Contenu connexe
Similaire à การรวบรวมความต้องการ
Similaire à การรวบรวมความต้องการ (20)
การรวบรวมความต้องการ
- 2. วัตถุประสงค์
2
เห็ นความสาคัญของการวิเคราะหความตองการ ์ ้
เพือให้ไดมาซึงความตองการทีแทจริงและถูกตอง
่ ้ ่ ้ ่ ้ ้
บอกบทบาทหน้าทีของผูใช้ทีด ี
่ ้ ่
สามารถนาความตองการทีรวบรวมมาผานการ
้ ่ ่
วิเคราะห ์ และบันทึกอยูในรูปแบบเอกสารได้
่
ทราบถึงบทบาทของสเตคโฮลเดอร ์ ซึงเป็ นกลุม ่ ่
บุคคลสาคัญทีเกียวของกับงานระบบสารสนเทศ
่ ่ ้
บอกเทคนิควิธการรวบรวมความตองการ
ี ้
สามารถนาขันตอนการทางานของงานใดงานหนึ่ง
้
มาเขียนอยูในรูปของเวิรกโฟลวได้ (Workflow)
่ ์ ์
ได้
- 3. บทนา
3
การวิเคราะหระบบ เป็ นกระบวนการของการสราง
์ ้
แผนงาน(plan) เพือแสดงให้เห็ นถึงโครงราง
่ ่
กระบวนการทางานของระบบทางานอยางไร ่
(how) สอดคลองกับจุดประสงคและความตองการ
้ ์ ้
หรือไม่
วัตถุประสงคของการวิเคราะหระบบ คือ การทา
์ ์
ความเขาใจในฟังกชันหน้าทีทางธุรกิจ
้ ์ ่
(Business Functions) และพัฒนาออกมาเป็ น
ความตองการของระบบ (System
้
Requirements)
- 4. ขันตอนการพัฒนาระบบตามแบบ
้
4
แผน SDLC
แสดงขันตอนการพัฒนาระบบตามแบบแผน
้
SDLC โดยในระยะการวิเคราะห ์ จะตองทาความเขาใจกับ
้ ้
ระบบงานเดิม การเพิมเติมความต้องการ เพือพัฒนาแนวคิด
่ ่
- 5. การวิเคราะหระบบ
์
5
การศึ กษาระบบงานเดิม ประกอบดวย 3 ระยะ
้
คือ
ทาความเข้าใจกับระบบงานเดิม (Understand AS-
IS System)
เป็ นการศึ กษาขันตอนการทางานของระบบงานเดิมที่
้
เป็ นอยูในปัจจุบน มีจดออนหรือจุดแข็งอยางไร
่ ั ุ ่ ่
กาหนดสิ่ งทีตองการปรับปรุงเพิมเติม
่ ้ ่ (Identity
Improvements)
เป็ นการกาหนดแนวทางในการปรับปรุงระบบให้เป็ นไป
ในทิศทางทีดขน
่ ี ึ้
พัฒนาแนวความคิดสาหรับระบบงานใหม่
- 6. การรวบรวมความตองการ
้
(Requirements Gathering)
6
หน้าทีสาคัญอยางหนึ่งทีนกวิเคราะหระบบจะตอง
่ ่ ่ ั ์ ้
ทา ก็คอ การเขาไปค้นหาความตองการของ
ื ้ ้
ผู้ใช้
ซึงขันตอนการค้นหาความตองการและการจด
่ ้ ้
บันทึกความต้องการนั้นมิใช่สิ่ งทีงาย
่ ่
นักวิเคราะหระบบควรจดบันทึกความตองการให้อยู่
์ ้
ในรูปแบบมาตรฐาน เพือนาไปพัฒนาเป็ น
่
ซอฟตแวรไดตอไป
์ ์ ้ ่
หลักการในการค้นหาความตองการ
5W + 1H ้ คือ
- 7. หลักการในการค้นหาความต้องการ (5W + 1H)
7
Who มีใครเกียวของบาง? บทบาทของแตละคนนั้น
่ ้ ้ ่
คืออะไร? ใครเป็ นบุคคลแทจริงทีรองขอเพือพัฒนา
้ ่ ้ ่
ระบบใหม? ่
What อะไรคือสิ่ งทีทาให้เกิดปัญหา? ระบบทีต้องการ
่ ่
หรือระบบทีอยากไดคือ ระบบอะไร? มีฟงกชันการ
่ ้ ั ์
ทางานอะไรบาง? ้
When ระบบติดตังไดเมือไร? ผู้สนับสนุ นเงินทุนพรอม
้ ้ ่ ้
ทีจะสนับสนุ นเมือไร? ทดสอบระบบใหมเมือไร?
่ ่ ่ ่
Where บริเวณสถานทีใด ทีระบบใหมสามารถ
่ ่ ่
ดาเนินการไดอยางเหมาะสม
้ ่
Why ทาไมตองแสวงหาระบบใหม? ทาไมผู้ใช้จึงเชือ
้ ่ ่
วาระบบใหมสามารถแกไขปัญหาได?
่ ่ ้ ้
- 8. การรวบรวมความตองการ
้
(Requirements Gathering)
8
กิจกรรมการค้นหาความตองการ และการจดบันทึก
้
ความตองการนั้น มีหลักการสาคัญ คือ จะต้อง
้
ค้นหาความจริงให้ไดวาผู้ใช้ต้องการสิ่ งใดเป็ น
้ ่
สาคัญ
กอนทีนกวิเคราะหระบบจะเข้าไปค้นหาความ
่ ่ ั ์
ตองการจากผู้ใช้ตามหน่วยงานตางๆ นักวิเคราะห ์
้ ่
ระบบจาเป็ นตอง ศึ กษารูปแบบองคกร
้ ์
ผู้ใช้ (User) มีบทบาทสาคัญในการวิเคราะหระบบ ์
ในการให้ขอมูลแกนักวิเคราะหระบบ
้ ่ ์
- 9. คุณสมบัติของผูใช้(user)ที่ดี
้
9
จะต้องสามารถอธิบายขั้นตอนการทางานของระบบปั จจุบนที่ดาเนิ นงานอยู่
ั
ได้
จะต้องสามารถชี้ แจงปั ญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้ นในระบบได้
จะต้องสามารถระบุความต้องการในระบบใหม่ได้
ควรจัดเตรียมเอกสาร หรือรายงานที่เกี่ยวข้องให้แก่นักวิเคราะห์ระบบ
ควรให้ความร่วมมือแก่นักวิเคราะห์ระบบ
ควรมีส่วนร่วมต่อโครงการพัฒนาระบบใหม่ รวมทั้งสามารถแนะนาหรือ
เสนอแนวทางแก้ไขให้แก่นักวิเคราะห์ระบบ
- 10. ชนิ ดของความต้องการ (Type of Requirements)
10
แบงเป็ น 2 ชนิดดวยกัน คือ
่ ้
ความตองการทีเป็ นฟังกชันการทางาน
้ ่ ์
(Function Requirements)
ความตองการทีไมไดเป็ นฟังกชันการ
้ ่ ่ ้ ์
ทางาน (Non-Function
Requirements)
- 11. ความตองการทีเป็ นฟังกชันการทางาน
้ ่ ์
(Function Requirements)
11
คือ กิจกรรมที่ระบบต้องปฏิบติ กล่าวคือ เป็ นขั้นตอนการทางานที่
ั
ประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ (สิ่งที่ระบบควรต้องทาหรือเป็ นหน้าที่หลัก
ของระบบ) ที่ของเกี่ยวกับผูปฎิบติงาน โดยแต่ละกิจกรรมจะก่อให้เกิดผล
้ ้ ั
การดาเนิ นงานออกมา
โดยปกติ ความต้องการที่เป็ นฟั งก์ชนการทางานมักเขียนอยูในรูปแบบของ
ั ่
กริยา (Verb Phrase)
- 12. ตัวอย่าง Functional Requirements
12
ระบบเงินเดือน (Payroll System)
กิจกรรมการปฎิบตงานของระบบเงินเดือน
ั ิ
ประกอบดวยฟังกชันหน้าทีตางๆ คือ
้ ์ ่ ่
คานวณเงินเดือนและคาคอมมิชชัน
่
คานวณภาษี
พิมพสลิปเงินเดือนและพิมพรายงาน
์ ์
สามารถจัดพิมพรายงานภาษีประจาปี แกสรรพากร
์ ่
ระบบใหมตองจัดการกับฟังกชันเหลานี้ได้
่ ้ ์ ่
ทังหมด
้
- 13. ความตองการทีเป็ นฟังกชันการทางาน
้ ่ ์
(Function Requirements)
13
สรุปไดวา ความตองการทีเป็ นฟังกชันการ
้ ่ ้ ่ ์
ทางานนั้น ตังอยูบนพืนฐานของขันตอนการ
้ ่ ้ ้
ทางานและกฎเกณฑขององคกรทีใช้สาหรับ
์ ์ ่
ดาเนินธุรกิจเป็ นสาคัญ
ดังนั้น ความตองการทีเป็ นฟังกชันการทางาน
้ ่ ์
จึงเกียวของกับ
่ ้
มีอะไรบ้างทีต้องอินพุตเข้าไปในระบบ
่
มีเอาตพุตอะไรบาง
์ ้ ทีระบบตองดาเนินการ
่ ้
มีขอมูลอะไรบาง ทีระบบตองจัดเก็บ เพือให้ระบบอืนๆ
้ ้ ่ ้ ่ ่
ทีเกียวของ นาขอมูลไปใช้งานได้
่ ่ ้ ้
การคานวณอะไร ทีระบบตองดาเนินการ
่
- 14. ความตองการทีเป็ นฟังกชันการทางาน
้ ่ ์
(Function Requirements)
14
คือ คุณสมบัตหรือคุณภาพของซอฟตแวรทีพง
ิ ์ ์ ่ ึ
มี ไมใช่หน้าทีหลัก เช่น
่ ่
ความสามารถในการใช้งาน (Usability)
ประสิ ทธิภาพของระบบ (Efficiency)
ระบบความปลอดภัย (Security)
ความน่าเชือถือของระบบ (Reliability)
่
เวลาตอบสนอง (Time Response)
ความงายตอการใช้งาน (User Friendliness)
่ ่
ความสะดวกในการเคลือนย้ายไปยังสภาพแวดลอมใหม ่
่ ้
(Portability)
- 15. ชนิ ดของความต้องการ (Type of Requirements)
15
Function Non-Function
บันทึกลงใน บันทึกลงใน
เอกสาร เอกสาร
-ทราบขันตอน
้ -บรรยายถึงคุณภาพ
-อินเตอรเฟช เทคนิคตางๆ ทีซอฟตแวร ์
่ ่ ์
์
พึงมี
แนวทางการออกแบบ แนวทางการวิเคราะห ์
(guide design) (guide analysis)
- 16. Funtional Requirements (FRs)
and Non-Function Requirements (NFRs)
16
ตัวอยางเช่น ระบบบัญชี ทาหน้าทีหลักคือ
่ ่
บันทึกข้อมูล Transaction รายวัน ,สรุปยอด
บัญชีได้ (สิ่ งทีระบบบัญชีควรทาหรือหน้าที่
่
หลัก) - - > Functional requirements
ผูใช้ตองใส่รหัสผาน ชือผูใช้ เชือมโยงกับ
้ ้ ่ ่ ้ ่
อินเทอรเน็ ตได้ เชือมโยงระบบบัญชีกบบริษท
์ ่ ั ั
อืน (ไมใช่หน้าทีหลัก) - - > Non-Functinal
่ ่ ่
requirements
- 17. การวิเคราะห์ความต้องการ (Requirements
Analysis)
17
นักวิเคราะหระบบ(SA) นาความตองการทีได้
์ ้ ่
รวบรวมมา ผานกระบวนการวิเคราะหความ
่ ์
ตองการ (Requirements Analysis) เพือให้
้ ่
ไดมาซึงขอกาหนดความตองการ
้ ่ ้ ้
(Requirement Specification) เพือใช้ในการ
่
พัฒนาซอฟตแวร ์ ์ โดยการวิเคราะหความ
์
ตองการเพือกาหนดเป็ นความตองการของระบบ
้ ่ ้
ใหม่ ประกอบดวย 3 ขันตอน คือ
้ ้
- 18. การวิเคราะห์ความต้องการ (Requirements
Analysis)
18
วิเคราะหข้อเท็จจริงในขอมูล (Analysis of
์ ้
factual Data) พิจารณาวาระบบจะตอง
่ ้
ดาเนินงานอยางไร เพือให้ตรงกับวัตถุประสงค ์
่ ่
ตามทีตองการ
่ ้
กาหนดสาระสาคัญของความตองการ ้
(Identification of Essential Requirements)
คือ คุณสมบัตหรือสาระสาคัญทีระบบใหมพึงมี
ิ ่ ่
คัดเลือกความตองการทีตรงกับวัตถุประสงค ์
้ ่
(Selection of Requirements Fulfillment) ใช้
- 19. การวิเคราะห์ความต้องการ (Requirements
Analysis)
19
Business
Process
……………….
Requirements ……………….
Business ……………….
Information Gathering ……………….
And Analysis ………………
………………..
Business
Rules Requirements
Specification
แสดงขันตอนการนาความตองการทีรวบรวมมาผานการ
้ ้ ่ ่
วิเคราะห ์ และ สรุปลงในเอกสารข้อกาหนดความตองการ
้
ของระบบ (Requirements Specification)
- 20. Requirement Specification
20
คือ ขอมูลทีสรางขึนมาระหวางการสื บเสาะ
้ ่ ้ ้ ่
ขอเท็จจริงดวยการวิเคราะหความตองการ
้ ้ ์ ้
เพือให้ไดมา ซึงขอกาหนดความตองการทีใช้
่ ้ ่ ้ ้ ่
อธิบายคุณสมบัตของระบบใหม่
ิ
หรือ ขอกาหนดทีมการอธิบายวาระบบควรมี
้ ่ ี ่
การทางานอยางไรบาง รายละเอียดอะไรบาง
่ ้ ้
ทีตองทาให้สาเร็จ อาจเป็ นขอบังคับเกียวกับ
่ ้ ้ ่
กระบวนการพัฒนาระบบงาน ขอตกลงรวมกัน
้ ่
เกียวกับคุณภาพของซอฟตแวร ์
่ ์
- 21. หลักการค้นหาความต้องการที่ดี
21
คนหาขอมูลความตองการกับบุคคลทีเกียวของ
้ ้ ้ ่ ่ ้
โดยตรง และให้ตรงวัตถุประสงคมากทีสุด
์ ่
ระบุความตองการตางๆ ลงในรูปของเอกสาร
้ ่
และมีการทาขอตกลงรวมกันทังสองฝ่าย
้ ่ ้
Requirement ทีดตองตกลงรวมกันทังสองฝ่าย
่ ี ้ ่ ้
คาจากัดความหรือคาอธิบายบนเอกสารทีได้ ่
บันทึกไว้ ควรมีความชัดเจน พยายามอยาใช้ ่
คากากวม
- 22. สเตคโฮลเดอร์: แหล่งทรัพยากรของความต้องการระบบ
(Stakeholders : The Source of System Requirements)
22
สเตคโฮลเดอรหรือ Information Worker คือ
์
บุคคลทีมความสนใจและพรอมให้ความรวมมือ
่ ี ้ ่
กับงานพัฒนาระบบสารสนเทศใหม่ เพือให้
่
เกิดผลสาเร็จ สามารถแบงออกเป็ น 6 กลุม
่ ่
หลักๆ คือ
เจ้าของระบบ (System Owners) Sponsors
ผู้ใช้ระบบ (System User)
นักออกแบบระบบ (System Designers)
นักพัฒนาระบบ (System Developers) Programmer
นักวิเคราะหระบบ (System Analysts)
์
รานคาจานวนอุปกรณไอทีและทีปรึกษา (IT Vendors
่
- 23. เทคนิ คการรวบรวมความต้องการ (Requirements Gathering
Techniques)
23
ในบางครัง อาจเรียกวา การสื บเสาะ
้ ่
ข้อเท็จจริง (Fact-Finding) โดยมีเทคนิค
สาคัญ ดังนี้
การรวบรวมเอกสาร (Documentation)
การสั มภาษณและสนทนากับผู้ใช้ (Conduct
์
Interviews and Discussions with Users)
การสั งเกตการจากกระบวนการเดินเอกสารในธุรกิจ
(Observe and Document Business Processes)
การแจกจายและรวบรวมแบบสอบถาม (Distribute
่
and Collect Questionaires)
การวางแผนความตองการรวมกัน (Joint
้ ่
Requirements Planning: JRP)
- 24. เทคนิ คการรวบรวมความต้องการ (Requirements Gathering
Techniques)
24
การรวบรวมเอกสาร (Documentation)
การรวบรวมแบบฟอรม
์ หรือรายงานตางๆ ทีใช้อยู่
่ ่
หรือการถายสาเนาเอกสาร
่
การสั มภาษณและสนทนากับผูใช้ (Conduct
์ ้
Interviews and Discussions with Users)
การสั มภาษณแบบไมมีโครงสราง
์ ่ ้ (Unstructured
Interview) ไมมีการกาหนดคาถามกอนวาจะถาม
่ ่ ่
เกียวกับอะไร มีลกษณะพูดคุยสนทนา
่ ั
การสั มภาษณแบบมีโครงสราง (Structured
์ ้
Interview) มีการกาหนดคาถามเพือการสั มภาษณ ์
่
- 25. เทคนิ คการรวบรวมความต้องการ (Requirements Gathering
Techniques)
25
การสั งเกตการจากกระบวนการเดินเอกสารใน
ธุรกิจ (Observe and Document Business
Processes)
สั มผัสจากการทางานทีเป็ นเหตุการณจริงของพนักงาน เช่น
่ ์
กระบวนการทางาน มีขนตอนใดทีตองเข้าไปปรับปรุง
้ั ่ ้
เพือให้ระบบดีขน โดยใช้ไดอะแกรม “เวิรกโฟลว ์
่ ึ้ ์
(Workflow)”
การแจกจายและรวบรวมแบบสอบถาม
่
(Distribute and Collect Questionaires) โดย
ทีแบบสอบถามมีอยู่ 2 ประเภท คือ
่
คาถามปลายเปิ ด สรางขึนเพือให้ผู้ตอบแบบสอบถามมี
้ ้ ่
อิสระในการตอบคาถาม ประโยชนคือ ไดรับคาถามใน
์ ้
ลักษณะความคิดเห็น ขอเสนอแนะ ซึงสามารถใช้เป็ น
้ ่
- 26. เทคนิ คการรวบรวมความต้องการ (Requirements Gathering
Techniques)
26
1. ปัจจุบนคุณทางานในตาแหน่ง?
ั
2. คุณทางานในหน่วยงานนี้เป็ นเวลา…..ปี …
เดือน
3. ปัจจุบนคุณอายุ ….ปี
ั
4. ระบบงานทีคุณใช้อยูนั้น เกิดปัญหาในการ
่ ่
ดาเนิตัวงานดานใดบาง? ้งคาถามปลายเปิ ด
น อย่ างแบบสอบถาม ที่ตั
้ ้
- 27. เทคนิ คการรวบรวมความต้องการ (Requirements Gathering
Techniques)
27
1. บริษทของคุณมีจานวนพนักงานเทาไร
ั ่
[ ] 1-2 คน
[ ] 20-100 คน
[ ] 100-200 คน
[ ] มากกวา200 คน
่
2. คุณจบการศึ กษาในระดับใด
[ ] มัธยม
[ ] ปวช./ปวส.
ตัวอย่ างแบบสอบถาม ที่ต้งคาถามปลายปิ ด
ั
[ ] ปริญญาตรี
[ ] สูงกวาปริญาตรี
- 28. เทคนิ คการรวบรวมความต้องการ (Requirements Gathering
Techniques)
28
การวางแผนความตองการรวมกัน (Joint
้ ่
Requirements Planning: JRP) ใช้เทคนิค
Brainstorming ในการทา Workshop มีการ
แบงงานหรือมอบหมายหน้าที่ และทุกคนตอง
่ ้
รวมมือรวมใจในการประชุมรวมกันเพือ
่ ่ ่ ่
ปรึกษาหารือ จึงสามารถบรรลุผลสาเร็จไดดี้