรณีอาจเกิดความผิดพลาดระหว่างการผ่าตัดก็มีโอกาสทาให้ตัวอสุจิเล็ดลอดปนออกมาผสมกับน้าเชื้อ
ได้เช่นกัน แต่พบได้น้อยราย การทาหมันไม่ใช่วิธีการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นเพียงวิธีคุมกาเนิดเท่านั้น ซึ่ง
ผู้ชายสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ปกติ โดยไม่มีผลต่อสมรรถภาพทางเพศ
ประสิทธิภาพของการทาหมันชาย
- 12. ขั้นตอนในการทาหมันหญิง
การทาหมันหญิงเป็นการคุมกาเนิดถาวรในผู้หญิงด้วยการตัดและผูกท่อนาไข่ หรือทาให้ท่อนาไข่ตีบตัน เช่น การใช้ยางรัด คลิปหนีบ
ใส่อุปกรณ์ขวางท่อนาไข่ หรือจี้ด้วยไฟฟ้า เพื่อป้องกันไข่เคลื่อนที่มาปฏิสนธิกับตัวอสุจิในโพรงมดลูกจนเกิดการตั้งครรภ์ขึ้น
การทาหมันหญิง
การทาหมันหญิงสามารถทาได้ทั้งที่โรงพยาบาลและคลินิก เป็นการผ่าตัดที่มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที โดยสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายวิธี แต่หากแบ่ง
ตามช่วงเวลาในการทาหมันจะแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ได้แก่
•การทาหมันหลังคลอด หรือที่เรียกว่า การทาหมันเปียก เป็นการทาหมันภายในช่วงเวลาประมาณ 24-36 ชั่วโมงหลังคลอดบุตร เนื่องจากการคลอดบุตรทาให้มดลูก
ลอยตัวและเห็นท่อนาไข่ได้ค่อนข้างชัด โดยแพทย์จะกรีดเปิดแผลที่หน้าท้องบริเวณใต้สะดือแล้วจึงตัดและผูกท่อนาไข่ แต่หากเป็นการผ่าคลอดจะทาไปพร้อมกับการผ่าคลอด
ด้วยวิธีการตัดและผูกท่อนาไข่เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมกันมาก โดยทาทันทีเมื่อคลอดบุตรเรียบร้อยแล้ว
•การทาหมันปกติ หรือที่เรียกว่า การทาหมันแห้ง เป็นการทาหมันในช่วงเวลาใดก็ได้ หลักการมีความคล้ายคลึงกับการทาหมันหลังคลอด โดยขั้นตอนแรกคือฉีดยาชาเข้าไข
สันหลังหรือที่เรียกว่า บล็อกหลัง เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด ในบางรายอาจต้องดมยาสลบ ซึ่งจะทาให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัวขณะเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งเทคนิคในการทาหมันนี้
สามารถแยกออกได้เป็นหลายวิธีเช่น
• การผ่าตัดทางหน้าท้อง แพทย์จะกรีดเปิดแผลบริเวณสะดือ จากนั้นจึงตัดและผูกท่อนาไข่ (Minilaparotomy)
• การผ่าตัดผ่านกล้อง (Laparoscope) เมื่อยาสลบออกฤทธิ์ แพทย์จะเริ่มกรีดเปิดปากแผลบริเวณผนังหน้าท้องประมาณ 1-2 แผล โดยตาแหน่งมักอยู่
บริเวณใต้สะดือ และต้องใส่ก๊าซในช่องท้องระหว่างการผ่าตัด เพื่อช่วยให้แพทย์ผ่าตัดมองเห็นมดลูกและท่อนาไข่ได้ชัดเจนขึ้น แพทย์จะสอดอุปกรณ์และเครื่องมือ
พิเศษเข้าไปในช่องท้อง จากนั้นอาจใช้วิธีการจี้ไฟฟ้า การตัดท่อนาไข่ หรือใช้อุปกรณ์พิเศษในรูปแบบต่าง ๆ ไปรัดท่อรังไข่ให้ตีบตัน
• การทาให้ท่อนาไข่อุดตัน (Hysteroscopy/Hysteroscopic Sterilization) แพทย์จะสอดกล้องผ่านทางช่องคลอด พร้อมนาอุปกรณ์ขนาดเล็กเข้าไปวาง
ไว้บริเวณภายในท่อนาไข่ เพื่อทาให้เกิดพังผืดพันรอบอุปกรณ์ ซึ่งจะขวางทางการเคลื่อนตัวของไข่ไปยังโพรงมดลูก เทคนิคนี้จะใช้เฉพาะยาชาเฉพาะที่และจะยัง
ไม่เป็นหมันทันที เพราะต้องกลับมาตรวจยืนยันผลอีกครั้งว่าท่อนาไข่เกิดการอุดตันเรียบร้อยแล้วหรือไม่ จึงทาให้ต้องคุมกาเนิดด้วยวิธีอื่นไปสักระยะหากมี
เพศสัมพันธ์
- 13. การเตรียมตัวก่อนการทาหมันหญิง
แพทย์จาเป็นต้องพูดคุยกับผู้เข้ารับการผ่าตัดและชี้แจงรายละเอียดถึงผลดี ผลเสีย ความเสี่ยงในการผ่าตัด ตลอดจนวิธีคุมกาเนิดอื่น ๆ ที่มีประสิทธิภาพ
ดีเทียบเท่ากับการทาหมันที่เหมาะสมตามสถานการณ์ เนื่องจากการทาหมันเป็นวิธีคุมกาเนิดถาวรที่ป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูง และโอกาสการกลับมามี
บุตรอีกครั้งนั้นเป็นไปได้น้อยมาก โดยเฉพาะผู้เข้ารับการผ่าตัดที่มีอายุน้อยหรือไม่เคยผ่านการมีบุตรมาก่อน สิ่งสาคัญที่สุดก่อนเข้ารับการผ่าตัดทาหมัน ผู้
เข้ารับการผ่าตัดต้องปรึกษาร่วมกับคู่ครองก่อนตัดสินใจว่าไม่ต้องการมีบุตรเพิ่มอย่างแน่นอน
ก่อนเข้ารับการผ่าตัดควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยา สมุนไพร หรืออาหารเสริมทุกชนิด รวมไปถึงหยุดรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือดอื่น ๆ เช่น
ยาแอสไพริน (Aspirin) ยาวาร์ฟาริน (Warfarin) หรือยาในกลุ่มระงับอาการปวดที่หาซื้อได้ทั่วไปอย่างยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) เพราะอาจทาให้
เลือดออกมากขึ้นในขณะการผ่าตัด
นอกจากนี้ ในรายที่ต้องดมยาสลบควรงดน้าและอาหารหลังเที่ยงคืนหรือ 8 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการผ่าตัด เมื่อถึงวันผ่าตัดควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่รัดแน่น
จนเกินไปและถอดเปลี่ยนได้ง่าย นอกจากนี้ แพทย์อาจมีคาแนะนาเฉพาะเป็นรายบุคคล
- 14. การดูแลหลังการทาหมันหญิง
หลังการผ่าตัดเสร็จสิ้นสามารถกลับบ้านได้ภายในวันเดียวกัน แต่จะค่อย ๆ เริ่มทากิจกรรมอื่นได้ตามปกติในอีก 2-3 วันถัดมาหรือภายใน 1 สัปดาห์ ทั้งนี้
ควรหลีกเลี่ยงการยกสิ่งของที่มีน้าหนักมากอย่างน้อย 3 สัปดาห์ ในรายที่ใช้ยาสลบในการผ่าตัดควรมีคนใกล้ชิด เพื่อน หรือญาติช่วยดูแล
โดยทั่วไปหลังการผ่าตัดมักจะมีอาการปวดขึ้นได้ แพทย์อาจมีการจ่ายยาแก้ปวด เพื่อช่วยบรรเทาอาการ ผู้เข้ารับการผ่าตัดอาจเกิดความรู้สึกไม่สบายตัว
หลังการทาหมัน อาจมีอาการที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล แต่หากเกิดอาการผิดปกติดังต่อไปนี้ติดต่อกันนานหลายวัน ควรรีบไปพบแพทย์ เช่น
•เวียนศีรษะ
•ปวดไหล่
•ตะคริว
•ท้องอืด ท้องเฟ้อ
- 15. การทาหมันหญิงเป็นการผ่าตัดบริเวณช่องท้อง จึงอาจเสี่ยงต่อการสร้างความเสียหายให้แก่ลาไส้ กระเพาะปัสสาวะ หรือหลอดเลือดแดง ไป
จนถึงแผลผ่าตัดติดเชื้อ มีอาการปวดบริเวณกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน บางรายอาจมีปฏิกิริยาแพ้ยาชาหรือยาสลบ ผู้หญิงที่เคยผ่าตัดบริเวณกล้ามเนื้ออุ้งเชิง
กรานหรือช่องท้อง มีภาวะอ้วน หรือโรคเบาหวานจะยิ่งเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับคนปกติ
ผลข้างเคียงของการทาหมันหญิง
ประสิทธิภาพของการทาหมันหญิง
การทาหมันหญิงเป็นวิธีการคุมกาเนิดถาวรที่ป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
โดยในช่วงปีแรกของการทาหมันหญิงพบว่าผู้หญิงใน 1,000 คน มีโอกาสตั้งครรภ์ 1 คนหรือน้อยกว่า แต่หากเกิดการตั้งครรภ์หลังการทาหมันอาจเสี่ยงต่อ
การตั้งครรภ์นอกมดลูกได้
- 17. กิตติกรรมประกาศ
การจัดทารายงาน เรื่อง การทาหมันในหญิงและชาย สาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยความกรุณาและความช่วยเหลือจากคุณครูวิชัย ลิขิต
พรรักษ์ ที่ให้คาแนะนาและคาปรึกษาในการจัดทารายงาน และขอขอบคุณการสนับสนุนการทาโครงงาน และกาลังใจจาก บิดา
มารดา ญาติ ครอบครัวของคณะผู้จัดทา
ทางคณะผู้จัดทาจึงขอขอบพระคุณทุก ๆ ท่านที่ให้ข้อเสนอแนะ ให้การสนับสนุน และให้กาลังใจ จนกระทั้งการศึกษาค้นคว้า
รายงานนี้สาเร็จลุล่วงด้วยดี อันความดีที่เกิดจากการศึกษาค้นคว้าขอมอบแด่บิดา มารดา คุณครู ผู้มีพระคุณทุกท่าน คณะ
ผู้จัดทามีความซาบซึ้งในความกรุณาอันยิ่งใหญ่จากท่านที่ได้กล่าวมา ขอกราบขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้
คณะผู้จัดทา
นายณชพล สุวินทรากร เลขที่ 26
นายปรวัฒน์ ปรีชาวุฒิเดช เลขที่ 33
นายภูวิช ป้อมพิมพ์ เลขที่ 34
นายพัสกร ลีลานันทกิจ เลขที่ 35
นายเมธัส วังอรรครัชต์ เลขที่ 38