หลวงปู่
- 1. หลวงปู่ดู่ท่านเล่าให้ผู้เขียนฟังในวันหนึ่ง ถึงหมอจีนที่มารักษาท่าน โดยการจับชีพจรเพื่อ
ตรวจอาการโรคหรือที่เรียกว่า 'หมอแมะ' หมอบอกว่า...
"หลวงปู่มีพระเต็มไปหมดทั้งตัว"
ท่านถามเหตุผลกับผู้เขียน ซึ่งผู้เขียนพิจารณาแล้วนึกถึงเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ชนิด
หนึ่ง ใช้วัดการเต้นของชีพจร ถ้าเป็นผู้มีสมาธิดี การเต้นของชีพจรจะราบเรียบ การใช้
ออกซิเจนจะ...น้อย แต่ในกรณีหลวงปู่ หมอใช้วิทยาการทางจิตตรวจสอบพบว่า การเต้น
ของชีพจรราบเรียบ ทั้งๆ ที่หลวงปู่นั่งอยู่ในอิริยาบทกำาลังคุย คือไม่ได้นั่งสมาธิ นั่นแสดง
ว่า จิตของท่านเป็นสมาธิตลอดเวลา หรือจิตไม่มีความคิดปรุงแต่ง ทางหนังจีนกำาลัง
ภายในเรียกว่า ท่าไร้อารมณ์ ลักษณะเช่นนี้ เข้าลักษณะทางพุทธ คือ อารมณ์ของพระ
อรหันต์ เป็นลักษณะของผู้ที่ได้รับจากการปฏิบัติจตขั้นสูง
ิ
ทำาให้นึกถึง หลวงปู่ปาน ที่กล่าวไว้ในประวัติของท่าน ในขณะที่ท่านกำาลังคุยกับ
ญาติโยม แต่อีกจิตหนึ่งสามารถเสกนำ้ามนต์ไปพร้อมกัน หรือผู้เขียนประสบมาด้วยตัวเอง
กับ
หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี ในขณะที่ท่านนั่งคุยกับผู้เขียน
และญาติโยมอยู่นั้น ท่านก็ได้จุดเทียนไว้บนขันนำ้า สักพักหนึ่งก็ได้นำ้ามนต์มาพรมให้กับ
ญาติโยมและผู้เขียน โดยท่านไม่ได้นั่งอธิษฐานจิตเลย
แม้แต่หลวงปู่ดู่เอง ท่านก็ได้ทำาอยู่บ่อยๆ เมื่อมีญาติโยมมานิมนต์ท่านไปร่วมพิธีต่างๆ
ตั้งแต่พิธปลุกเสกพระ งานทำาบุญบ้าน ฯลฯ
ี
เพื่อนของผู้เขียนคนหนึ่งเรียนถามหลวงปู่ว่า
"จะรู้ได้อย่างไรว่าพระองค์ไหนบารมีสูง"
หลวงปู่มองหน้าผู้เขียนแล้วตอบยิ้มๆ ว่า
"อย่างเช่น ท่านนั่งอยู่ที่หนึ่ง แต่อธิษฐานจิตไปช่วยเหลือ ไปได้อีกที่หนึ่ง"
เพื่อนของผู้เขียนฟังแล้วรู้สึกงงๆ แต่ผู้เขียนเข้าใจทันที เพราะกำาลังพูดคุยอยู่กับท่าน
พอดี เกี่ยวกับท่านอธิษฐานจิตไปช่วยเหลือในการสร้างรูปหล่อของหลวงปู่ที่กรุงเทพฯ
โดยท่านบอกผู้เขียนว่า
"ทำามาหลายวันแล้ว อธิษฐานให้หลวงพ่อทวดไปช่วยเหลือ ให้พระไปช่วย เรามีกิจมาก
เดียวลืมจะทำาให้เสียงานได้"
๋
อาจารย์ศภรัตน์ แสงจันทร์ ผู้บันทึก
ุ