SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  28
Télécharger pour lire hors ligne
บทที่ 5
                               ทฤษฎีพฤติกรรมผ้ ูบริโภค

เนือหาการศึกษา
   ้
                  1. ทฤษฎีอรรถประโยชน์
                             ความหมายและข้อสมมติพ้ืนฐาน
                             อรรถประโยชน์รวมและอรรถประโยชน์เพิม      ่
                                  ่
                             กฎวาด้วยการลดน้อยถอยลงของอรรถประโยชน์
                             ดุลยภาพของผูบริ โภค มี 4 กรณี
                                            ้
                               ่ ิ
                             สวนเกนของผูบริ โภค
                                          ้
                 2. ทฤษฎีเส้ นความพอใจเท่ ากัน
                             ความหมายและข้อสมมติฐาน
                                                                                ่ ั
                             ตารางการเลือกบริ โภคสิ นค้า 2 ชนิดและเส้นความพอใจเทากน
                                                            ่ ั ํ
                             คุณสมบัติของเส้นความพอใจเทากนที่สาคัญ
                                                          ่ ั
                             ลักษณะของเส้นความพอใจเทากน 3 รู ปแบบ
                                      ่                         ั
                             อัตราหนวยสุ ดท้ายของการทดแทนกน(MRSxy)
                             เส้นงบประมาณ : ความหมายและการเปลี่ยนแปลง
                 3. ดลยภาพของผ้ ูบริโภค
                     ุ
                             ความหมายและการเปลี่ยนแปลงดุลยภาพ
                             เส้นแนวทางการบริ โภค อันเนื่องมาจากราคาเปลี่ยนแปลง(PCC)
                             เส้นแนวทางการบริ โภค อันเนื่องมาจากรายได้เปลี่ยนแปลง(ICC)
                                                                        ่ ั
                             การเปลี่ยนแปลงราคาสิ นค้า : ผลกระทบรวม เทากบ ผลการทดแทน
                                ั       ั
                             กน บวกกบ ผลทางด้านรายได้
                             เส้นเองเกล



EC 111                                                                               89
สาระสํ าคัญการศึกษา
                      1. การศึกษาเกียวกับพฤติกรรมของผู้บริโภค มี 2 ทฤษฎีคือ (1) ทฤษฎีอรรถประ
                                    ่
โยชน์ (Utility Theory) และ (2) ทฤษฎีว่าด้วยเส้นความพอใจเทากน(The Indifference curve
                                                                       ่ ั
Theory)
                     2. ทฤษฎีอรรถประโยชน์ หมายถึง ความพอใจที่ผบริ โภค ได้รับจากการบริ โภค
                                                                    ู้
                                              ่            ่
  สิ นค้า โดยความพอใจวัดเป็ นตัวเลขได้ มีหนวยวัดเรี ยกวา ยูทิล(Util) มีขอสม มติพ้ืนฐานดังนี้ (1)
                                                                           ้
                                        ่
ความพอใจของผูบริ โภควัดเป็ นหนวยได้ (2) อรรถประ โยชน์เพิ่มจะลดน้อยถอยลง (3) ความพอใจ
                   ้
                           ่                ่ ั
ในการบริ โภคสิ นค้าแตละชนิด เป็ นอิสระตอกน (4) ผูบริ โภคแสวงหาความพอใจสูงสุ ด
                                                       ้
                     3. อรรถประโยชน์ เพิม (Marginal Utility) คือ ความพึงพอใจที่เปลี่ยนแปลงไป
                                          ่
 เมื่อบริ โภคสิ นค้าเพิมขึ้ นทีละหนวย คํานวณจาก MU = ∆TU/∆Q หรื อ MU = TUn - TUn-1
                        ่             ่
                     4. อรรถประโยชน์ รวม(Total Utility) คือ ความพอใจที่ผบริ โภคได้รับจากสิ นค้า
                                                                             ู้
                      n
     ่
ทุกหนวย    TU n   =  MU i
                     i 1

                       5. กฎว่ าด้ วยการลดน้ อยถอยลงของอรรถประโยชน์เพิ่ม คือ เมื่อผูบริ โภคสิ นค้า
                                                                                    ้
                                                        ่          ่        ่
ชนิดหนึ่งเพิมขึ้ นเรื่ อยๆ อรรถประโยชน์ที่ได้รับแตละหนวยจะลดลงเชน MU1 = 10 ยูทิล , MU2 = 8
              ่
ยูทิล , MU3 = 6 ยูทิล เป็ นต้น
                  6. ดลยภาพของผ้ ูบริโภค คือการที่ผบริ โภคสิ นค้าและบริ การ ต้องการแสวงหา ความ
                        ุ                                 ู้
                            ้ ั ่               ่                             ่
พอใจสูงสุ ดภายใต้ขอจํากดตางๆ เชน (1) กรณี สินค้าชนิดเดียว : ไมนําเอา ราคาและงบประมาณ
มารวมพิจารณา ดุลยภาพอยูที่ค่า TU สู งสุ ดและ MU กบศูนย์ (2) กรณี สินค้าชนิดเดียว : นําราคา
         ่                          ่                            ั
            ่                                 ่                                 ่
สิ นค้ามารวมพิจารณา ดุลยภาพอยูที่ MUx = Px (3) กรณี สินค้ามากกวาหนึ่งชนิด และราคาสิ นค้า
      ่ ั                 ่
เทากน ดุลยภาพอยูที่ MUx = MUy = ………. = MUn (4) กรณี สินค้ามากกวาหนึ่งชนิด และราคา ่
           ่ ่ ั                      ่
 สิ นค้าไมเทากน ดุลยภาพอยูที่ MUx/Px = MUy/Py = ……… = MUn/Pn
                  7. ส่ วนเกินของผู้บริโภค คือ อรรถประโยชน์ที่ผบริ โภคได้รับจากการบริ โภคสิ นค้า
                                                                     ู้
 เกนจากเงินที่จ่ายไปจริ ง เมื่อราคาสิ นค้าสูงขึ้ น สวนเกนผูบริ โภคจะลดลง หรื อราคาสิ นค้าลดลง
       ิ                                                     ่ ิ ้
  ่ ิ ้
สวนเกนผูบริ โภคจะเพิมขึ้ น   ่
                                                               ่        ่
                8. เส้ นความพอใจเท่ ากันคือ เส้นที่แสดงสวนประกอบตางๆของสิ นค้า 2 ชนิด ที่ทาให้ ํ
    ้                                   ่ ั
 ผูบริ โภคได้รับความพอใจเทากน โดยมีขอสมมติพ้ืนฐานดังนี้ (1) ผูบริ โภคจะแสวง หาความพอใจ
                                                  ้                       ้
                                         ั
สู งสุ ด โดยมีงบประมาณจํากด (2) ความพอใจในสิ นค้าเรี ยงลําดับได้ (3) ความพอใจถายทอดได้    ่
                                            ่
(transitivity) 4) สิ นค้าทุกชนิดแบงเป็ นหนวยยอยได้  ่ ่
90                                                                                          EC 111
9. เส้ นความพอใจเท่ ากัน มีคุณสมบัติสาคัญดังนี้ (1) เป็ นเส้นทอดลงจากซ้ายไปขวา
                                                               ํ
                            ่ ั
  (2) เส้นความพอใจเทากนมีได้หลายเส้นและเส้นทางขวามือ จะมีความพอใจมากกวา (3) เส้นความ         ่
          ่ ั
พอใจเทากนจะไมตัดกน       ่ ั
              10. เส้ นความพอใจเท่ ากัน จะมีลกษณะ 3 ประการดังนี้ (1) เส้นความพอใจเทากนเป็ น
                                                       ั                                            ่ ั
                          ํ                    ่
 เส้นโค้งเข้าหาจุดกาเนิด แสดงวาสิ นค้าสองชนิดเพิ่ม-ลดทดแทนไมเทากน (2) เส้นความพอใจ่ ่ ั
    ่ ั                              ่                           ่ ั
เทากนเป็ นเส้นตรง แสดงวาสิ นค้าสองชนิดเพิ่ม-ลด เทากน (3) เส้นความพอใจเทากนเป็ นรู ปตัว         ่ ั
                                                 ่
แอลหรื อหักงอเป็ นมุมฉาก แสดงวาสิ นค้าสองชนิดทดแทน กนไมได้เลย            ั ่
                                                                       ่
              11. อัตราหน่ วยสดท้ ายของการทดแทนกันระหวางสิ นค้า X และ Y , สมมติวาคาของ
                                       ุ                                                                ่ ่
MRSxy = ∆Y/∆X = - 4 แปลความหมายได้วา เมื่อบริ โภคสิ นค้า X เพิ่มหนึ่งหนวย จะลดการ
                                                         ่                                      ่
บริ โภคสิ นค้า Y จํานวน 4 หนวย             ่
                                                           ่
              12. เส้ นงบประมาณ คือ เส้นที่แสดงสวนประกอบของสิ นค้า 2 ชนิด ที่ผบริ โภคใช้งบู้
                        ่ ั
ประมาณซื้ อได้เทากน ณ ราคาที่เป็ นอยูขณะนั้ น        ่
              13. การเปลียนแปลงเส้ นงบประมาณ จะเป็ นไปได้ 2 ลักษณะคือ (1) รายได้ของผูบริ
                               ่                                                                           ้
โภคเปลี่ยนแปลง รายได้เพิ่มเส้นงบประมาณจะเคลื่อนทั้ งเส้นไปทางขวามือ (2) ราคาสิ นค้า
เปลี่ยนแปลง จะทําให้เส้นงบประมาณเคลื่อนย้ายไปด้วย
               14. ดลยภาพของผู้บริโภค คือ สถานการณ์ที่ผบริ โภคจะได้รับความพอใจสูงสุ ดจาก
                      ุ                                           ู้
                                                             ํ ั                ํ
การบริ โภคสิ นค้า 2 ชนิด ภายใต้งบประมาณที่มีจากดจํานวนหนึ่งที่กาหนดให้ ดังนั้ นจุดดุลยภาพจึง
                                 ่ ั
เป็ นจุดเส้นความพอใจเทากนสัมผัสกบเส้นงบประมาณ      ั
              15. เส้ นแนวทางการบริโภค อันเนื่องมาจากราคาเปลียนแปลง (Price Consumption
                                                                            ่
                                         ่
Curve : PCC ) เป็ นเส้นที่ลากผานจุดดุลยภาพหลายๆจุด ที่มีสาเหตุมาจากราคาสิ นค้าเปลี่ยนแปลง
              16. เส้ นแนวทางการบริโภค อันเนื่องมาจากรายได้ เปลียนแปลง (Income Consumption
                                                                              ่
                                             ่
Curve : ICC) เป็ นเส้นที่ลากผานจุดดุลยภาพหลายๆจุด ที่มีสาเหตุมาจากรายได้ของ ผูบริ โภค                    ้
เปลี่ยนแปลง
              17. การเปลียนแปลงราคาสิ นค้ าและบริการ จะมีทาให้ ผลทางด้ านราคาหรือผลรวม
                             ่                                       ํ
     ่ ั
  เทากบ ผลทางด้ านการทดแทนกัน + ผลทางด้ านรายได้
                                                                          ่
              18. เส้ นเองเกล คือ เส้นที่แสดงความสัมพันธ์ระหวาง รายได้ของผูบริ โภค กบปริ มาณ
                                                                                        ้         ั
  การเสนอซื้ อสิ นค้าชนิดหนึ่ง โดยสมมติให้ปัจจัยอื่นๆคงที่
EC 111                                                                                                       91
จดประสงค์ การศึกษา
 ุ
                     ่                                             ่
             เมื่ออานบทที่ 5 จบแล้ว ควรจะอธิบายคําถามประเด็นตางๆดังตอไปนี้ ได้่
                                                                      ่ ั
             1. ทฤษฎีอรรถประโยชน์ และทฤษฎีเส้นความพอใจเทากน มีแนวทางการวิเคราะห์
พฤติกรรมของผูบริ โภคที่เหมือนหรื อแตกตางกนอยางไร
                   ้                            ่ ั ่
            2. อรรถประโยชน์รวม(TU) ,อรรถประโยชน์เพิ่ม(MU) และ กฎวาด้วยการลดน้อยถอย  ่
ลงของอรรถประโยชน์ มีสาระกลาวไว้วาอยางไร  ่   ่ ่
             3. ดุลยภาพของผูบริ โภคคืออะไร เราสามารถวิเคราะห์ดุลยภาพของผูบริ โภคทั้ ง 4 วิธี
                                  ้                                                     ้
       ่
ได้อยางไรบ้าง
                  ่ ิ           ้                 ่ ิ
            4. สวนเกนของผูบริ โภคคืออะไร สวนเกนของผูบริ โภคจะเพิมหรื อลดลง มีสาเหตุมาจาก
                                                             ้          ่
ปั จจัยอะไร
                                    ่ ั                        ่
            5.เส้นความพอใจเทากนคืออะไร มีคุณสมบัติอยางไร และเส้นความพอใจที่มี 3 ลักษณะ
                              ั
แสดงให้เห็นการทดแทนกนของสิ นค้า 2 ชนิดอยางไรบ้าง     ่
                                     ่ ั                                        ่
            6. เส้นความพอใจเทากน(IC) และเส้นงบประมาณ(BL) นํามาอยูในรู ปกราฟเดียวกน จะ        ั
         ิ
ทําให้เกดดุลยภาพของผูบริ โภคอยางไร
                           ้               ่
            7. เส้น PCC คือ เส้นอะไร และเส้นนี้ จะชี้ ให้เห็นทางเลือกของผูบริ โภคที่จะได้รับความ
                                                                                  ้
พอใจสูงสุ ด เมื่อราคาสิ นค้าเปลี่ยนแปลงได้อยางไร   ่
            8. เส้น ICC คือเส้นอะไร และเส้นนี้ จะชี้ ให้เห็นทางเลือกของผูบริ โภค ที่จะได้รับความ
                                                                            ้
พอใจสูงสุ ด เมื่อรายได้เปลี่ยนแปลงได้อยางไร   ่
            9. เส้นเองเกล คือเส้นที่แสดงความสัมพันธ์ ของปั จจัย 2 ชนิด เป็ นปัจจัยอะไร
           10. เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงราคาสิ นค้าชนิดหนึ่ง(อีกชนิดหนึ่งคงที่) จะทําให้ดุลยภาพของ
                                                          ่               ่           ิ
ผูบริ โภคเปลี่ยนแปลงไป ผลการเปลี่ยนราคาเราเรี ยกวาอะไร รวมทั้ งกอให้เกดผลอยางอื่นอะไรได้
   ้                                                                                      ่
บ้าง




92                                                                                      EC 111
5.1 ทฤษฎีอรรถประโยชน์ (Utility Theory)
                        อรรถประโยชน์ (Utility) หมายถึง ความพอใจที่ผบริ โภคได้รับตอบสนองจาก
                                                                            ู้
                                                                               ่
การบริ โภคสิ นค้า หรื อ ความสามารถของสิ นค้าบริ การที่ตอบสนองตอความพอใจของผูบริ โภค            ้
ทั้ งนี้ โดยมีขอสมมติว่า ความพอใจที่กลาวแล้ว สามารถวัดออกมาเป็ นตัวเลขได้ เรี ยกหนวยความ
                ้                                  ่                                         ่
                               ่                       ่ ่ ้                            ๋
พอใจที่วดออกมานั้ นวา ยูทิล (Utils) ตัวอยางเชน ผูบริ โภคคนหนึ่ งได้รับประทานกวยเตี๋ยว 1 ชาม
            ั
เขาสามารถบอกได้ว่าได้รับความพอใจเทากบ 30 ยูทิล เป็ นต้น ดังนั้ นทฤษฎีอรรถประโยชน์จึง
                                                     ่ ั
                    ่                     ่
เรี ยกอีกชื่อหนึ่งวา วิธีแบบหนวยนับ (Cadinal Approach)
                        ข้ อสมมติพนฐาน (Basic Assumption) ของทฤษฎีมีดงตอไปนี้
                                       ื้                                    ั ่
                   (1)ทฤษฎีน้ ีสมมติให้ความพอใจที่ผบริ โภคได้รับจากการบริ โภคสิ นค้าบริ การ
                                                              ู้
สามารถวัดเป็ นหนวยได้    ่
                   (2) สมมติให้อรรถประโยชน์เพิ่ม(Marginal Utility) ลดน้อยถอยลง
                      ่                                               ่
(Diminishing)กลาวคือ ถ้าผูบริ โภคสิ นค้าและบริ การมากหนวยขึ้ น อรรถประโยชน์เพิ่มที่ได้รับจาก
                                     ้
              ่                                                   ่
สิ นค้าหนวยหลังๆจะลดลงไปเรื่ อยๆ ทําให้เราเรี ยกวา กฎการลดน้อยถอยลงของอรรถประโยชน์
เพิ่ม(Law of Diminishing Marginal Utility)
                                                                                   ่
                           (3) ความพอใจที่ผบริ โภคได้รับจากการบริ โภคสิ นค้าแตละชนิดเป็ นอิสระตอกน
                                                ู้                                                    ่ ั
                   (4) ผูบริ โภคต้องการแสวงหาความพอใจสูงสุ ด
                             ้
                    อรรถประโยชน์ เพิ่ม (Marginal Utility) คือ อรรถประโยชน์หรื อความพึงพอใจที่
                                                                          ่
เปลี่ยนแปลงไป เมื่อบริ โภคสิ นค้าและบริ การเปลี่ยนแปลงไปทีละหนวย โดยจะใช้สัญลักษณ์แทน
  ่
วา MU หมายถึง ระดับของอรรถประโยชน์ที่ได้รับเพิ่มขึ้ นหรื อลดลง เมื่อบริ โภคสิ นค้าบริ การ
                                   ่
เพิ่มขึ้ นหรื อลดลงหนึ่งหนวยตามลําดับ
                                                   MUn = ∆ TU . หรื อ MUn = TUn - TUn-1
                                                                 ∆Q
                  อรรถประโยชน์ รวม(Total Utility) คือ อรรถประโยชน์ท้ งหมดที่ผบริ โภคได้รับจาก
                                                                                 ั   ู้
                                             ่            ่         ่
การบริ โภคสิ นค้าบริ การทุกๆหนวย หรื อ อาจกลาวได้วา เป็ นผลรวมของอรรถประโยชน์ที่ผบริ โภค           ู้
                                 ่          ่ ่             ํ
ไดรับจากสิ นค้าบริ การแตละหนวยนันเอง โดยกาหนดให้ TU เป็ นสัญลักษณ์แทน คําวา Total                ่
Utility
                                                       n
                                          TU n =  MU i
                                                      i 1

EC 111                                                                                               93
ดังนั้ นลักษณะของอรรถประโยชน์เพิ่ม(MU) และอรรถประโยชน์รวม(TU) จึง
                                ่
แสดงได้จากตารางที่ 5.1 ดังตอไปนี้
                                     ่               ั
ตารางที่ 5.1 แสดงความสัมพันธ์ระหวางปริ มาณสิ นค้ากบ อรรถประโยชน์รวมและอรรถประโยชน์
             เพิ่ม
            ปริ มาณสิ นค้า             อรรถประโยชน์รวม(TU)   อรรถประโยชน์เพิ่ม(MU)
                 ิ
              (กโลกรัม)                      (ยูทิล)                 (ยูทิล)
                0                             0                        0
                1                             7                        7
                2                            13                        6
                3                            18                        5
                4                            22                        4
                5                            25                        3
                6                            27                        2
                7                            28                        1
                8                            28                        0
                9                            27                       -1
               10                            25                       -2



                      กฎว่ าด้ วยการลดน้ อยถอยลง(Law of diminishing marginal utility) หมายถึง
เมื่อผูบริ โภคได้บริ โภคสิ นค้าชนิ ดใดชนิ ดหนึ่งเพิ่มขึ้ นเรื่ อยๆ อรรถประโยชน์เพิ่มที่ได้รับจากสิ นค้า
       ้
    ่       ่                    ํ
แตละหนวยจะลดลง โดยกาหนดให้ตวแปรอื่นๆที่เกยวข้องคงที่
                                          ั                ี่




94                                                                                          EC 111
MU                    รู ปภาพที่ 5.1 เส้นอรรถประโยชน์รวม และอรรถประโยชน์เพิ่ม




             0                                                             Q
                    1     2      3    4     5    6     7    8
             TU

                                                                                  TU




         0                                                        8              Q
                        ดลยภาพของผ้ ูบริโภค : การแสวงหาความพึงพอใจสู งสุ ดจากการบริ โภค
                          ุ
                                        ่                  ้ ั ่        ่
สิ นค้าและบริ การ ชนิดเดียวหรื อมากกวาหนึ่งชนิด ภายใต้ขอจํากด ตางๆ เชน งบประมาณจํานวน
                      ่ ั       ่ ่ ั                               ั ่
หนึ่ง ราคาสิ นค้าเทากนหรื อไมเทากน มีหลักการศึกษาวิเคราะห์ได้ดงตอไปนี้
                                                         ่ ้ ั
                        (1) กรณีสินค้ าชนิดเดียว : ไมมีขอจํากดทั้ งราคาสิ นค้าและงบประมาณ
                                                                 ่ ่                 ่ ่
ผูบริ โภคจะตัดสิ นสิ นค้าใจ เลื อกบริ โภคสิ นค้าและบริ การตั้ งแตหนวยแรกไปจนกระทังหนวย
   ้
                    ่ ่
สุ ดท้ายที่ปรากฏวา คาของอรรถประโยชน์รวม(TU) มีค่าสู งสุ ด และคาอรรถประโยชน์เพิ่ม (MU)
                                                                      ่
มีค่าเป็ นศูนย์ จึงหยุดการบริ โภคสิ นค้าชนิดนั้ นตอไป เพราะวาบรรลุอรรถประโยชน์สูงสุ ดแล้ว ดัง
                                                  ่         ่
รู ปภาพที่ 5.2
EC 111                                                                                    95
่                                             ่ ั
         รู ปภาพที่ 5.2 แสดงเมื่อคาอรรถประโยชน์รวมสู งสุ ด , อรรถประโยชน์เพิ่มเทากบศูนย์
                          TU

                         28
                                                                TU



                              0                      8                   Q
                         MU



                                                              MU = 0

                                     0                 8             Q
                          อธิ บ ายรู ปภาพที่ 5.2 จากรู ป ภาพข้า งบน ผูบริ โ ภคจะเลื อ กซื้ อสิ น ค้า และ
                                                                      ้
                                 ่                                            ่ ั
บริ การไปจนกระทังถึงหนวยที่ 8 ซึ่ งจะมีอรรถประโยชน์รวมสู งสุ ดเทากบ 28 ยูทิล และ
                      ่
                                        ่        ่
อรรถประโยชน์เพิ่มของสิ นค้าหนวยที่ 8 คาของ MU = 0 จึงเป็ นไปตามหลักเกณฑ์ที่กลาวแล้ว          ่
                   ( 2.) กรณีสินค้ าชนิดเดียวและนําราคาสิ นค้ ามาร่ วมพิจารณาด้ วย : ดุลยภาพของ
ผูบริ โภค จะอยูที่ค่า MU ของสิ นค้าหนวยนั้ น มีค่าเทากบราคาสิ นค้าชนิ ดนั้ น หรื อ MUx = Px
  ้              ่                             ่          ่ ั
และหมดเงินพอดี นันเอง ดังข้อมูลตารางตอไปนี้
                        ่                          ่
                                           ่                     ่ ั
                             ตารางที่ 5.2 คาของอรรถประโยชน์เพิมกบราคาสิ นค้า
                           ิ
     ปริ มาณสิ นค้า (กโลกรัม)                        MU                           ราคาสิ นค้า
                1                                    12                                12
                2                                     10                               10
                3                                      8                                8
               4                                       6                                6
               5                                       4                                4

96                                                                                           EC 111
่ ั            ิ                ็
                    อธิบายตารางที่ 5.1 ถ้าราคาสิ นค้าเทากบ 12 บาท/กโลกรัม ผูบริ โภคกจะซื้ อ
                                                                                 ้
                          ิ                          ่ ั            ิ
สิ นค้าชนิดนี้ จํานวน 1 กโลกรัม หรื อ ราคาสิ นค้าเทากบ 10 บาท/กโลกรัม จะซื้ อสิ นค้าจํานวน
    ิ                         ็
2 กโลกรัม เป็ นต้น ผูบริ โภคกจะบรรลุดุลยภาพที่แสวงหาความพอใจสูงสุ ดได้
                       ้
                   (3) กรณีสินค้ ามากกว่ าหนึ่งชนิดและราคาเท่ ากัน : การที่ผบริ โภคจะสามารถ
                                                                            ู้
                                       ่
บรรลุดุลยภาพได้ พิจารณาจากสู ตรดังตอไปนี้
                                   MUx = MUy = ……….. = MUn

                                    ่                                            ่ ั
                  ตารางที่ 5.3 แสดงคาอรรถประโยชน์เพิ่มสิ นค้า X และ Y กรณี ราคาเทากน

          ปริ มาณสิ นค้า                           MUx                              MUy
                 1                                 58                                54
                 2                                 50                                50
                 3                                 46                               44
                 4                                 44                                42
                 5                                 42                                40

                                                                                ่
                    อธิบายตารางที่ 5.3 สมมติราคาสิ นค้า X และ Y หนวยละ 5 บาทเทากน               ่ ั
และผูบริ โภคมีงบประมาณ จํานวน 35 บาท ถ้าผูบริ โภคแสวงหาทางเลือกการซื้ อสิ นค้า X และ
        ้                                              ้
                                                                             ํ
Y ที่บรรลุจุดดุลยภาพ ที่ได้รับอรรถประโยชน์สูงสุ ดภายใต้งบประมาณที่กาหนดให้ มีดงนี้     ั
                    เริ่ มต้นผูบริ โภคต้องเลือกสิ นค้า X หรื อ Y ที่มีอรรถประโยชน์เพิ่มสู งสุ ดกอน
                               ้                                                                  ่
          ่                                          ่                    ่
แล้วจึงคอยเลือกสิ นค้าที่มี MU สู งสุ ดตามลําดับตอมา ดังนั้ นสิ นค้าหนวยแรกจึงเป็ นสิ นค้า X ที่
                ่ ั                    ่                                    ่ ั
มี MU สู งสุ ดเทากบ 58 ยูทิล หนวยที่สองเป็ นสิ นค้า Y ที่มี MU เทากบ 54 ยูทิล ไปเรื่ อย
จนกระทังพบวา หนวยสุ ดของสิ นค้า X และ Y มีค่า MU เทากน และใช้งบประมาณหมด 35 บาท
            ่  ่ ่                                             ่ ั
พอดี
                                                           ่ ั          ่
                    สรป ในกรณี น้ ี ผูบริ โภคสิ นค้า X เทากบ 4 หนวย และสิ นค้า Y เทากบ 3
                          ุ              ้                                                  ่ ั
      ่
หนวย ใช้งบประมาณ จํานวน 35 บาทหมดเงินพอดี
                    ผูบริ โภคได้รับอรรถประโยชน์รวม(TU) จากการบริ โภคจากสิ นค้า X เทากบ 4
                      ้                                                                       ่ ั
    ่
หนวย 58 + 50 + 46 + 44 = 198 ยูทิล เป็ นต้น
EC 111                                                                                              97
(4) กรณีสินค้ ามากกว่ าหนึ่งชนิดและราคาไม่ เท่ ากัน : ผูบริ โภคจะสามารถ
                                                                         ้
                                         ่
บรรลุจุดดุลยภาพได้ โดยพิจารณาจากสู ตรดังตอไปนี้
                               MUx . = MUy . = ……….. = MUn .
                                Px              Py                         Pn

                         ่                                                  ่ ่ ั
      ตารางที่ 5.4 การหาคาของอรรถประโยชน์เพิ่มของสิ นค้า X และ Y กรณี ราคาไมเทากน
 ปริ มาณสิ นค้า         MUx          MUx / Px               MUy            MUy / Py
         1                 60           20                   44                 22
         2                 54           18                   40                 20
         3                 48           16                   36                 18
         4                 42           14                   28                 14
         5                 36           12                   20                 10

                                                        ่ ั           ่
               อธิ บายตารางที่ 5.3 สมมติราคาสิ นค้า X เทากบ 3 บาท/หนวย และ สิ นค้า Y
    ่ ั         ่
เทากบ 2 บาท/หนวย ผูบริ โภคมีงบประมาณจํานวน 20 บาท จะเลือกซื้ อสิ นค้าทั้ ง 2 ชนิด จํานวน
                      ้
  ่
เทาใดจึงจะสามารถบรรลุจุดดุลยภาพของผูบริ โภคได้
                                      ้

                                       ่
                    เริ่ มต้นต้องปรับคา MUx และ MUy โดยนําราคาสิ นค้า Px และ Py ไปหารคา  ่
            ่
ของ MU กอน ดังนั้ นจึงได้ค่า MUx / Px และ MUy / Py หลังจากนั้ น จึงพิจารณาเชนเดียวกบ
                                                                                ่      ั
กรณี ที่ผานมา สิ นค้าหนวยแรกที่จะเลือกเป็ นสิ นค้า Y มีค่า MU ใหมเทากบ 22 ยูทิล หนวยที่ 2
         ่                   ่                                    ่ ่ ั            ่
                                                   ่ ั      ่
และ 3 จะเป็ นสิ นค้า X และ Y มีจานวน 20 ยูทิลเทากน ทําเชนนี้ ไปเรื่ อยๆ
                                     ํ
                                                                ่
                     สรป ผูบริ โภคจะซื้ อสิ นค้า X จํานวน 4 หนวย และ สิ นค้า Y จํานวน 4
                          ุ ้
  ่                                         ํ
หนวย คิดเป็ นเงินจํานวน 20 บาท ตามที่กาหนดมาให้พอดี




98                                                                                EC 111
ส่ วนเกินของผู้บริโภค (Consumer s Surplus ) : หมายถึง อรรถประโยชน์ที่
ผูบริ โภคได้รับจากการเลื อกซื้ อสิ นค้าและบริ การ เกนจากเงิ นที่ จ่ ายไปจริ ง แสดงโดยอาศัย
   ้                                                ิ
           ่
รู ปภาพดังตอไปนี้

                 รู ปภาพที่ 5.3 อรรถประโยชน์ส่ วนเกนของบุคคล
                                                   ิ

              ราคา




                                                   ราคาตลาด
                   2

                   0 1 2 3 4 5 6 7 8                                   ปริ มาณสิ นค้า
                รู ปภาพที่ 5.4 อรรถประโยชน์ส่ วนเกนของตลาด
                                                        ิ
             ราคา
                 A
                           พื้นที่                  ราคาตลาด
                          ่ ิ ้
                         สวนเกนผูบริ โภค
                 P0                           B
                                                            D
                    0                                                         ปริ มาณสิ นค้า
                                               q0
                   อธิ บายรู ปภาพที่ 5.3 สมมติผบริ โภคเลือกซื้ อสิ นค้าและบริ การ จํานวน 6
                                                    ู้
   ่          ่
หนวย ราคาหนวยละ 2 บาท ดังนั้ นอรรถประโยชน์ที่เป็ นรู ปภายใต้รูปแท่งพื้นที่ ณ เส้นราคา 2
บาท เป็ นอรรถประโยชน์ที่จ่ายเงินไปจริ ง แตพื้นที่ของแทงที่อยูเ่ หนือ ราคา 2 บาท จึงถือวาเป็ น
                                            ่             ่                                  ่
อรรถประโยชน์ส่ วนเกนที่ผูบริ โภคคนนี้ ได้รับโดยที่ไมต้องจายเงิน
                      ิ ้                              ่ ่

EC111                                                                                    99
สําหรับรู ปภาพที่ 5.4 เป็ นอรรถประโยชน์ส่ วนเกนของตลาดสิ นค้าและบริ การ
                                                                  ิ
และ P0 คือราคาสิ นค้าในตลาด เส้น D ใช้แทนเส้นอุปสงค์ ดังนั้ นอรรถประโยชน์ที่ได้รับและ
 ่
จายเงินไปจริ งคือพื้นที่ 0q0BP0 แตพื้นที่สามเหลี่ยม ABP0 จึงเป็ นอรรถประโยชน์ส่ วนเกนใน
                                       ่                                               ิ
                                ่ ่
ตลาดที่ผบริ โภคได้รับโดยที่ไมต้องจายเงิน
        ู้
                    อรรถประโยชน์ส่ วนเกนจะลดลงทันที ถ้าราคาสิ นค้าเพิ่มขึ้ นมากกวาราคา P0 ก็
                                           ิ                                     ่
                              ่
จะทําให้พ้ืนที่สามเหลี่ยมที่กลาวแล้วลดลง

                      5.2 เส้ นความพอใจเท่ ากัน (Indifference Curve) : เป็ นแนวคิดที่นัก
เศรษฐศาสตร์ ชาวอังกฤษ ชื่อ จอห์น อาร์ ฮิกส์ (John R. Hicks) นําเสนออกมา โดยมีขอสมมุติ               ้
     ่
ดังตอไปนี้ (สุ พตรา ราชรักษ์ , หน้า 222)
                   ั
                      (1) ผูบริ โภคเป็ นผูที่มีเหตุผล เมื่อเลือกซื้ อสิ นค้าและบริ การ จึงมุ่งแสวงหาความ
                              ้           ้
                                      ั
พอใจสู งสุ ด โดยมีงบประมาณจํากดจํานวนหนึ่ง
                      (2) ความพอใจที่ได้รับจากการซื้ อสิ นค้า สามารถเรี ยงลําดับได้
                                                                              ่
                      (3) ความพอใจจากการบริ โภคสิ นค้าสามารถถายทอดได้(transitive) เชน                  ่
สวนผสมของกลุ่มสิ นค้า ก ให้ความพอใจมากกวาสวนผสมของสิ นค้ากลุ่ม ข
  ่                                                      ่ ่
                                                       ่
                       (4) สิ นค้าทุกชนิดสามารถแบงเป็ นหนวยยอยๆได้่ ่
                       เส้ นความพอใจเท่ ากัน หมายถึง เส้นที่แสดงสวนประกอบต่างๆของสิ นค้า 2
                                                                            ่
                                                 ่ ั          ่
ชนิ ด ที่ทาให้ผูบริ โภคได้รับความพอใจเทากน เรี ยกวาเป็ นวิธีการเรี ยงลําดับความพอใจ(Ordinal
          ํ      ้
Approach) เมื่อพิจารณาตารางตอไปนี้  ่
                                                           ตารางที่ 5.4
               ่
              สวนผสม                                            ่
                                                  สิ นค้า X (หนวย)                                ่
                                                                                    สิ นค้า Y (หนวย)
                     A                                     0                               19
                     B                                     1                               13
                     C                                     2                                8
                     D                                     3                                4
                     E                                     4                                2
                     F                                     5                                0

100                                                                                            EC 111
สิ นค้า Y                                        ่ ั
                                      รู ปภาพที่ 5.5 เส้นความพอใจเทากน

                      19                                     ่ ั
                                               เส้นความพอใจเทากน (IC)
                      13
                       8

                       4
                       2
                       0
                               1 2 3 4                  5             สิ นค้า X
                                                                ่ ั
                     อธิ บายรู ปภาพที่ 5.5 บนเส้นความพอใจเทากน (IC) จะแสดงให้เห็นการ
เลือกบริ โภคสิ นค้า 2 ชนิ ดคือสิ นค้า X และ Y ของผูบริ โภค ในสวนผสมตางๆ ตั้ งแต่ A , B , C ,
                                                   ้          ่        ่
                                    ่ ั ่ ่
D , E และ F ที่ได้รับความพอใจเทากน เชน สวนผสม A บริ โภคสิ นค้า X จํานวน 0 หนวย และ  ่
                         ่ ่                                        ่
สิ นค้า Y จํานวน 19 หนวย สวนผสม C บริ โภคสิ นค้า X จํานวน 2 หนวย และสิ นค้า Y จํานวน 8
    ่
หนวย เป็ นต้น



                   5.2.1. ลักษณะของเส้ นความพอใจเท่ ากัน : โดยทัวไป เส้นความพอใจเทากนของ
                                                                    ่                     ่ ั
ผูบริ โภค จะมีลกษณะสําคัญคือ
  ้             ั
                     (1) เป็ นเส้นทอดลงจากซ้ายไปขวา มีความลาดชันเป็ นลบ (Downward Sloping)
ทั้ งนี้ เพราะการบริ โภคสิ นค้าชนิ ดหนึ่ งเพิ่มขึ้ น ผูบริ โภคจะลดการบริ โภคสิ นค้าอีกชนิ ดหนึ่ งลง
                                                        ้
                                  ํ             ่
และมีลกษณะโค้งเว้าเข้าหาจุดกาเนิด แสดงวาทดแทนกนได้ไมสมบูรณ์
           ั                                                ั    ่
                                            ่ ั
                     (2) เส้นความพอใจเทากนของผูบริ โภคคนหนึ่ง มีได้หลายเส้น และเส้นที่อยูทาง
                                                          ้                                     ่
                                          ่
ขวามือจะแสดงระดับความพอใจมากกวา เส้นที่อยูทางซ้ายมือ  ่




EC 111                                                                                         101
่ ั
                       รู ปภาพที่ 5. 6 เส้นความพอใจเทากนมีได้หลายเส้น
              สิ นค้า Y



                                                                     IC2 = 150
                                                                     IC1 = 100
                                                                     IC0 = 50

                          0                                                สิ นค้า X



                                       ่ ั       ั ่                      ่ ั    ั
                 (3) เส้นความพอใจเทากน จะตัดกนไมได้ เพราะถ้าเส้นความพอใจเทากนตัดกน
                                                   ั
ได้แล้ว จะทําให้ลกษณะและข้อสมมติเบื้องต้นขัดแย้งกนเอง ดังรู ปภาพ
                 ั
                                                     ่ ั      ั ่
                       รู ปภาพที่ 5.7 เส้นความพอใจเทากนจะตัดกนไมได้
             สิ นค้า Y
                               B

                                          A                          IC2

                                                                 C     IC1
                  0                                                          สิ นค้า X

                                                       ั                         ่ ั
                  อธิบายรู ปภาพที่ 5.7 ถ้าเส้น IC1 ตัดกบเส้น IC2 ที่จุด A ซึ่งอยูท้ งบนเส้น IC1
          ็         ่                ่ ั                          ็ ิ
และ IC2 กจะแสดงวา มีความพอใจเทากน รวมทั้ งที่จุด B และ C กจะเกดความคัดแย้งกบที่เคย      ั
  ่
กลาวแล้ว เป็ นต้น




102                                                                                      EC 111
่ ั                     ่
              นอกจากนี้ เส้นความพอใจเทากน อาจมีอีก 2 รู ปแบบเชน เป็ นเส้นตรง และ รู ป
ตัวแอล อธิบายได้ดงนี้
                 ั

                                              ั                     ่
                     ก. เส้ นความพอใจที่มีลกษณะเป็ นเส้ นตรง : แสดงวาเมื่อผูบริ โภคสิ นค้าเลือก
                                                                            ้
                                         ่
สิ นค้าชนิดหนึ่งเพิ่มขึ้ น จํานวน 1 หนวย จะต้องไปลดจํานวนสิ นค้าอีกชนิดหนึ่ง จํานวน 1 หนวย   ่
         ่       ่ ั
เป็ นสัดสวนที่เทากน
                                                        ่ ั
                           รู ปภาพที่ 5.8 เส้นความพอใจเทากนแบบเส้นตรง
                     สิ นค้า Y

                       8
                       4
                                                      IC
                       0                                             สิ นค้า X
                              10       14

                  ข. เส้ นความพอใจเท่ ากัน ที่มีลักษณะเป็ นรปตัวแอล หรื อหั กงอเป็ นมมฉาก :
                                                                ู                         ุ
       ่                                                           ่                        ั
แสดงวาสิ นค้า 2 ชนิ ดนี้ เป็ นสิ นค้ าที่ใช้ ทดแทนกันไม่ ได้ เลย แตเป็ นสิ นค้าที่ใช้ประกอบกน ดัง
            ่
รู ปภาพข้างลางนี้
                                                           ่ ั
                          รู ปภาพที่ 5.9 เส้นความพอใจเทากนแบบตั้ งฉากหักมุม

           สิ นค้า Y



                                                             IC

                  0                                                    สิ นค้า X



EC 111                                                                                      103
อัตราหน่ วยสดท้ ายของการทดแทนกันของสิ นค้ า X และ Y : จากข้อมูลใน
                                 ุ
                         ่
ตารางที่ 5.4 จะเห็นได้วาเมื่อผูบริ โภคเพิ่มการบริ โภคสิ นค้า X เพิ่มขึ้ น ต้องลดจํานวนการบริ โภค
                               ้
                       ่           ่                     ั
สิ นค้า Y ลง ลักษณะเชนนี้ เรี ยกวา อัตราการทดแทนกนของสิ นค้า 2 ชนิ ด โดยมีสูตรในการ
            ่ ั
คํานวณหาคาได้ดงนี้
                                            MRSxy = ∆Y .
                                                           ∆X
       ํ
โดยกาหนดให้                                ∆X = จํานวนการบริ โภคสิ นค้าเพิ่มขึ้ น 1 หนวย
                                                                                       ่
                                          ∆Y = จํานวนการบริ โภคสิ นค้าลดลงจํานวนหนึ่ง

                              ่                         ั ่
       ตารางที่ 5.5แสดงอัตราหนวยสุ ดท้ายของการทดแทนกนระหวางสิ นค้า X และ Y
   ่
  สวนผสม         สิ นค้า X       ∆X           สิ นค้า Y     ∆Y           MRSxy
                  ่
             หนวย : ตัน                       ่
                                           หนวย : ตัน
     A                0            -             22         -              -
     B                1          1               14         8             -8
     C                2          1                8         6             -6
     D                3          1                4         4             -4
     E                4          1                1         3             -3
     F                5          1                0         1             -1

                                 ่        ่              ่ ั
               การคํานวณหาคา MRSxy ณ สวนผสม D จะหาคาได้ดงนี้
                                   MRSxy = - ∆Y .
                                              ∆X
                       คาของ ∆Y = 8 - 4 = 4 , ∆X = 3 – 2 = 1
                        ่
                          ดังนั้ น MRSxy = - 4 / 1 = - 4

แปลความหมาย ถ้าผูบริ โภคตัดสิ นใจเลือก บริ โภคสิ นค้า X เพิ่มขึ้ น 1 ตัน จะต้องลดการบริ โภค
                    ้
                                                                      ่
สิ นค้า Y จํานวน 4 ตัน (เครื่ องหมายลบ แสดงความสัมพันธ์ระหวางสิ นค้า X และ Y มี
                         ่
ความสัมพันธ์เป็ นแบบลบ เทานั้ น)
104                                                                                EC 111
5.2.2. เส้ นงบประมาณ(Budget Line : BL) คือ เส้นที่แสดงส่ วนประกอบของ
สิ นค้า 2 ชนิด ที่ผบริ โภคสามารถซื้ อได้โดยใช้งบประมาณเทากน ณ ราคาสิ นค้าที่เป็ นอยู่
                   ู้                                        ่ ั
               สิ นค้า Y                     รู ปภาพที่ 5.10 เส้นงบประมาณ
                        10                       เส้นงบประมาณ (BL)

                       5                       A

                       0                                                 สิ นค้า X
                                              10                20
                  อธิ บายรู ปภาพที่ 5.10 สมมติผูบริ โภคคนหนึ่ งชื่ อนายแดงมีงบประมาณในการซื้ อ
                                                      ้
          ่ ั                                           ่
สิ นค้า เทากบ 100 บาท สิ นค้า X ราคา 5 บาท/หนวย และสิ นค้า Y ราคา 10 บาท/หนวย       ่
                                                                              ่
                  กรณี ที่นายแดงซื้ อสิ นค้า X ทั้ งหมดจะได้สินค้าจํานวน 20 หนวย หรื อซื้ อสิ นค้า Y
                                        ่     ่                                   ่
ทั้ งหมดจะได้สินค้าจํานวน 10 หนวย แตที่จุด A จะซื้ อสิ นค้า X ได้จานวน 5 หนวย และสิ นค้า Y
                                                                       ํ
                      ่                                    ่ ั
ได้จานวน 10 หนวย ทุกกรณี จะใช้เงินงบประมาณเทากบ 100 บาทเทากนหมด
      ํ                                                                  ่ ั
                 การเปลียนแปลงเส้ นงบประมาณ : จะเป็ นไปได้ 2 ลักษณะดัวยกนคือ
                          ่                                                     ั
               (1) รายได้ เปลียนแปลง (Income Change) : ถ้ารายได้ของผูบริ โภคเปลี่ยนแปลงเพิมขึ้ น
                                ่                                         ้                    ่
หรื อลดลง จะมีผลทําให้ปริ มาณการซื้ อสิ นค้า 2 ชนิ ดเปลี่ยนไปด้วย (ราคาสิ นค้าคงที่) ในกรณี
งบประมาณเพิ่ม เส้น BL จะเคลื่อนย้ายทั้ งเส้นไปทางขวามือ หรื องบประมาณลดลง เส้น BL จะ
เคลื่อนย้ายทั้ งเส้นไปทางซ้ายมือ
                            รู ปภาพที่ 5.11 กรณี ผบริ โภคมีงบประมาณลดลง
                                                   ู้
           สิ นค้า Y

                   10                      เส้น BL1
                                               เส้น BL2
                   5



                           0          10           20                   สิ นค้า X
EC 111                                                                                         105
อธิ บายรู ปภาพที่ 5.11 เส้น BL1 ผูบริ โภคมีงบประมาณจํานวน 100 บาท สามารถซื้ อ
                                                   ้
                                 ่                                      ่      ่
สิ นค้า X ทั้ งหมดได้ 20 หนวย หรื อซื้ อสิ นค้า Y ทั้ งหมด ได้ 10 หนวย แตเมื่อเป็ นเส้น BL2 มี
                                                                      ่
งบประมาณจํานวน 50 บาท สามารถซื้ อสิ นค้า X ทั้ งหมดได้ 10 หนวย หรื อซื้ อสิ นค้า Y ทั้ งหมด
          ่
ได้ 5 หนวย เป็ นต้น
               (2) ราคาสิ นค้ าเปลียนแปลง (Price Change) : จะมีกรณี ราคาสิ นค้าชนิดใด ชนิดหนึ่ง
                                   ่
เปลี่ยนแปลงจะมีผลทําให้เส้นงบประมาณ (BL) เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย เชน           ่

                            รู ปภาพที่ 5.12 ราคาสิ นค้ า X เปลียนแปลง (ราคาสิ นค้า Y คงที่)
                                                               ่
        ราคาสิ นค้า X เพิ่มขึ้ น                                 ราคาสิ นค้า X ลดลง
สิ นค้า Y                                       สิ นค้า Y




      0          5             10                         0            5         10
                                             สิ นค้า X                             สิ นค้า X
                                           ่
ปริ มาณซื้ อสิ นค้า X ลดลงจาก 10 เป็ น 5 หนวย ปริ มาณซื้ อสิ นค้า X เพิ่มจาก 5 เป็ น 10 หนวย ่

                         รู ปภาพที่ 5.13 ราคาสิ นค้ า Y เปลียนแปลง (ราคาสิ นค้า X คงที่)
                                                            ่
         ราคาสิ นค้า Y เพิ่มขึ้ น                               ราคาสิ นค้า Y ลดลง
สิ นค้า Y                                               สิ นค้า Y
      15                                               15

      8                                               8

       0                                              0
                                      สิ นค้า X                                    สิ นค้า X
                                           ่
ปริ มาณซื้ อสิ นค้า Y ลดลงจาก 15 เป็ น 8 หนวย                                                       ่
                                                  ปริ มาณซื้ อสิ นค้า Y เพิ่มขึ้ นจาก 8 เป็ น 15 หนวย
106                                                                                            EC 111
5.3 ดลยภาพของผ้ ูบริโภค : เป็ นเหตุการณ์ที่ผบริ โภคจะได้รับความพอใจสูงสุ ด
                     ุ                                      ู้
                                                 ํ ั                ํ
ในการบริ โภคสิ นค้า 2 ชนิ ด ภายใต้งบประมาณที่จากดจํานวนหนึ่ งที่กาหนดให้ เมื่อนําเส้นความ
      ่ ั ั                         ่                ั
พอใจเทากนกบเส้นงบประมาณ มาอยูในรู ปภาพเดียวกน จุดดุลยภาพของผูบริ โภค จึงเกดจากเส้น
                                                                       ้          ิ
            ่ ั              ั
ความพอใจเทากน (IC) สัมผัสกบเส้นงบประมาณ(BL) นันเอง     ่
                               รู ปภาพที่ 5.14 ดุลยภาพของผูบริ โภค
                                                               ้

      สิ นค้า Y
              B



            10                  E0
                                                            IC0

                  0           5             L                  สิ นค้า X

                                                           ่ ั              ั
                  อธิบายรปภาพที่ 5.14 เส้นความพอใจเทากน (IC0) สัมผัสกบเส้นงบประมาณ
                           ู
(BL) ที่จุด E0 ซึ่ งถือเป็ นจุดดุลยภาพของผูบริ โภคได้ที่รับความพอใจสู งสุ ดภายใต้งบประมาณ
                                           ้
จํานวนหนึ่ง บริ โภคสิ นค้า Y จํานวน 10 หน่วย และสิ นค้า X จํานวน 5 หนวย   ่

                     การเปลียนแปลงดลยภาพของผู้บริโภค : ที่มีสาเหตุมาการเปลี่ยนแปลงใน ราคา
                              ่        ุ
                                                                   ั ่
สิ นค้ า หรือ รายได้ ของผ้ ูบริโภค จะมีผลต่อดุลยภาพของผูบริ โภคได้ดงตอไปนี้
                                                        ้

                 (1) การเปลียนแปลงราคาสิ นค้ าชนิดใด ชนิดหนึ่ง (Price Effect) : ในกรณี ที่ ราคา
                              ่
สิ นค้า X ลดลง (ราคาสิ นค้า Y คงที่) จะมีผลทําให้ผบริ โภคสามารถซื้ อสิ นค้า X มากขึ้ น เส้น BL
                                                        ู้
                                                      ั            ่ ั          ่
บนแกนนอนเคลื่อนย้ายไปทางขวามือ ไปสัมผัสกบเส้นความพอใจเทากนเส้นที่อยูทางขวามือ เกด             ิ
ดุลยภาพใหม่ข้ ึนที่จุด E1 , E2 , E3 ได้ ดังรู ปภาพที่ 5.15



EC 111                                                                                     107
รู ปภาพที่ 5.15 เส้นแนวทางการบริ โภคอันเนื่องจากราคาเปลี่ยนแปลง(PCC)

           สิ นค้า Y   IC1
                             IC2
                 Y1                      IC3
                       E1
                 Y2                E2
                 Y3                            E3                  PCC

                 0          X1         X2           X3                 สิ นค้า X
                                                                             ่
                        อธิบายรปภาพที่ 5.15 เริ่ มต้นจากดุลยภาพครั้ งแรกอยูที่ เส้น IC1 สัมผัสเส้น
                                  ู
                            ่
งบประมาณที่จุด E1 ตอมาราคาสิ นค้า X ลดลง ทําให้ เส้น BL บนแกนนอนเคลื่อนย้ายไปทางขวา
                 ั
มือ สัมผัสกบเส้น IC2 ที่จุด E2 เป็ นดุลยภาพใหม่ และถ้าราคาสิ นค้า X ยังลดลงอีก เส้น BL จะไป
                                                                               ่
สัมผัสเส้น IC3 ที่จุด E3 ดังนั้ นมีจุดดุลยภาพคือ E1 , E2 , E3 ถ้าลากเส้นผานจุดดุลยภาพทั้ งสาม
จะเรี ยกเส้นแนวทาการบริ โภค อันเนื่องมาจากราคาเปลี่ยนแปลง (PCC)
                    (2) การเปลียนแปลงรายได้ ของผู้บริโภค (Income Change) : ถ้าผูบริ โภคมีรายได้
                                ่                                                    ้
                                                                           ็
เพิ่มขึ้ นหรื อลดลง (ราคาสิ นค้าคงที่) กรณี รายได้เพิ่ม เส้นงบประมาณกจะเคลื่อนย้ายทั้ งเส้นไป
                                                              ็
ทางขวามือของเส้นเดิม กรณี รายได้ลดลง เส้นงบประมาณกจะเคลื่อนย้ายทั้ งเส้นไปทางซ้ายมือ
ของเส้นเดิม
              รู ปภาพที่ 5.16 เส้นแนวทางการบริ โภค กรณี รายได้ของผูบริ โภคเปลี่ยนแปลง (ICC)
                                                                     ้
                    สิ นค้า Y
                                                  ICC
                         B3                            IC3
                         B2              E3
                                      E2      IC2
                         B1         E1        IC1
                              0                                              สิ นค้า X
                                           L1      L2        L3
     108                                                                                   EC 111
ั
                   อธิบายรู ปภาพที่ 5.16 เริ่ มต้นจากจุดดุลยภาพของผูบริ โภคคือ เส้น IC1 สัมผัสกบ
                                                                    ้
                          ่
เส้น BL1 ณ จุด E1 ตอมาเมื่อมีผบริ โภคมีรายได้เพิ่ม ทําให้เส้นงบประมาณเคลื่อนย้ายไปเป็ น BL2
                                     ู้
                     ั                                                  ่
และ BL3 สัมผัสกบเส้น IC2 และ IC3 ตามลําดับ มีจุดดุลยภาพใหมที่ E2 และ E3 ดังนั้ นถ้า
            ่                                    ่
ลากเส้ น ผานจุ ด ดุ ล ยภาพทั้ ง สาม จะเรี ย กวา เส้น แนวทางการบริ โ ภค อัน เนื่ อ งมาจากรายได้
เปลี่ยนแปลง (ICC)
                  (3) การเปลียนแปลงราคาสิ นค้ า : ผลการทดแทนกันและผลทางรายได้
                               ่
เมื่อราคาสิ นค้า X ลดลง (ราคาสิ นค้า Y คงที่ ) จะทําให้เส้นงบประมาณบนเส้นปริ มาณสิ นค้า X
ย้ายไปทางขวามื อ สัมผัสกบเส้นความพอใจเทากนอี กเส้นหนึ่ ง จึ งเกดดุ ลยภาพใหม่ ปริ มาณ
                                 ั                  ่ ั                   ิ
บริ โภคสิ นค้า X เพิ่มขึ้ น ดังรู ปภาพที่ 5.17
              รู ปภาพที่ 5.17 แสดงผลทางด้านราคา ,ผลการทดแทนและผลทางด้านรายได้
         สิ นค้า Y
                   B



                        E1                E3                     IC2
                               E2
                                                                IC1

                  0                  L1                                   L2
                          Q1 Q2               Q3                                สิ นค้า X
                     ผลของราคา หรือผลรวม = ผลการทดแทน + ผลทางรายได้
                                   Q1 Q3                  Q1 Q2             Q2 Q3
                                                                       ่
                  อธิบายรู ปภาพที่ 5.17 เริ่ มแรกดุลยภาพของผูบริ โภคอยูที่ เส้น IC1 สัมผัสเส้น BL1
                                                              ้
                                   ่ ั        ่
ที่จุด E1 ปริ มาณสิ นค้า X เทากบ Q 1 ตอมาราคาสิ นค้า X ลดลง ทําให้เส้นงบประมาณบนแกน
                                 ั                 ่ ั                        ่
สิ นค้า X เปลี่ยน BL2 สัมผัสกบเส้นความพอใจเทากน (IC2) เป็ นดุลยภาพใหมที่จุด E3 ปริ มาณการ
บริ โภคสิ นค้า X เพิ่มขึ้ นเป็ น Q3 ดังนั้นความแตกต่ างระหว่ าง Q1 Q3 เป็ นทางด้ านราคา(Price
                                                 ั
Effect) หรื อผลรวม Q1Q2 = ผลการทดแทนกน Q2Q3 = ผลทางด้านรายได้

EC 111                                                                                       109
่                               ั       ่
             (4) ผลการเปลียนแปลงรายได้ กับส้ นเองเกล : มีลกษณะดังตอไปนี้
รู ปภาพที่ 5.18 แสดงความสัมพันธ์เส้น ICC และเส้นเองเกล

                                                      รู ปภาพ ก.
           สิ นค้า Y

                                                    Income Consumption Curve(ICC)

                                     E2    E3
                           E1

                   0                                                   ปริ มาณสิ นค้า X
                           Q1         Q2 Q3
                                                       รู ปภาพ ข.
         รายได้
                                                         Engle curve

                  Y3                       E3
                  Y2                  E2
                  Y1            E1
                   0                                                ปริ มาณสิ นค้า X
                             Q1 Q2 Q3
                     อธิบายรู ปภาพที่ 5.18 จากรู ปภาพ ก แสดงการเส้นแนวทางการบริ โภค อัน
                                                                         ่
เนื่องมาจาก รายได้เปลี่ยนแปลง (ICC) ซึ่งมีผลทําให้เห็นความสัมพันธ์ระหวางรายได้ที่เพิมขึ้ นทํา
                                                                                          ่
ให้การบริ โภคสิ นค้า X และ Y เพิมขึ้ นตามไปด้วย
                                   ่
                                                                    ั
                      รู ปภาพ ข. เมื่อนําตัวแปรรายได้ท่ีเปลี่ยนแปลงกบการบริ โภคสิ นค้า X ที่
                                                      ่
เปลี่ยนแปลงไป บนจุด E1 , E2 และ E3 เมื่อลากเส้นผานจุดทั้ งสาม ได้ เส้ นทีเ่ รียกว่ า เส้ นเองเกล

110                                                                                       EC 111
คําถามท้ ายบท
เมื่ออ่านบทที่ 5 จบแล้ ว ควรทีจะตอบคําถามประเด็นต่ างๆดังต่ อไปนีได้
                                              ่                                         ้
1. อรรถประโยชน์ของสิ นค้าคืออะไร
    (1) ความพึงพอใจในสิ นค้า                                        (2) ประโยชน์ของสิ นค้า
    (3) ความพึงพอใจที่ผบริ โภคได้รับจากการบริ โภคสิ นค้าและบริ การ
                                     ู้
    (4) ผิดทุกข้อ
2. อรรถประโยชน์ในสิ นค้า จะมีมากหรื อน้อย ขึ้ นอยูกบ                  ่ ั
    (1) ความจําเป็ นของสิ นค้าในขณะนั้ น                          (2) จํานวนสิ นค้าที่บริ โภค
    (3) เวลาและสถานที่บริ โภคสิ นค้า                                (4) ถูกทุกข้อ
                         ่                ่
3. ข้อความใดตอไปนี้ ไมเป็ นไปตามข้อสมมติพ้ืนฐาน ของทฤษฎีอรรถประโยชน์
    (1) ผูบริ โภคบอกความพึงพอใจออกมาเป็ น (2) ผูบริ โภคจะเลือกซื้ อสิ นค้าที่มียทิลสูงสุ ด
           ้                                                                 ้                              ู
        หนวยยูทิลได้   ่                                                       ่
                                                                          กอนและพิจารณาลดลงตามลําดับ
                                                ่       ่ ่                ่
    (3) สิ นค้าที่นามาซื้ อ-ขายแบงเป็ นหนวยยอยได้ (4) ชวงแรกผูบริ โภคจะได้อรรถประโยชน์เพิม
                           ํ                                                         ้                                    ่
                                                                          น้อย จะมากขึ้ นเมื่อซื้ อสิ นค้ามากขึ้ น
         ่
4. กฎวาด้วย การลดน้อยถอยลงของอรรถประโยชน์เพิม เป็ นกฎที่แสดงความเกยวข้องระหวาง
                                                                        ่                             ี่            ่
    (1) ปริ มาณสิ นค้ากบความพึงพอใจั                                                      ั
                                                                  (2) ปริ มาณสิ นค้ากบราคาสิ นค้า
    (3) รายได้ของผูบริ โภคกบปริ มาณสิ นค้า
                               ้            ั                                                  ั
                                                                  (4) ราคาสิ นค้าชนิดอื่นกบความพึงพอใจ
5. เมื่อผูบริ โภคที่ตองการแสวงหาความพอใจสูงสุ ด จะซื้ อสิ นค้าชนิดหนึ่งไปจนกระทังชิ้นสุ ดท้ายมี
             ้                   ้                                                                            ่
      ่                      ่ ั
    คาของ MU เทากบศูนย์ แสดงให้เห็นวา                    ่
    (1) ผูบริ โภคจะได้รับ อรรถประโยชน์รวม(TU) จากสิ นค้าสูงสุ ด
                     ้
    (2) ผูบริ โภคจะได้รับอรรถประโยชน์รวม(TU) จากสิ นค้าตํ่าที่สุด
                   ้
    (3) ผูบริ โภคจะได้รับอรรถประโยชน์รวม(TU) จากสิ นค้าเฉลี่ยปานกลาง
                 ้
    (4) ผูบริ โภคจะได้รับอรรถประโยชน์รวม(TU) จากสิ นค้าติดลบ
               ้
                                                       ่ ่
6. เมื่อราคาสิ นค้า X มีราคา 30 บาทตอหนวย ถ้าผูบริ โภคต้องการแสวงหาความพอใจสูงสุ ด เมื่อ
                                                                  ้
    นําราคาสิ นค้าพิจารณาประกอบด้วย จะซื้ อสิ นค้า X จนกระทัง                      ่
    (1) อรรถประโยชน์รวม(TU) เทากบ 30 ยูทิล (2) อรรถประโยชน์รวม(TU) มีค่ามากกวา
                                                  ่ ั                                                                 ่
                                                                          30 ยูทิล
    (3) อรรถประโยชน์เพิม(MU) เทากบ 30 ยูทิล (4) อรรถประโยชน์เพิ่ม(MU) มีค่ามากกวา
                                        ่          ่ ั                                                                  ่
EC 111                                                                                                             111
่ ิ
7. สวนเกนของผูบริ โภค (Consumer s Surplus) หมายถึง
                       ้
     (1) รายได้ส่ วนที่ผบริ โภคเหลือจาก การใช้จ่ายซื้ อสิ นค้าและบริ การ
                             ู้
                                                               ิ
     (2) อรรถประโยชน์จากสิ นค้า ที่ผบริ โภคได้รับเกน จากการซื้ อสิ นค้าทั้ งหมด
                                           ู้
     (3) อรรถประโยชน์จากสิ นค้า ที่ผบริ โภคได้รับเกนจากราคาสิ นค้าที่จ่ายไปจริ ง
                                           ู้                    ิ
               ่           ่                        ั
     (4) ผลตางระหวาง อรรถประโยชน์รวมกบ อรรถประโยชน์เพิ่ม
       ่ ิ
8. สวนเกนของผูบริ โภคในสิ นค้า จะลดลงในกรณี
                     ้
     (1) รายได้ของผูบริ โภคเพิ่ม
                         ้                               (2) คุณภาพของสิ นค้าลดลง
     (3) ราคาสิ นค้าลดลง                                 (4) ราคาสิ นค้าเพิ่มขึ้ น
  ํ
กาหนดให้ MUx และ MUy ในสิ นค้าแตละหนวย มีค่าMU ดังตอไปนี้ จงใช้เป็ นข้อมูลในการตอบ
                                                 ่       ่                    ่
คําถามที่ 9-10
---------------------------------------------------------------- ถ้าผูบริ โภคมีเงินจํานวน 20 บาท
                                                                            ้
ปริ มาณสิ นค้า                   MUx             MUy                                         ่
                                                                       สิ นค้า X และ Y หนวยละ 4 บาท
----------------------------------------------------------------
             1                    35               30
             2                    31               28
             3                    28               25
             4                    25               23
             5                    23               20
-----------------------------------------------------------------
                                                                   ่
9. ผูบริ โภคคนหนึ่ง จะซื้ อสิ นค้า X และ Y จํานวนเทาใด จึงได้รับดุลยภาพการบริ โภค
         ้
    (1) X = 2 และ Y = 3 หนวย           ่                   (2) X = 3 และ Y = 2 หนวย      ่
    (3) X = 4 และ Y = 3 หนวย             ่                 (4) X = 3 และ Y = 4 หนวย        ่
10. ผูบริ โภคจะได้รับอรรถประโยชน์รวม จากการบริ โภคสิ นค้า X จํานวนกยูทิล
           ้                                                                          ี่
    (1) จํานวน 35 ยูทิล                                  (2) จํานวน 66 ยูทิล
    (3) จํานวน 94 ยูทิล                                  (4) จํานวน 119 ยูทิล
                                ่ ั
11. เส้นความพอใจเทากน(Indifference Curve) เป็ นเส้นที่แสดงสวนประกอบของ          ่
                                     ่
    (1) การเลือกซื้ อสิ นค้ามากกวาหนึ่งชนิด ที่ได้รับความพอใจเทากน         ่ ั
                                                                     ่
    (2) การเลือกซื้ อสิ นค้า 2 ชนิดในหลายๆองค์ประกอบ แตให้ความพอใจเทากน              ่ ั
112                                                                                            EC 111
Chapter5
Chapter5
Chapter5
Chapter5

Contenu connexe

Tendances

บทที่ 7 ต้นทุนการผลิต และรายรับจากการผลิต
บทที่ 7 ต้นทุนการผลิต และรายรับจากการผลิตบทที่ 7 ต้นทุนการผลิต และรายรับจากการผลิต
บทที่ 7 ต้นทุนการผลิต และรายรับจากการผลิตOrnkapat Bualom
 
พฤติกรรมผู้บริโภค
 พฤติกรรมผู้บริโภค พฤติกรรมผู้บริโภค
พฤติกรรมผู้บริโภคtumetr1
 
Macro Economics c5 นโยบายการเงิน
Macro Economics c5 นโยบายการเงินMacro Economics c5 นโยบายการเงิน
Macro Economics c5 นโยบายการเงินOrnkapat Bualom
 
บทที่ 6 ทฤษฎีการผลิต
บทที่ 6 ทฤษฎีการผลิตบทที่ 6 ทฤษฎีการผลิต
บทที่ 6 ทฤษฎีการผลิตOrnkapat Bualom
 
หลักเศรษฐศาสตร์ เรื่องอรรถประโยชน์
หลักเศรษฐศาสตร์ เรื่องอรรถประโยชน์หลักเศรษฐศาสตร์ เรื่องอรรถประโยชน์
หลักเศรษฐศาสตร์ เรื่องอรรถประโยชน์Orawonya Wbac
 
บทที่ 8 การกำหนดราคา และผลผลิตในตลาด
บทที่ 8 การกำหนดราคา และผลผลิตในตลาดบทที่ 8 การกำหนดราคา และผลผลิตในตลาด
บทที่ 8 การกำหนดราคา และผลผลิตในตลาดOrnkapat Bualom
 
บทที่ 4 อุปสงค์และอุปทานในทางปฏิบัติ
บทที่ 4 อุปสงค์และอุปทานในทางปฏิบัติบทที่ 4 อุปสงค์และอุปทานในทางปฏิบัติ
บทที่ 4 อุปสงค์และอุปทานในทางปฏิบัติOrnkapat Bualom
 
บทที่ 9 รายได้ประชาชาติ การบริโภค การออม และการลงทุน
บทที่ 9 รายได้ประชาชาติ การบริโภค การออม และการลงทุนบทที่ 9 รายได้ประชาชาติ การบริโภค การออม และการลงทุน
บทที่ 9 รายได้ประชาชาติ การบริโภค การออม และการลงทุนOrnkapat Bualom
 
บทที่ 4 การพยากรณ์
บทที่ 4 การพยากรณ์บทที่ 4 การพยากรณ์
บทที่ 4 การพยากรณ์Dr.Krisada [Hua] RMUTT
 
Unit3 elasticity
Unit3 elasticityUnit3 elasticity
Unit3 elasticitysavinee
 
Economic analysis for entrepreneur. thai version
Economic analysis for entrepreneur. thai versionEconomic analysis for entrepreneur. thai version
Economic analysis for entrepreneur. thai versionwarawut ruankham
 
Macro Economics c2 รายได้ประชาชาติ
Macro Economics c2 รายได้ประชาชาติMacro Economics c2 รายได้ประชาชาติ
Macro Economics c2 รายได้ประชาชาติOrnkapat Bualom
 
64 กำหนดราคาเชิงกลยุทธ์
64 กำหนดราคาเชิงกลยุทธ์64 กำหนดราคาเชิงกลยุทธ์
64 กำหนดราคาเชิงกลยุทธ์ssuser214242
 
บทที่ 5 พอลิเมอร์
บทที่ 5 พอลิเมอร์บทที่ 5 พอลิเมอร์
บทที่ 5 พอลิเมอร์Jariya Jaiyot
 
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์oraneehussem
 
7ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส
7ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส7ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส
7ทฤษฎีจลน์ของแก๊สWijitta DevilTeacher
 
อุปสงค์ อุปทาน
อุปสงค์ อุปทานอุปสงค์ อุปทาน
อุปสงค์ อุปทานthnaporn999
 
อนุพันธ์
อนุพันธ์อนุพันธ์
อนุพันธ์krurutsamee
 
ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ อุปทาน และประโยชน์ของการนำความรู้ทางความยืดหยุ่นไปวิเค...
ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ อุปทาน และประโยชน์ของการนำความรู้ทางความยืดหยุ่นไปวิเค...ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ อุปทาน และประโยชน์ของการนำความรู้ทางความยืดหยุ่นไปวิเค...
ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ อุปทาน และประโยชน์ของการนำความรู้ทางความยืดหยุ่นไปวิเค...VolunteerCharmSchool
 

Tendances (20)

บทที่ 7 ต้นทุนการผลิต และรายรับจากการผลิต
บทที่ 7 ต้นทุนการผลิต และรายรับจากการผลิตบทที่ 7 ต้นทุนการผลิต และรายรับจากการผลิต
บทที่ 7 ต้นทุนการผลิต และรายรับจากการผลิต
 
พฤติกรรมผู้บริโภค
 พฤติกรรมผู้บริโภค พฤติกรรมผู้บริโภค
พฤติกรรมผู้บริโภค
 
Macro Economics c5 นโยบายการเงิน
Macro Economics c5 นโยบายการเงินMacro Economics c5 นโยบายการเงิน
Macro Economics c5 นโยบายการเงิน
 
บทที่ 6 ทฤษฎีการผลิต
บทที่ 6 ทฤษฎีการผลิตบทที่ 6 ทฤษฎีการผลิต
บทที่ 6 ทฤษฎีการผลิต
 
หลักเศรษฐศาสตร์ เรื่องอรรถประโยชน์
หลักเศรษฐศาสตร์ เรื่องอรรถประโยชน์หลักเศรษฐศาสตร์ เรื่องอรรถประโยชน์
หลักเศรษฐศาสตร์ เรื่องอรรถประโยชน์
 
บทที่ 8 การกำหนดราคา และผลผลิตในตลาด
บทที่ 8 การกำหนดราคา และผลผลิตในตลาดบทที่ 8 การกำหนดราคา และผลผลิตในตลาด
บทที่ 8 การกำหนดราคา และผลผลิตในตลาด
 
บทที่ 4 อุปสงค์และอุปทานในทางปฏิบัติ
บทที่ 4 อุปสงค์และอุปทานในทางปฏิบัติบทที่ 4 อุปสงค์และอุปทานในทางปฏิบัติ
บทที่ 4 อุปสงค์และอุปทานในทางปฏิบัติ
 
บทที่ 9 รายได้ประชาชาติ การบริโภค การออม และการลงทุน
บทที่ 9 รายได้ประชาชาติ การบริโภค การออม และการลงทุนบทที่ 9 รายได้ประชาชาติ การบริโภค การออม และการลงทุน
บทที่ 9 รายได้ประชาชาติ การบริโภค การออม และการลงทุน
 
บทที่ 4 การพยากรณ์
บทที่ 4 การพยากรณ์บทที่ 4 การพยากรณ์
บทที่ 4 การพยากรณ์
 
1.แบบฝึกหัดเวกเตอร์
1.แบบฝึกหัดเวกเตอร์1.แบบฝึกหัดเวกเตอร์
1.แบบฝึกหัดเวกเตอร์
 
Unit3 elasticity
Unit3 elasticityUnit3 elasticity
Unit3 elasticity
 
Economic analysis for entrepreneur. thai version
Economic analysis for entrepreneur. thai versionEconomic analysis for entrepreneur. thai version
Economic analysis for entrepreneur. thai version
 
Macro Economics c2 รายได้ประชาชาติ
Macro Economics c2 รายได้ประชาชาติMacro Economics c2 รายได้ประชาชาติ
Macro Economics c2 รายได้ประชาชาติ
 
64 กำหนดราคาเชิงกลยุทธ์
64 กำหนดราคาเชิงกลยุทธ์64 กำหนดราคาเชิงกลยุทธ์
64 กำหนดราคาเชิงกลยุทธ์
 
บทที่ 5 พอลิเมอร์
บทที่ 5 พอลิเมอร์บทที่ 5 พอลิเมอร์
บทที่ 5 พอลิเมอร์
 
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
 
7ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส
7ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส7ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส
7ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส
 
อุปสงค์ อุปทาน
อุปสงค์ อุปทานอุปสงค์ อุปทาน
อุปสงค์ อุปทาน
 
อนุพันธ์
อนุพันธ์อนุพันธ์
อนุพันธ์
 
ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ อุปทาน และประโยชน์ของการนำความรู้ทางความยืดหยุ่นไปวิเค...
ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ อุปทาน และประโยชน์ของการนำความรู้ทางความยืดหยุ่นไปวิเค...ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ อุปทาน และประโยชน์ของการนำความรู้ทางความยืดหยุ่นไปวิเค...
ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ อุปทาน และประโยชน์ของการนำความรู้ทางความยืดหยุ่นไปวิเค...
 

Chapter5

  • 1. บทที่ 5 ทฤษฎีพฤติกรรมผ้ ูบริโภค เนือหาการศึกษา ้ 1. ทฤษฎีอรรถประโยชน์ ความหมายและข้อสมมติพ้ืนฐาน อรรถประโยชน์รวมและอรรถประโยชน์เพิม ่ ่ กฎวาด้วยการลดน้อยถอยลงของอรรถประโยชน์ ดุลยภาพของผูบริ โภค มี 4 กรณี ้ ่ ิ สวนเกนของผูบริ โภค ้ 2. ทฤษฎีเส้ นความพอใจเท่ ากัน ความหมายและข้อสมมติฐาน ่ ั ตารางการเลือกบริ โภคสิ นค้า 2 ชนิดและเส้นความพอใจเทากน ่ ั ํ คุณสมบัติของเส้นความพอใจเทากนที่สาคัญ ่ ั ลักษณะของเส้นความพอใจเทากน 3 รู ปแบบ ่ ั อัตราหนวยสุ ดท้ายของการทดแทนกน(MRSxy) เส้นงบประมาณ : ความหมายและการเปลี่ยนแปลง 3. ดลยภาพของผ้ ูบริโภค ุ ความหมายและการเปลี่ยนแปลงดุลยภาพ เส้นแนวทางการบริ โภค อันเนื่องมาจากราคาเปลี่ยนแปลง(PCC) เส้นแนวทางการบริ โภค อันเนื่องมาจากรายได้เปลี่ยนแปลง(ICC) ่ ั การเปลี่ยนแปลงราคาสิ นค้า : ผลกระทบรวม เทากบ ผลการทดแทน ั ั กน บวกกบ ผลทางด้านรายได้ เส้นเองเกล EC 111 89
  • 2. สาระสํ าคัญการศึกษา 1. การศึกษาเกียวกับพฤติกรรมของผู้บริโภค มี 2 ทฤษฎีคือ (1) ทฤษฎีอรรถประ ่ โยชน์ (Utility Theory) และ (2) ทฤษฎีว่าด้วยเส้นความพอใจเทากน(The Indifference curve ่ ั Theory) 2. ทฤษฎีอรรถประโยชน์ หมายถึง ความพอใจที่ผบริ โภค ได้รับจากการบริ โภค ู้ ่ ่ สิ นค้า โดยความพอใจวัดเป็ นตัวเลขได้ มีหนวยวัดเรี ยกวา ยูทิล(Util) มีขอสม มติพ้ืนฐานดังนี้ (1) ้ ่ ความพอใจของผูบริ โภควัดเป็ นหนวยได้ (2) อรรถประ โยชน์เพิ่มจะลดน้อยถอยลง (3) ความพอใจ ้ ่ ่ ั ในการบริ โภคสิ นค้าแตละชนิด เป็ นอิสระตอกน (4) ผูบริ โภคแสวงหาความพอใจสูงสุ ด ้ 3. อรรถประโยชน์ เพิม (Marginal Utility) คือ ความพึงพอใจที่เปลี่ยนแปลงไป ่ เมื่อบริ โภคสิ นค้าเพิมขึ้ นทีละหนวย คํานวณจาก MU = ∆TU/∆Q หรื อ MU = TUn - TUn-1 ่ ่ 4. อรรถประโยชน์ รวม(Total Utility) คือ ความพอใจที่ผบริ โภคได้รับจากสิ นค้า ู้ n ่ ทุกหนวย TU n =  MU i i 1 5. กฎว่ าด้ วยการลดน้ อยถอยลงของอรรถประโยชน์เพิ่ม คือ เมื่อผูบริ โภคสิ นค้า ้ ่ ่ ่ ชนิดหนึ่งเพิมขึ้ นเรื่ อยๆ อรรถประโยชน์ที่ได้รับแตละหนวยจะลดลงเชน MU1 = 10 ยูทิล , MU2 = 8 ่ ยูทิล , MU3 = 6 ยูทิล เป็ นต้น 6. ดลยภาพของผ้ ูบริโภค คือการที่ผบริ โภคสิ นค้าและบริ การ ต้องการแสวงหา ความ ุ ู้ ้ ั ่ ่ ่ พอใจสูงสุ ดภายใต้ขอจํากดตางๆ เชน (1) กรณี สินค้าชนิดเดียว : ไมนําเอา ราคาและงบประมาณ มารวมพิจารณา ดุลยภาพอยูที่ค่า TU สู งสุ ดและ MU กบศูนย์ (2) กรณี สินค้าชนิดเดียว : นําราคา ่ ่ ั ่ ่ ่ สิ นค้ามารวมพิจารณา ดุลยภาพอยูที่ MUx = Px (3) กรณี สินค้ามากกวาหนึ่งชนิด และราคาสิ นค้า ่ ั ่ เทากน ดุลยภาพอยูที่ MUx = MUy = ………. = MUn (4) กรณี สินค้ามากกวาหนึ่งชนิด และราคา ่ ่ ่ ั ่ สิ นค้าไมเทากน ดุลยภาพอยูที่ MUx/Px = MUy/Py = ……… = MUn/Pn 7. ส่ วนเกินของผู้บริโภค คือ อรรถประโยชน์ที่ผบริ โภคได้รับจากการบริ โภคสิ นค้า ู้ เกนจากเงินที่จ่ายไปจริ ง เมื่อราคาสิ นค้าสูงขึ้ น สวนเกนผูบริ โภคจะลดลง หรื อราคาสิ นค้าลดลง ิ ่ ิ ้ ่ ิ ้ สวนเกนผูบริ โภคจะเพิมขึ้ น ่ ่ ่ 8. เส้ นความพอใจเท่ ากันคือ เส้นที่แสดงสวนประกอบตางๆของสิ นค้า 2 ชนิด ที่ทาให้ ํ ้ ่ ั ผูบริ โภคได้รับความพอใจเทากน โดยมีขอสมมติพ้ืนฐานดังนี้ (1) ผูบริ โภคจะแสวง หาความพอใจ ้ ้ ั สู งสุ ด โดยมีงบประมาณจํากด (2) ความพอใจในสิ นค้าเรี ยงลําดับได้ (3) ความพอใจถายทอดได้ ่ ่ (transitivity) 4) สิ นค้าทุกชนิดแบงเป็ นหนวยยอยได้ ่ ่ 90 EC 111
  • 3. 9. เส้ นความพอใจเท่ ากัน มีคุณสมบัติสาคัญดังนี้ (1) เป็ นเส้นทอดลงจากซ้ายไปขวา ํ ่ ั (2) เส้นความพอใจเทากนมีได้หลายเส้นและเส้นทางขวามือ จะมีความพอใจมากกวา (3) เส้นความ ่ ่ ั พอใจเทากนจะไมตัดกน ่ ั 10. เส้ นความพอใจเท่ ากัน จะมีลกษณะ 3 ประการดังนี้ (1) เส้นความพอใจเทากนเป็ น ั ่ ั ํ ่ เส้นโค้งเข้าหาจุดกาเนิด แสดงวาสิ นค้าสองชนิดเพิ่ม-ลดทดแทนไมเทากน (2) เส้นความพอใจ่ ่ ั ่ ั ่ ่ ั เทากนเป็ นเส้นตรง แสดงวาสิ นค้าสองชนิดเพิ่ม-ลด เทากน (3) เส้นความพอใจเทากนเป็ นรู ปตัว ่ ั ่ แอลหรื อหักงอเป็ นมุมฉาก แสดงวาสิ นค้าสองชนิดทดแทน กนไมได้เลย ั ่ ่ 11. อัตราหน่ วยสดท้ ายของการทดแทนกันระหวางสิ นค้า X และ Y , สมมติวาคาของ ุ ่ ่ MRSxy = ∆Y/∆X = - 4 แปลความหมายได้วา เมื่อบริ โภคสิ นค้า X เพิ่มหนึ่งหนวย จะลดการ ่ ่ บริ โภคสิ นค้า Y จํานวน 4 หนวย ่ ่ 12. เส้ นงบประมาณ คือ เส้นที่แสดงสวนประกอบของสิ นค้า 2 ชนิด ที่ผบริ โภคใช้งบู้ ่ ั ประมาณซื้ อได้เทากน ณ ราคาที่เป็ นอยูขณะนั้ น ่ 13. การเปลียนแปลงเส้ นงบประมาณ จะเป็ นไปได้ 2 ลักษณะคือ (1) รายได้ของผูบริ ่ ้ โภคเปลี่ยนแปลง รายได้เพิ่มเส้นงบประมาณจะเคลื่อนทั้ งเส้นไปทางขวามือ (2) ราคาสิ นค้า เปลี่ยนแปลง จะทําให้เส้นงบประมาณเคลื่อนย้ายไปด้วย 14. ดลยภาพของผู้บริโภค คือ สถานการณ์ที่ผบริ โภคจะได้รับความพอใจสูงสุ ดจาก ุ ู้ ํ ั ํ การบริ โภคสิ นค้า 2 ชนิด ภายใต้งบประมาณที่มีจากดจํานวนหนึ่งที่กาหนดให้ ดังนั้ นจุดดุลยภาพจึง ่ ั เป็ นจุดเส้นความพอใจเทากนสัมผัสกบเส้นงบประมาณ ั 15. เส้ นแนวทางการบริโภค อันเนื่องมาจากราคาเปลียนแปลง (Price Consumption ่ ่ Curve : PCC ) เป็ นเส้นที่ลากผานจุดดุลยภาพหลายๆจุด ที่มีสาเหตุมาจากราคาสิ นค้าเปลี่ยนแปลง 16. เส้ นแนวทางการบริโภค อันเนื่องมาจากรายได้ เปลียนแปลง (Income Consumption ่ ่ Curve : ICC) เป็ นเส้นที่ลากผานจุดดุลยภาพหลายๆจุด ที่มีสาเหตุมาจากรายได้ของ ผูบริ โภค ้ เปลี่ยนแปลง 17. การเปลียนแปลงราคาสิ นค้ าและบริการ จะมีทาให้ ผลทางด้ านราคาหรือผลรวม ่ ํ ่ ั เทากบ ผลทางด้ านการทดแทนกัน + ผลทางด้ านรายได้ ่ 18. เส้ นเองเกล คือ เส้นที่แสดงความสัมพันธ์ระหวาง รายได้ของผูบริ โภค กบปริ มาณ ้ ั การเสนอซื้ อสิ นค้าชนิดหนึ่ง โดยสมมติให้ปัจจัยอื่นๆคงที่ EC 111 91
  • 4. จดประสงค์ การศึกษา ุ ่ ่ เมื่ออานบทที่ 5 จบแล้ว ควรจะอธิบายคําถามประเด็นตางๆดังตอไปนี้ ได้่ ่ ั 1. ทฤษฎีอรรถประโยชน์ และทฤษฎีเส้นความพอใจเทากน มีแนวทางการวิเคราะห์ พฤติกรรมของผูบริ โภคที่เหมือนหรื อแตกตางกนอยางไร ้ ่ ั ่ 2. อรรถประโยชน์รวม(TU) ,อรรถประโยชน์เพิ่ม(MU) และ กฎวาด้วยการลดน้อยถอย ่ ลงของอรรถประโยชน์ มีสาระกลาวไว้วาอยางไร ่ ่ ่ 3. ดุลยภาพของผูบริ โภคคืออะไร เราสามารถวิเคราะห์ดุลยภาพของผูบริ โภคทั้ ง 4 วิธี ้ ้ ่ ได้อยางไรบ้าง ่ ิ ้ ่ ิ 4. สวนเกนของผูบริ โภคคืออะไร สวนเกนของผูบริ โภคจะเพิมหรื อลดลง มีสาเหตุมาจาก ้ ่ ปั จจัยอะไร ่ ั ่ 5.เส้นความพอใจเทากนคืออะไร มีคุณสมบัติอยางไร และเส้นความพอใจที่มี 3 ลักษณะ ั แสดงให้เห็นการทดแทนกนของสิ นค้า 2 ชนิดอยางไรบ้าง ่ ่ ั ่ 6. เส้นความพอใจเทากน(IC) และเส้นงบประมาณ(BL) นํามาอยูในรู ปกราฟเดียวกน จะ ั ิ ทําให้เกดดุลยภาพของผูบริ โภคอยางไร ้ ่ 7. เส้น PCC คือ เส้นอะไร และเส้นนี้ จะชี้ ให้เห็นทางเลือกของผูบริ โภคที่จะได้รับความ ้ พอใจสูงสุ ด เมื่อราคาสิ นค้าเปลี่ยนแปลงได้อยางไร ่ 8. เส้น ICC คือเส้นอะไร และเส้นนี้ จะชี้ ให้เห็นทางเลือกของผูบริ โภค ที่จะได้รับความ ้ พอใจสูงสุ ด เมื่อรายได้เปลี่ยนแปลงได้อยางไร ่ 9. เส้นเองเกล คือเส้นที่แสดงความสัมพันธ์ ของปั จจัย 2 ชนิด เป็ นปัจจัยอะไร 10. เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงราคาสิ นค้าชนิดหนึ่ง(อีกชนิดหนึ่งคงที่) จะทําให้ดุลยภาพของ ่ ่ ิ ผูบริ โภคเปลี่ยนแปลงไป ผลการเปลี่ยนราคาเราเรี ยกวาอะไร รวมทั้ งกอให้เกดผลอยางอื่นอะไรได้ ้ ่ บ้าง 92 EC 111
  • 5. 5.1 ทฤษฎีอรรถประโยชน์ (Utility Theory) อรรถประโยชน์ (Utility) หมายถึง ความพอใจที่ผบริ โภคได้รับตอบสนองจาก ู้ ่ การบริ โภคสิ นค้า หรื อ ความสามารถของสิ นค้าบริ การที่ตอบสนองตอความพอใจของผูบริ โภค ้ ทั้ งนี้ โดยมีขอสมมติว่า ความพอใจที่กลาวแล้ว สามารถวัดออกมาเป็ นตัวเลขได้ เรี ยกหนวยความ ้ ่ ่ ่ ่ ่ ้ ๋ พอใจที่วดออกมานั้ นวา ยูทิล (Utils) ตัวอยางเชน ผูบริ โภคคนหนึ่ งได้รับประทานกวยเตี๋ยว 1 ชาม ั เขาสามารถบอกได้ว่าได้รับความพอใจเทากบ 30 ยูทิล เป็ นต้น ดังนั้ นทฤษฎีอรรถประโยชน์จึง ่ ั ่ ่ เรี ยกอีกชื่อหนึ่งวา วิธีแบบหนวยนับ (Cadinal Approach) ข้ อสมมติพนฐาน (Basic Assumption) ของทฤษฎีมีดงตอไปนี้ ื้ ั ่ (1)ทฤษฎีน้ ีสมมติให้ความพอใจที่ผบริ โภคได้รับจากการบริ โภคสิ นค้าบริ การ ู้ สามารถวัดเป็ นหนวยได้ ่ (2) สมมติให้อรรถประโยชน์เพิ่ม(Marginal Utility) ลดน้อยถอยลง ่ ่ (Diminishing)กลาวคือ ถ้าผูบริ โภคสิ นค้าและบริ การมากหนวยขึ้ น อรรถประโยชน์เพิ่มที่ได้รับจาก ้ ่ ่ สิ นค้าหนวยหลังๆจะลดลงไปเรื่ อยๆ ทําให้เราเรี ยกวา กฎการลดน้อยถอยลงของอรรถประโยชน์ เพิ่ม(Law of Diminishing Marginal Utility) ่ (3) ความพอใจที่ผบริ โภคได้รับจากการบริ โภคสิ นค้าแตละชนิดเป็ นอิสระตอกน ู้ ่ ั (4) ผูบริ โภคต้องการแสวงหาความพอใจสูงสุ ด ้ อรรถประโยชน์ เพิ่ม (Marginal Utility) คือ อรรถประโยชน์หรื อความพึงพอใจที่ ่ เปลี่ยนแปลงไป เมื่อบริ โภคสิ นค้าและบริ การเปลี่ยนแปลงไปทีละหนวย โดยจะใช้สัญลักษณ์แทน ่ วา MU หมายถึง ระดับของอรรถประโยชน์ที่ได้รับเพิ่มขึ้ นหรื อลดลง เมื่อบริ โภคสิ นค้าบริ การ ่ เพิ่มขึ้ นหรื อลดลงหนึ่งหนวยตามลําดับ MUn = ∆ TU . หรื อ MUn = TUn - TUn-1 ∆Q อรรถประโยชน์ รวม(Total Utility) คือ อรรถประโยชน์ท้ งหมดที่ผบริ โภคได้รับจาก ั ู้ ่ ่ ่ การบริ โภคสิ นค้าบริ การทุกๆหนวย หรื อ อาจกลาวได้วา เป็ นผลรวมของอรรถประโยชน์ที่ผบริ โภค ู้ ่ ่ ่ ํ ไดรับจากสิ นค้าบริ การแตละหนวยนันเอง โดยกาหนดให้ TU เป็ นสัญลักษณ์แทน คําวา Total ่ Utility n TU n =  MU i i 1 EC 111 93
  • 6. ดังนั้ นลักษณะของอรรถประโยชน์เพิ่ม(MU) และอรรถประโยชน์รวม(TU) จึง ่ แสดงได้จากตารางที่ 5.1 ดังตอไปนี้ ่ ั ตารางที่ 5.1 แสดงความสัมพันธ์ระหวางปริ มาณสิ นค้ากบ อรรถประโยชน์รวมและอรรถประโยชน์ เพิ่ม ปริ มาณสิ นค้า อรรถประโยชน์รวม(TU) อรรถประโยชน์เพิ่ม(MU) ิ (กโลกรัม) (ยูทิล) (ยูทิล) 0 0 0 1 7 7 2 13 6 3 18 5 4 22 4 5 25 3 6 27 2 7 28 1 8 28 0 9 27 -1 10 25 -2 กฎว่ าด้ วยการลดน้ อยถอยลง(Law of diminishing marginal utility) หมายถึง เมื่อผูบริ โภคได้บริ โภคสิ นค้าชนิ ดใดชนิ ดหนึ่งเพิ่มขึ้ นเรื่ อยๆ อรรถประโยชน์เพิ่มที่ได้รับจากสิ นค้า ้ ่ ่ ํ แตละหนวยจะลดลง โดยกาหนดให้ตวแปรอื่นๆที่เกยวข้องคงที่ ั ี่ 94 EC 111
  • 7. MU รู ปภาพที่ 5.1 เส้นอรรถประโยชน์รวม และอรรถประโยชน์เพิ่ม 0 Q 1 2 3 4 5 6 7 8 TU TU 0 8 Q ดลยภาพของผ้ ูบริโภค : การแสวงหาความพึงพอใจสู งสุ ดจากการบริ โภค ุ ่ ้ ั ่ ่ สิ นค้าและบริ การ ชนิดเดียวหรื อมากกวาหนึ่งชนิด ภายใต้ขอจํากด ตางๆ เชน งบประมาณจํานวน ่ ั ่ ่ ั ั ่ หนึ่ง ราคาสิ นค้าเทากนหรื อไมเทากน มีหลักการศึกษาวิเคราะห์ได้ดงตอไปนี้ ่ ้ ั (1) กรณีสินค้ าชนิดเดียว : ไมมีขอจํากดทั้ งราคาสิ นค้าและงบประมาณ ่ ่ ่ ่ ผูบริ โภคจะตัดสิ นสิ นค้าใจ เลื อกบริ โภคสิ นค้าและบริ การตั้ งแตหนวยแรกไปจนกระทังหนวย ้ ่ ่ สุ ดท้ายที่ปรากฏวา คาของอรรถประโยชน์รวม(TU) มีค่าสู งสุ ด และคาอรรถประโยชน์เพิ่ม (MU) ่ มีค่าเป็ นศูนย์ จึงหยุดการบริ โภคสิ นค้าชนิดนั้ นตอไป เพราะวาบรรลุอรรถประโยชน์สูงสุ ดแล้ว ดัง ่ ่ รู ปภาพที่ 5.2 EC 111 95
  • 8. ่ ั รู ปภาพที่ 5.2 แสดงเมื่อคาอรรถประโยชน์รวมสู งสุ ด , อรรถประโยชน์เพิ่มเทากบศูนย์ TU 28 TU 0 8 Q MU MU = 0 0 8 Q อธิ บ ายรู ปภาพที่ 5.2 จากรู ป ภาพข้า งบน ผูบริ โ ภคจะเลื อ กซื้ อสิ น ค้า และ ้ ่ ่ ั บริ การไปจนกระทังถึงหนวยที่ 8 ซึ่ งจะมีอรรถประโยชน์รวมสู งสุ ดเทากบ 28 ยูทิล และ ่ ่ ่ อรรถประโยชน์เพิ่มของสิ นค้าหนวยที่ 8 คาของ MU = 0 จึงเป็ นไปตามหลักเกณฑ์ที่กลาวแล้ว ่ ( 2.) กรณีสินค้ าชนิดเดียวและนําราคาสิ นค้ ามาร่ วมพิจารณาด้ วย : ดุลยภาพของ ผูบริ โภค จะอยูที่ค่า MU ของสิ นค้าหนวยนั้ น มีค่าเทากบราคาสิ นค้าชนิ ดนั้ น หรื อ MUx = Px ้ ่ ่ ่ ั และหมดเงินพอดี นันเอง ดังข้อมูลตารางตอไปนี้ ่ ่ ่ ่ ั ตารางที่ 5.2 คาของอรรถประโยชน์เพิมกบราคาสิ นค้า ิ ปริ มาณสิ นค้า (กโลกรัม) MU ราคาสิ นค้า 1 12 12 2 10 10 3 8 8 4 6 6 5 4 4 96 EC 111
  • 9. ่ ั ิ ็ อธิบายตารางที่ 5.1 ถ้าราคาสิ นค้าเทากบ 12 บาท/กโลกรัม ผูบริ โภคกจะซื้ อ ้ ิ ่ ั ิ สิ นค้าชนิดนี้ จํานวน 1 กโลกรัม หรื อ ราคาสิ นค้าเทากบ 10 บาท/กโลกรัม จะซื้ อสิ นค้าจํานวน ิ ็ 2 กโลกรัม เป็ นต้น ผูบริ โภคกจะบรรลุดุลยภาพที่แสวงหาความพอใจสูงสุ ดได้ ้ (3) กรณีสินค้ ามากกว่ าหนึ่งชนิดและราคาเท่ ากัน : การที่ผบริ โภคจะสามารถ ู้ ่ บรรลุดุลยภาพได้ พิจารณาจากสู ตรดังตอไปนี้ MUx = MUy = ……….. = MUn ่ ่ ั ตารางที่ 5.3 แสดงคาอรรถประโยชน์เพิ่มสิ นค้า X และ Y กรณี ราคาเทากน ปริ มาณสิ นค้า MUx MUy 1 58 54 2 50 50 3 46 44 4 44 42 5 42 40 ่ อธิบายตารางที่ 5.3 สมมติราคาสิ นค้า X และ Y หนวยละ 5 บาทเทากน ่ ั และผูบริ โภคมีงบประมาณ จํานวน 35 บาท ถ้าผูบริ โภคแสวงหาทางเลือกการซื้ อสิ นค้า X และ ้ ้ ํ Y ที่บรรลุจุดดุลยภาพ ที่ได้รับอรรถประโยชน์สูงสุ ดภายใต้งบประมาณที่กาหนดให้ มีดงนี้ ั เริ่ มต้นผูบริ โภคต้องเลือกสิ นค้า X หรื อ Y ที่มีอรรถประโยชน์เพิ่มสู งสุ ดกอน ้ ่ ่ ่ ่ แล้วจึงคอยเลือกสิ นค้าที่มี MU สู งสุ ดตามลําดับตอมา ดังนั้ นสิ นค้าหนวยแรกจึงเป็ นสิ นค้า X ที่ ่ ั ่ ่ ั มี MU สู งสุ ดเทากบ 58 ยูทิล หนวยที่สองเป็ นสิ นค้า Y ที่มี MU เทากบ 54 ยูทิล ไปเรื่ อย จนกระทังพบวา หนวยสุ ดของสิ นค้า X และ Y มีค่า MU เทากน และใช้งบประมาณหมด 35 บาท ่ ่ ่ ่ ั พอดี ่ ั ่ สรป ในกรณี น้ ี ผูบริ โภคสิ นค้า X เทากบ 4 หนวย และสิ นค้า Y เทากบ 3 ุ ้ ่ ั ่ หนวย ใช้งบประมาณ จํานวน 35 บาทหมดเงินพอดี ผูบริ โภคได้รับอรรถประโยชน์รวม(TU) จากการบริ โภคจากสิ นค้า X เทากบ 4 ้ ่ ั ่ หนวย 58 + 50 + 46 + 44 = 198 ยูทิล เป็ นต้น EC 111 97
  • 10. (4) กรณีสินค้ ามากกว่ าหนึ่งชนิดและราคาไม่ เท่ ากัน : ผูบริ โภคจะสามารถ ้ ่ บรรลุจุดดุลยภาพได้ โดยพิจารณาจากสู ตรดังตอไปนี้ MUx . = MUy . = ……….. = MUn . Px Py Pn ่ ่ ่ ั ตารางที่ 5.4 การหาคาของอรรถประโยชน์เพิ่มของสิ นค้า X และ Y กรณี ราคาไมเทากน ปริ มาณสิ นค้า MUx MUx / Px MUy MUy / Py 1 60 20 44 22 2 54 18 40 20 3 48 16 36 18 4 42 14 28 14 5 36 12 20 10 ่ ั ่ อธิ บายตารางที่ 5.3 สมมติราคาสิ นค้า X เทากบ 3 บาท/หนวย และ สิ นค้า Y ่ ั ่ เทากบ 2 บาท/หนวย ผูบริ โภคมีงบประมาณจํานวน 20 บาท จะเลือกซื้ อสิ นค้าทั้ ง 2 ชนิด จํานวน ้ ่ เทาใดจึงจะสามารถบรรลุจุดดุลยภาพของผูบริ โภคได้ ้ ่ เริ่ มต้นต้องปรับคา MUx และ MUy โดยนําราคาสิ นค้า Px และ Py ไปหารคา ่ ่ ของ MU กอน ดังนั้ นจึงได้ค่า MUx / Px และ MUy / Py หลังจากนั้ น จึงพิจารณาเชนเดียวกบ ่ ั กรณี ที่ผานมา สิ นค้าหนวยแรกที่จะเลือกเป็ นสิ นค้า Y มีค่า MU ใหมเทากบ 22 ยูทิล หนวยที่ 2 ่ ่ ่ ่ ั ่ ่ ั ่ และ 3 จะเป็ นสิ นค้า X และ Y มีจานวน 20 ยูทิลเทากน ทําเชนนี้ ไปเรื่ อยๆ ํ ่ สรป ผูบริ โภคจะซื้ อสิ นค้า X จํานวน 4 หนวย และ สิ นค้า Y จํานวน 4 ุ ้ ่ ํ หนวย คิดเป็ นเงินจํานวน 20 บาท ตามที่กาหนดมาให้พอดี 98 EC 111
  • 11. ส่ วนเกินของผู้บริโภค (Consumer s Surplus ) : หมายถึง อรรถประโยชน์ที่ ผูบริ โภคได้รับจากการเลื อกซื้ อสิ นค้าและบริ การ เกนจากเงิ นที่ จ่ ายไปจริ ง แสดงโดยอาศัย ้ ิ ่ รู ปภาพดังตอไปนี้ รู ปภาพที่ 5.3 อรรถประโยชน์ส่ วนเกนของบุคคล ิ ราคา ราคาตลาด 2 0 1 2 3 4 5 6 7 8 ปริ มาณสิ นค้า รู ปภาพที่ 5.4 อรรถประโยชน์ส่ วนเกนของตลาด ิ ราคา A พื้นที่ ราคาตลาด ่ ิ ้ สวนเกนผูบริ โภค P0 B D 0 ปริ มาณสิ นค้า q0 อธิ บายรู ปภาพที่ 5.3 สมมติผบริ โภคเลือกซื้ อสิ นค้าและบริ การ จํานวน 6 ู้ ่ ่ หนวย ราคาหนวยละ 2 บาท ดังนั้ นอรรถประโยชน์ที่เป็ นรู ปภายใต้รูปแท่งพื้นที่ ณ เส้นราคา 2 บาท เป็ นอรรถประโยชน์ที่จ่ายเงินไปจริ ง แตพื้นที่ของแทงที่อยูเ่ หนือ ราคา 2 บาท จึงถือวาเป็ น ่ ่ ่ อรรถประโยชน์ส่ วนเกนที่ผูบริ โภคคนนี้ ได้รับโดยที่ไมต้องจายเงิน ิ ้ ่ ่ EC111 99
  • 12. สําหรับรู ปภาพที่ 5.4 เป็ นอรรถประโยชน์ส่ วนเกนของตลาดสิ นค้าและบริ การ ิ และ P0 คือราคาสิ นค้าในตลาด เส้น D ใช้แทนเส้นอุปสงค์ ดังนั้ นอรรถประโยชน์ที่ได้รับและ ่ จายเงินไปจริ งคือพื้นที่ 0q0BP0 แตพื้นที่สามเหลี่ยม ABP0 จึงเป็ นอรรถประโยชน์ส่ วนเกนใน ่ ิ ่ ่ ตลาดที่ผบริ โภคได้รับโดยที่ไมต้องจายเงิน ู้ อรรถประโยชน์ส่ วนเกนจะลดลงทันที ถ้าราคาสิ นค้าเพิ่มขึ้ นมากกวาราคา P0 ก็ ิ ่ ่ จะทําให้พ้ืนที่สามเหลี่ยมที่กลาวแล้วลดลง 5.2 เส้ นความพอใจเท่ ากัน (Indifference Curve) : เป็ นแนวคิดที่นัก เศรษฐศาสตร์ ชาวอังกฤษ ชื่อ จอห์น อาร์ ฮิกส์ (John R. Hicks) นําเสนออกมา โดยมีขอสมมุติ ้ ่ ดังตอไปนี้ (สุ พตรา ราชรักษ์ , หน้า 222) ั (1) ผูบริ โภคเป็ นผูที่มีเหตุผล เมื่อเลือกซื้ อสิ นค้าและบริ การ จึงมุ่งแสวงหาความ ้ ้ ั พอใจสู งสุ ด โดยมีงบประมาณจํากดจํานวนหนึ่ง (2) ความพอใจที่ได้รับจากการซื้ อสิ นค้า สามารถเรี ยงลําดับได้ ่ (3) ความพอใจจากการบริ โภคสิ นค้าสามารถถายทอดได้(transitive) เชน ่ สวนผสมของกลุ่มสิ นค้า ก ให้ความพอใจมากกวาสวนผสมของสิ นค้ากลุ่ม ข ่ ่ ่ ่ (4) สิ นค้าทุกชนิดสามารถแบงเป็ นหนวยยอยๆได้่ ่ เส้ นความพอใจเท่ ากัน หมายถึง เส้นที่แสดงสวนประกอบต่างๆของสิ นค้า 2 ่ ่ ั ่ ชนิ ด ที่ทาให้ผูบริ โภคได้รับความพอใจเทากน เรี ยกวาเป็ นวิธีการเรี ยงลําดับความพอใจ(Ordinal ํ ้ Approach) เมื่อพิจารณาตารางตอไปนี้ ่ ตารางที่ 5.4 ่ สวนผสม ่ สิ นค้า X (หนวย) ่ สิ นค้า Y (หนวย) A 0 19 B 1 13 C 2 8 D 3 4 E 4 2 F 5 0 100 EC 111
  • 13. สิ นค้า Y ่ ั รู ปภาพที่ 5.5 เส้นความพอใจเทากน 19 ่ ั เส้นความพอใจเทากน (IC) 13 8 4 2 0 1 2 3 4 5 สิ นค้า X ่ ั อธิ บายรู ปภาพที่ 5.5 บนเส้นความพอใจเทากน (IC) จะแสดงให้เห็นการ เลือกบริ โภคสิ นค้า 2 ชนิ ดคือสิ นค้า X และ Y ของผูบริ โภค ในสวนผสมตางๆ ตั้ งแต่ A , B , C , ้ ่ ่ ่ ั ่ ่ D , E และ F ที่ได้รับความพอใจเทากน เชน สวนผสม A บริ โภคสิ นค้า X จํานวน 0 หนวย และ ่ ่ ่ ่ สิ นค้า Y จํานวน 19 หนวย สวนผสม C บริ โภคสิ นค้า X จํานวน 2 หนวย และสิ นค้า Y จํานวน 8 ่ หนวย เป็ นต้น 5.2.1. ลักษณะของเส้ นความพอใจเท่ ากัน : โดยทัวไป เส้นความพอใจเทากนของ ่ ่ ั ผูบริ โภค จะมีลกษณะสําคัญคือ ้ ั (1) เป็ นเส้นทอดลงจากซ้ายไปขวา มีความลาดชันเป็ นลบ (Downward Sloping) ทั้ งนี้ เพราะการบริ โภคสิ นค้าชนิ ดหนึ่ งเพิ่มขึ้ น ผูบริ โภคจะลดการบริ โภคสิ นค้าอีกชนิ ดหนึ่ งลง ้ ํ ่ และมีลกษณะโค้งเว้าเข้าหาจุดกาเนิด แสดงวาทดแทนกนได้ไมสมบูรณ์ ั ั ่ ่ ั (2) เส้นความพอใจเทากนของผูบริ โภคคนหนึ่ง มีได้หลายเส้น และเส้นที่อยูทาง ้ ่ ่ ขวามือจะแสดงระดับความพอใจมากกวา เส้นที่อยูทางซ้ายมือ ่ EC 111 101
  • 14. ่ ั รู ปภาพที่ 5. 6 เส้นความพอใจเทากนมีได้หลายเส้น สิ นค้า Y IC2 = 150 IC1 = 100 IC0 = 50 0 สิ นค้า X ่ ั ั ่ ่ ั ั (3) เส้นความพอใจเทากน จะตัดกนไมได้ เพราะถ้าเส้นความพอใจเทากนตัดกน ั ได้แล้ว จะทําให้ลกษณะและข้อสมมติเบื้องต้นขัดแย้งกนเอง ดังรู ปภาพ ั ่ ั ั ่ รู ปภาพที่ 5.7 เส้นความพอใจเทากนจะตัดกนไมได้ สิ นค้า Y B A IC2 C IC1 0 สิ นค้า X ั ่ ั อธิบายรู ปภาพที่ 5.7 ถ้าเส้น IC1 ตัดกบเส้น IC2 ที่จุด A ซึ่งอยูท้ งบนเส้น IC1 ็ ่ ่ ั ็ ิ และ IC2 กจะแสดงวา มีความพอใจเทากน รวมทั้ งที่จุด B และ C กจะเกดความคัดแย้งกบที่เคย ั ่ กลาวแล้ว เป็ นต้น 102 EC 111
  • 15. ่ ั ่ นอกจากนี้ เส้นความพอใจเทากน อาจมีอีก 2 รู ปแบบเชน เป็ นเส้นตรง และ รู ป ตัวแอล อธิบายได้ดงนี้ ั ั ่ ก. เส้ นความพอใจที่มีลกษณะเป็ นเส้ นตรง : แสดงวาเมื่อผูบริ โภคสิ นค้าเลือก ้ ่ สิ นค้าชนิดหนึ่งเพิ่มขึ้ น จํานวน 1 หนวย จะต้องไปลดจํานวนสิ นค้าอีกชนิดหนึ่ง จํานวน 1 หนวย ่ ่ ่ ั เป็ นสัดสวนที่เทากน ่ ั รู ปภาพที่ 5.8 เส้นความพอใจเทากนแบบเส้นตรง สิ นค้า Y 8 4 IC 0 สิ นค้า X 10 14 ข. เส้ นความพอใจเท่ ากัน ที่มีลักษณะเป็ นรปตัวแอล หรื อหั กงอเป็ นมมฉาก : ู ุ ่ ่ ั แสดงวาสิ นค้า 2 ชนิ ดนี้ เป็ นสิ นค้ าที่ใช้ ทดแทนกันไม่ ได้ เลย แตเป็ นสิ นค้าที่ใช้ประกอบกน ดัง ่ รู ปภาพข้างลางนี้ ่ ั รู ปภาพที่ 5.9 เส้นความพอใจเทากนแบบตั้ งฉากหักมุม สิ นค้า Y IC 0 สิ นค้า X EC 111 103
  • 16. อัตราหน่ วยสดท้ ายของการทดแทนกันของสิ นค้ า X และ Y : จากข้อมูลใน ุ ่ ตารางที่ 5.4 จะเห็นได้วาเมื่อผูบริ โภคเพิ่มการบริ โภคสิ นค้า X เพิ่มขึ้ น ต้องลดจํานวนการบริ โภค ้ ่ ่ ั สิ นค้า Y ลง ลักษณะเชนนี้ เรี ยกวา อัตราการทดแทนกนของสิ นค้า 2 ชนิ ด โดยมีสูตรในการ ่ ั คํานวณหาคาได้ดงนี้ MRSxy = ∆Y . ∆X ํ โดยกาหนดให้ ∆X = จํานวนการบริ โภคสิ นค้าเพิ่มขึ้ น 1 หนวย ่ ∆Y = จํานวนการบริ โภคสิ นค้าลดลงจํานวนหนึ่ง ่ ั ่ ตารางที่ 5.5แสดงอัตราหนวยสุ ดท้ายของการทดแทนกนระหวางสิ นค้า X และ Y ่ สวนผสม สิ นค้า X ∆X สิ นค้า Y ∆Y MRSxy ่ หนวย : ตัน ่ หนวย : ตัน A 0 - 22 - - B 1 1 14 8 -8 C 2 1 8 6 -6 D 3 1 4 4 -4 E 4 1 1 3 -3 F 5 1 0 1 -1 ่ ่ ่ ั การคํานวณหาคา MRSxy ณ สวนผสม D จะหาคาได้ดงนี้ MRSxy = - ∆Y . ∆X คาของ ∆Y = 8 - 4 = 4 , ∆X = 3 – 2 = 1 ่ ดังนั้ น MRSxy = - 4 / 1 = - 4 แปลความหมาย ถ้าผูบริ โภคตัดสิ นใจเลือก บริ โภคสิ นค้า X เพิ่มขึ้ น 1 ตัน จะต้องลดการบริ โภค ้ ่ สิ นค้า Y จํานวน 4 ตัน (เครื่ องหมายลบ แสดงความสัมพันธ์ระหวางสิ นค้า X และ Y มี ่ ความสัมพันธ์เป็ นแบบลบ เทานั้ น) 104 EC 111
  • 17. 5.2.2. เส้ นงบประมาณ(Budget Line : BL) คือ เส้นที่แสดงส่ วนประกอบของ สิ นค้า 2 ชนิด ที่ผบริ โภคสามารถซื้ อได้โดยใช้งบประมาณเทากน ณ ราคาสิ นค้าที่เป็ นอยู่ ู้ ่ ั สิ นค้า Y รู ปภาพที่ 5.10 เส้นงบประมาณ 10 เส้นงบประมาณ (BL) 5 A 0 สิ นค้า X 10 20 อธิ บายรู ปภาพที่ 5.10 สมมติผูบริ โภคคนหนึ่ งชื่ อนายแดงมีงบประมาณในการซื้ อ ้ ่ ั ่ สิ นค้า เทากบ 100 บาท สิ นค้า X ราคา 5 บาท/หนวย และสิ นค้า Y ราคา 10 บาท/หนวย ่ ่ กรณี ที่นายแดงซื้ อสิ นค้า X ทั้ งหมดจะได้สินค้าจํานวน 20 หนวย หรื อซื้ อสิ นค้า Y ่ ่ ่ ทั้ งหมดจะได้สินค้าจํานวน 10 หนวย แตที่จุด A จะซื้ อสิ นค้า X ได้จานวน 5 หนวย และสิ นค้า Y ํ ่ ่ ั ได้จานวน 10 หนวย ทุกกรณี จะใช้เงินงบประมาณเทากบ 100 บาทเทากนหมด ํ ่ ั การเปลียนแปลงเส้ นงบประมาณ : จะเป็ นไปได้ 2 ลักษณะดัวยกนคือ ่ ั (1) รายได้ เปลียนแปลง (Income Change) : ถ้ารายได้ของผูบริ โภคเปลี่ยนแปลงเพิมขึ้ น ่ ้ ่ หรื อลดลง จะมีผลทําให้ปริ มาณการซื้ อสิ นค้า 2 ชนิ ดเปลี่ยนไปด้วย (ราคาสิ นค้าคงที่) ในกรณี งบประมาณเพิ่ม เส้น BL จะเคลื่อนย้ายทั้ งเส้นไปทางขวามือ หรื องบประมาณลดลง เส้น BL จะ เคลื่อนย้ายทั้ งเส้นไปทางซ้ายมือ รู ปภาพที่ 5.11 กรณี ผบริ โภคมีงบประมาณลดลง ู้ สิ นค้า Y 10 เส้น BL1 เส้น BL2 5 0 10 20 สิ นค้า X EC 111 105
  • 18. อธิ บายรู ปภาพที่ 5.11 เส้น BL1 ผูบริ โภคมีงบประมาณจํานวน 100 บาท สามารถซื้ อ ้ ่ ่ ่ สิ นค้า X ทั้ งหมดได้ 20 หนวย หรื อซื้ อสิ นค้า Y ทั้ งหมด ได้ 10 หนวย แตเมื่อเป็ นเส้น BL2 มี ่ งบประมาณจํานวน 50 บาท สามารถซื้ อสิ นค้า X ทั้ งหมดได้ 10 หนวย หรื อซื้ อสิ นค้า Y ทั้ งหมด ่ ได้ 5 หนวย เป็ นต้น (2) ราคาสิ นค้ าเปลียนแปลง (Price Change) : จะมีกรณี ราคาสิ นค้าชนิดใด ชนิดหนึ่ง ่ เปลี่ยนแปลงจะมีผลทําให้เส้นงบประมาณ (BL) เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย เชน ่ รู ปภาพที่ 5.12 ราคาสิ นค้ า X เปลียนแปลง (ราคาสิ นค้า Y คงที่) ่ ราคาสิ นค้า X เพิ่มขึ้ น ราคาสิ นค้า X ลดลง สิ นค้า Y สิ นค้า Y 0 5 10 0 5 10 สิ นค้า X สิ นค้า X ่ ปริ มาณซื้ อสิ นค้า X ลดลงจาก 10 เป็ น 5 หนวย ปริ มาณซื้ อสิ นค้า X เพิ่มจาก 5 เป็ น 10 หนวย ่ รู ปภาพที่ 5.13 ราคาสิ นค้ า Y เปลียนแปลง (ราคาสิ นค้า X คงที่) ่ ราคาสิ นค้า Y เพิ่มขึ้ น ราคาสิ นค้า Y ลดลง สิ นค้า Y สิ นค้า Y 15 15 8 8 0 0 สิ นค้า X สิ นค้า X ่ ปริ มาณซื้ อสิ นค้า Y ลดลงจาก 15 เป็ น 8 หนวย ่ ปริ มาณซื้ อสิ นค้า Y เพิ่มขึ้ นจาก 8 เป็ น 15 หนวย 106 EC 111
  • 19. 5.3 ดลยภาพของผ้ ูบริโภค : เป็ นเหตุการณ์ที่ผบริ โภคจะได้รับความพอใจสูงสุ ด ุ ู้ ํ ั ํ ในการบริ โภคสิ นค้า 2 ชนิ ด ภายใต้งบประมาณที่จากดจํานวนหนึ่ งที่กาหนดให้ เมื่อนําเส้นความ ่ ั ั ่ ั พอใจเทากนกบเส้นงบประมาณ มาอยูในรู ปภาพเดียวกน จุดดุลยภาพของผูบริ โภค จึงเกดจากเส้น ้ ิ ่ ั ั ความพอใจเทากน (IC) สัมผัสกบเส้นงบประมาณ(BL) นันเอง ่ รู ปภาพที่ 5.14 ดุลยภาพของผูบริ โภค ้ สิ นค้า Y B 10 E0 IC0 0 5 L สิ นค้า X ่ ั ั อธิบายรปภาพที่ 5.14 เส้นความพอใจเทากน (IC0) สัมผัสกบเส้นงบประมาณ ู (BL) ที่จุด E0 ซึ่ งถือเป็ นจุดดุลยภาพของผูบริ โภคได้ที่รับความพอใจสู งสุ ดภายใต้งบประมาณ ้ จํานวนหนึ่ง บริ โภคสิ นค้า Y จํานวน 10 หน่วย และสิ นค้า X จํานวน 5 หนวย ่ การเปลียนแปลงดลยภาพของผู้บริโภค : ที่มีสาเหตุมาการเปลี่ยนแปลงใน ราคา ่ ุ ั ่ สิ นค้ า หรือ รายได้ ของผ้ ูบริโภค จะมีผลต่อดุลยภาพของผูบริ โภคได้ดงตอไปนี้ ้ (1) การเปลียนแปลงราคาสิ นค้ าชนิดใด ชนิดหนึ่ง (Price Effect) : ในกรณี ที่ ราคา ่ สิ นค้า X ลดลง (ราคาสิ นค้า Y คงที่) จะมีผลทําให้ผบริ โภคสามารถซื้ อสิ นค้า X มากขึ้ น เส้น BL ู้ ั ่ ั ่ บนแกนนอนเคลื่อนย้ายไปทางขวามือ ไปสัมผัสกบเส้นความพอใจเทากนเส้นที่อยูทางขวามือ เกด ิ ดุลยภาพใหม่ข้ ึนที่จุด E1 , E2 , E3 ได้ ดังรู ปภาพที่ 5.15 EC 111 107
  • 20. รู ปภาพที่ 5.15 เส้นแนวทางการบริ โภคอันเนื่องจากราคาเปลี่ยนแปลง(PCC) สิ นค้า Y IC1 IC2 Y1 IC3 E1 Y2 E2 Y3 E3 PCC 0 X1 X2 X3 สิ นค้า X ่ อธิบายรปภาพที่ 5.15 เริ่ มต้นจากดุลยภาพครั้ งแรกอยูที่ เส้น IC1 สัมผัสเส้น ู ่ งบประมาณที่จุด E1 ตอมาราคาสิ นค้า X ลดลง ทําให้ เส้น BL บนแกนนอนเคลื่อนย้ายไปทางขวา ั มือ สัมผัสกบเส้น IC2 ที่จุด E2 เป็ นดุลยภาพใหม่ และถ้าราคาสิ นค้า X ยังลดลงอีก เส้น BL จะไป ่ สัมผัสเส้น IC3 ที่จุด E3 ดังนั้ นมีจุดดุลยภาพคือ E1 , E2 , E3 ถ้าลากเส้นผานจุดดุลยภาพทั้ งสาม จะเรี ยกเส้นแนวทาการบริ โภค อันเนื่องมาจากราคาเปลี่ยนแปลง (PCC) (2) การเปลียนแปลงรายได้ ของผู้บริโภค (Income Change) : ถ้าผูบริ โภคมีรายได้ ่ ้ ็ เพิ่มขึ้ นหรื อลดลง (ราคาสิ นค้าคงที่) กรณี รายได้เพิ่ม เส้นงบประมาณกจะเคลื่อนย้ายทั้ งเส้นไป ็ ทางขวามือของเส้นเดิม กรณี รายได้ลดลง เส้นงบประมาณกจะเคลื่อนย้ายทั้ งเส้นไปทางซ้ายมือ ของเส้นเดิม รู ปภาพที่ 5.16 เส้นแนวทางการบริ โภค กรณี รายได้ของผูบริ โภคเปลี่ยนแปลง (ICC) ้ สิ นค้า Y ICC B3 IC3 B2 E3 E2 IC2 B1 E1 IC1 0 สิ นค้า X L1 L2 L3 108 EC 111
  • 21. อธิบายรู ปภาพที่ 5.16 เริ่ มต้นจากจุดดุลยภาพของผูบริ โภคคือ เส้น IC1 สัมผัสกบ ้ ่ เส้น BL1 ณ จุด E1 ตอมาเมื่อมีผบริ โภคมีรายได้เพิ่ม ทําให้เส้นงบประมาณเคลื่อนย้ายไปเป็ น BL2 ู้ ั ่ และ BL3 สัมผัสกบเส้น IC2 และ IC3 ตามลําดับ มีจุดดุลยภาพใหมที่ E2 และ E3 ดังนั้ นถ้า ่ ่ ลากเส้ น ผานจุ ด ดุ ล ยภาพทั้ ง สาม จะเรี ย กวา เส้น แนวทางการบริ โ ภค อัน เนื่ อ งมาจากรายได้ เปลี่ยนแปลง (ICC) (3) การเปลียนแปลงราคาสิ นค้ า : ผลการทดแทนกันและผลทางรายได้ ่ เมื่อราคาสิ นค้า X ลดลง (ราคาสิ นค้า Y คงที่ ) จะทําให้เส้นงบประมาณบนเส้นปริ มาณสิ นค้า X ย้ายไปทางขวามื อ สัมผัสกบเส้นความพอใจเทากนอี กเส้นหนึ่ ง จึ งเกดดุ ลยภาพใหม่ ปริ มาณ ั ่ ั ิ บริ โภคสิ นค้า X เพิ่มขึ้ น ดังรู ปภาพที่ 5.17 รู ปภาพที่ 5.17 แสดงผลทางด้านราคา ,ผลการทดแทนและผลทางด้านรายได้ สิ นค้า Y B E1 E3 IC2 E2 IC1 0 L1 L2 Q1 Q2 Q3 สิ นค้า X ผลของราคา หรือผลรวม = ผลการทดแทน + ผลทางรายได้ Q1 Q3 Q1 Q2 Q2 Q3 ่ อธิบายรู ปภาพที่ 5.17 เริ่ มแรกดุลยภาพของผูบริ โภคอยูที่ เส้น IC1 สัมผัสเส้น BL1 ้ ่ ั ่ ที่จุด E1 ปริ มาณสิ นค้า X เทากบ Q 1 ตอมาราคาสิ นค้า X ลดลง ทําให้เส้นงบประมาณบนแกน ั ่ ั ่ สิ นค้า X เปลี่ยน BL2 สัมผัสกบเส้นความพอใจเทากน (IC2) เป็ นดุลยภาพใหมที่จุด E3 ปริ มาณการ บริ โภคสิ นค้า X เพิ่มขึ้ นเป็ น Q3 ดังนั้นความแตกต่ างระหว่ าง Q1 Q3 เป็ นทางด้ านราคา(Price ั Effect) หรื อผลรวม Q1Q2 = ผลการทดแทนกน Q2Q3 = ผลทางด้านรายได้ EC 111 109
  • 22. ั ่ (4) ผลการเปลียนแปลงรายได้ กับส้ นเองเกล : มีลกษณะดังตอไปนี้ รู ปภาพที่ 5.18 แสดงความสัมพันธ์เส้น ICC และเส้นเองเกล รู ปภาพ ก. สิ นค้า Y Income Consumption Curve(ICC) E2 E3 E1 0 ปริ มาณสิ นค้า X Q1 Q2 Q3 รู ปภาพ ข. รายได้ Engle curve Y3 E3 Y2 E2 Y1 E1 0 ปริ มาณสิ นค้า X Q1 Q2 Q3 อธิบายรู ปภาพที่ 5.18 จากรู ปภาพ ก แสดงการเส้นแนวทางการบริ โภค อัน ่ เนื่องมาจาก รายได้เปลี่ยนแปลง (ICC) ซึ่งมีผลทําให้เห็นความสัมพันธ์ระหวางรายได้ที่เพิมขึ้ นทํา ่ ให้การบริ โภคสิ นค้า X และ Y เพิมขึ้ นตามไปด้วย ่ ั รู ปภาพ ข. เมื่อนําตัวแปรรายได้ท่ีเปลี่ยนแปลงกบการบริ โภคสิ นค้า X ที่ ่ เปลี่ยนแปลงไป บนจุด E1 , E2 และ E3 เมื่อลากเส้นผานจุดทั้ งสาม ได้ เส้ นทีเ่ รียกว่ า เส้ นเองเกล 110 EC 111
  • 23. คําถามท้ ายบท เมื่ออ่านบทที่ 5 จบแล้ ว ควรทีจะตอบคําถามประเด็นต่ างๆดังต่ อไปนีได้ ่ ้ 1. อรรถประโยชน์ของสิ นค้าคืออะไร (1) ความพึงพอใจในสิ นค้า (2) ประโยชน์ของสิ นค้า (3) ความพึงพอใจที่ผบริ โภคได้รับจากการบริ โภคสิ นค้าและบริ การ ู้ (4) ผิดทุกข้อ 2. อรรถประโยชน์ในสิ นค้า จะมีมากหรื อน้อย ขึ้ นอยูกบ ่ ั (1) ความจําเป็ นของสิ นค้าในขณะนั้ น (2) จํานวนสิ นค้าที่บริ โภค (3) เวลาและสถานที่บริ โภคสิ นค้า (4) ถูกทุกข้อ ่ ่ 3. ข้อความใดตอไปนี้ ไมเป็ นไปตามข้อสมมติพ้ืนฐาน ของทฤษฎีอรรถประโยชน์ (1) ผูบริ โภคบอกความพึงพอใจออกมาเป็ น (2) ผูบริ โภคจะเลือกซื้ อสิ นค้าที่มียทิลสูงสุ ด ้ ้ ู หนวยยูทิลได้ ่ ่ กอนและพิจารณาลดลงตามลําดับ ่ ่ ่ ่ (3) สิ นค้าที่นามาซื้ อ-ขายแบงเป็ นหนวยยอยได้ (4) ชวงแรกผูบริ โภคจะได้อรรถประโยชน์เพิม ํ ้ ่ น้อย จะมากขึ้ นเมื่อซื้ อสิ นค้ามากขึ้ น ่ 4. กฎวาด้วย การลดน้อยถอยลงของอรรถประโยชน์เพิม เป็ นกฎที่แสดงความเกยวข้องระหวาง ่ ี่ ่ (1) ปริ มาณสิ นค้ากบความพึงพอใจั ั (2) ปริ มาณสิ นค้ากบราคาสิ นค้า (3) รายได้ของผูบริ โภคกบปริ มาณสิ นค้า ้ ั ั (4) ราคาสิ นค้าชนิดอื่นกบความพึงพอใจ 5. เมื่อผูบริ โภคที่ตองการแสวงหาความพอใจสูงสุ ด จะซื้ อสิ นค้าชนิดหนึ่งไปจนกระทังชิ้นสุ ดท้ายมี ้ ้ ่ ่ ่ ั คาของ MU เทากบศูนย์ แสดงให้เห็นวา ่ (1) ผูบริ โภคจะได้รับ อรรถประโยชน์รวม(TU) จากสิ นค้าสูงสุ ด ้ (2) ผูบริ โภคจะได้รับอรรถประโยชน์รวม(TU) จากสิ นค้าตํ่าที่สุด ้ (3) ผูบริ โภคจะได้รับอรรถประโยชน์รวม(TU) จากสิ นค้าเฉลี่ยปานกลาง ้ (4) ผูบริ โภคจะได้รับอรรถประโยชน์รวม(TU) จากสิ นค้าติดลบ ้ ่ ่ 6. เมื่อราคาสิ นค้า X มีราคา 30 บาทตอหนวย ถ้าผูบริ โภคต้องการแสวงหาความพอใจสูงสุ ด เมื่อ ้ นําราคาสิ นค้าพิจารณาประกอบด้วย จะซื้ อสิ นค้า X จนกระทัง ่ (1) อรรถประโยชน์รวม(TU) เทากบ 30 ยูทิล (2) อรรถประโยชน์รวม(TU) มีค่ามากกวา ่ ั ่ 30 ยูทิล (3) อรรถประโยชน์เพิม(MU) เทากบ 30 ยูทิล (4) อรรถประโยชน์เพิ่ม(MU) มีค่ามากกวา ่ ่ ั ่ EC 111 111
  • 24. ่ ิ 7. สวนเกนของผูบริ โภค (Consumer s Surplus) หมายถึง ้ (1) รายได้ส่ วนที่ผบริ โภคเหลือจาก การใช้จ่ายซื้ อสิ นค้าและบริ การ ู้ ิ (2) อรรถประโยชน์จากสิ นค้า ที่ผบริ โภคได้รับเกน จากการซื้ อสิ นค้าทั้ งหมด ู้ (3) อรรถประโยชน์จากสิ นค้า ที่ผบริ โภคได้รับเกนจากราคาสิ นค้าที่จ่ายไปจริ ง ู้ ิ ่ ่ ั (4) ผลตางระหวาง อรรถประโยชน์รวมกบ อรรถประโยชน์เพิ่ม ่ ิ 8. สวนเกนของผูบริ โภคในสิ นค้า จะลดลงในกรณี ้ (1) รายได้ของผูบริ โภคเพิ่ม ้ (2) คุณภาพของสิ นค้าลดลง (3) ราคาสิ นค้าลดลง (4) ราคาสิ นค้าเพิ่มขึ้ น ํ กาหนดให้ MUx และ MUy ในสิ นค้าแตละหนวย มีค่าMU ดังตอไปนี้ จงใช้เป็ นข้อมูลในการตอบ ่ ่ ่ คําถามที่ 9-10 ---------------------------------------------------------------- ถ้าผูบริ โภคมีเงินจํานวน 20 บาท ้ ปริ มาณสิ นค้า MUx MUy ่ สิ นค้า X และ Y หนวยละ 4 บาท ---------------------------------------------------------------- 1 35 30 2 31 28 3 28 25 4 25 23 5 23 20 ----------------------------------------------------------------- ่ 9. ผูบริ โภคคนหนึ่ง จะซื้ อสิ นค้า X และ Y จํานวนเทาใด จึงได้รับดุลยภาพการบริ โภค ้ (1) X = 2 และ Y = 3 หนวย ่ (2) X = 3 และ Y = 2 หนวย ่ (3) X = 4 และ Y = 3 หนวย ่ (4) X = 3 และ Y = 4 หนวย ่ 10. ผูบริ โภคจะได้รับอรรถประโยชน์รวม จากการบริ โภคสิ นค้า X จํานวนกยูทิล ้ ี่ (1) จํานวน 35 ยูทิล (2) จํานวน 66 ยูทิล (3) จํานวน 94 ยูทิล (4) จํานวน 119 ยูทิล ่ ั 11. เส้นความพอใจเทากน(Indifference Curve) เป็ นเส้นที่แสดงสวนประกอบของ ่ ่ (1) การเลือกซื้ อสิ นค้ามากกวาหนึ่งชนิด ที่ได้รับความพอใจเทากน ่ ั ่ (2) การเลือกซื้ อสิ นค้า 2 ชนิดในหลายๆองค์ประกอบ แตให้ความพอใจเทากน ่ ั 112 EC 111