SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  40
ห้องสมุดหนังสือเก่า
พล * นิกร * กิมหงวน      ตอน ล่าพรายทะเล


ร.ล. นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเรือสลุตแห่งราชนาวี ได้รับคำาสั่งให้ออกเดิน
ทางจากฐานทัพเรือที่สัตหีบในเวลา ๑๙.๐๐ น. ของวันที่ ๑๓ พฤษภาคม
๒๕๐๓ เพื่อทำาการลาดตระเวนอ่าวไทยโดยเปลี่ยนเวรกับ ร.ล. ปิ่นเกล้า

ทุกชั่วโมง ร.ล. นครศรีธรรมราชจะต้องรายงานทางวิทยุให้กองเรือยุทธการ
ทราบ ซึ่งก็ไม่มีอะไร นอกจากบอกตำาแหน่งเรือ เหตุการณ์ปกติ

ครั้นเวลา ๑๓.๐๐ น. ของวันเสาร์ที่ ๑๔ กองเรือยุทธการก็ไม่ได้รับข่าวจาก
ร.ล. นครศรีธรรมราช จนกระทั่ง ๑๔.๐๐ น. ทางกองเรือยุทธการพยายาม
วิทยุติดต่อก็ไม่สำาเร็จ จึงเข้าใจว่าเครื่องรับส่งวิทยุของ ร.ล. นครศรีธรรมราช
คงจะขัดข้อง

อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการก็มิได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ ดังนัน
                                                                       ้
พอฟ้าสาง เครื่องบินไอพ่นประจัญบานของฝูงบินนาวีรวม ๓ เครื่อง ก็ออก
เดินทางไปค้นหา ร.ล. นครศรีธรรมราชทันที ซึ่งข่าวสุดท้ายของเรือสลุตลำา
นี้ที่กองเรือยุทธการได้รับทางวิทยุโทรเลขในเวลา ๐๒.๐๐ น. แจ้งว่า ร.ล.
นครศรีธรรมราชกำาลังผ่านจังหวัดจันทบุรี เหตุการณ์ปกติ

ครั้นเวลา ๘.๐๐ น. กองทัพเรือก็ได้รับโทรเลขด่วนจากผู้ว่าราชการจังหวัด
ตราด ปรากฏข้อความดังต่อไปนี้

เรียน ผู้บัญชาการทหารเรือ
เรือยนต์ของชาวประมงจังหวัดตราดลำาหนึ่งได้ชวยทหารเรือรวม ๒๒ คนที่
                                            ่
ลอยคออยู่ในทะเลไว้ได้เมื่อเวลา ๔ น. เศษวันนี้ ทหารเรือเหล่านี้เป็นทหาร
ประจำา ร.ล. นครศรีธรรมราช และแจ้งว่าเรือถูกตอร์ปิโดจมอย่างกะทันหัน
กระผมและเจ้าหน้าที่ตำารวจได้ให้ความช่วยเหลือทหารเรือทุกคนเป็นอย่างดี
จะส่งรายงานละเอียดเรียนมาให้ทราบโดยเร็วที่สุด.
ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด

ไม่มีปัญหาอะไรอีก ร.ล. นครศรีธรรมราชถูกเรือดำานำ้าของฝ่ายแดงลอบ
โจมตีด้วยตอร์ปิโดแน่นอน กรมสืบราชการลับของกระทรวงกลาโหมได้รับ
รายงานจากหน่วยจารกรรมนอกประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมานี้เอง แจ้งว่า
ฝ่ายศัตรูได้พยายามทุกประการที่จะให้คนไทยเชื่อว่า แสนยานุภาพของซี
โตนั้นไม่มีความหมายอะไร กำาลังรบอันมหาศาลของฝ่ายคอมมิวนิสต์ ทั้ง
ทางบก, เรือ, และอากาศ ย่อมเหนือกว่า หน่วยจารกรรมของเรายืนยันว่า
กองเรือรบคอมมิวนิสต์จำานวนหนึ่งซึ่งประกอบด้วยเรือลาดตระเวนหนักลำา
หนึ่ง เรือพิฆาต ๓ ลำา และเรือดำานำ้าแบบใหม่ใช้พลังงานปรมาณู มีฐานยิง
จรวดใต้นำ้าอีกลำาหนึ่ง กำาลังเดินทางจากทะเลจีนบ่ายโฉมหน้ามายังอ่าว
ไทย เพื่อขัดขวางการประลองยุทธทางเรือครั้งใหญ่ของกลุ่มประเทศภาคีซี
โต้ในปลายเดือนพฤษภาคมนี้ด้วยแผนการณ์อันลี้ลับลึกซึ้ง ซึ่งจะทำาให้การ
ประลองยุทธต้องเลิกล้มไปหรือเลื่อนเวลาออกไปโดยไม่มีกำาหนด

เมื่อได้รับโทรเลขด่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ท่านแม่ทัพเรือก็รุดเข้า
พบท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุดทันที

ตอนสายวันนันเอง หมวดเรือตอร์ปิโดและหมู่เรือปราบเรือดำานำ้าก็ได้รับคำาสั่ง
             ้
ด่วนให้ออกเดินทางจากฐานทัพสัตหีบ ทำาการล่าเรือดำานำ้าของฝ่ายแดง
ทันที ทางราชการทหารไม่มีความจำาเป็นอันใดที่จะต้องปิดข่าว
ร.ล. นครศรีธรรมราชถูกเรือดำานำ้าคอมมิวนิสต์ลอบยิงด้วยตอร์ปิโดถึงกับจม
ลงภายในเวลาไม่ถึง ๕ นาที กองบัญชาการทหารสูงสุดจึงออกคำาแถลง
การณ์แจกจ่ายไปยังวิทยุและโทรทัศน์ทุกแห่ง นอกจากนี้ยังเชิญผู้แทน
หนังสือพิมพ์ทุกฉบับมาพบ เพื่อแจ้งข่าวร้ายของ ร.ล. นครศรีธรรมราชให้
ทราบ

วันจันทร์ที่ ๑๖ พฤษภาคม เวลา ๑๓.๐๐ น. เศษ เรือสินค้าสัญชาติอังกฤษ
ลำาหนึ่งซึ่งเดินทางมาจากฮ่องกงได้ถูกเรือดำานำ้าของฝ่ายแดงโจมตีด้วย
ตอร์ปิโดในทะเลหลวงนอกน่านนำ้าไทยทางแหลมเขมร เรือสินค้าลำานี้ชื่อ “
ดัมพรีส” ระวาง ๕,๐๐๐ ตัน บรรทุกสินค้าต่าง ๆ จากฮ่องกงมากรุงเทพ ฯ
เมื่อถูกตอร์ปิโดกัปตันได้ส่งวิทยุ เอส.โอ.เอส. ขอความช่วยเหลือ ร.ล. ท่าจีน
ซึ่งลาดตระเวนอยู่ระหว่างด้านนอกของเขตน่านนำ้าไทยได้รีบรุดไปช่วย
เหลือตามตำาแหน่งที่ได้รับทราบทางวิทยุ แต่เมื่อไปถึง เรือ “ดัมพรีส” ได้จม
ลงสู่ก้นทะเลแล้ว

อย่างไรก็ตาม ผู้บังคับการ ร.ล. ท่าจีนกับทหารประจำาเรือก็ได้ช่วยลูกเรือและ
ผู้โดยสารไว้เกือบ ๕๐ คน บ้างก็อยู่ในเรือบต บ้างก็อยู่ในเรือยาง

ต่อมาวันอังคารที่ ๑๘ พฤษภาคม เวลา ๑๖.๐๐ น. เรือปราบเรือดำานำ้าของ
ราชนาวีชื่อ ร.ล. หนุมานได้พบเรือดำานำ้าปรมาณูขนาดยักษ์ของข้าศึกโผล่
ออกมาจากหลังเกาะช้างในเขตจังหวัดตราด ซึ่งเป็นเกาะสำาคัญที่กองทัพ
เรือได้บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของราชนาวีไทย อันเนื่องมาจากเรือลาด
ตระเวนลาม็อตปิเก้ของกองทัพเรือฝรั่งเศสได้ปะทะกับ ร.ล. ธนบุรีของเราที่
หน้าเกาะช้างนี้ในกรณีพิพาทระหว่างไทยกับอินโดจีน

เรือปราบเรือดำานำ้าของเราอยู่ห่างจากเรือดำานำ้าข้าศึกประมาณ ๓ ไมล์ จึงได้
ใช้ปืนใหญ่ระดมยิงเรือดำานำ้า และวิทยุติดต่อกับฝูงบินน้อยที่จังหวัดจันทบุรี
ให้ส่งเครื่องบินมาช่วย

กระสุนปืนใหญ่ตกใกล้เคียงกับเรือดำานำ้าปรมาณูของข้าศึกหลายนัด แต่เรือ
ดำานำ้าปรมาณูได้ดำานำ้าหลบหนีไปได้ เรือปราบเรือดำานำ้าแห่งราชนาวี
พยายามค้นหาตำาแหน่งเรือดำานำ้าจากเครื่องฟังเสียงก็ไม่พบ หลังจากนั้น
ไอพ่นประจัญบานจากฝูงบินจันทบุรีก็เดินทางมาถึงเกาะช้าง เข้าร่วมมือกับ
เรือรบทั้งสองลำาค้นหาเรือดำานำ้าข้าศึกเกือบชั่วโมงจึงกลับไป

วิทยุและหนังสือพิมพ์ทั่วโลกต่างกระจายข่าวสำาคัญนี้ เรือรบแห่งราชนาวี
ไทยได้เคลื่อนที่ออกจากฐานทัพกระจายกำาลังกันไปทั่วอ่าวไทยทั่งฝั่งตะวัน
ออกและฝั่งตะวันตก ฝูงบินแห่งกองบินน้อยประจวบคีรีขันธ์และจันทบุรีเข้า
ร่วมปฏิบัติงานกับกองทัพเรือด้วย เพื่อขับไล่เรือรบข้าศึกและล่าเรือดำานำ้า
ลึกลับลำานั้น

อย่างไรก็ตาม ไม่ปรากฏว่ามีเรือรบข้าศึกล่วงลำ้าเข้ามาในน่านนำ้าไทยเลย
นักบินได้พบหมู่เรือรบข้าศึกในทะเลหลวงทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ
จังหวัดนราธิวาส ซึ่งทะเลหลวงนั้นคือน่านนำ้าที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของครอบ
ครอง และทุกชาติย่อมมีสิทธิ์ที่จะใช้ทะเลหลวงได้ ส่วนอ่าวไทยหรือน่านนำ้า
ของไทยนั้นมีเขตลากเส้นตรงจากนราธิวาสถึงจังหวัดตราดตามแผนที่ แต่
ถึงกระนั้นก็มีเนื้อที่ใหญ่โตกว้างขวางมาก เรือดำานำ้าปรมาณูของข้าศึกจึง
ลอบเข้ามาทำางานได้โดยมีเรือรบที่อยู่นอกเขตน่านนำ้าไทยทำาหน้าที่เป็นพี่
เลี้ยง.



บ่ายวันนัน...
         ้

ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ เรือยนต์ประจำา ร.ล. หนุมานซึ่งเป็นเรือปราบเรือดำานำ้า
กำาลังแล่นออกจากชายฝั่งมุ่งตรงไปยังหมู่เรือปราบเรือดำานำ้าสามสี่ลำา ซึ่ง
จอดอยู่ในอ่าวบริเวณฐานทัพเรืออันกว้างใหญ่ แวดล้อมด้วยเกาะเล็กเกาะ
น้อย อันเป็นธรรมชาติที่สวยสดงดงามตายิ่ง

เรือยนต์ลำานี้ขับโดยจ่าเอกคนหนึ่ง มีพลทหารเรือสองคน มีผู้โดยสาร ๕ คน
คือ พล, นิกร, กิมหงวน ดร. ดิเรกและเจ้าคุณปัจจนึก ฯ ซึ่งทั้ง ๕ คนนี้แต่ง
เครื่องแบบชุดสีดำา สวมหมวกบาเร่ต์ ติดตราเครื่องหมาย ๓ ทัพ แต่ไม่ได้
ติดเครื่องหมายยศ

คณะพรรคสี่สหายเดินทางมาประจำา ร.ล. หนุมานในฐานะผู้เชี่ยวชาญ
สรรพาวุธและนักวิทยาศาสตร์แห่งกองทัพไทย ทั้งนี้ตามคำาสั่งของกอง
บัญชาการทหารสูงสุดเกี่ยวกับการปราบเรือดำานำ้าปรมาณูของข้าศึกซึ่งขณะ
นี้ยังป้วนเปี้ยนอยู่ในอ่าวไทย ปรากฏว่าเรือหาปลาหลายลำาได้พบเห็นเรือดำา
นำ้ามหึมาลำานี้ ซึ่งชาวเรือให้สมญามันว่า “พรายทะเล” และขณะนี้กองทัพ
เรือของเรากำาลังติดตามค้นหาทั่วบริเวณอ่าวไทย เพื่อทำาลายมันให้ได้

เมื่อเรือยนต์ลำานั้นแล่นเข้ามาใกล้หมู่เรือปราบเรือดำานำ้า ความเร็วของเรือก็
ลดลงตามลำาดับ จ่าเอกซึ่งทำาหน้าที่บังคับเรือยนต์ลำานี้ได้นำาเรือตรงเข้าไป
ยัง ร.ล. หนุมาน ซึ่งในเวลาเดียวกันนี้เอง พล ร.ต. วิชาญ ชัยประสิทธิ์ ร.น. ผู้
บังคับหมู่เรือปราบเรือดำานำ้าและ น.ท. หยด เฉลิมเกียรติ ร.น. ผู้บังคับการ
ร.ล. หนุมาน ได้เตรียมการต้อนรับ ด.ร. ดิเรกกับคณะอย่างแข็งแรง นาย
ทหารประจำาเรือหลายคนยืนรวมกลุ่มอยู่เบื้องหลังผู้บังคับการและผู้บังคับ
หมู่ของเขา

เรือยนต์ลำานั้นแล่นมาเทียบกราบขวา ร.ล. หนุมานอย่างแช่มช้า พลทหาร
เรือสองคนช่วยกันยึดเรือไว้ ดร. ดิเรกพาสามสหายกับเจ้าคุณปัจจนึก ฯ เดิน
ขึ้นบันได ร.ล. หนุมานในท่าทางกระฉับกระเฉง ทันใดนั้นเอง พล ร.ต. วิชาญ
ก็พาผู้บังคับการเรือเข้ามาต้อนรับ ซึ่งท่านนายพลเรือได้รู้จักคุ้นเคยกับ ดร.
ดิเรกมาเป็นอย่างดี เพราะนายแพทย์หนุ่มเป็นผู้สร้างเครื่องฟังเสียงแบบ
ใหม่ “ดิเรกไฮโดรโฟนิค” ให้แก่กองทัพเรือและเขาเป็นผู้ฝึกสอนวิธีใช้แก่
พวกทหารเรือทั้งหลาย นอกจากนี้ ดร. ดิเรกยังได้มีการติดต่อกับกองทัพเรือ
อยู่เสมอ

คณะพรรคสี่สหายกับเจ้าคุณปัจจนึก ฯ และท่านนายพลเรือต่างยกมือวัน
ทยาหัตถ์พร้อม ๆ กัน ดร. ดิเรกยื่นมือให้พล ร.ต. วิชาญจับด้วยสันถวไมตรี
อันสนิทสนม

“สบายดีหรือครับ อาจารย์”

ดร. ดิเรกสั่นศีรษะ

“ไม่สบายหรอกครับท่าน กินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวันแล้ว เกี่ยวกับเรือ
ดำานำ้าปรมาณูของข้าศึก ผมไม่เข้าใจเลยที่เครื่องไฮโดรโฟนิคใช้ทำางานไม่
ได้ผล”

ท่านนายพลเรือยิ้มเล็กน้อย และแนะนำา นท. หยด เฉลิมเกียรติ ร.น. ให้รู้จัก
กับ ดร. ดิเรก ณรงค์ฤทธิ์ ซึ่งนายทหารแห่งราชนาวีผู้นได้เรียนเพิ่มเติมที่
                                                   ี้
ประเทศอังกฤษ ๓ ปี เพิ่งกลับมาเมืองไทยเมื่อเร็ว ๆ นี้จึงไม่รู้จักกับนาย
แพทย์หนุ่ม แต่ก็ได้ยนชื่อเสียงของ ดร. ดิเรกมานานแล้ว ในฐานที่เป็นนาย
                    ิ
แพทย์ผู้ยิ่งใหญ่ และเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้ยอดเยี่ยมของโลกคนหนึ่ง ซึ่งนัก
วิทยาศาสตร์ทั่วโลกยกย่องชมเชยเขามาก

ดร. ดิเรกกับผู้บังคับการ ร.ล. หนุมานได้ทักทายกันเป็นอย่างดี แล้วนาย
แพทย์หนุ่มก็หันมาทางคณะของเขาแนะนำาให้รู้จักกับ พล ร.ต. วิชาญและ
น.ท. หยด

นิกรมีความข้องใจอย่างยิ่งเมื่อ ดร. ดิเรกบอกเขาว่า ท่านนายพลเรือผู้นี้เป็น
ผู้บังคับหมู่เรือปราบเรือดำานำ้า ทั้งสองฝ่ายสนทนากันสักครู่ นิกรก็ถือโอกาส
ถามท่านนายพลเรือ
“ท่านครับ ประทานโทษเถอะครับ ผมอยากจะเรียนถามอะไรสักหน่อย ท่าน
มียศเป็นพลเรือตรี ไหงมีตำาแหน่งเล็กนิดเดียว เป็นแต่ผู้หมู่เท่านั้น อย่าง
น้อยก็ควรจะเป็นผู้บัญชาการซีครับ”

พล ร.ต. วิชาญยิ้มให้นิกร

“ตำาแหน่งของราชนาวีไม่เหมือนกับทหารบกครับคุณนิกร ทหารบกเป็นสิบ
ตรี สิบโทหรือสิบเอก ก็มีตำาแหน่งเป็นผู้บังคับหมู่ แต่ว่าอำานาจหน้าที่ของ
เขาก็คือปกครองบังคับบัญชาทหารในหมู่ของเขาเพียงหมู่เดียวซึ่งมีไม่กี่
คน”

“แล้วทหารเรือล่ะครับ” นิกรถามอย่างสนใจ

“ทหารเรือหรือครับ คำาว่าผู้บังคับหมู่ก็หมายความว่า เป็นผู้บังคับบัญชารับ
ผิดชอบเรือรบหมู่หนึ่ง อย่างผมอย่างงี้ ผมเป็นผู้บังคับหมู่เรือปราบเรือดำานำ้า
ผมต้องควบคุมบังคับบัญชาเรือปราบเรือดำานำ้าถึง ๔ ลำา”

“โอ้โฮ” นิกรร้องขึ้นดัง ๆ “ตำาแหน่งนีไม่ใช่ตำาแหน่งเล็ก ๆ นี่ครับ แล้วผู้
                                     ้
บังคับหมวดล่ะครับ”

“ผู้บังคับหมวดก็คือเจ้านายของผม พลเรือโทประมาณ สุรพลครับ กำาลัง
เรือรบสองหมู่เป็นหนึ่งหมวด ฉะนั้นสำาหรับตำาแหน่งของทางทหารเรือแล้ว
ผู้ที่เป็นผู้บังคับหมวดเรือต่าง ๆ ก็ต้องเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่และเป็นคน
สำาคัญในราชนาวี”

กิมหงวนพูดเสริมขึ้น

“ถ้ายังงันผู้บังคับการก็เป็นลูกน้องผู้บังคับหมู่น่ะซีครับ”
         ้

น.ท. หยดยิ้มให้เสี่ยหงวน

“ถูกแล้วครับ ผู้บังคับการเรือต้องอยู่ในบังคับบัญชาของผู้บังคับหมู่”

“ว้า” อาเสี่ยคราง “ตรงกันข้ามกับทหารบกนี่ครับ ทหารบกถ้าเป็นผู้
บังคับการก็สั่งขังผู้บังคับหมวดหรือผู้บังคับหมู่อย่างสบาย”

ผู้บังคับการ ร.ล. หนุมานหันไปพยักหน้าเรียกนายทหารประจำาเรือกลุ่มนั้นให้
เข้ามาหา แล้วเขาก็แนะนำาให้รู้จักกับคณะพรรคสี่สหายทีละคน คือ น.ต.
สุภาพ ฤทธิไกร ร.น. ต้นเรือ ร.อ. สมยศ วงสุวรรณ ร.น. ต้นปืน ร.อ. ชาติ บุญ
ประดับ ร.น. ด้นกล และ ร.อ. อนันต์ ราชวัลลภ ร.น. ต้นหน นอกจากนี้ก็มีนาย
แพทย์ประจำาเรือ นายทหารพลาธิการ และนายทหารประจำาหน้าที่อื่นอีก
หลายคน
ทุกคนได้แสดงความยินดีต่อ ดร. ดิเรกกับคณะซึ่งถูกส่งมาประจำาเรือปราบ
เรือดำานำ้าลำานี้ เพื่อร่วมมือกันล่าพรายทะเลหรือเรือดำานำ้าปรมาณูของข้าศึก

ในที่สุดท่านนายพลผู้บังคับหมู่เรือได้กล่าวว่า

“ผมสั่งให้ผู้บังคับการเขาจัดห้องพักไว้ให้อาจารย์กับคณะแล้วครับ และสั่ง
ให้เขาเอาใจใส่เป็นพิเศษ ตามคำาสั่งของท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด”

ดร. ดิเรกก้มศีรษะเล็กน้อย

“ขอบคุณครับ เสื้อผ้าของพวกเราและเครื่องมือวิทยาศาสตร์ของผมจะมาถึง
สนามบินสัตหีบในราว ๑๖.๐๐ น. วันนี้ พร้อมด้วยคนของผมอีกหนึ่งคน เมื่อ
เครื่องมือของผมมาถึงเรียบร้อย ผมจะทำาการตรวจสอบเรด้าใต้นำ้าและเครื่อง
ไฮโดรโฟนิคประจำาเรือลำานี้ทันที ผมไม่เข้าใจเลยที่เครื่องมือของผมค้นหา
ตำาแหน่งเรือดำานำ้าของข้าศึกไม่พบ รายงานของท่านที่ผมได้อ่านราย
ละเอียดจากกองบัญชาการทหารสูงสุดทำาให้ผมกลุ้ม ใจมาก ผมไม่เชื่อว่า
เครื่องมือของผมไร้สมรรถภาพ แต่ผมคิดว่าเรือดำานำ้าปรมาณูลำานี้อาจจะมี
เครื่องมือพิเศษบางอย่างที่บังคับเร ด้าใต้นำ้าและเครื่องฟังเสียงเรือดำานำ้า
ของผมให้ทำางานไม่ได้ผล”

พล ร.ต. วิชาญยิ้มเล็กน้อย

“ทางกองทัพเรือก็เข้าใจอย่างนี้ครับ ท่านผู้บัญชาการทหารเรือถึงได้
รายงานไปทางกองบัญชาการทหารสูงสุดขอให้อาจารย์กับคณะมาร่วมงาน
ล่าพรายทะเล เพราะถ้าอาจารย์ได้คุมเรด้าใต้นำ้าและเครื่องไฮโดรโฟนิคของ
อาจารย์ด้วยตนเองแล้ว ถ้าเรือ “หนุมาน” พบเรือดำานำ้าปรมาณูเมื่อไรมันก็
ต้องตกเป็นเหยื่อทุ่นระเบิดนำ้าลึกของเราทันที”

นายแพทย์หนุ่มยิ้มอย่างภาคภูมิ

“ออไร้ ผมจะต้องล่าพรายทะเลให้ได้ด้วยเครื่องมือพิเศษของผมที่กำาลังเดิน
ทางมา ไฮโดรโฟนิคแบบใหม่ของผมวิเศษจริง ๆ แม้แต่เสียงปลาขยับ
เหงือกหรือทำาปากขมุบขมิบใต้นำ้าเราก็ได้ยินถนัด มันไม่มีทางที่จะหนีเราไป
ได้ นอกจากนี้ผมยังนำาระเบิดปรมาณูขนาดจิ๋วมาด้วยซึ่งเป็นระเบิดเวลา ถ้า
เรือดำานำ้าข้าศึกดำากบดานนิ่งเฉยอยู่ที่ใด และเรด้าใต้นำ้าจับตำาแหน่งได้ เราก็
จะส่งมนุษย์กบหรือประดานำ้าเอาระเบิดไปเกาะติดเรือมัน รับรองว่าตูมเดียว
กลายเป็นเศษเหล็กชิ้นเล็กชิ้นน้อย”

พวกนายทหารเรือทำาหน้าเลิ่กลั่กไปตามกัน ผู้บังคับการถาม ดร. ดิเรกว่า

“ระเบิดปรมาณูขนาดจิ๋วของอาจารย์จะเกิดการระเบิดขึ้นเองเพราะถูกความ
ร้อนหรือเหตุอื่น ๆ ได้ไหมครับ”
ดร. ดิเรกลืมตาโพลง

“โน – มือชั้นผมทำาอะไรต้องรอบคอบ มันจะระเบิดก็ต่อเมื่อเราติดหัวชนวน
ระเบิดและตั้งเวลาให้มันระเบิด ตามธรรมดาเอาฆ้อนหรือขวานทุบก็ไม่
ระเบิด”

น.ท. หยดยิ้มแห้ง ๆ

“ถึงเช่นนั้นก็ไม่น่าทดลองเล่นนะครับ เรือ “หนุมาน” มีระวางเพียง ๑,๒๐๐
ตันเท่านั้น ระเบิดตูมเดียวก็คงไม่มีอะไรเหลือ”

ท่านนายพลผู้บังคับหมู่เรือปราบเรือดำานำ้าพูดตัดบท

“เชิญอาจารย์กับคณะไปที่ห้องพักเถอะครับ ประเดี๋ยวจะได้รับประทานนำ้าชา
เวลาบ่าย เรื่องเสื้อผ้าและเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่กำาลังเดินทางมาโดย
เครื่องบินพิเศษของกองทัพอากาศ ไม่จำาเป็นจะต้องห่วงครับ ผมจะส่ง
ทหารไปรับที่สนามบินให้เรียบร้อย”

ครั้นแล้ว พล ร.ต. วิชาญก็พาคณะพรรคสี่สหายกับเจ้าคุณปัจจนึก ฯ เดินลง
บันไดไปใต้ท้องเรือ ผู้บังคับการกับคณะนายทหารประจำาเรือติดตามไปด้วย

ก่อนคำ่าวันนั้นเอง กระเป๋าเสื้อผ้าของสี่สหายกับเจ้าคุณปัจจนึก ฯ พร้อมด้วย
ลังไม้ฉำาฉาขนาดใหญ่สี่ลังซึ่งบรรจุเครื่องมือวิทยาศาสตร์อันมีค่ายิ่ง ก็ถูกส่ง
มายัง ร.ล. หนุมาน โดยเจ้าแห้วติดตามมาด้วย ซึ่งเจ้าแห้วเป็นผู้ควบคุม
สิ่งของเหล่านี้มาจากสนามบินดอนเมือง และกองทัพอากาศกับกองทัพเรือ
ได้มีการติดต่อกันโดยทางวิทยุตลอดเวลา

หลังจากอาหารคำ่าผ่านพ้นไปแล้ว ดร. ดิเรกได้ขลุกอยู่ในห้องสัญญาณ
ตลอดเวลา น.ท. หยด เฉลิมเกียรติ ร.น. ผู้บังคับการเรือ และนายทหารหนุม     ่
ซึ่งมียศเป็นเรือตรีร่วมปฏิบัติงานทดสอบสมรรถภาพเครื่องเร ด้าใต้นำ้าและ
เครื่องไฮโดรโฟนิคสำาหรับฟังเสียงเรือดำานำ้าอย่างใกล้ชิด ส่วนพล, นิกร, กิม
หงวน เจ้าคุณปัจจนึก ฯ และเจ้าแห้วพักผ่อนอยู่ในห้องพักซึ่งเป็นห้องแคบ
ๆ มีเตียงนอนซ้อนกันสองแถว แถวละ ๓ เตียง และมีโต๊ะเก้าอี้อยู่ทางด้าน
ริมช่องกระจก

ถึงแม้เรือจอด ร.ล. หนุมานก็ติดไฟมีสตีมพอที่จะออกเรือได้ ภายในเรือมี
ไฟฟ้าสว่างไสว ได้ยินเสียงเครื่องกำาเนิดไฟฟ้าครางกระหึ่มตลอดเวลา
เรือรบทุกลำาในฐานทัพเรือสัตหีบอยู่ในสภาพเตรียมพร้อม มีนายทหารและ
ทหารประจำาเรือครบถ้วน

ดร. ดิ เรกได้สอบถามรายละเอียดจากผู้บังคับการเรือและเรือตรีหนุ่มเจ้า
หน้าที่ประจำา เครื่องฟังเสียงเรือดำานำ้าอันเป็นประดิษฐกรรมของเขาอย่าง
ละเอียดถี่ถ้วน นับตั้งแต่ ร.ล. หนุมานได้พบเรือดำานำ้าปรมาณูของข้าศึกลำานั้น
ซึ่งโผล่ออกมาจากหลังเกาะช้าง เป็นการซักยิ่งกว่าทนายความซักพยาน
เสียอีก น.ท. หยดและ ร.ต. พจน์ได้เล่าให้นายแพทย์หนุ่มฟังตามตรง

ดร. ดิเรกใช้ความคิดอย่างหนักหน่วงในเรื่องนี้ ในที่สุดสีหน้าอันเคร่งเครียด
ของเขาก็ยิ้มแย้มแจ่มใส นายแพทย์หนุ่มกล่าวขึ้นอย่างมั่นใจว่า

“เครื่องฟังเสียงเรือดำานำ้าและเรด้าของผมไม่ได้เสื่อมคุณภาพเลย ผมพอจะรู้
แล้วว่าเรือดำานำ้าปรมาณูของพวกแดงมีวิธีหลบซ่อนตัวอย่างไร เครื่องมือ
ของผมจึงค้นหามันไม่ได้ อ้า – ท่านผู้บังคับหมู่ ท่านอยู่ประจำาเรืออะไรนะ ผู้
การ”

“ท่านอยู่ประจำาเรือพาลีครับ”

“ผมจะไปพบท่านเดี๋ยวนี้ เพื่อเจรจากับท่านในเรื่องนี้ ผมต้องการมนุษย์กบที่
มีความสามารถพิเศษสักสี่ห้าคนและอยากจะได้โดยเร็วที่สุด ท่านนายพลผู้
บังคับหมู่เรือปราบเรือดำานำ้าคงจะหาให้ผมได้ไม่ใช่หรือครับ”

“ได้ซิครับอาจารย์ ที่ฐานทัพเรือนี้มีมนุษย์กบที่ได้รับการฝึกฝนอย่างดีเลิศ
มาแล้วมากมายทีเดียว อาจารย์จะไปพบผู้บังคับหมู่เดี๋ยวนี้หรือครับ”

“ออไร้ ผมอยากไปพบท่านเร็วที่สุด บางทีพรุ่งนี้ผู้การจะต้องนำาเรือนี้เดิน
ทางไปเกาะช้างเพื่อให้ผมได้ไปสำารวจตำาแหน่งที่เรือดำานำ้าดำาลงไป ผมกล้า
เอาหัวผมเป็นประกัน ถ้าอ้ายพรายทะเลลำานี้ยังป้วนเปี้ยนอยู่ในอ่าวไทยละ
ก้อ ผมจะต้องทำาลายมันให้ได้ กัปตันและพวกลูกเรือจะต้องเป็นผีเฝ้าอ่าว
ไทยแน่ ๆ”

ร.ต. พจน์ยิ้มให้ ดร. ดิเรกแล้วพูดเบา ๆ

“ผมเชื่อมืออาจารย์ครับ”

น.ท. หยดยกนาฬิกาข้อมือดูเวลาแล้วกล่าวกับนายแพทย์หนุ่ม

“อาจารย์จะไปพบกับผู้บังคับหมู่ก็เชิญซิครับ ผมจะพาไป แต่จะต้องส่ง
สัญญาณไฟไปเรียนถามท่านเสียก่อน ขึ้นไปบนดาดฟ้าเถอะครับ”

ใน ๑๐ นาทีนั้นเอง ดร. ดิเรกกับ น.ท. หยดก็ลงเรือยนต์ประจำา ร.ล. หนุมาน
มุ่งตรงไปยัง ร.ล. พาลี เรือปราบเรือดำานำ้าอีกลำาหนึ่งซึ่ง พล ร.ต. วิชาญ ชัย
ประสิทธิ์ประจำาอยู่ที่เรือลำานั้น

เมื่อได้พบกับท่านนายพลเรือ ดร. ดิเรกก็ได้ให้ความคิดเห็นอันเป็นสาระ
ประโยชน์ยิ่ง ในที่สุดเขาก็ขอมนุษย์กบจำานวนหนึ่งสำาหรับทำางานปราบเรือ
ดำานำ้าปรมาณูลำานี้ และขออนุมัติให้ น.ท. หยดนำาเรือ “หนุมาน” เดินทางไป
เกาะช้าง ซึ่งท่านผู้บังคับหมู่ก็ไม่ขัดข้อง
“ตกลงครับอาจารย์ พรุ่งนี้ตอนสายผมจะส่งมนุษย์กบสี่คนไปที่เรือ
“หนุมาน” ส่วนการออกเรือผมจะสั่งทีหลัง”

“ขอบคุณมากครับ สำาหรับมนุษย์กบต้องการทหารเรือที่มีร่างกายแข็งแรง
จริง ๆ นะครับ ควรจะเลือกคนลำ่าสันหน้าอกใหญ่”

“ได้ครับ ผมมีอยู่หลายคนหน้าอกเบ้อเริ่ม ๆ ทั้งนั้น อาจารย์เห็นต้องชอบแน่
สามารถปฏิบัติงานได้ดี ว่ายนำ้าคล่องเหมือนปลา แต่ละคนเฉลียวฉลาดและ
กล้าหาญ ผ่านการฝึกมามากต่อมากแล้ว มีความทรหดอดทนที่สุด”

“ออไร้ ออไร้ ผมจะใช้มนุษย์กบลงสำารวจใต้ทะเลบางแห่ง โดยร่วมงานกับผู้
ช่วยของผม ถ้าหากว่าเราพบเรือดำานำ้าปรมาณูลำานั้นกบดานอยู่ที่ใด ผมก็จะ
ทำาลายมันเสียด้วยระเบิดปรมาณูขนาดจิ๋วของผม”

ดร. ดิเรกได้สนทนากับท่านนายพลเรือเป็นเวลาชั่วโมงเศษ จึงชวน น.ท.
หยดลาท่านผู้บังคับหมู่เรือปราบเรือดำานำ้ากลับ ร.ล. หนุมาน



ตอนสายวันรุ่งขึ้น...

ขณะที่สี่สหายกับท่านเจ้าคุณปัจจนึก ฯ นั่งพักผ่อนสนทนากันอยู่ในห้องพัก
เจ้าแห้วก็กระหืดกระหอบเข้ามาในท่าทางตื่นเต้นผิดปกติ

“รับประทาน...โอ้ย...รับประทานมาแล้วครับ”

สี่สหายกับเจ้าคุณปัจจนึก ฯ ต่างมองดูเจ้าแห้วอย่างเคือง ๆ

“ใครมาวะ” ท่านเจ้าคุณถาม

เจ้าแห้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

“รับประทาน มนุษย์กบน่ะซีครับ ผู้การใช้ให้ผมลงมาเชิญทุกคนขึ้นไปบน
ดาดฟ้าครับ”

พลหัวเราะหึ ๆ

“แกจะบ้าหรือวะอ้ายแห้ว แกตื่นเต้นเสียราวกับว่ามนุษย์กบเป็นมนุษย์
อภินิหารหรือผู้วิเศษอะไรทำานองนั้น พูดเสียจนหายใจหายคอไม่ทัน ทั้ง ๆ
ที่มนุษย์กบก็คือทหารเรือเราดี ๆ นีเอง”
                                  ่

เจ้าแห้วมีสีหน้าชุ่มชืนผิดปกติ
                      ่
“รับประทาน ทหารเรือถูกแล้วครับ แต่ว่าเป็นทหารเรือผู้หญิง”

สี่สหายกับเจ้าคุณปัจจนึก ฯ สะดุ้งเฮือกพร้อม ๆ กัน

“ทหารเรือผู้หญิง” กิมหงวนร้องตะโกนสุดเสียง

“ครับ แล้วก็สวยเสียด้วยครับ รับประทานแต่ละคนจำ้ามำ่าทรวดทรงขนาดเจน
รัสเซลหรือมารีลิน มอนโรทั้งนั้นแหละครับ”

“กี่คนอ้ายแห้ว” นิกรถามเร็วปรื๊อ

เจ้าแห้วยกมือขวาขึ้น โดยหดนิ้วหัวแม่มือเสีย

“รับประทานสี่คนครับ”

นิกรยิ้มแป้น

“บึบบับเหมือนกันทุกคนหรือ”

“ครับ แต่ละคนส่วนเว้าส่วนโค้งแน่ไปเลย รับประทานรีบขึ้นไปบนดาดฟ้า
เถอะครับ ผมรับรองว่าพวกคุณเห็นแล้วต้องนำ้าลายหก”

พลมองดู ดร. ดิเรกอย่างขบขัน

“แกนึกยังไงขึ้นมาวะหมอ แกถึงขอมนุษย์กบผู้หญิงมาทำางาน”

นายแพทย์หนุ่มสันศีรษะ
               ่

“โน – กันไม่ได้ระบุเพศ กันเพียงแต่บอกพลเรือตรีวิชาญว่ากันต้องการ
มนุษย์กบสักสี่ห้าคน ท่านรับรองว่าจะส่งมาให้เช้าวันนี้ แล้วท่านก็ส่งกบตัว
เมียมาให้”

เจ้าคุณปัจจนึก ฯ พูดเสริมขึ้น

“ท่ามันชักจะยุ่งละโว้ยดิเรก เป็นผู้หญิงยิงเรือจะมาอยู่ร่วมกับพวกทหารเรือ
ลำานี้ได้อย่างไร ประเดี๋ยวเกิดอ้ายตาลยอดด้วนขึ้นจะเดือดร้อน”

ดร. ดิเรกหัวเราะหึ ๆ

“คงไม่เป็นไรครับ เพราะทหารมีวนัยเชื่อฟังคำาสั่งผู้บังคับบัญชา”
                             ิ

นิกรพูดขึ้นด้วยเสียงหัวเราะ
“สนุกกันละวะพวกเรา อย่างน้อยก็คงจะทำาให้ทหารเรือทั้งลำาวุ่นวายไปตาม
กัน เพราะทหารเรือล้วนแต่กำาลังแตกเนื้อหนุ่ม ไปโว้ยพวกเรา ขึนไปบน
                                                             ้
ดาดฟ้าเถอะ อยากดูหน้ามนุษย์กบตัวเมียเต็มทนแล้ว เคยเห็นแต่มนุษย์กบ
ตัวผู้ นุงกางเกงยืดลงนำ้ามองดูหาส่วนที่เจริญตาไม่ได้เลย กล้ามเนื้อขึ้นเป็น
         ่
มัด ๆ ขนจั๊กแร้ยาวเฟื้อย บางคนไว้หนวดซะด้วย”

เสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างครื้นเครง ทุกคนต่างลุกขึ้นพากันออกไปจากห้อง
พัก

บนดาดฟ้าตอนหัวเรือ ร.ล. หนุมาน น.ท. หยดผู้บังคับการเรือพร้อมด้วยนาย
ทหารประจำาเรือที่มีตำาแหน่งสำาคัญอีก ๔ คน คือต้นเรือ ต้นหน ต้นปืน และ
ต้นกล กำาลังยืนจับกลุ่มสนทนากับหญิงสาวร่างอวบอัดทั้ง ๔ คน ซึ่งเป็น
มนุษย์กบชั้นดีแห่งกองพันมนุษย์กบของราชนาวี ซึ่งสาวสวยทั้ง ๔ คนนี้อยู่
ในชุดอาบนำ้าสีกรมท่าแนบแน่นสนิทเนื้อ แลเห็นส่วนโค้งส่วนเว้าและส่วน
นูนยั่วยวนตาน่าพิสมัย บนพืนดาดฟ้าเรือมีกระเป๋าเสื้อผ้าขนาดใหญ่รวม ๔
                           ้
กระเป๋า รองเท้ายางแบบเท้ากบ ๔ คู่ หมวกยางสวมศีรษะ ๔ ใบ แว่นตากัน
นำ้า ๔ คู่ ท่อ
อ๊อกซิเจนท่อคู่ขนาดเล็กอีก ๔ เส้น ของเหล่านี้ทหารประจำาเรือยนต์
ของกองเรือยุทธการได้ช่วยขนจากเรือยนต์ขึ้นมาบนเรือปราบเรือดำานำ้าลำานี้

เมื่อ ดร. ดิเรกพาคณะพรรคของเขา พร้อมด้วยเจ้าแห้วเดินเข้ามาหยุดยืน
รวมกลุ่มกับพวกทหารเรือ
น.ท. หยด เฉลิมเกียรติ ร.น. ผู้บังคับการ ร.ล. หนุมานก็แนะนำาให้มนุษย์กบ
หรือกบสาว ๆ ทั้ง ๔ ตัวให้รู้จักกับคณะพรรคสี่สหายโดยทั่วหน้ากัน สี่สาว
ต่างชิดเท้าตรงกับศีรษะกระทำาความเคารพ ซึ่งสี่สหายกับเจ้าคุณปัจจนึก ฯ
ก็กระทำาความเคารพตอบแบบเดียวกัน

ผู้บังคับการเรือได้ระบุชื่อมนุษย์กบให้สี่สหายทราบเป็นคน ๆ ไป

“คุณคนนี้ เรือตรีหญิงบุปผา บุนนาคครับ ถัดไปเรือตรีหญิงไฉไล วีรเดช
แล้วก็เรือตรีหญิงวันทนีย์ เมษาคม ทางขวานั่นเรือตรีหญิงระริน ชูประยูร
ครับ”

ดร. ดิเรกก้มศีรษะเล็กน้อย เขารู้สึกพอใจ ร.ต. หญิงระริน ชูประยูร ร.น.
มากกว่าคนอื่น เขากล่าวกับหล่อนว่า

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ทางราชการส่งพวกคุณมาร่วมงานสำาคัญกับ
พวกเราในเรือลำานี้”

ระรินยิ้มอ่อนหวาน
“ขอบคุณค่ะอาจารย์ หนูกับเพื่อน ๆ จะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุดตามที่
ได้ให้คำามันสัญญากับท่านผู้บังคับกองพันมนุษย์กบไว้แล้ว”
           ่

อาเสี่ยทำาท่าเจ้าชู้ประตูดิน กล่าวถามนายเรือสาวผู้มีนามว่าวันทนีย์ว่า

“กองพันนี้มีแต่กบตัวเมียทั้งนั้นหรือครับ”

วันทนีย์หัวเราะคิก

“กบตัวผู้ก็มีเหมือนกันค่ะ”

เสียงผู้บังคับการเรือร้องตวาดทหารประจำา ร.ล. หนุมานด้วยเสียงอันดัง

“เฮ้ย – อยากติดตะรางหรือยังไงวะ บอกว่าไม่ให้แอบดูยังจะแอบดูอีก
ประเดี๋ยวพ่อเอาขึ้นศาลทหารเสียเลยในฐานขัดคำาสั่ง รู้ไหมว่าขณะนี้อยู่ใน
ระหว่างกฎอัยการศึก”

พวกทหารเรือซึ่งแอบดูมนุษย์กบสาวต่างแตกฮือวิ่งหนีกันไปคนละทิศละ
ทาง น.ท. หยดซ่อนยิ้มไว้ในหน้า เขายกซองคำาสั่งราชการชูให้คณะพรรคสี่
สหายดู แล้วกล่าวกลับนายแพทย์หนุ่มอย่างนอบน้อม

“ท่านผู้บัญชาการกองเรือยุทธการได้มีหนังสือนำาส่งตัวนายทหารเรือหญิง
ทั้ง ๔ คนมาถึงผมครับ และสั่งมาว่า เท่าที่ให้มนุษย์กบแต่งชุดอาบนำ้านำาคำา
สั่งมารายงานตัวเช่นนี้ ก็เพราะต้องการให้อาจารย์ได้ทดสอบความสามารถ
ของกบสาวทั้ง ๔ คนนี้ ซึ่งทุกคนพร้อมแล้วที่จะแสดงการดำานำ้าและปฏิบัติ
การใต้นำ้าให้ดู เชิญสิครับ เชิญอาจารย์ทดลองได้ หากไม่พอใจก็ส่งตัวคืน
ไป กองทัพเรือจะส่งมาให้คัดเลือกอีก ทั้งนี้ก็เพราะว่างานปราบเรือดำานำ้า
ปรมาณูนี้เป็นงานสำาคัญยิ่ง”

กิมหงวนกระซิบกระซาบบอกผู้บังคับการทันที

“ผู้การครับ มีทหารเรือคนหนึ่งโผล่หัวออกมาจากปล่องช่องลมครับ”

น.ท. หยดหันขวับไปทางซ้ายมือ เขาแลเห็นลูกน้องของเขาคนหนึ่งโผล่
ศีรษะออกมาจากช่องลมนั้นและอ้าปากหวอมองดูนายทหารหญิงทั้งสี่ ซึ่ง
อยู่ในชุดอาบนำ้าแนบสนิทเนื้อยั่วยวนตา

“เฮ้ย” ผู้บังคับการตะโกนสุดเสียง

พลทหารหนุ่มสะดุ้งเฮือกสุดตัว รีบหลบหน้าลงไปในปล่องนั้น ร.ต. หญิงระ
รินกล่าวกับ น.ท. หยดด้วยความหนักใจ
“ผู้การต้องคุ้มครองหนูนะคะ รู้สึกว่าทหารเรือลำานี้เป็นนักถำ้ามองไม่ใคร่จะมี
วินัยเลย”

น.ท. หยดยิ้มแห้ง ๆ

“ผมรับรอง คุณระริน ถ้าใครขืนทำารุ่มร่ามกับพวกคุณ ผมจะส่งไปสมอแดง
ทันที ถ้าหากว่าอาจารย์
ดิเรกสั่งห้ามอย่างเด็ดขาดไม่ให้วุ่นวายกับพวกคุณ” พูดจบเขาก็หันมาทาง
ดร. ดิเรก “อาจารย์จะทดสอบความสามารถของมนุษย์กบทั้ง ๔ คนนี้ก็เชิญ
ครับ”

นายแพทย์หนุ่มพยักหน้ารับทราบ

“เอายังไงดีอ้ายกร ให้เรือตรีหญิงทั้ง ๔ ลงไปทำางานในนำ้าให้เราดูความ
สามารถของเธอสักหน่อยนะ”

นิกรเห็นพ้องด้วย

“ก้อดีเหมือนกัน ถ้าเธอว่ายนำ้าและดำานำ้าได้ดี เราก็ควรรับเธอไว้ให้ร่วมงาน
กับเรา”

พลมองดู ร.ต. หญิงบุปผาตลอดเวลา แล้วพูดเสริมขึ้น

“ราชนาวีของเราน่าจะภาคภูมใจไม่น้อยเท่าที่มีมนุษย์กบหญิงที่สวย ๆ และ
                         ิ
น่ารักอย่างนี้ ยังไม่เคยปรากฏว่ากองทัพเรือของชาติใดมีมนุษย์กบผู้หญิง
ไม่ใช่หรือครับ คุณบุปผา”

หล่อนยิ้มน่ารัก

“ค่ะ พวกเรามนุษย์กบหญิงรุ่นแรกมี ๕๐ คนด้วยกัน ใช้เวลาฝึกมาสองปีแล้ว
ค่ะ พอสำาเร็จหลักสูตรโรงเรียนมนุษย์กบก็ได้รับยศเป็นเรือตรีหญิง”

ดร. ดิเรกกล่าวกับสี่สาวอย่างเป็นงานเป็นการ

“โปรดเตรียมตัวลงทะเลครับ แต่งเครื่องมนุษย์กบให้พร้อม ผมจะให้ผู้ช่วย
ของผมคนใดคนหนึ่งลงทะเลด้วย เพื่อสังเกตการทำางานของพวกคุณอย่าง
ใกล้ชิด”

เรือตรีหญิงทั้ง ๔ คนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปตามกัน ต่างลงมือแต่งเครื่องมนุษย์
กบทันที คือสวมหมวกยางครอบศีรษะ สวมแว่นเป็นแผ่นยาวปิดนัยน์ตาทั้ง
สองข้าง สวมรองเท้าที่มีรูปลักษณะคล้ายเท้ากบ ต่อจากนั้นก็คาดเข็มขัดรัด
เอวซึ่งมีมีดพกขนาดยาวอยู่ในซองของมันหนึ่งเล่ม แล้วก็สวมท่ออ๊อกซิเจน
ขนาดเล็กซึ่งเป็นท่อคู่ติดไว้ข้างหลัง สี่สหายถือโอกาสช่วยกันผูกท่ออ๊อกซิ
เจนให้มนุษย์กบสาวคนละคน

ในที่สุดเรือตรีหญิงทั้ง ๔ คนก็กลายเป็นมนุษย์กบที่น่ารักน่าเอ็นดูยิ่ง ขนาด
มนุษย์กบของข้าศึกเห็นแล้วต้องนำ้าลายไหลไปตามกัน หล่อนถือฉมวก
คนละเล่มสำาหรับต่อสู้กับสัตว์ร้ายและข้าศึก

ดร. ดิเรกหันมาพูดกับกิมหงวนอย่างเป็นงานเป็นการ

“แกลงทะเลหน่อยซีนะอ้ายหงวน กันต้องการให้แกดูคุณ ๆ เหล่านี้ปฏิบัติ
งานใต้ทะเล”

อาเสี่ยยิ้มแป้น

“ได้ซี แต่วากันไม่มีเครื่องมนุษย์กบ”
           ่

น.ท. หยดพูดเสริมขึ้นทันที

“ที่เรือเรามีอยู่หลายชุดครับ” พูดจบเขาก็หันมาทาง น.ท. สุภาพ ฤทธิไกร
ร.น. ซึ่งเป็นผู้ช่วยของเขา คือเป็นต้นเรือ ร.ล. หนุมานลำานี้ “คุณช่วยไปบอก
ให้ทหารนำาเครื่องมนุษย์กบมาให้อาเสี่ยสักชุดเถอะครับ อ้า...เอายังงี้ดีกว่า
พาอาเสี่ยไปแต่งเครื่องมนุษย์กบมาเลย”

เสี่ยหงวนหัวเราะหึ ๆ

รูปร่างของผมมันเหมือนเขียดนี่ครับผู้การ แต่งเครื่องมนุษย์กบผมคงจะ
กลายเป็นมนุษย์เขียดไป”

เจ้าคุณปัจจนึก ฯ ยกมือตบหลังอาเสี่ยค่อนข้างแรง

“ไม่ใช่เวลาพูดเล่นน่า รีบไปแต่งเครื่องมนุษย์กบเถอะ อาอยากจะดูความ
สามารถของพวกคุณ ๆ เหล่านี้”

ต้นเรือพาอาเสี่ยกิมหงวนเดินไปจากที่นั้น นิกรทำาท่ากะลิ้มกะเหลี่ยกับ ร.ต.
หญิงไฉไล เจ้าของอกเขาพระวิหารอันโอ่โถงยิ่ง แล้วนิกรก็สัมภาษณ์หล่อน

“พวกคุณเคยทำางานใต้นำ้าที่เรียกว่าเป็นงานสำาคัญอะไรมาบ้างครับ”

ร.ต. หญิงไฉไลทำาตาหวานให้นิกร

“ที่ได้ปฏิบัติมาก็ล้วนเป็นงานสำาคัญทั้งนั้นแหละค่ะ ค้นหาทุ่นระเบิดแม่เหล็ก
ที่เรือรบของคอมมิวนิสต์นำามาโปรยไว้ในอ่าวเราเมื่อต้นปีนี้ได้หลายลูก ค้น
ตอร์ปิโดของเราที่จมลงก้นทะเลในการฝึกยิง นอกจากนี้ก็ฝึกวางระเบิด
เรือรบที่จอดอยู่ในอ่าว โดยสมมุติว่าเป็นเรือรบข้าศึก ฝึกว่ายนำ้าระยะไกล
จากเรือไปขึ้นฝั่ง ทำาหน้าที่ลาดตระเวนชายฝั่งก่อนยกพลขึ้นบก”

ดร. ดิเรกกล่าวถาม ร.ต. หญิงระรินอย่างยิ้มแย้ม

“คุณเคยพบปลาหมึกยักษ์หรือเปล่า”

ระรินหัวเราะคิก

“ปลาหมึกยักษ์ในอ่าวไทยไม่มหรอกค่ะ มีแต่ปลาหมึกตัวเล็ก ๆ หนูเคยจับ
                          ี
มันมากินบ่อย ๆ ค่ะอาจารย์”

พลตื่นตะลึงในความงามของบุปผาอย่างยิ่ง ใบหน้าของหล่อนเหมือนจีนส์
ซิมมอน เต็มไปด้วยความน่ารักน่าเอ็นดู หน้าอกของหล่อนค่อนข้างใหญ่
อย่างที่เรียกว่าปทุมทิพย์

“คุณไม่กลัวปลาฉลามหรือครับ” พลถามเมื่อสบตากับหล่อน

“ไม่ค่ะ เราเคยศึกษาเรื่องปลาฉลามมาแล้วค่ะ ปลาฉลามดุร้ายจนกระทั่ง
เรียกกันว่าเสือทะเลก็จริง แต่คนเราย่อมฉลาดกว่าที่สามารถเรียนรู้จิตใจ
ของมันได้” หล่อนพูดเสียงแจ๋ว ๆ น่าฟังและยิ้มระรื่นตลอดเวลา

“เคยสู้กับมันหรือเปล่าครับ”

“เคยค่ะ อาจารย์”

พลสะดุ้งโหยง

“อย่าเรียกผมว่าอาจารย์เลยครับ ผมเป็นแต่เพียงผู้ช่วยของอาจารย์ดิเรก
เรียกชื่อผมเถอะครับ”

หล่อนยิ้มอาย ๆ

“ครั้งหนึ่งที่หน้าเมืองระยอง หนูกับเพื่อนสามคนนี้ได้รับคำาสั่งให้ลงทะเล
เพื่อค้นหาทุ่นระเบิดแม่เหล็กที่พวกคอมมิวนิสต์นำามาทิ้งไว้ เราได้เผชิญกับ
ฉลามขนาดใหญ่ตัวหนึ่งค่ะ ตัวยาวไม่ตำ่ากว่า ๓ เมตร เราได้ต่อสู้กับมันตาม
ทฤษฎีที่เราเรียนมา คือลอยคอเป็นเส้นตั้งฉากในนำ้า ฉลามปราดเข้ามาหา
เรา แต่วิธีการโจมตีของมันจะต้องว่ายเลยไปก่อนแล้วเลี้ยวกลับมา เราสี่คน
ยืนเป็นแถวเรียงเดี่ยว ถือฉมวกเตรียมพร้อม พอมันว่ายเข้ามาก็แทงมัน
พร้อม ๆ กัน เท่านี้เองฉลามก็สิ้นฤทธิ์ถูกเราฆ่าตายค่ะ”

พลมองดูหล่อนอย่างชื่นชม

“คุณและพวกคุณเก่งมากเชียวครับ”
เจ้าคุณปัจจนึก ฯ เลี่ยงไปคุยกับผู้บังคับการ ร.ล. หนุมาน ท่านได้ซักถาม
กิจการมนุษย์กบแห่งราชนาวี น.ท. หยดก็เรียนให้ทราบว่า ขณะนีหน่วย้
มนุษย์กบของกองทัพเรือมีอยู่หนึ่งกองพันแล้ว และเป็นมนุษย์กบผู้หญิง
ประมาณ ๕๐ คน ทางราชการได้เปิดรับสมัครมนุษย์กบหนุ่มสาวปีละ ๒ ครั้ง
ผู้สมัครต้องมีพื้นการศึกษาสำาเร็จเตรียมวิทยาศาสตร์อย่างน้อย

ขณะที่เจ้าคุณปัจจนึก ฯ กำาลังสนทนากับผู้บังคับการและนายทหารประจำา
เรือ อาเสี่ยกิมหงวนก็พาตัวเดินขึ้นบันไดมาจากท้องเรือ น.ต. สุภาพต้นเรือ
ร.ล. หนุมานเดินตามมาด้วย

กิมหงวนของเราแต่งเครื่องมนุษย์กบครบครัน สวมรองเท้ากบ สวมท่ออ๊อก
ซิเจน สวมกางเกงอาบนำ้าสีดำาแกมขาว ซึ่งเป็นกางเกงแนบเนื้อ คาดเข็มขัด
พกมีด สวมแว่นตาแต่ไม่ได้สวมหมวก ท่าทางของอาเสี่ยเก้งก้างเหมือน
มนุษย์เขียดมากกว่ามนุษย์กบ มือขวาถือฉมวกอันหนึ่ง

เจ้าคุณปัจจนึก ฯ พล, นิกร, ดร. ดิเรก และเจ้าแห้วต่างหัวเราะชอบอกชอบใจ
ไปตามกัน เสี่ยหงวนเดินเข้ามาหยุดยืนรวมกลุ่มแล้วยกมือเท้าเอววางท่าให้
สมกับเป็นมนุษย์กบชั้นดี

นิกรรีบกระซิบกระซาบบอกกิมหงวน

“อย่าเท้าเอวเลยวะ ไม่น่าดูเลย”

อาเสี่ยขมวดคิ้วย่นแล้วกระซิบถาม

“ทำาไมล่ะ”

นายจอมทะเล้นหัวเราะ

“ขนจั๊กแร้แกยาวตั้งคืบ ลมพัดพะเยิบพะยาบน่าเกลียดเหลือเกิน”

กิมหงวนสะดุ้งเฮือกเหมือนถูกเข็มแทง รีบปล่อยมือที่เท้าเอวลงทันที ดร.
ดิเรกช่วยตรวจดูท่ออ๊อกซิเจนของอาเสี่ยแล้วเขาก็หันมาทางกบสาวทั้ง ๔
ตัว

“อย่ารังเกียจหรือโกรธเคืองผมเลย ที่ผมจะต้องทดสอบความสามารถของ
พวกคุณ” พูดพลางนายแพทย์หนุ่มก็ถอดนาฬิกาข้อมือเรือนทองราคาเกือบ
๓,๐๐๐ บาทออกมาจากข้อมือของเขาแล้วโยนมันลงไปในทะเล “เชิญพวก
คุณลงนำ้าได้แล้วช่วยกันงมนาฬิกาให้ผม”

ระรินยิ้มแห้ง ๆ
“โอ – ของเล็ก ๆ อย่างนี้งมไม่ได้หรอกค่ะ”

ดร. ดิเรกนัยน์ตาเหลือก

“มายก๊อด...งมไม่ได้”

“ค่ะ”

นายแพทย์หนุ่มกลืนนำ้าลายเอื๊อก

“พวกคุณเป็นมนุษย์กบก็ควรจะงมได้ซีครับ”

วันทนีย์หัวเราะเบา ๆ

“ถูกแล้วค่ะ พวกเราเป็นมนุษย์กบ แต่เราไม่เชี่ยวชาญในการงมของตกนำ้า
เหมือนพวกร่อนหาของตามลำาคลองในกรุงเทพ ฯ นีคะ”
                                          ่

ดร. ดิเรกทำาหน้าเหมือนกับจะร้องไห้

“ถ้าเช่นนั้นนาฬิกาของผมราคา ๒,๘๐๐ บาทก็สูญไปแล้ว ผมชักฉิวพวกคุณ
แล้วนะจะบอกให้ เร็ว...ทุกคนไปที่บันไดกราบขวาแล้วลงทะเลตามคำาสั่ง
ของผม แสดงการว่ายนำ้าและดำานำ้าให้หมด พวกคุณทั้ง ๔ คนต้องดำาลงไป
ที่ก้นทะเล หาอะไรมาให้ผมคนละชิน หอยสักตัวหรือกะละปังหาคนละกิ่ง
                                ้
หรือถ้าพวกคุณใจปำ้าพอจะจับปลาฉลามเอามาให้ผมคนละตัวก็ได้” พอจบ
เขาก็หันมาทางอาเสี่ย “แกติดตามไปสังเกตการณ์ในทะเล ดูให้ดีว่าคนไหน
มีความสามารถและคนไหนไร้ความสามารถ”

นายเรือหญิงทั้ง ๔ คนพากันเดินไปทางกราบขวาของ ร.ล. หนุมาน กิมหง
วนติดตามไปด้วย ต่อจากนั้นมนุษย์กบสาวแห่งราชนาวีทั้ง ๔ คนและอาเสี่ย
กิมหงวนก็หย่อนตัวลงไปในทะเลท่ามกลางแสงแดดอันร้อนแรงในตอนสาย
แต่ทะเลกำาลังสงบ มีละลอกคลื่นเพียงเล็กน้อย

เมื่อ ๔ นางแสดงการว่ายนำ้าแบบมนุษย์กบให้ดูสักครู่ก็พากันดำานำ้าหายไป
กิมหงวนรีบดำาตามทันที
น.ท. หยดกล่าวกับ ดร. ดิเรกอย่างยิ้มแย้ม

“เป็นยังไงครับอาจารย์”

“ออไร้ ว่ายนำ้ากันได้คล่องแคล่วดีมากครับผู้การ โดยเฉพาะเรือตรีหญิงระริน
วิเศษที่สุด”

“ว่ายนำ้าเก่งหรือครับ”
“โน – ว่ายนำ้าไม่ค่อยเก่ง แต่เธอสวยและน่ารักถูกใจผมมาก ยังไงผมก็ต้อง
เอาไว้ ถึงว่ายนำ้าไม่เก่ง ต่อไปหัดว่ายบ่อย ๆ ก็เก่งเอง”

พวกนายทหารเรืออมยิ้มไปตามกัน กบสาวทั้ง ๔ ตัวและอาเสี่ยกิมหงวนผู้
สังเกตการณ์หายไปในทะเลประมาณ ๕ นาที และแล้ว ร.ต. หญิงวันทนีย์ก็
โผล่ขึ้นมาจากใต้นำ้าอย่างร้อนรน หล่อนรีบว่ายนำ้าเข้ามาเกาะบันไดเรือรบ
แล้วปีนขึ้นมาบนบันไดนัน ใบหน้าของหล่อนบึ้งตึง สาวสวยมองดู ดร. ดิเรก
                        ้
แล้วเอ็ดตะโรลั่น

“ไม่ไหวละค่ะอาจารย์คะ คนของอาจารย์เล่นบ้า ๆ อะไรก็ไม่รู้ เล่นกับหนูยัง
งี้ได้หรือ คือว่าอยู่ใต้นำ้าไม่มใครเห็น บ๊า – บ้า คนผีทะเลอะไรก็ไม่รู้”
                                ี

ดร. ดิเรกทำาตาปริบ ๆ เขายืนนิงเฉยจนกระทั่งวันทนีย์ขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือ
                             ่

“เขาทำาอะไรคุณครับ”

“อ้า – ตะปบหนูน่ะซีคะ”

นายแพทย์หนุ่มแยกเขี้ยว พอดีกิมหงวนโผล่ขึ้นมาจากนำ้า ท่ามกลางเสียง
หัวเราะอย่างครื้นเครงและเสียงไชโยโห่ร้องของพวกทหารเรือ ซึ่งล้วนแต่
คึกคะนองช่วยกันเชียร์เสี่ยหงวน ดร. ดิเรกโกรธจนตัวสั่น เขายกมือชี้หน้าอา
เสี่ยแล้วกล่าวขึ้นด้วยเสียงอันดัง

“อ้ายหงวน ทำาไมแกเล่นบ้า ๆ ยังงัน”
                                ้

อาเสี่ยทำาหน้าชอบกล

“เล่นยังไงวะที่ว่าบ้า ๆ”

“แกตะปบคุณวันทนีย์”

เสี่ยหงวนชักฉิว

“อ้าว – นีแหละไหมล่ะ เขาว่าทำาคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์ได้บาป” กิมหงวน
          ่
พูดเอ็ดตะโร “แมงกะพรุนไฟมันอยู่บนหัวคุณวันทนีย์ กันแลเห็นเข้าก็รีบ
ผลักเธอออกห่างมัน และเอาฉมวกแทงมันตาย กันจะอธิบายให้ฟังก็พูดกัน
ไม่ได้เพราะอยู่ในนำ้า คุณวันทนีย์ไม่ฟงอีร้าค่าอีรม รีบโผล่ขึ้นมาฟ้องแกใช่
                                     ั
ไหมล่ะ ถ้ากันไม่ทำาอย่างนันคุณวันทนีย์โดนแมงกะพรุนไฟเข้าเนื้อหนังก็จะ
                           ้
ไหม้เป็นแถบ ๆ ปวดแสบปวดร้อนร้องครางไปหลายวัน ถ้าโดนใบหน้าก็จะ
ทำาให้เสียโฉม”

วันทนีย์หน้าจ๋อย หายโกรธกิมหงวนแล้ว
“ต๊าย – ตาย หนูเข้าใจผิดจริง ๆ ค่ะ อาเสี่ยคะ หนูกราบประทานโทษนะคะ
หนูคิดว่าอาเสี่ยคิดค้ากำาไรเกินควรกับหนู”

อาเสี่ยยิ้มออกมาได้ แล้วกวักมือเรียกหล่อน

“ลงมาซีครับ”

สาวสวยสั่นศีรษะ

“ม่ายละค่ะ หนูกลัวแมงกะพรุนไฟ เพียงแมงกะพรุนไฟอาเสี่ยยังตะปบหนู
อย่างนั้น ถ้าเป็นปลาฉลามหรือปลาหมึกยักษ์หนูคงแย่ทีเดียว”

กิมหงวนหัวเราะลั่น แล้วดำาลงไปในทะเลอีก ต่อจากนั้นบุปผาก็โผล่ขึ้นมา
จากนำ้า มือขวาของหล่อนถือกะละปังหากิ่งหนึ่งอันเป็นเครื่องแสดงความ
สามารถของหล่อนที่ดำาลงไปถึงก้นทะเล พลรีบวิ่งลงบันไดไปรับหล่อน

“ขึนมาเถอะครับ ทดสอบกันเท่านี้พอแล้ว”
   ้

บุปผาว่ายมาที่บันได พลช่วยประคองหล่อนแล้วพาขึ้นไปบนดาดฟ้า ต่อ
จากนั้น ร.ต. หญิงไฉไลก็โผล่ขึ้นมาจากนำ้า หล่อนชูนาฬิกาข้อมือเรือนทอง
อวด ด.ร. ดิเรก แล้วพูดเสียงหัวเราะ

“อาจารย์คะ หนูงมนาฬิกาของอาจารย์ได้ค่ะ”

นายแพทย์หนุ่มลืมตาโพลง

“โอ – เวรี่กู๊ด แล้วสายนาฬิกาหายไปไหน คุณไฉไล”

หล่อนว่ายเข้ามาเกาะบันไดเรือรบ

“สายมันหรือคะ หนูแกะออกทิ้งไปค่ะ ขณะนี้ระรินกำาลังแสดงความสามารถ
งมสายนาฬิกาให้อาจารย์ค่ะ”

เสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างครื้นเครง นิกรรีบวิ่งลงบันไดไปรับแฟนของเขา และ
กล่าวชมหล่อนขณะที่เขาประคองหล่อนขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือ

“คุณเก่งมากครับ นาฬิกาข้อมือเรือนเล็กนิดเดียว ไม่น่าจะงมได้เลย”

หล่อนยิ้มให้เขาและรู้สึกพอใจนิกรเช่นเดียวกัน

“นำ้าในอ่าวสัตหีบไม่ลึกนักหรอกค่ะ พื้นล่างเป็นทรายไม่ใช่โคลน แดดจัด
อย่างนี้มองเห็นทะเลอย่างชัดเจนค่ะ”

“อ้อ – แล้วเห็นสะดือทะเลไหมครับ”
หล่อนทำาหน้าชอบกล

“อ๋อ – ส่วนที่ลึกที่สุดใช่ไหมคะ”

“เห็นจะเป็นยังงั้นแหละครับ ผมเองก็ได้ยินแต่เขาพูดกันว่าสะดือทะเล แต่
ไม่ทราบว่าสะดือทะเลมันอยู่ที่ไหน คุณเป็นนายทหารเรือคงจะทราบดี”

ร.ต. หญิงไฉไลยิ้มให้เขา

“ทะเลที่มีความลึกที่สุดในโลกอยู่นอกฝั่งเกาะกวมค่ะ ที่นั่นคือสะดือทะเล
ตามที่คุณว่า”

นิกรฝืนหัวเราะ

“ลึกสัก ๕ ฟิตได้ไหมครับ”

ไฉไลหัวเราะคิก

“๕ ฟิตน่ะขนาดท้องร่องสวนค่ะ ทะเลนอกฝั่งเกาะกวมมีความลึกตั้งสามสี่
กิโลเมตร หรืออาจจะกว่านั้น ซึ่งหนูก็จำาไม่ได้เสียแล้ว” พูดจบหล่อนก็หันมา
ทางนายแพทย์หนุ่มและส่งนาฬิกาข้อมือคืนให้ “อาจารย์ทราบไหมคะ ส่วน
ลึกที่สุดของทะเลลึกเท่าใด”

ดร. ดิเรกยิ้มอย่างภาคภูมิ

“เยส ไอโน ส่วนลึกที่สุดของทะเลที่อ้ายกรเรียกว่าสะดือทะเลนั้นอยู่นอกฝั่ง
เกาะกวมถูกแล้ว นักวิทยาศาสตร์ ๒ คนของกองทัพเรืออเมริกันได้ลงไปใน
ถังเหล็กและถูกหย่อนลงไปในก้นทะเลแห่งมหาสมุทรแปซิฟิคเมื่อเร็ว ๆ นี้
หย่อนลงไปจนถึงส่วนลึกที่สุด”

นิกรพูดเสริมขึ้น

“ถึงสะดือทะเล”

“เออ” ดร. ดิเรกตวาดแว้ด “ส่วนลึกที่สุดวัดได้ ๑๘,๖๐๐ ฟิต หรือ ๕ จุด ๖
กิโลเมตร”

นิกรหัวเราะหึ ๆ

“แล้วนักวิทยาศาสตร์ของกองทัพเรืออเมริกันเขาแถลงหรือเปล่าว่าสะดือทะ
เลน่ะมีรูปลักษณะอย่างไร จุ่นหรือเปล่า”

เจ้าคุณปัจจนึก ฯ ยกเท้าขวาเหวี่ยงก้นลูกเขยของท่านดังพลั่ก
“นีแน่ะ ทะเล้นนัก สะดือทะเลมันมีที่ไหนกันล่ะ”
   ่

นิกรลืมตาโพลง

“อ้าว – ทีคุณพ่อทำาไมถึงมีสะดือล่ะ”

เจ้าแห้วพูดสอดขึ้นทันที

“รับประทาน มนุษย์กบโผล่ขึ้นมาอีกแล้วครับ”

การสนทนาเกี่ยวกับเรื่องสะดือทะเลสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้ ระรินแฟนของ ดร.
ดิเรกโผล่ขึ้นมาจากพื้นนำ้าและว่ายเข้ามาหาเรือรบ ดร. ดิเรกรีบวิ่งลงบันได
ไปรับหล่อนด้วยความตื่นเต้นดีใจ เขาช่วยประคองหล่อนขึ้นมาบนขันพัก   ้
บันไดนัน
       ้

“ขอบคุณค่ะอาจารย์ นีค่ะ สายนาฬิกาของอาจารย์ หนูดำาหาแทบแย่”
                    ่

ดร. ดิเรกจุ๊ปาก

“ไม่ควรเสียเวลาค้นหามันเลย เส้นหนึ่ง ๑๐ บาทเท่านั้น คุณเป็นมนุษย์กบที่
ยอดเยี่ยมที่สุดในสายตาของผม ว่ายนำ้าก็น่ารัก ดำานำ้าก็น่ารัก นอกจากนี้
เสียงคุณยังไพเราะเหมือนกับเสียงนกไนติงเกล ไปบนดาดฟ้าเรือเถอะครับ
การทดสอบได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นอันว่าผมรับคุณทั้ง ๔ คนไว้เป็นมนุษย์
กบประจำาเรือนี้เพื่อร่วมงานสำาคัญกับพวกเรา คือล่าพรายทะเล”

นายแพทย์หนุ่มพาแฟนของเขาขึ้นมาบนดาดฟ้า เจ้าแห้วปราดเข้ามาหา
ดร. ดิเรกแล้วรายงานให้ทราบ

“รับประทาน อาเสี่ยยังไม่โผล่ขึ้นมาเลยครับ”

ดร. ดิเรกสะดุ้งเล็กน้อย

“ออไร้ กันลืมอ้ายหงวนเสียสนิท” พูดพลางมองลงไปในทะเล “มายก๊อด...
ขัดใต้ท้องเรือตายเสียแล้วก็ไม่รู้”

ทุกคนต่างแสดงท่าทีห่วงใยกิมหงวนและช่วยกันค้นหา ร.ต. หญิงไฉไล
กล่าวกับนิกรว่า

“หนูจะลงไปตามอาเสี่ยนะคะ บางทีอาจจะเป็นตะคริวว่ายนำ้าไม่ไหวนั่งอยู่
ก้นทะเลก็ได้ แต่อ๊อกซิเจนใช้หายใจได้สองชั่วโมงค่ะ”

นิกรยิ้มให้หล่อน
“อย่าลงไปเลยครับ อ้ายหงวนตายดีกว่าคุณตาย มันคงพยายามช่วยตัวเอง
ได้”

สักครู่หนึ่งอาเสี่ยก็โผล่ขึ้นมาบนผิวนำ้า ใครต่อใครต่างถอนหายใจโล่งอกไป
ตามกัน กิมหงวนร้องตะโกนขึนด้วยสีหน้าตื่นเต้น
                               ้

“คุณระรินหายไปไหนก็ไม่รู้ หาไม่พบโว้ย”

ดร. ดิเรกชี้มือไปที่แฟนของเขา

“อยู่นี่โว้ย”

อาเสี่ยถอนหายใจโล่งอก ว่ายนำ้าเข้ามาหาเรือรบ เจ้าแห้วรีบลงบันไดไป
ช่วยเหลือ พาเสี่ยหงวนขึ้นมาบนดาดฟ้า ทุกคนหัวเราะคิกคักไปตามกัน

เป็นอันว่า ดร. ดิเรกตกลงรับนายทหารหญิงทั้ง ๔ คนเป็นมนุษย์กบประจำา
ร.ล. หนุมานแล้ว น.ท. หยด เฉลิมเกียรติ ร.น. สั่งให้ทัพเรือทำารายงานด่วน
เสนอท่านผู้บัญชาการกองเรือยุทธการทันที

มนุษย์กบ ๔ สาวได้พักอยู่ห้องติด ๆ กับคณะพรรคสี่สหายของเรานั่นเอง
ซึ่งก่อนเที่ยงวันนั้น ผู้บังคับการเรือปราบเรือดำานำ้า “หนุมาน” ได้เรียกประชุม
ทหารเรือทุกคนบนดาดฟ้าแล้วแจ้งให้ทราบว่า เพื่อให้การปราบเรือดำานำ้า
ปรมาณูของคอมมิวนิสต์เป็นไปอย่างรวดเร็ว กองทัพเรือจึงส่งมนุษย์กบนาย
ทหารหญิงทั้ง ๔ คนมาประจำาเรือลำานี้

ในที่สุดผู้บังคับการก็กล่าวขึ้นด้วยเสียงหนักแน่นว่า

“ทหารทุกคนต้องอยู่ในระเบียบวินัยอันดีงาม อย่ารุ่มร่ามหรือกระทำาสิ่งหนึ่ง
สิ่งใดอันเป็นการแสดงออกของอารมณ์ทางเพศต่อนายทหารหญิงทั้ง ๔ คน
นี้เป็นอันขาด ข้าพเจ้าขอกำาหนดโทษไว้ดังนี้คือ พูดเกาะแกะหรือพูดเกี้ยว
ติดตะราง ๑๐ วัน ไม่แสดงความเคารพหรือขาดความเคารพ ๑๐ วัน แอบ
มองตามห้องนำ้าหนึ่งเดือน จับมือถือแขนสองเดือน เข้าหาหรือใช้กำาลังกาย
ปลุกปลำ้ายิงเป้า พวกท่านเป็นทหารต้องทำาใจให้หนักแน่นอดทน อย่าคิด
อะไรให้ฟุ้งซ่าน อย่าลืมว่าผู้หญิงสาวทั้ง ๔ คนที่มาอยู่เรือลำาเดียวกับเรานั้น
มีหน้าที่รายการสำาคัญ และทุกคนเป็นนายทหารสัญญาบัตร

“อนึ่ง ห้ามมิให้ทหารคนใดเข้าไปในห้องนายทหารหญิงเป็นอันขาดไม่ว่า
กรณีใด ๆ ข้าพเจ้าขอร้องให้ทุกคนยึดมั่นในวินัยทหาร และขอเลิกการ
ประชุมแต่เพียงเท่านี้”
ล่าพรายทะเล
ล่าพรายทะเล
ล่าพรายทะเล
ล่าพรายทะเล
ล่าพรายทะเล
ล่าพรายทะเล
ล่าพรายทะเล
ล่าพรายทะเล
ล่าพรายทะเล
ล่าพรายทะเล
ล่าพรายทะเล
ล่าพรายทะเล
ล่าพรายทะเล
ล่าพรายทะเล
ล่าพรายทะเล
ล่าพรายทะเล
ล่าพรายทะเล
ล่าพรายทะเล

Contenu connexe

En vedette

สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑tommy
 
แนวความคิดทางเศรษฐศาสตร์ ปรีดี
แนวความคิดทางเศรษฐศาสตร์ ปรีดีแนวความคิดทางเศรษฐศาสตร์ ปรีดี
แนวความคิดทางเศรษฐศาสตร์ ปรีดีtommy
 
นางแมวผี
นางแมวผีนางแมวผี
นางแมวผีtommy
 
โลกพระศรีอารย
โลกพระศรีอารยโลกพระศรีอารย
โลกพระศรีอารยtommy
 
ประกาศเปลี่ยนธรรมเนียมใหม่
ประกาศเปลี่ยนธรรมเนียมใหม่ประกาศเปลี่ยนธรรมเนียมใหม่
ประกาศเปลี่ยนธรรมเนียมใหม่tommy
 
ประชาธิปไตย
ประชาธิปไตยประชาธิปไตย
ประชาธิปไตยtommy
 
Rongse
RongseRongse
Rongsetommy
 
ประชุมพงศาวดา
ประชุมพงศาวดาประชุมพงศาวดา
ประชุมพงศาวดาtommy
 
ไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมรไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมรtommy
 
ตำราพิชัยสงครามซุนวู
ตำราพิชัยสงครามซุนวูตำราพิชัยสงครามซุนวู
ตำราพิชัยสงครามซุนวูPor Waragorn
 
ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู
ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวูตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู
ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวูSarod Paichayonrittha
 
ตำราพรหมชาติ ฉบับสมบูรณ์
ตำราพรหมชาติ ฉบับสมบูรณ์ตำราพรหมชาติ ฉบับสมบูรณ์
ตำราพรหมชาติ ฉบับสมบูรณ์sornblog2u
 
สอนการดูลายมือด้วยตัวเอง
สอนการดูลายมือด้วยตัวเองสอนการดูลายมือด้วยตัวเอง
สอนการดูลายมือด้วยตัวเองSaravut Tamavong
 
โหงวเฮ้งกับงาน HR
โหงวเฮ้งกับงาน HRโหงวเฮ้งกับงาน HR
โหงวเฮ้งกับงาน HRAek Samroeng
 
36 กลศึก
36 กลศึก36 กลศึก
36 กลศึกtommy
 
สามเกลอ ตอนสู่อนาคต
สามเกลอ ตอนสู่อนาคตสามเกลอ ตอนสู่อนาคต
สามเกลอ ตอนสู่อนาคตtommy
 

En vedette (16)

สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
 
แนวความคิดทางเศรษฐศาสตร์ ปรีดี
แนวความคิดทางเศรษฐศาสตร์ ปรีดีแนวความคิดทางเศรษฐศาสตร์ ปรีดี
แนวความคิดทางเศรษฐศาสตร์ ปรีดี
 
นางแมวผี
นางแมวผีนางแมวผี
นางแมวผี
 
โลกพระศรีอารย
โลกพระศรีอารยโลกพระศรีอารย
โลกพระศรีอารย
 
ประกาศเปลี่ยนธรรมเนียมใหม่
ประกาศเปลี่ยนธรรมเนียมใหม่ประกาศเปลี่ยนธรรมเนียมใหม่
ประกาศเปลี่ยนธรรมเนียมใหม่
 
ประชาธิปไตย
ประชาธิปไตยประชาธิปไตย
ประชาธิปไตย
 
Rongse
RongseRongse
Rongse
 
ประชุมพงศาวดา
ประชุมพงศาวดาประชุมพงศาวดา
ประชุมพงศาวดา
 
ไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมรไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมร
 
ตำราพิชัยสงครามซุนวู
ตำราพิชัยสงครามซุนวูตำราพิชัยสงครามซุนวู
ตำราพิชัยสงครามซุนวู
 
ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู
ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวูตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู
ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู
 
ตำราพรหมชาติ ฉบับสมบูรณ์
ตำราพรหมชาติ ฉบับสมบูรณ์ตำราพรหมชาติ ฉบับสมบูรณ์
ตำราพรหมชาติ ฉบับสมบูรณ์
 
สอนการดูลายมือด้วยตัวเอง
สอนการดูลายมือด้วยตัวเองสอนการดูลายมือด้วยตัวเอง
สอนการดูลายมือด้วยตัวเอง
 
โหงวเฮ้งกับงาน HR
โหงวเฮ้งกับงาน HRโหงวเฮ้งกับงาน HR
โหงวเฮ้งกับงาน HR
 
36 กลศึก
36 กลศึก36 กลศึก
36 กลศึก
 
สามเกลอ ตอนสู่อนาคต
สามเกลอ ตอนสู่อนาคตสามเกลอ ตอนสู่อนาคต
สามเกลอ ตอนสู่อนาคต
 

Plus de tommy

อันตรายจากอาหารมื้อเย็น
อันตรายจากอาหารมื้อเย็นอันตรายจากอาหารมื้อเย็น
อันตรายจากอาหารมื้อเย็นtommy
 
ศักดินาไทย
ศักดินาไทยศักดินาไทย
ศักดินาไทยtommy
 
แบบทดสอบสมาธิ
แบบทดสอบสมาธิแบบทดสอบสมาธิ
แบบทดสอบสมาธิtommy
 
พจนานุกรมฉบับคึกฤทธิ์
พจนานุกรมฉบับคึกฤทธิ์พจนานุกรมฉบับคึกฤทธิ์
พจนานุกรมฉบับคึกฤทธิ์tommy
 
การเมืองของประชาชน กุหลาบ
การเมืองของประชาชน กุหลาบการเมืองของประชาชน กุหลาบ
การเมืองของประชาชน กุหลาบtommy
 
สี่แผ่นดิน
สี่แผ่นดินสี่แผ่นดิน
สี่แผ่นดินtommy
 
Samkok01
Samkok01Samkok01
Samkok01tommy
 
เย้ยพระยม
เย้ยพระยมเย้ยพระยม
เย้ยพระยมtommy
 
ผีตายซาก
ผีตายซากผีตายซาก
ผีตายซากtommy
 
สมบัติปิศาจ
สมบัติปิศาจสมบัติปิศาจ
สมบัติปิศาจtommy
 
หมู่บ้านผีดิบ
หมู่บ้านผีดิบหมู่บ้านผีดิบ
หมู่บ้านผีดิบtommy
 
เจ้าพ่อเชย
เจ้าพ่อเชยเจ้าพ่อเชย
เจ้าพ่อเชยtommy
 
บ้านผีสิง
บ้านผีสิงบ้านผีสิง
บ้านผีสิงtommy
 
36 กลยุทธิ์ชนะศึก
36 กลยุทธิ์ชนะศึก36 กลยุทธิ์ชนะศึก
36 กลยุทธิ์ชนะศึกtommy
 
ตั้งฮั่น ตอนที่ 3
ตั้งฮั่น ตอนที่ 3ตั้งฮั่น ตอนที่ 3
ตั้งฮั่น ตอนที่ 3tommy
 

Plus de tommy (15)

อันตรายจากอาหารมื้อเย็น
อันตรายจากอาหารมื้อเย็นอันตรายจากอาหารมื้อเย็น
อันตรายจากอาหารมื้อเย็น
 
ศักดินาไทย
ศักดินาไทยศักดินาไทย
ศักดินาไทย
 
แบบทดสอบสมาธิ
แบบทดสอบสมาธิแบบทดสอบสมาธิ
แบบทดสอบสมาธิ
 
พจนานุกรมฉบับคึกฤทธิ์
พจนานุกรมฉบับคึกฤทธิ์พจนานุกรมฉบับคึกฤทธิ์
พจนานุกรมฉบับคึกฤทธิ์
 
การเมืองของประชาชน กุหลาบ
การเมืองของประชาชน กุหลาบการเมืองของประชาชน กุหลาบ
การเมืองของประชาชน กุหลาบ
 
สี่แผ่นดิน
สี่แผ่นดินสี่แผ่นดิน
สี่แผ่นดิน
 
Samkok01
Samkok01Samkok01
Samkok01
 
เย้ยพระยม
เย้ยพระยมเย้ยพระยม
เย้ยพระยม
 
ผีตายซาก
ผีตายซากผีตายซาก
ผีตายซาก
 
สมบัติปิศาจ
สมบัติปิศาจสมบัติปิศาจ
สมบัติปิศาจ
 
หมู่บ้านผีดิบ
หมู่บ้านผีดิบหมู่บ้านผีดิบ
หมู่บ้านผีดิบ
 
เจ้าพ่อเชย
เจ้าพ่อเชยเจ้าพ่อเชย
เจ้าพ่อเชย
 
บ้านผีสิง
บ้านผีสิงบ้านผีสิง
บ้านผีสิง
 
36 กลยุทธิ์ชนะศึก
36 กลยุทธิ์ชนะศึก36 กลยุทธิ์ชนะศึก
36 กลยุทธิ์ชนะศึก
 
ตั้งฮั่น ตอนที่ 3
ตั้งฮั่น ตอนที่ 3ตั้งฮั่น ตอนที่ 3
ตั้งฮั่น ตอนที่ 3
 

ล่าพรายทะเล

  • 1. ห้องสมุดหนังสือเก่า พล * นิกร * กิมหงวน ตอน ล่าพรายทะเล ร.ล. นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเรือสลุตแห่งราชนาวี ได้รับคำาสั่งให้ออกเดิน ทางจากฐานทัพเรือที่สัตหีบในเวลา ๑๙.๐๐ น. ของวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๐๓ เพื่อทำาการลาดตระเวนอ่าวไทยโดยเปลี่ยนเวรกับ ร.ล. ปิ่นเกล้า ทุกชั่วโมง ร.ล. นครศรีธรรมราชจะต้องรายงานทางวิทยุให้กองเรือยุทธการ ทราบ ซึ่งก็ไม่มีอะไร นอกจากบอกตำาแหน่งเรือ เหตุการณ์ปกติ ครั้นเวลา ๑๓.๐๐ น. ของวันเสาร์ที่ ๑๔ กองเรือยุทธการก็ไม่ได้รับข่าวจาก ร.ล. นครศรีธรรมราช จนกระทั่ง ๑๔.๐๐ น. ทางกองเรือยุทธการพยายาม วิทยุติดต่อก็ไม่สำาเร็จ จึงเข้าใจว่าเครื่องรับส่งวิทยุของ ร.ล. นครศรีธรรมราช คงจะขัดข้อง อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการก็มิได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ ดังนัน ้ พอฟ้าสาง เครื่องบินไอพ่นประจัญบานของฝูงบินนาวีรวม ๓ เครื่อง ก็ออก เดินทางไปค้นหา ร.ล. นครศรีธรรมราชทันที ซึ่งข่าวสุดท้ายของเรือสลุตลำา นี้ที่กองเรือยุทธการได้รับทางวิทยุโทรเลขในเวลา ๐๒.๐๐ น. แจ้งว่า ร.ล. นครศรีธรรมราชกำาลังผ่านจังหวัดจันทบุรี เหตุการณ์ปกติ ครั้นเวลา ๘.๐๐ น. กองทัพเรือก็ได้รับโทรเลขด่วนจากผู้ว่าราชการจังหวัด ตราด ปรากฏข้อความดังต่อไปนี้ เรียน ผู้บัญชาการทหารเรือ เรือยนต์ของชาวประมงจังหวัดตราดลำาหนึ่งได้ชวยทหารเรือรวม ๒๒ คนที่ ่ ลอยคออยู่ในทะเลไว้ได้เมื่อเวลา ๔ น. เศษวันนี้ ทหารเรือเหล่านี้เป็นทหาร ประจำา ร.ล. นครศรีธรรมราช และแจ้งว่าเรือถูกตอร์ปิโดจมอย่างกะทันหัน กระผมและเจ้าหน้าที่ตำารวจได้ให้ความช่วยเหลือทหารเรือทุกคนเป็นอย่างดี จะส่งรายงานละเอียดเรียนมาให้ทราบโดยเร็วที่สุด. ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ไม่มีปัญหาอะไรอีก ร.ล. นครศรีธรรมราชถูกเรือดำานำ้าของฝ่ายแดงลอบ โจมตีด้วยตอร์ปิโดแน่นอน กรมสืบราชการลับของกระทรวงกลาโหมได้รับ รายงานจากหน่วยจารกรรมนอกประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมานี้เอง แจ้งว่า ฝ่ายศัตรูได้พยายามทุกประการที่จะให้คนไทยเชื่อว่า แสนยานุภาพของซี โตนั้นไม่มีความหมายอะไร กำาลังรบอันมหาศาลของฝ่ายคอมมิวนิสต์ ทั้ง ทางบก, เรือ, และอากาศ ย่อมเหนือกว่า หน่วยจารกรรมของเรายืนยันว่า กองเรือรบคอมมิวนิสต์จำานวนหนึ่งซึ่งประกอบด้วยเรือลาดตระเวนหนักลำา หนึ่ง เรือพิฆาต ๓ ลำา และเรือดำานำ้าแบบใหม่ใช้พลังงานปรมาณู มีฐานยิง จรวดใต้นำ้าอีกลำาหนึ่ง กำาลังเดินทางจากทะเลจีนบ่ายโฉมหน้ามายังอ่าว
  • 2. ไทย เพื่อขัดขวางการประลองยุทธทางเรือครั้งใหญ่ของกลุ่มประเทศภาคีซี โต้ในปลายเดือนพฤษภาคมนี้ด้วยแผนการณ์อันลี้ลับลึกซึ้ง ซึ่งจะทำาให้การ ประลองยุทธต้องเลิกล้มไปหรือเลื่อนเวลาออกไปโดยไม่มีกำาหนด เมื่อได้รับโทรเลขด่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ท่านแม่ทัพเรือก็รุดเข้า พบท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุดทันที ตอนสายวันนันเอง หมวดเรือตอร์ปิโดและหมู่เรือปราบเรือดำานำ้าก็ได้รับคำาสั่ง ้ ด่วนให้ออกเดินทางจากฐานทัพสัตหีบ ทำาการล่าเรือดำานำ้าของฝ่ายแดง ทันที ทางราชการทหารไม่มีความจำาเป็นอันใดที่จะต้องปิดข่าว ร.ล. นครศรีธรรมราชถูกเรือดำานำ้าคอมมิวนิสต์ลอบยิงด้วยตอร์ปิโดถึงกับจม ลงภายในเวลาไม่ถึง ๕ นาที กองบัญชาการทหารสูงสุดจึงออกคำาแถลง การณ์แจกจ่ายไปยังวิทยุและโทรทัศน์ทุกแห่ง นอกจากนี้ยังเชิญผู้แทน หนังสือพิมพ์ทุกฉบับมาพบ เพื่อแจ้งข่าวร้ายของ ร.ล. นครศรีธรรมราชให้ ทราบ วันจันทร์ที่ ๑๖ พฤษภาคม เวลา ๑๓.๐๐ น. เศษ เรือสินค้าสัญชาติอังกฤษ ลำาหนึ่งซึ่งเดินทางมาจากฮ่องกงได้ถูกเรือดำานำ้าของฝ่ายแดงโจมตีด้วย ตอร์ปิโดในทะเลหลวงนอกน่านนำ้าไทยทางแหลมเขมร เรือสินค้าลำานี้ชื่อ “ ดัมพรีส” ระวาง ๕,๐๐๐ ตัน บรรทุกสินค้าต่าง ๆ จากฮ่องกงมากรุงเทพ ฯ เมื่อถูกตอร์ปิโดกัปตันได้ส่งวิทยุ เอส.โอ.เอส. ขอความช่วยเหลือ ร.ล. ท่าจีน ซึ่งลาดตระเวนอยู่ระหว่างด้านนอกของเขตน่านนำ้าไทยได้รีบรุดไปช่วย เหลือตามตำาแหน่งที่ได้รับทราบทางวิทยุ แต่เมื่อไปถึง เรือ “ดัมพรีส” ได้จม ลงสู่ก้นทะเลแล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้บังคับการ ร.ล. ท่าจีนกับทหารประจำาเรือก็ได้ช่วยลูกเรือและ ผู้โดยสารไว้เกือบ ๕๐ คน บ้างก็อยู่ในเรือบต บ้างก็อยู่ในเรือยาง ต่อมาวันอังคารที่ ๑๘ พฤษภาคม เวลา ๑๖.๐๐ น. เรือปราบเรือดำานำ้าของ ราชนาวีชื่อ ร.ล. หนุมานได้พบเรือดำานำ้าปรมาณูขนาดยักษ์ของข้าศึกโผล่ ออกมาจากหลังเกาะช้างในเขตจังหวัดตราด ซึ่งเป็นเกาะสำาคัญที่กองทัพ เรือได้บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของราชนาวีไทย อันเนื่องมาจากเรือลาด ตระเวนลาม็อตปิเก้ของกองทัพเรือฝรั่งเศสได้ปะทะกับ ร.ล. ธนบุรีของเราที่ หน้าเกาะช้างนี้ในกรณีพิพาทระหว่างไทยกับอินโดจีน เรือปราบเรือดำานำ้าของเราอยู่ห่างจากเรือดำานำ้าข้าศึกประมาณ ๓ ไมล์ จึงได้ ใช้ปืนใหญ่ระดมยิงเรือดำานำ้า และวิทยุติดต่อกับฝูงบินน้อยที่จังหวัดจันทบุรี ให้ส่งเครื่องบินมาช่วย กระสุนปืนใหญ่ตกใกล้เคียงกับเรือดำานำ้าปรมาณูของข้าศึกหลายนัด แต่เรือ ดำานำ้าปรมาณูได้ดำานำ้าหลบหนีไปได้ เรือปราบเรือดำานำ้าแห่งราชนาวี พยายามค้นหาตำาแหน่งเรือดำานำ้าจากเครื่องฟังเสียงก็ไม่พบ หลังจากนั้น
  • 3. ไอพ่นประจัญบานจากฝูงบินจันทบุรีก็เดินทางมาถึงเกาะช้าง เข้าร่วมมือกับ เรือรบทั้งสองลำาค้นหาเรือดำานำ้าข้าศึกเกือบชั่วโมงจึงกลับไป วิทยุและหนังสือพิมพ์ทั่วโลกต่างกระจายข่าวสำาคัญนี้ เรือรบแห่งราชนาวี ไทยได้เคลื่อนที่ออกจากฐานทัพกระจายกำาลังกันไปทั่วอ่าวไทยทั่งฝั่งตะวัน ออกและฝั่งตะวันตก ฝูงบินแห่งกองบินน้อยประจวบคีรีขันธ์และจันทบุรีเข้า ร่วมปฏิบัติงานกับกองทัพเรือด้วย เพื่อขับไล่เรือรบข้าศึกและล่าเรือดำานำ้า ลึกลับลำานั้น อย่างไรก็ตาม ไม่ปรากฏว่ามีเรือรบข้าศึกล่วงลำ้าเข้ามาในน่านนำ้าไทยเลย นักบินได้พบหมู่เรือรบข้าศึกในทะเลหลวงทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งทะเลหลวงนั้นคือน่านนำ้าที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของครอบ ครอง และทุกชาติย่อมมีสิทธิ์ที่จะใช้ทะเลหลวงได้ ส่วนอ่าวไทยหรือน่านนำ้า ของไทยนั้นมีเขตลากเส้นตรงจากนราธิวาสถึงจังหวัดตราดตามแผนที่ แต่ ถึงกระนั้นก็มีเนื้อที่ใหญ่โตกว้างขวางมาก เรือดำานำ้าปรมาณูของข้าศึกจึง ลอบเข้ามาทำางานได้โดยมีเรือรบที่อยู่นอกเขตน่านนำ้าไทยทำาหน้าที่เป็นพี่ เลี้ยง. บ่ายวันนัน... ้ ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ เรือยนต์ประจำา ร.ล. หนุมานซึ่งเป็นเรือปราบเรือดำานำ้า กำาลังแล่นออกจากชายฝั่งมุ่งตรงไปยังหมู่เรือปราบเรือดำานำ้าสามสี่ลำา ซึ่ง จอดอยู่ในอ่าวบริเวณฐานทัพเรืออันกว้างใหญ่ แวดล้อมด้วยเกาะเล็กเกาะ น้อย อันเป็นธรรมชาติที่สวยสดงดงามตายิ่ง เรือยนต์ลำานี้ขับโดยจ่าเอกคนหนึ่ง มีพลทหารเรือสองคน มีผู้โดยสาร ๕ คน คือ พล, นิกร, กิมหงวน ดร. ดิเรกและเจ้าคุณปัจจนึก ฯ ซึ่งทั้ง ๕ คนนี้แต่ง เครื่องแบบชุดสีดำา สวมหมวกบาเร่ต์ ติดตราเครื่องหมาย ๓ ทัพ แต่ไม่ได้ ติดเครื่องหมายยศ คณะพรรคสี่สหายเดินทางมาประจำา ร.ล. หนุมานในฐานะผู้เชี่ยวชาญ สรรพาวุธและนักวิทยาศาสตร์แห่งกองทัพไทย ทั้งนี้ตามคำาสั่งของกอง บัญชาการทหารสูงสุดเกี่ยวกับการปราบเรือดำานำ้าปรมาณูของข้าศึกซึ่งขณะ นี้ยังป้วนเปี้ยนอยู่ในอ่าวไทย ปรากฏว่าเรือหาปลาหลายลำาได้พบเห็นเรือดำา นำ้ามหึมาลำานี้ ซึ่งชาวเรือให้สมญามันว่า “พรายทะเล” และขณะนี้กองทัพ เรือของเรากำาลังติดตามค้นหาทั่วบริเวณอ่าวไทย เพื่อทำาลายมันให้ได้ เมื่อเรือยนต์ลำานั้นแล่นเข้ามาใกล้หมู่เรือปราบเรือดำานำ้า ความเร็วของเรือก็ ลดลงตามลำาดับ จ่าเอกซึ่งทำาหน้าที่บังคับเรือยนต์ลำานี้ได้นำาเรือตรงเข้าไป ยัง ร.ล. หนุมาน ซึ่งในเวลาเดียวกันนี้เอง พล ร.ต. วิชาญ ชัยประสิทธิ์ ร.น. ผู้
  • 4. บังคับหมู่เรือปราบเรือดำานำ้าและ น.ท. หยด เฉลิมเกียรติ ร.น. ผู้บังคับการ ร.ล. หนุมาน ได้เตรียมการต้อนรับ ด.ร. ดิเรกกับคณะอย่างแข็งแรง นาย ทหารประจำาเรือหลายคนยืนรวมกลุ่มอยู่เบื้องหลังผู้บังคับการและผู้บังคับ หมู่ของเขา เรือยนต์ลำานั้นแล่นมาเทียบกราบขวา ร.ล. หนุมานอย่างแช่มช้า พลทหาร เรือสองคนช่วยกันยึดเรือไว้ ดร. ดิเรกพาสามสหายกับเจ้าคุณปัจจนึก ฯ เดิน ขึ้นบันได ร.ล. หนุมานในท่าทางกระฉับกระเฉง ทันใดนั้นเอง พล ร.ต. วิชาญ ก็พาผู้บังคับการเรือเข้ามาต้อนรับ ซึ่งท่านนายพลเรือได้รู้จักคุ้นเคยกับ ดร. ดิเรกมาเป็นอย่างดี เพราะนายแพทย์หนุ่มเป็นผู้สร้างเครื่องฟังเสียงแบบ ใหม่ “ดิเรกไฮโดรโฟนิค” ให้แก่กองทัพเรือและเขาเป็นผู้ฝึกสอนวิธีใช้แก่ พวกทหารเรือทั้งหลาย นอกจากนี้ ดร. ดิเรกยังได้มีการติดต่อกับกองทัพเรือ อยู่เสมอ คณะพรรคสี่สหายกับเจ้าคุณปัจจนึก ฯ และท่านนายพลเรือต่างยกมือวัน ทยาหัตถ์พร้อม ๆ กัน ดร. ดิเรกยื่นมือให้พล ร.ต. วิชาญจับด้วยสันถวไมตรี อันสนิทสนม “สบายดีหรือครับ อาจารย์” ดร. ดิเรกสั่นศีรษะ “ไม่สบายหรอกครับท่าน กินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวันแล้ว เกี่ยวกับเรือ ดำานำ้าปรมาณูของข้าศึก ผมไม่เข้าใจเลยที่เครื่องไฮโดรโฟนิคใช้ทำางานไม่ ได้ผล” ท่านนายพลเรือยิ้มเล็กน้อย และแนะนำา นท. หยด เฉลิมเกียรติ ร.น. ให้รู้จัก กับ ดร. ดิเรก ณรงค์ฤทธิ์ ซึ่งนายทหารแห่งราชนาวีผู้นได้เรียนเพิ่มเติมที่ ี้ ประเทศอังกฤษ ๓ ปี เพิ่งกลับมาเมืองไทยเมื่อเร็ว ๆ นี้จึงไม่รู้จักกับนาย แพทย์หนุ่ม แต่ก็ได้ยนชื่อเสียงของ ดร. ดิเรกมานานแล้ว ในฐานที่เป็นนาย ิ แพทย์ผู้ยิ่งใหญ่ และเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้ยอดเยี่ยมของโลกคนหนึ่ง ซึ่งนัก วิทยาศาสตร์ทั่วโลกยกย่องชมเชยเขามาก ดร. ดิเรกกับผู้บังคับการ ร.ล. หนุมานได้ทักทายกันเป็นอย่างดี แล้วนาย แพทย์หนุ่มก็หันมาทางคณะของเขาแนะนำาให้รู้จักกับ พล ร.ต. วิชาญและ น.ท. หยด นิกรมีความข้องใจอย่างยิ่งเมื่อ ดร. ดิเรกบอกเขาว่า ท่านนายพลเรือผู้นี้เป็น ผู้บังคับหมู่เรือปราบเรือดำานำ้า ทั้งสองฝ่ายสนทนากันสักครู่ นิกรก็ถือโอกาส ถามท่านนายพลเรือ
  • 5. “ท่านครับ ประทานโทษเถอะครับ ผมอยากจะเรียนถามอะไรสักหน่อย ท่าน มียศเป็นพลเรือตรี ไหงมีตำาแหน่งเล็กนิดเดียว เป็นแต่ผู้หมู่เท่านั้น อย่าง น้อยก็ควรจะเป็นผู้บัญชาการซีครับ” พล ร.ต. วิชาญยิ้มให้นิกร “ตำาแหน่งของราชนาวีไม่เหมือนกับทหารบกครับคุณนิกร ทหารบกเป็นสิบ ตรี สิบโทหรือสิบเอก ก็มีตำาแหน่งเป็นผู้บังคับหมู่ แต่ว่าอำานาจหน้าที่ของ เขาก็คือปกครองบังคับบัญชาทหารในหมู่ของเขาเพียงหมู่เดียวซึ่งมีไม่กี่ คน” “แล้วทหารเรือล่ะครับ” นิกรถามอย่างสนใจ “ทหารเรือหรือครับ คำาว่าผู้บังคับหมู่ก็หมายความว่า เป็นผู้บังคับบัญชารับ ผิดชอบเรือรบหมู่หนึ่ง อย่างผมอย่างงี้ ผมเป็นผู้บังคับหมู่เรือปราบเรือดำานำ้า ผมต้องควบคุมบังคับบัญชาเรือปราบเรือดำานำ้าถึง ๔ ลำา” “โอ้โฮ” นิกรร้องขึ้นดัง ๆ “ตำาแหน่งนีไม่ใช่ตำาแหน่งเล็ก ๆ นี่ครับ แล้วผู้ ้ บังคับหมวดล่ะครับ” “ผู้บังคับหมวดก็คือเจ้านายของผม พลเรือโทประมาณ สุรพลครับ กำาลัง เรือรบสองหมู่เป็นหนึ่งหมวด ฉะนั้นสำาหรับตำาแหน่งของทางทหารเรือแล้ว ผู้ที่เป็นผู้บังคับหมวดเรือต่าง ๆ ก็ต้องเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่และเป็นคน สำาคัญในราชนาวี” กิมหงวนพูดเสริมขึ้น “ถ้ายังงันผู้บังคับการก็เป็นลูกน้องผู้บังคับหมู่น่ะซีครับ” ้ น.ท. หยดยิ้มให้เสี่ยหงวน “ถูกแล้วครับ ผู้บังคับการเรือต้องอยู่ในบังคับบัญชาของผู้บังคับหมู่” “ว้า” อาเสี่ยคราง “ตรงกันข้ามกับทหารบกนี่ครับ ทหารบกถ้าเป็นผู้ บังคับการก็สั่งขังผู้บังคับหมวดหรือผู้บังคับหมู่อย่างสบาย” ผู้บังคับการ ร.ล. หนุมานหันไปพยักหน้าเรียกนายทหารประจำาเรือกลุ่มนั้นให้ เข้ามาหา แล้วเขาก็แนะนำาให้รู้จักกับคณะพรรคสี่สหายทีละคน คือ น.ต. สุภาพ ฤทธิไกร ร.น. ต้นเรือ ร.อ. สมยศ วงสุวรรณ ร.น. ต้นปืน ร.อ. ชาติ บุญ ประดับ ร.น. ด้นกล และ ร.อ. อนันต์ ราชวัลลภ ร.น. ต้นหน นอกจากนี้ก็มีนาย แพทย์ประจำาเรือ นายทหารพลาธิการ และนายทหารประจำาหน้าที่อื่นอีก หลายคน
  • 6. ทุกคนได้แสดงความยินดีต่อ ดร. ดิเรกกับคณะซึ่งถูกส่งมาประจำาเรือปราบ เรือดำานำ้าลำานี้ เพื่อร่วมมือกันล่าพรายทะเลหรือเรือดำานำ้าปรมาณูของข้าศึก ในที่สุดท่านนายพลผู้บังคับหมู่เรือได้กล่าวว่า “ผมสั่งให้ผู้บังคับการเขาจัดห้องพักไว้ให้อาจารย์กับคณะแล้วครับ และสั่ง ให้เขาเอาใจใส่เป็นพิเศษ ตามคำาสั่งของท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด” ดร. ดิเรกก้มศีรษะเล็กน้อย “ขอบคุณครับ เสื้อผ้าของพวกเราและเครื่องมือวิทยาศาสตร์ของผมจะมาถึง สนามบินสัตหีบในราว ๑๖.๐๐ น. วันนี้ พร้อมด้วยคนของผมอีกหนึ่งคน เมื่อ เครื่องมือของผมมาถึงเรียบร้อย ผมจะทำาการตรวจสอบเรด้าใต้นำ้าและเครื่อง ไฮโดรโฟนิคประจำาเรือลำานี้ทันที ผมไม่เข้าใจเลยที่เครื่องมือของผมค้นหา ตำาแหน่งเรือดำานำ้าของข้าศึกไม่พบ รายงานของท่านที่ผมได้อ่านราย ละเอียดจากกองบัญชาการทหารสูงสุดทำาให้ผมกลุ้ม ใจมาก ผมไม่เชื่อว่า เครื่องมือของผมไร้สมรรถภาพ แต่ผมคิดว่าเรือดำานำ้าปรมาณูลำานี้อาจจะมี เครื่องมือพิเศษบางอย่างที่บังคับเร ด้าใต้นำ้าและเครื่องฟังเสียงเรือดำานำ้า ของผมให้ทำางานไม่ได้ผล” พล ร.ต. วิชาญยิ้มเล็กน้อย “ทางกองทัพเรือก็เข้าใจอย่างนี้ครับ ท่านผู้บัญชาการทหารเรือถึงได้ รายงานไปทางกองบัญชาการทหารสูงสุดขอให้อาจารย์กับคณะมาร่วมงาน ล่าพรายทะเล เพราะถ้าอาจารย์ได้คุมเรด้าใต้นำ้าและเครื่องไฮโดรโฟนิคของ อาจารย์ด้วยตนเองแล้ว ถ้าเรือ “หนุมาน” พบเรือดำานำ้าปรมาณูเมื่อไรมันก็ ต้องตกเป็นเหยื่อทุ่นระเบิดนำ้าลึกของเราทันที” นายแพทย์หนุ่มยิ้มอย่างภาคภูมิ “ออไร้ ผมจะต้องล่าพรายทะเลให้ได้ด้วยเครื่องมือพิเศษของผมที่กำาลังเดิน ทางมา ไฮโดรโฟนิคแบบใหม่ของผมวิเศษจริง ๆ แม้แต่เสียงปลาขยับ เหงือกหรือทำาปากขมุบขมิบใต้นำ้าเราก็ได้ยินถนัด มันไม่มีทางที่จะหนีเราไป ได้ นอกจากนี้ผมยังนำาระเบิดปรมาณูขนาดจิ๋วมาด้วยซึ่งเป็นระเบิดเวลา ถ้า เรือดำานำ้าข้าศึกดำากบดานนิ่งเฉยอยู่ที่ใด และเรด้าใต้นำ้าจับตำาแหน่งได้ เราก็ จะส่งมนุษย์กบหรือประดานำ้าเอาระเบิดไปเกาะติดเรือมัน รับรองว่าตูมเดียว กลายเป็นเศษเหล็กชิ้นเล็กชิ้นน้อย” พวกนายทหารเรือทำาหน้าเลิ่กลั่กไปตามกัน ผู้บังคับการถาม ดร. ดิเรกว่า “ระเบิดปรมาณูขนาดจิ๋วของอาจารย์จะเกิดการระเบิดขึ้นเองเพราะถูกความ ร้อนหรือเหตุอื่น ๆ ได้ไหมครับ”
  • 7. ดร. ดิเรกลืมตาโพลง “โน – มือชั้นผมทำาอะไรต้องรอบคอบ มันจะระเบิดก็ต่อเมื่อเราติดหัวชนวน ระเบิดและตั้งเวลาให้มันระเบิด ตามธรรมดาเอาฆ้อนหรือขวานทุบก็ไม่ ระเบิด” น.ท. หยดยิ้มแห้ง ๆ “ถึงเช่นนั้นก็ไม่น่าทดลองเล่นนะครับ เรือ “หนุมาน” มีระวางเพียง ๑,๒๐๐ ตันเท่านั้น ระเบิดตูมเดียวก็คงไม่มีอะไรเหลือ” ท่านนายพลผู้บังคับหมู่เรือปราบเรือดำานำ้าพูดตัดบท “เชิญอาจารย์กับคณะไปที่ห้องพักเถอะครับ ประเดี๋ยวจะได้รับประทานนำ้าชา เวลาบ่าย เรื่องเสื้อผ้าและเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่กำาลังเดินทางมาโดย เครื่องบินพิเศษของกองทัพอากาศ ไม่จำาเป็นจะต้องห่วงครับ ผมจะส่ง ทหารไปรับที่สนามบินให้เรียบร้อย” ครั้นแล้ว พล ร.ต. วิชาญก็พาคณะพรรคสี่สหายกับเจ้าคุณปัจจนึก ฯ เดินลง บันไดไปใต้ท้องเรือ ผู้บังคับการกับคณะนายทหารประจำาเรือติดตามไปด้วย ก่อนคำ่าวันนั้นเอง กระเป๋าเสื้อผ้าของสี่สหายกับเจ้าคุณปัจจนึก ฯ พร้อมด้วย ลังไม้ฉำาฉาขนาดใหญ่สี่ลังซึ่งบรรจุเครื่องมือวิทยาศาสตร์อันมีค่ายิ่ง ก็ถูกส่ง มายัง ร.ล. หนุมาน โดยเจ้าแห้วติดตามมาด้วย ซึ่งเจ้าแห้วเป็นผู้ควบคุม สิ่งของเหล่านี้มาจากสนามบินดอนเมือง และกองทัพอากาศกับกองทัพเรือ ได้มีการติดต่อกันโดยทางวิทยุตลอดเวลา หลังจากอาหารคำ่าผ่านพ้นไปแล้ว ดร. ดิเรกได้ขลุกอยู่ในห้องสัญญาณ ตลอดเวลา น.ท. หยด เฉลิมเกียรติ ร.น. ผู้บังคับการเรือ และนายทหารหนุม ่ ซึ่งมียศเป็นเรือตรีร่วมปฏิบัติงานทดสอบสมรรถภาพเครื่องเร ด้าใต้นำ้าและ เครื่องไฮโดรโฟนิคสำาหรับฟังเสียงเรือดำานำ้าอย่างใกล้ชิด ส่วนพล, นิกร, กิม หงวน เจ้าคุณปัจจนึก ฯ และเจ้าแห้วพักผ่อนอยู่ในห้องพักซึ่งเป็นห้องแคบ ๆ มีเตียงนอนซ้อนกันสองแถว แถวละ ๓ เตียง และมีโต๊ะเก้าอี้อยู่ทางด้าน ริมช่องกระจก ถึงแม้เรือจอด ร.ล. หนุมานก็ติดไฟมีสตีมพอที่จะออกเรือได้ ภายในเรือมี ไฟฟ้าสว่างไสว ได้ยินเสียงเครื่องกำาเนิดไฟฟ้าครางกระหึ่มตลอดเวลา เรือรบทุกลำาในฐานทัพเรือสัตหีบอยู่ในสภาพเตรียมพร้อม มีนายทหารและ ทหารประจำาเรือครบถ้วน ดร. ดิ เรกได้สอบถามรายละเอียดจากผู้บังคับการเรือและเรือตรีหนุ่มเจ้า หน้าที่ประจำา เครื่องฟังเสียงเรือดำานำ้าอันเป็นประดิษฐกรรมของเขาอย่าง ละเอียดถี่ถ้วน นับตั้งแต่ ร.ล. หนุมานได้พบเรือดำานำ้าปรมาณูของข้าศึกลำานั้น
  • 8. ซึ่งโผล่ออกมาจากหลังเกาะช้าง เป็นการซักยิ่งกว่าทนายความซักพยาน เสียอีก น.ท. หยดและ ร.ต. พจน์ได้เล่าให้นายแพทย์หนุ่มฟังตามตรง ดร. ดิเรกใช้ความคิดอย่างหนักหน่วงในเรื่องนี้ ในที่สุดสีหน้าอันเคร่งเครียด ของเขาก็ยิ้มแย้มแจ่มใส นายแพทย์หนุ่มกล่าวขึ้นอย่างมั่นใจว่า “เครื่องฟังเสียงเรือดำานำ้าและเรด้าของผมไม่ได้เสื่อมคุณภาพเลย ผมพอจะรู้ แล้วว่าเรือดำานำ้าปรมาณูของพวกแดงมีวิธีหลบซ่อนตัวอย่างไร เครื่องมือ ของผมจึงค้นหามันไม่ได้ อ้า – ท่านผู้บังคับหมู่ ท่านอยู่ประจำาเรืออะไรนะ ผู้ การ” “ท่านอยู่ประจำาเรือพาลีครับ” “ผมจะไปพบท่านเดี๋ยวนี้ เพื่อเจรจากับท่านในเรื่องนี้ ผมต้องการมนุษย์กบที่ มีความสามารถพิเศษสักสี่ห้าคนและอยากจะได้โดยเร็วที่สุด ท่านนายพลผู้ บังคับหมู่เรือปราบเรือดำานำ้าคงจะหาให้ผมได้ไม่ใช่หรือครับ” “ได้ซิครับอาจารย์ ที่ฐานทัพเรือนี้มีมนุษย์กบที่ได้รับการฝึกฝนอย่างดีเลิศ มาแล้วมากมายทีเดียว อาจารย์จะไปพบผู้บังคับหมู่เดี๋ยวนี้หรือครับ” “ออไร้ ผมอยากไปพบท่านเร็วที่สุด บางทีพรุ่งนี้ผู้การจะต้องนำาเรือนี้เดิน ทางไปเกาะช้างเพื่อให้ผมได้ไปสำารวจตำาแหน่งที่เรือดำานำ้าดำาลงไป ผมกล้า เอาหัวผมเป็นประกัน ถ้าอ้ายพรายทะเลลำานี้ยังป้วนเปี้ยนอยู่ในอ่าวไทยละ ก้อ ผมจะต้องทำาลายมันให้ได้ กัปตันและพวกลูกเรือจะต้องเป็นผีเฝ้าอ่าว ไทยแน่ ๆ” ร.ต. พจน์ยิ้มให้ ดร. ดิเรกแล้วพูดเบา ๆ “ผมเชื่อมืออาจารย์ครับ” น.ท. หยดยกนาฬิกาข้อมือดูเวลาแล้วกล่าวกับนายแพทย์หนุ่ม “อาจารย์จะไปพบกับผู้บังคับหมู่ก็เชิญซิครับ ผมจะพาไป แต่จะต้องส่ง สัญญาณไฟไปเรียนถามท่านเสียก่อน ขึ้นไปบนดาดฟ้าเถอะครับ” ใน ๑๐ นาทีนั้นเอง ดร. ดิเรกกับ น.ท. หยดก็ลงเรือยนต์ประจำา ร.ล. หนุมาน มุ่งตรงไปยัง ร.ล. พาลี เรือปราบเรือดำานำ้าอีกลำาหนึ่งซึ่ง พล ร.ต. วิชาญ ชัย ประสิทธิ์ประจำาอยู่ที่เรือลำานั้น เมื่อได้พบกับท่านนายพลเรือ ดร. ดิเรกก็ได้ให้ความคิดเห็นอันเป็นสาระ ประโยชน์ยิ่ง ในที่สุดเขาก็ขอมนุษย์กบจำานวนหนึ่งสำาหรับทำางานปราบเรือ ดำานำ้าปรมาณูลำานี้ และขออนุมัติให้ น.ท. หยดนำาเรือ “หนุมาน” เดินทางไป เกาะช้าง ซึ่งท่านผู้บังคับหมู่ก็ไม่ขัดข้อง
  • 9. “ตกลงครับอาจารย์ พรุ่งนี้ตอนสายผมจะส่งมนุษย์กบสี่คนไปที่เรือ “หนุมาน” ส่วนการออกเรือผมจะสั่งทีหลัง” “ขอบคุณมากครับ สำาหรับมนุษย์กบต้องการทหารเรือที่มีร่างกายแข็งแรง จริง ๆ นะครับ ควรจะเลือกคนลำ่าสันหน้าอกใหญ่” “ได้ครับ ผมมีอยู่หลายคนหน้าอกเบ้อเริ่ม ๆ ทั้งนั้น อาจารย์เห็นต้องชอบแน่ สามารถปฏิบัติงานได้ดี ว่ายนำ้าคล่องเหมือนปลา แต่ละคนเฉลียวฉลาดและ กล้าหาญ ผ่านการฝึกมามากต่อมากแล้ว มีความทรหดอดทนที่สุด” “ออไร้ ออไร้ ผมจะใช้มนุษย์กบลงสำารวจใต้ทะเลบางแห่ง โดยร่วมงานกับผู้ ช่วยของผม ถ้าหากว่าเราพบเรือดำานำ้าปรมาณูลำานั้นกบดานอยู่ที่ใด ผมก็จะ ทำาลายมันเสียด้วยระเบิดปรมาณูขนาดจิ๋วของผม” ดร. ดิเรกได้สนทนากับท่านนายพลเรือเป็นเวลาชั่วโมงเศษ จึงชวน น.ท. หยดลาท่านผู้บังคับหมู่เรือปราบเรือดำานำ้ากลับ ร.ล. หนุมาน ตอนสายวันรุ่งขึ้น... ขณะที่สี่สหายกับท่านเจ้าคุณปัจจนึก ฯ นั่งพักผ่อนสนทนากันอยู่ในห้องพัก เจ้าแห้วก็กระหืดกระหอบเข้ามาในท่าทางตื่นเต้นผิดปกติ “รับประทาน...โอ้ย...รับประทานมาแล้วครับ” สี่สหายกับเจ้าคุณปัจจนึก ฯ ต่างมองดูเจ้าแห้วอย่างเคือง ๆ “ใครมาวะ” ท่านเจ้าคุณถาม เจ้าแห้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “รับประทาน มนุษย์กบน่ะซีครับ ผู้การใช้ให้ผมลงมาเชิญทุกคนขึ้นไปบน ดาดฟ้าครับ” พลหัวเราะหึ ๆ “แกจะบ้าหรือวะอ้ายแห้ว แกตื่นเต้นเสียราวกับว่ามนุษย์กบเป็นมนุษย์ อภินิหารหรือผู้วิเศษอะไรทำานองนั้น พูดเสียจนหายใจหายคอไม่ทัน ทั้ง ๆ ที่มนุษย์กบก็คือทหารเรือเราดี ๆ นีเอง” ่ เจ้าแห้วมีสีหน้าชุ่มชืนผิดปกติ ่
  • 10. “รับประทาน ทหารเรือถูกแล้วครับ แต่ว่าเป็นทหารเรือผู้หญิง” สี่สหายกับเจ้าคุณปัจจนึก ฯ สะดุ้งเฮือกพร้อม ๆ กัน “ทหารเรือผู้หญิง” กิมหงวนร้องตะโกนสุดเสียง “ครับ แล้วก็สวยเสียด้วยครับ รับประทานแต่ละคนจำ้ามำ่าทรวดทรงขนาดเจน รัสเซลหรือมารีลิน มอนโรทั้งนั้นแหละครับ” “กี่คนอ้ายแห้ว” นิกรถามเร็วปรื๊อ เจ้าแห้วยกมือขวาขึ้น โดยหดนิ้วหัวแม่มือเสีย “รับประทานสี่คนครับ” นิกรยิ้มแป้น “บึบบับเหมือนกันทุกคนหรือ” “ครับ แต่ละคนส่วนเว้าส่วนโค้งแน่ไปเลย รับประทานรีบขึ้นไปบนดาดฟ้า เถอะครับ ผมรับรองว่าพวกคุณเห็นแล้วต้องนำ้าลายหก” พลมองดู ดร. ดิเรกอย่างขบขัน “แกนึกยังไงขึ้นมาวะหมอ แกถึงขอมนุษย์กบผู้หญิงมาทำางาน” นายแพทย์หนุ่มสันศีรษะ ่ “โน – กันไม่ได้ระบุเพศ กันเพียงแต่บอกพลเรือตรีวิชาญว่ากันต้องการ มนุษย์กบสักสี่ห้าคน ท่านรับรองว่าจะส่งมาให้เช้าวันนี้ แล้วท่านก็ส่งกบตัว เมียมาให้” เจ้าคุณปัจจนึก ฯ พูดเสริมขึ้น “ท่ามันชักจะยุ่งละโว้ยดิเรก เป็นผู้หญิงยิงเรือจะมาอยู่ร่วมกับพวกทหารเรือ ลำานี้ได้อย่างไร ประเดี๋ยวเกิดอ้ายตาลยอดด้วนขึ้นจะเดือดร้อน” ดร. ดิเรกหัวเราะหึ ๆ “คงไม่เป็นไรครับ เพราะทหารมีวนัยเชื่อฟังคำาสั่งผู้บังคับบัญชา” ิ นิกรพูดขึ้นด้วยเสียงหัวเราะ
  • 11. “สนุกกันละวะพวกเรา อย่างน้อยก็คงจะทำาให้ทหารเรือทั้งลำาวุ่นวายไปตาม กัน เพราะทหารเรือล้วนแต่กำาลังแตกเนื้อหนุ่ม ไปโว้ยพวกเรา ขึนไปบน ้ ดาดฟ้าเถอะ อยากดูหน้ามนุษย์กบตัวเมียเต็มทนแล้ว เคยเห็นแต่มนุษย์กบ ตัวผู้ นุงกางเกงยืดลงนำ้ามองดูหาส่วนที่เจริญตาไม่ได้เลย กล้ามเนื้อขึ้นเป็น ่ มัด ๆ ขนจั๊กแร้ยาวเฟื้อย บางคนไว้หนวดซะด้วย” เสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างครื้นเครง ทุกคนต่างลุกขึ้นพากันออกไปจากห้อง พัก บนดาดฟ้าตอนหัวเรือ ร.ล. หนุมาน น.ท. หยดผู้บังคับการเรือพร้อมด้วยนาย ทหารประจำาเรือที่มีตำาแหน่งสำาคัญอีก ๔ คน คือต้นเรือ ต้นหน ต้นปืน และ ต้นกล กำาลังยืนจับกลุ่มสนทนากับหญิงสาวร่างอวบอัดทั้ง ๔ คน ซึ่งเป็น มนุษย์กบชั้นดีแห่งกองพันมนุษย์กบของราชนาวี ซึ่งสาวสวยทั้ง ๔ คนนี้อยู่ ในชุดอาบนำ้าสีกรมท่าแนบแน่นสนิทเนื้อ แลเห็นส่วนโค้งส่วนเว้าและส่วน นูนยั่วยวนตาน่าพิสมัย บนพืนดาดฟ้าเรือมีกระเป๋าเสื้อผ้าขนาดใหญ่รวม ๔ ้ กระเป๋า รองเท้ายางแบบเท้ากบ ๔ คู่ หมวกยางสวมศีรษะ ๔ ใบ แว่นตากัน นำ้า ๔ คู่ ท่อ อ๊อกซิเจนท่อคู่ขนาดเล็กอีก ๔ เส้น ของเหล่านี้ทหารประจำาเรือยนต์ ของกองเรือยุทธการได้ช่วยขนจากเรือยนต์ขึ้นมาบนเรือปราบเรือดำานำ้าลำานี้ เมื่อ ดร. ดิเรกพาคณะพรรคของเขา พร้อมด้วยเจ้าแห้วเดินเข้ามาหยุดยืน รวมกลุ่มกับพวกทหารเรือ น.ท. หยด เฉลิมเกียรติ ร.น. ผู้บังคับการ ร.ล. หนุมานก็แนะนำาให้มนุษย์กบ หรือกบสาว ๆ ทั้ง ๔ ตัวให้รู้จักกับคณะพรรคสี่สหายโดยทั่วหน้ากัน สี่สาว ต่างชิดเท้าตรงกับศีรษะกระทำาความเคารพ ซึ่งสี่สหายกับเจ้าคุณปัจจนึก ฯ ก็กระทำาความเคารพตอบแบบเดียวกัน ผู้บังคับการเรือได้ระบุชื่อมนุษย์กบให้สี่สหายทราบเป็นคน ๆ ไป “คุณคนนี้ เรือตรีหญิงบุปผา บุนนาคครับ ถัดไปเรือตรีหญิงไฉไล วีรเดช แล้วก็เรือตรีหญิงวันทนีย์ เมษาคม ทางขวานั่นเรือตรีหญิงระริน ชูประยูร ครับ” ดร. ดิเรกก้มศีรษะเล็กน้อย เขารู้สึกพอใจ ร.ต. หญิงระริน ชูประยูร ร.น. มากกว่าคนอื่น เขากล่าวกับหล่อนว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ทางราชการส่งพวกคุณมาร่วมงานสำาคัญกับ พวกเราในเรือลำานี้” ระรินยิ้มอ่อนหวาน
  • 12. “ขอบคุณค่ะอาจารย์ หนูกับเพื่อน ๆ จะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุดตามที่ ได้ให้คำามันสัญญากับท่านผู้บังคับกองพันมนุษย์กบไว้แล้ว” ่ อาเสี่ยทำาท่าเจ้าชู้ประตูดิน กล่าวถามนายเรือสาวผู้มีนามว่าวันทนีย์ว่า “กองพันนี้มีแต่กบตัวเมียทั้งนั้นหรือครับ” วันทนีย์หัวเราะคิก “กบตัวผู้ก็มีเหมือนกันค่ะ” เสียงผู้บังคับการเรือร้องตวาดทหารประจำา ร.ล. หนุมานด้วยเสียงอันดัง “เฮ้ย – อยากติดตะรางหรือยังไงวะ บอกว่าไม่ให้แอบดูยังจะแอบดูอีก ประเดี๋ยวพ่อเอาขึ้นศาลทหารเสียเลยในฐานขัดคำาสั่ง รู้ไหมว่าขณะนี้อยู่ใน ระหว่างกฎอัยการศึก” พวกทหารเรือซึ่งแอบดูมนุษย์กบสาวต่างแตกฮือวิ่งหนีกันไปคนละทิศละ ทาง น.ท. หยดซ่อนยิ้มไว้ในหน้า เขายกซองคำาสั่งราชการชูให้คณะพรรคสี่ สหายดู แล้วกล่าวกลับนายแพทย์หนุ่มอย่างนอบน้อม “ท่านผู้บัญชาการกองเรือยุทธการได้มีหนังสือนำาส่งตัวนายทหารเรือหญิง ทั้ง ๔ คนมาถึงผมครับ และสั่งมาว่า เท่าที่ให้มนุษย์กบแต่งชุดอาบนำ้านำาคำา สั่งมารายงานตัวเช่นนี้ ก็เพราะต้องการให้อาจารย์ได้ทดสอบความสามารถ ของกบสาวทั้ง ๔ คนนี้ ซึ่งทุกคนพร้อมแล้วที่จะแสดงการดำานำ้าและปฏิบัติ การใต้นำ้าให้ดู เชิญสิครับ เชิญอาจารย์ทดลองได้ หากไม่พอใจก็ส่งตัวคืน ไป กองทัพเรือจะส่งมาให้คัดเลือกอีก ทั้งนี้ก็เพราะว่างานปราบเรือดำานำ้า ปรมาณูนี้เป็นงานสำาคัญยิ่ง” กิมหงวนกระซิบกระซาบบอกผู้บังคับการทันที “ผู้การครับ มีทหารเรือคนหนึ่งโผล่หัวออกมาจากปล่องช่องลมครับ” น.ท. หยดหันขวับไปทางซ้ายมือ เขาแลเห็นลูกน้องของเขาคนหนึ่งโผล่ ศีรษะออกมาจากช่องลมนั้นและอ้าปากหวอมองดูนายทหารหญิงทั้งสี่ ซึ่ง อยู่ในชุดอาบนำ้าแนบสนิทเนื้อยั่วยวนตา “เฮ้ย” ผู้บังคับการตะโกนสุดเสียง พลทหารหนุ่มสะดุ้งเฮือกสุดตัว รีบหลบหน้าลงไปในปล่องนั้น ร.ต. หญิงระ รินกล่าวกับ น.ท. หยดด้วยความหนักใจ
  • 13. “ผู้การต้องคุ้มครองหนูนะคะ รู้สึกว่าทหารเรือลำานี้เป็นนักถำ้ามองไม่ใคร่จะมี วินัยเลย” น.ท. หยดยิ้มแห้ง ๆ “ผมรับรอง คุณระริน ถ้าใครขืนทำารุ่มร่ามกับพวกคุณ ผมจะส่งไปสมอแดง ทันที ถ้าหากว่าอาจารย์ ดิเรกสั่งห้ามอย่างเด็ดขาดไม่ให้วุ่นวายกับพวกคุณ” พูดจบเขาก็หันมาทาง ดร. ดิเรก “อาจารย์จะทดสอบความสามารถของมนุษย์กบทั้ง ๔ คนนี้ก็เชิญ ครับ” นายแพทย์หนุ่มพยักหน้ารับทราบ “เอายังไงดีอ้ายกร ให้เรือตรีหญิงทั้ง ๔ ลงไปทำางานในนำ้าให้เราดูความ สามารถของเธอสักหน่อยนะ” นิกรเห็นพ้องด้วย “ก้อดีเหมือนกัน ถ้าเธอว่ายนำ้าและดำานำ้าได้ดี เราก็ควรรับเธอไว้ให้ร่วมงาน กับเรา” พลมองดู ร.ต. หญิงบุปผาตลอดเวลา แล้วพูดเสริมขึ้น “ราชนาวีของเราน่าจะภาคภูมใจไม่น้อยเท่าที่มีมนุษย์กบหญิงที่สวย ๆ และ ิ น่ารักอย่างนี้ ยังไม่เคยปรากฏว่ากองทัพเรือของชาติใดมีมนุษย์กบผู้หญิง ไม่ใช่หรือครับ คุณบุปผา” หล่อนยิ้มน่ารัก “ค่ะ พวกเรามนุษย์กบหญิงรุ่นแรกมี ๕๐ คนด้วยกัน ใช้เวลาฝึกมาสองปีแล้ว ค่ะ พอสำาเร็จหลักสูตรโรงเรียนมนุษย์กบก็ได้รับยศเป็นเรือตรีหญิง” ดร. ดิเรกกล่าวกับสี่สาวอย่างเป็นงานเป็นการ “โปรดเตรียมตัวลงทะเลครับ แต่งเครื่องมนุษย์กบให้พร้อม ผมจะให้ผู้ช่วย ของผมคนใดคนหนึ่งลงทะเลด้วย เพื่อสังเกตการทำางานของพวกคุณอย่าง ใกล้ชิด” เรือตรีหญิงทั้ง ๔ คนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปตามกัน ต่างลงมือแต่งเครื่องมนุษย์ กบทันที คือสวมหมวกยางครอบศีรษะ สวมแว่นเป็นแผ่นยาวปิดนัยน์ตาทั้ง สองข้าง สวมรองเท้าที่มีรูปลักษณะคล้ายเท้ากบ ต่อจากนั้นก็คาดเข็มขัดรัด เอวซึ่งมีมีดพกขนาดยาวอยู่ในซองของมันหนึ่งเล่ม แล้วก็สวมท่ออ๊อกซิเจน
  • 14. ขนาดเล็กซึ่งเป็นท่อคู่ติดไว้ข้างหลัง สี่สหายถือโอกาสช่วยกันผูกท่ออ๊อกซิ เจนให้มนุษย์กบสาวคนละคน ในที่สุดเรือตรีหญิงทั้ง ๔ คนก็กลายเป็นมนุษย์กบที่น่ารักน่าเอ็นดูยิ่ง ขนาด มนุษย์กบของข้าศึกเห็นแล้วต้องนำ้าลายไหลไปตามกัน หล่อนถือฉมวก คนละเล่มสำาหรับต่อสู้กับสัตว์ร้ายและข้าศึก ดร. ดิเรกหันมาพูดกับกิมหงวนอย่างเป็นงานเป็นการ “แกลงทะเลหน่อยซีนะอ้ายหงวน กันต้องการให้แกดูคุณ ๆ เหล่านี้ปฏิบัติ งานใต้ทะเล” อาเสี่ยยิ้มแป้น “ได้ซี แต่วากันไม่มีเครื่องมนุษย์กบ” ่ น.ท. หยดพูดเสริมขึ้นทันที “ที่เรือเรามีอยู่หลายชุดครับ” พูดจบเขาก็หันมาทาง น.ท. สุภาพ ฤทธิไกร ร.น. ซึ่งเป็นผู้ช่วยของเขา คือเป็นต้นเรือ ร.ล. หนุมานลำานี้ “คุณช่วยไปบอก ให้ทหารนำาเครื่องมนุษย์กบมาให้อาเสี่ยสักชุดเถอะครับ อ้า...เอายังงี้ดีกว่า พาอาเสี่ยไปแต่งเครื่องมนุษย์กบมาเลย” เสี่ยหงวนหัวเราะหึ ๆ รูปร่างของผมมันเหมือนเขียดนี่ครับผู้การ แต่งเครื่องมนุษย์กบผมคงจะ กลายเป็นมนุษย์เขียดไป” เจ้าคุณปัจจนึก ฯ ยกมือตบหลังอาเสี่ยค่อนข้างแรง “ไม่ใช่เวลาพูดเล่นน่า รีบไปแต่งเครื่องมนุษย์กบเถอะ อาอยากจะดูความ สามารถของพวกคุณ ๆ เหล่านี้” ต้นเรือพาอาเสี่ยกิมหงวนเดินไปจากที่นั้น นิกรทำาท่ากะลิ้มกะเหลี่ยกับ ร.ต. หญิงไฉไล เจ้าของอกเขาพระวิหารอันโอ่โถงยิ่ง แล้วนิกรก็สัมภาษณ์หล่อน “พวกคุณเคยทำางานใต้นำ้าที่เรียกว่าเป็นงานสำาคัญอะไรมาบ้างครับ” ร.ต. หญิงไฉไลทำาตาหวานให้นิกร “ที่ได้ปฏิบัติมาก็ล้วนเป็นงานสำาคัญทั้งนั้นแหละค่ะ ค้นหาทุ่นระเบิดแม่เหล็ก ที่เรือรบของคอมมิวนิสต์นำามาโปรยไว้ในอ่าวเราเมื่อต้นปีนี้ได้หลายลูก ค้น ตอร์ปิโดของเราที่จมลงก้นทะเลในการฝึกยิง นอกจากนี้ก็ฝึกวางระเบิด
  • 15. เรือรบที่จอดอยู่ในอ่าว โดยสมมุติว่าเป็นเรือรบข้าศึก ฝึกว่ายนำ้าระยะไกล จากเรือไปขึ้นฝั่ง ทำาหน้าที่ลาดตระเวนชายฝั่งก่อนยกพลขึ้นบก” ดร. ดิเรกกล่าวถาม ร.ต. หญิงระรินอย่างยิ้มแย้ม “คุณเคยพบปลาหมึกยักษ์หรือเปล่า” ระรินหัวเราะคิก “ปลาหมึกยักษ์ในอ่าวไทยไม่มหรอกค่ะ มีแต่ปลาหมึกตัวเล็ก ๆ หนูเคยจับ ี มันมากินบ่อย ๆ ค่ะอาจารย์” พลตื่นตะลึงในความงามของบุปผาอย่างยิ่ง ใบหน้าของหล่อนเหมือนจีนส์ ซิมมอน เต็มไปด้วยความน่ารักน่าเอ็นดู หน้าอกของหล่อนค่อนข้างใหญ่ อย่างที่เรียกว่าปทุมทิพย์ “คุณไม่กลัวปลาฉลามหรือครับ” พลถามเมื่อสบตากับหล่อน “ไม่ค่ะ เราเคยศึกษาเรื่องปลาฉลามมาแล้วค่ะ ปลาฉลามดุร้ายจนกระทั่ง เรียกกันว่าเสือทะเลก็จริง แต่คนเราย่อมฉลาดกว่าที่สามารถเรียนรู้จิตใจ ของมันได้” หล่อนพูดเสียงแจ๋ว ๆ น่าฟังและยิ้มระรื่นตลอดเวลา “เคยสู้กับมันหรือเปล่าครับ” “เคยค่ะ อาจารย์” พลสะดุ้งโหยง “อย่าเรียกผมว่าอาจารย์เลยครับ ผมเป็นแต่เพียงผู้ช่วยของอาจารย์ดิเรก เรียกชื่อผมเถอะครับ” หล่อนยิ้มอาย ๆ “ครั้งหนึ่งที่หน้าเมืองระยอง หนูกับเพื่อนสามคนนี้ได้รับคำาสั่งให้ลงทะเล เพื่อค้นหาทุ่นระเบิดแม่เหล็กที่พวกคอมมิวนิสต์นำามาทิ้งไว้ เราได้เผชิญกับ ฉลามขนาดใหญ่ตัวหนึ่งค่ะ ตัวยาวไม่ตำ่ากว่า ๓ เมตร เราได้ต่อสู้กับมันตาม ทฤษฎีที่เราเรียนมา คือลอยคอเป็นเส้นตั้งฉากในนำ้า ฉลามปราดเข้ามาหา เรา แต่วิธีการโจมตีของมันจะต้องว่ายเลยไปก่อนแล้วเลี้ยวกลับมา เราสี่คน ยืนเป็นแถวเรียงเดี่ยว ถือฉมวกเตรียมพร้อม พอมันว่ายเข้ามาก็แทงมัน พร้อม ๆ กัน เท่านี้เองฉลามก็สิ้นฤทธิ์ถูกเราฆ่าตายค่ะ” พลมองดูหล่อนอย่างชื่นชม “คุณและพวกคุณเก่งมากเชียวครับ”
  • 16. เจ้าคุณปัจจนึก ฯ เลี่ยงไปคุยกับผู้บังคับการ ร.ล. หนุมาน ท่านได้ซักถาม กิจการมนุษย์กบแห่งราชนาวี น.ท. หยดก็เรียนให้ทราบว่า ขณะนีหน่วย้ มนุษย์กบของกองทัพเรือมีอยู่หนึ่งกองพันแล้ว และเป็นมนุษย์กบผู้หญิง ประมาณ ๕๐ คน ทางราชการได้เปิดรับสมัครมนุษย์กบหนุ่มสาวปีละ ๒ ครั้ง ผู้สมัครต้องมีพื้นการศึกษาสำาเร็จเตรียมวิทยาศาสตร์อย่างน้อย ขณะที่เจ้าคุณปัจจนึก ฯ กำาลังสนทนากับผู้บังคับการและนายทหารประจำา เรือ อาเสี่ยกิมหงวนก็พาตัวเดินขึ้นบันไดมาจากท้องเรือ น.ต. สุภาพต้นเรือ ร.ล. หนุมานเดินตามมาด้วย กิมหงวนของเราแต่งเครื่องมนุษย์กบครบครัน สวมรองเท้ากบ สวมท่ออ๊อก ซิเจน สวมกางเกงอาบนำ้าสีดำาแกมขาว ซึ่งเป็นกางเกงแนบเนื้อ คาดเข็มขัด พกมีด สวมแว่นตาแต่ไม่ได้สวมหมวก ท่าทางของอาเสี่ยเก้งก้างเหมือน มนุษย์เขียดมากกว่ามนุษย์กบ มือขวาถือฉมวกอันหนึ่ง เจ้าคุณปัจจนึก ฯ พล, นิกร, ดร. ดิเรก และเจ้าแห้วต่างหัวเราะชอบอกชอบใจ ไปตามกัน เสี่ยหงวนเดินเข้ามาหยุดยืนรวมกลุ่มแล้วยกมือเท้าเอววางท่าให้ สมกับเป็นมนุษย์กบชั้นดี นิกรรีบกระซิบกระซาบบอกกิมหงวน “อย่าเท้าเอวเลยวะ ไม่น่าดูเลย” อาเสี่ยขมวดคิ้วย่นแล้วกระซิบถาม “ทำาไมล่ะ” นายจอมทะเล้นหัวเราะ “ขนจั๊กแร้แกยาวตั้งคืบ ลมพัดพะเยิบพะยาบน่าเกลียดเหลือเกิน” กิมหงวนสะดุ้งเฮือกเหมือนถูกเข็มแทง รีบปล่อยมือที่เท้าเอวลงทันที ดร. ดิเรกช่วยตรวจดูท่ออ๊อกซิเจนของอาเสี่ยแล้วเขาก็หันมาทางกบสาวทั้ง ๔ ตัว “อย่ารังเกียจหรือโกรธเคืองผมเลย ที่ผมจะต้องทดสอบความสามารถของ พวกคุณ” พูดพลางนายแพทย์หนุ่มก็ถอดนาฬิกาข้อมือเรือนทองราคาเกือบ ๓,๐๐๐ บาทออกมาจากข้อมือของเขาแล้วโยนมันลงไปในทะเล “เชิญพวก คุณลงนำ้าได้แล้วช่วยกันงมนาฬิกาให้ผม” ระรินยิ้มแห้ง ๆ
  • 17. “โอ – ของเล็ก ๆ อย่างนี้งมไม่ได้หรอกค่ะ” ดร. ดิเรกนัยน์ตาเหลือก “มายก๊อด...งมไม่ได้” “ค่ะ” นายแพทย์หนุ่มกลืนนำ้าลายเอื๊อก “พวกคุณเป็นมนุษย์กบก็ควรจะงมได้ซีครับ” วันทนีย์หัวเราะเบา ๆ “ถูกแล้วค่ะ พวกเราเป็นมนุษย์กบ แต่เราไม่เชี่ยวชาญในการงมของตกนำ้า เหมือนพวกร่อนหาของตามลำาคลองในกรุงเทพ ฯ นีคะ” ่ ดร. ดิเรกทำาหน้าเหมือนกับจะร้องไห้ “ถ้าเช่นนั้นนาฬิกาของผมราคา ๒,๘๐๐ บาทก็สูญไปแล้ว ผมชักฉิวพวกคุณ แล้วนะจะบอกให้ เร็ว...ทุกคนไปที่บันไดกราบขวาแล้วลงทะเลตามคำาสั่ง ของผม แสดงการว่ายนำ้าและดำานำ้าให้หมด พวกคุณทั้ง ๔ คนต้องดำาลงไป ที่ก้นทะเล หาอะไรมาให้ผมคนละชิน หอยสักตัวหรือกะละปังหาคนละกิ่ง ้ หรือถ้าพวกคุณใจปำ้าพอจะจับปลาฉลามเอามาให้ผมคนละตัวก็ได้” พอจบ เขาก็หันมาทางอาเสี่ย “แกติดตามไปสังเกตการณ์ในทะเล ดูให้ดีว่าคนไหน มีความสามารถและคนไหนไร้ความสามารถ” นายเรือหญิงทั้ง ๔ คนพากันเดินไปทางกราบขวาของ ร.ล. หนุมาน กิมหง วนติดตามไปด้วย ต่อจากนั้นมนุษย์กบสาวแห่งราชนาวีทั้ง ๔ คนและอาเสี่ย กิมหงวนก็หย่อนตัวลงไปในทะเลท่ามกลางแสงแดดอันร้อนแรงในตอนสาย แต่ทะเลกำาลังสงบ มีละลอกคลื่นเพียงเล็กน้อย เมื่อ ๔ นางแสดงการว่ายนำ้าแบบมนุษย์กบให้ดูสักครู่ก็พากันดำานำ้าหายไป กิมหงวนรีบดำาตามทันที น.ท. หยดกล่าวกับ ดร. ดิเรกอย่างยิ้มแย้ม “เป็นยังไงครับอาจารย์” “ออไร้ ว่ายนำ้ากันได้คล่องแคล่วดีมากครับผู้การ โดยเฉพาะเรือตรีหญิงระริน วิเศษที่สุด” “ว่ายนำ้าเก่งหรือครับ”
  • 18. “โน – ว่ายนำ้าไม่ค่อยเก่ง แต่เธอสวยและน่ารักถูกใจผมมาก ยังไงผมก็ต้อง เอาไว้ ถึงว่ายนำ้าไม่เก่ง ต่อไปหัดว่ายบ่อย ๆ ก็เก่งเอง” พวกนายทหารเรืออมยิ้มไปตามกัน กบสาวทั้ง ๔ ตัวและอาเสี่ยกิมหงวนผู้ สังเกตการณ์หายไปในทะเลประมาณ ๕ นาที และแล้ว ร.ต. หญิงวันทนีย์ก็ โผล่ขึ้นมาจากใต้นำ้าอย่างร้อนรน หล่อนรีบว่ายนำ้าเข้ามาเกาะบันไดเรือรบ แล้วปีนขึ้นมาบนบันไดนัน ใบหน้าของหล่อนบึ้งตึง สาวสวยมองดู ดร. ดิเรก ้ แล้วเอ็ดตะโรลั่น “ไม่ไหวละค่ะอาจารย์คะ คนของอาจารย์เล่นบ้า ๆ อะไรก็ไม่รู้ เล่นกับหนูยัง งี้ได้หรือ คือว่าอยู่ใต้นำ้าไม่มใครเห็น บ๊า – บ้า คนผีทะเลอะไรก็ไม่รู้” ี ดร. ดิเรกทำาตาปริบ ๆ เขายืนนิงเฉยจนกระทั่งวันทนีย์ขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือ ่ “เขาทำาอะไรคุณครับ” “อ้า – ตะปบหนูน่ะซีคะ” นายแพทย์หนุ่มแยกเขี้ยว พอดีกิมหงวนโผล่ขึ้นมาจากนำ้า ท่ามกลางเสียง หัวเราะอย่างครื้นเครงและเสียงไชโยโห่ร้องของพวกทหารเรือ ซึ่งล้วนแต่ คึกคะนองช่วยกันเชียร์เสี่ยหงวน ดร. ดิเรกโกรธจนตัวสั่น เขายกมือชี้หน้าอา เสี่ยแล้วกล่าวขึ้นด้วยเสียงอันดัง “อ้ายหงวน ทำาไมแกเล่นบ้า ๆ ยังงัน” ้ อาเสี่ยทำาหน้าชอบกล “เล่นยังไงวะที่ว่าบ้า ๆ” “แกตะปบคุณวันทนีย์” เสี่ยหงวนชักฉิว “อ้าว – นีแหละไหมล่ะ เขาว่าทำาคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์ได้บาป” กิมหงวน ่ พูดเอ็ดตะโร “แมงกะพรุนไฟมันอยู่บนหัวคุณวันทนีย์ กันแลเห็นเข้าก็รีบ ผลักเธอออกห่างมัน และเอาฉมวกแทงมันตาย กันจะอธิบายให้ฟังก็พูดกัน ไม่ได้เพราะอยู่ในนำ้า คุณวันทนีย์ไม่ฟงอีร้าค่าอีรม รีบโผล่ขึ้นมาฟ้องแกใช่ ั ไหมล่ะ ถ้ากันไม่ทำาอย่างนันคุณวันทนีย์โดนแมงกะพรุนไฟเข้าเนื้อหนังก็จะ ้ ไหม้เป็นแถบ ๆ ปวดแสบปวดร้อนร้องครางไปหลายวัน ถ้าโดนใบหน้าก็จะ ทำาให้เสียโฉม” วันทนีย์หน้าจ๋อย หายโกรธกิมหงวนแล้ว
  • 19. “ต๊าย – ตาย หนูเข้าใจผิดจริง ๆ ค่ะ อาเสี่ยคะ หนูกราบประทานโทษนะคะ หนูคิดว่าอาเสี่ยคิดค้ากำาไรเกินควรกับหนู” อาเสี่ยยิ้มออกมาได้ แล้วกวักมือเรียกหล่อน “ลงมาซีครับ” สาวสวยสั่นศีรษะ “ม่ายละค่ะ หนูกลัวแมงกะพรุนไฟ เพียงแมงกะพรุนไฟอาเสี่ยยังตะปบหนู อย่างนั้น ถ้าเป็นปลาฉลามหรือปลาหมึกยักษ์หนูคงแย่ทีเดียว” กิมหงวนหัวเราะลั่น แล้วดำาลงไปในทะเลอีก ต่อจากนั้นบุปผาก็โผล่ขึ้นมา จากนำ้า มือขวาของหล่อนถือกะละปังหากิ่งหนึ่งอันเป็นเครื่องแสดงความ สามารถของหล่อนที่ดำาลงไปถึงก้นทะเล พลรีบวิ่งลงบันไดไปรับหล่อน “ขึนมาเถอะครับ ทดสอบกันเท่านี้พอแล้ว” ้ บุปผาว่ายมาที่บันได พลช่วยประคองหล่อนแล้วพาขึ้นไปบนดาดฟ้า ต่อ จากนั้น ร.ต. หญิงไฉไลก็โผล่ขึ้นมาจากนำ้า หล่อนชูนาฬิกาข้อมือเรือนทอง อวด ด.ร. ดิเรก แล้วพูดเสียงหัวเราะ “อาจารย์คะ หนูงมนาฬิกาของอาจารย์ได้ค่ะ” นายแพทย์หนุ่มลืมตาโพลง “โอ – เวรี่กู๊ด แล้วสายนาฬิกาหายไปไหน คุณไฉไล” หล่อนว่ายเข้ามาเกาะบันไดเรือรบ “สายมันหรือคะ หนูแกะออกทิ้งไปค่ะ ขณะนี้ระรินกำาลังแสดงความสามารถ งมสายนาฬิกาให้อาจารย์ค่ะ” เสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างครื้นเครง นิกรรีบวิ่งลงบันไดไปรับแฟนของเขา และ กล่าวชมหล่อนขณะที่เขาประคองหล่อนขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือ “คุณเก่งมากครับ นาฬิกาข้อมือเรือนเล็กนิดเดียว ไม่น่าจะงมได้เลย” หล่อนยิ้มให้เขาและรู้สึกพอใจนิกรเช่นเดียวกัน “นำ้าในอ่าวสัตหีบไม่ลึกนักหรอกค่ะ พื้นล่างเป็นทรายไม่ใช่โคลน แดดจัด อย่างนี้มองเห็นทะเลอย่างชัดเจนค่ะ” “อ้อ – แล้วเห็นสะดือทะเลไหมครับ”
  • 20. หล่อนทำาหน้าชอบกล “อ๋อ – ส่วนที่ลึกที่สุดใช่ไหมคะ” “เห็นจะเป็นยังงั้นแหละครับ ผมเองก็ได้ยินแต่เขาพูดกันว่าสะดือทะเล แต่ ไม่ทราบว่าสะดือทะเลมันอยู่ที่ไหน คุณเป็นนายทหารเรือคงจะทราบดี” ร.ต. หญิงไฉไลยิ้มให้เขา “ทะเลที่มีความลึกที่สุดในโลกอยู่นอกฝั่งเกาะกวมค่ะ ที่นั่นคือสะดือทะเล ตามที่คุณว่า” นิกรฝืนหัวเราะ “ลึกสัก ๕ ฟิตได้ไหมครับ” ไฉไลหัวเราะคิก “๕ ฟิตน่ะขนาดท้องร่องสวนค่ะ ทะเลนอกฝั่งเกาะกวมมีความลึกตั้งสามสี่ กิโลเมตร หรืออาจจะกว่านั้น ซึ่งหนูก็จำาไม่ได้เสียแล้ว” พูดจบหล่อนก็หันมา ทางนายแพทย์หนุ่มและส่งนาฬิกาข้อมือคืนให้ “อาจารย์ทราบไหมคะ ส่วน ลึกที่สุดของทะเลลึกเท่าใด” ดร. ดิเรกยิ้มอย่างภาคภูมิ “เยส ไอโน ส่วนลึกที่สุดของทะเลที่อ้ายกรเรียกว่าสะดือทะเลนั้นอยู่นอกฝั่ง เกาะกวมถูกแล้ว นักวิทยาศาสตร์ ๒ คนของกองทัพเรืออเมริกันได้ลงไปใน ถังเหล็กและถูกหย่อนลงไปในก้นทะเลแห่งมหาสมุทรแปซิฟิคเมื่อเร็ว ๆ นี้ หย่อนลงไปจนถึงส่วนลึกที่สุด” นิกรพูดเสริมขึ้น “ถึงสะดือทะเล” “เออ” ดร. ดิเรกตวาดแว้ด “ส่วนลึกที่สุดวัดได้ ๑๘,๖๐๐ ฟิต หรือ ๕ จุด ๖ กิโลเมตร” นิกรหัวเราะหึ ๆ “แล้วนักวิทยาศาสตร์ของกองทัพเรืออเมริกันเขาแถลงหรือเปล่าว่าสะดือทะ เลน่ะมีรูปลักษณะอย่างไร จุ่นหรือเปล่า” เจ้าคุณปัจจนึก ฯ ยกเท้าขวาเหวี่ยงก้นลูกเขยของท่านดังพลั่ก
  • 21. “นีแน่ะ ทะเล้นนัก สะดือทะเลมันมีที่ไหนกันล่ะ” ่ นิกรลืมตาโพลง “อ้าว – ทีคุณพ่อทำาไมถึงมีสะดือล่ะ” เจ้าแห้วพูดสอดขึ้นทันที “รับประทาน มนุษย์กบโผล่ขึ้นมาอีกแล้วครับ” การสนทนาเกี่ยวกับเรื่องสะดือทะเลสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้ ระรินแฟนของ ดร. ดิเรกโผล่ขึ้นมาจากพื้นนำ้าและว่ายเข้ามาหาเรือรบ ดร. ดิเรกรีบวิ่งลงบันได ไปรับหล่อนด้วยความตื่นเต้นดีใจ เขาช่วยประคองหล่อนขึ้นมาบนขันพัก ้ บันไดนัน ้ “ขอบคุณค่ะอาจารย์ นีค่ะ สายนาฬิกาของอาจารย์ หนูดำาหาแทบแย่” ่ ดร. ดิเรกจุ๊ปาก “ไม่ควรเสียเวลาค้นหามันเลย เส้นหนึ่ง ๑๐ บาทเท่านั้น คุณเป็นมนุษย์กบที่ ยอดเยี่ยมที่สุดในสายตาของผม ว่ายนำ้าก็น่ารัก ดำานำ้าก็น่ารัก นอกจากนี้ เสียงคุณยังไพเราะเหมือนกับเสียงนกไนติงเกล ไปบนดาดฟ้าเรือเถอะครับ การทดสอบได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นอันว่าผมรับคุณทั้ง ๔ คนไว้เป็นมนุษย์ กบประจำาเรือนี้เพื่อร่วมงานสำาคัญกับพวกเรา คือล่าพรายทะเล” นายแพทย์หนุ่มพาแฟนของเขาขึ้นมาบนดาดฟ้า เจ้าแห้วปราดเข้ามาหา ดร. ดิเรกแล้วรายงานให้ทราบ “รับประทาน อาเสี่ยยังไม่โผล่ขึ้นมาเลยครับ” ดร. ดิเรกสะดุ้งเล็กน้อย “ออไร้ กันลืมอ้ายหงวนเสียสนิท” พูดพลางมองลงไปในทะเล “มายก๊อด... ขัดใต้ท้องเรือตายเสียแล้วก็ไม่รู้” ทุกคนต่างแสดงท่าทีห่วงใยกิมหงวนและช่วยกันค้นหา ร.ต. หญิงไฉไล กล่าวกับนิกรว่า “หนูจะลงไปตามอาเสี่ยนะคะ บางทีอาจจะเป็นตะคริวว่ายนำ้าไม่ไหวนั่งอยู่ ก้นทะเลก็ได้ แต่อ๊อกซิเจนใช้หายใจได้สองชั่วโมงค่ะ” นิกรยิ้มให้หล่อน
  • 22. “อย่าลงไปเลยครับ อ้ายหงวนตายดีกว่าคุณตาย มันคงพยายามช่วยตัวเอง ได้” สักครู่หนึ่งอาเสี่ยก็โผล่ขึ้นมาบนผิวนำ้า ใครต่อใครต่างถอนหายใจโล่งอกไป ตามกัน กิมหงวนร้องตะโกนขึนด้วยสีหน้าตื่นเต้น ้ “คุณระรินหายไปไหนก็ไม่รู้ หาไม่พบโว้ย” ดร. ดิเรกชี้มือไปที่แฟนของเขา “อยู่นี่โว้ย” อาเสี่ยถอนหายใจโล่งอก ว่ายนำ้าเข้ามาหาเรือรบ เจ้าแห้วรีบลงบันไดไป ช่วยเหลือ พาเสี่ยหงวนขึ้นมาบนดาดฟ้า ทุกคนหัวเราะคิกคักไปตามกัน เป็นอันว่า ดร. ดิเรกตกลงรับนายทหารหญิงทั้ง ๔ คนเป็นมนุษย์กบประจำา ร.ล. หนุมานแล้ว น.ท. หยด เฉลิมเกียรติ ร.น. สั่งให้ทัพเรือทำารายงานด่วน เสนอท่านผู้บัญชาการกองเรือยุทธการทันที มนุษย์กบ ๔ สาวได้พักอยู่ห้องติด ๆ กับคณะพรรคสี่สหายของเรานั่นเอง ซึ่งก่อนเที่ยงวันนั้น ผู้บังคับการเรือปราบเรือดำานำ้า “หนุมาน” ได้เรียกประชุม ทหารเรือทุกคนบนดาดฟ้าแล้วแจ้งให้ทราบว่า เพื่อให้การปราบเรือดำานำ้า ปรมาณูของคอมมิวนิสต์เป็นไปอย่างรวดเร็ว กองทัพเรือจึงส่งมนุษย์กบนาย ทหารหญิงทั้ง ๔ คนมาประจำาเรือลำานี้ ในที่สุดผู้บังคับการก็กล่าวขึ้นด้วยเสียงหนักแน่นว่า “ทหารทุกคนต้องอยู่ในระเบียบวินัยอันดีงาม อย่ารุ่มร่ามหรือกระทำาสิ่งหนึ่ง สิ่งใดอันเป็นการแสดงออกของอารมณ์ทางเพศต่อนายทหารหญิงทั้ง ๔ คน นี้เป็นอันขาด ข้าพเจ้าขอกำาหนดโทษไว้ดังนี้คือ พูดเกาะแกะหรือพูดเกี้ยว ติดตะราง ๑๐ วัน ไม่แสดงความเคารพหรือขาดความเคารพ ๑๐ วัน แอบ มองตามห้องนำ้าหนึ่งเดือน จับมือถือแขนสองเดือน เข้าหาหรือใช้กำาลังกาย ปลุกปลำ้ายิงเป้า พวกท่านเป็นทหารต้องทำาใจให้หนักแน่นอดทน อย่าคิด อะไรให้ฟุ้งซ่าน อย่าลืมว่าผู้หญิงสาวทั้ง ๔ คนที่มาอยู่เรือลำาเดียวกับเรานั้น มีหน้าที่รายการสำาคัญ และทุกคนเป็นนายทหารสัญญาบัตร “อนึ่ง ห้ามมิให้ทหารคนใดเข้าไปในห้องนายทหารหญิงเป็นอันขาดไม่ว่า กรณีใด ๆ ข้าพเจ้าขอร้องให้ทุกคนยึดมั่นในวินัยทหาร และขอเลิกการ ประชุมแต่เพียงเท่านี้”