SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  21
Télécharger pour lire hors ligne
อุปกรณคอมพิวเตอรป 2000
ฉลาด กระทัดรัด งดงาม และสื่อสารดีเยี่ยม
สุรพล ศรีบุญทรง
บทความป 1999
การกาวยางเขาสูคริสตทศวรรษใหมในอีกไมกี่เดือนขางหนา ทําใหผูเขียนออกจะรูสึกหวั่นไหวอยูลึกๆ
กับกระแสความเปลี่ยนแปลงที่เปนไปอยูทั่วโลก เพราะชวงระยะเวลาสองสามปที่ผานมา สังคมโลกดูจะสับสนวุนวาย
ไปหมด ไมวาจะเปนเรื่องสังคม, เศรษฐกิจ หรือการเมือง ยกตัวอยางเชนเหตุการณ วิกฤตเศรษฐกิจเอเชีย ภาวะทุกพิกข
ภัยสารพันอันเนื่องจากบรรยากาศโลกถูกคุกคาม ปญหาการเมืองในอินโดนีเซีย/ในมาเลเซีย สงครามอาวเปอรเชีย
วิกฤตการณเซอรเบีย และการประทวงของชาวเคิรด ที่เพิ่งจะเปนขาวไปเมื่อเร็วๆ นี้
ทีนี้ พอหันมามองสังคมของวงการคอมพิวเตอรบางก็จะพบความวุนวายสับสนไมแพกัน แมวาจะไม
โหดรายชวนเศราหมองเหมือนวิกฤตการณโลก แตความที่เทคโนโลยีดานนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปอยางรวดเร็วมาก
(ชนิดที่วาเพิ่งซื้อเครื่องคอมพิวเตอรมาจากพันธทิพยไดอาทิตยเดียว พอยอนกลับไปดูใหมปรากฏวาตกรุนไปเรียบรอย
แลว หรืออยางในกลุมผลิตภัณฑโปรแกรมซอฟทแวรนั้น สวนใหญก็มักจะสูญหายตายจากไปจากตลาดทั้งๆ ที่ยังพัฒนา
ไดไมพนเวอรชั่น 1.0 เสียดวยซ้ําไป)
การเปลี่ยนแปลงในโลกคอมพิวเตอรเปนไปอยางเรงดวนเสียจนบางครั้งมีความรูสึกวา โลกคอมพิวเตอร
นั้นใชมาตรฐานเวลาที่เร็วกวาเวลาบนโลกมนุษยทั่วไปอยูรวมสิบเทา ทําใหผูเขียนรูสึกตัววาตนเองนั้นกาวตามเทคโนโลยี
คอมพิวเตอรไมทัน (ผูเขียนคาดเอาเองวาตนเองนาจะลาสมัยไปโดยเฉลี่ยสักสองสามป เพราะถึงแมวาจะเก็บเอา
เรื่องราวอันทันสมัยมาเลาสูทานผูอานบอยๆ แตกวาที่ตัวเองจะไดมีโอกาสใชงานเทคโนโลยีเหลานั้น ก็มักจะตองลวงไป
เปนปเปนอยางนอย)
นอกจากนั้น ประสบการณจากการเขียนบทความดาน
คอมพิวเตอรกวาแปดปของตนเอง ก็สอนใหผูเขียนตระหนักถึงความไมเที่ยงแหง
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร เชน เคยเขียนถึงเครือขายสื่อสารระบบดิจิตัล ISDN ไวในป
ค.ศ. 1991 วานาจะมีอนาคตดี แตหลังจากนั้นมารวมเจ็ดปมันก็ยังไมเปนที่นิยม,
หรือในป ค.ศ. 1994 เคยเขียนเรื่องระบบปฏิบัติการ OS/2 warp ของไอบีเอ็มวาดู
ดีนาใช แตกระแสผูบริโภคทั่วโลกกลับไปหลงไหลไดปลื้มกับวินโดวส 95 ที่มี
สมรรถนะแทบไมตางกันและออกลาชากวากันถึงปครึ่งแทน, และเมื่อสามปกอน ก็
เคยเขียนเกี่ยวกับแนวคิดอุปกรณคอมพิวเตอรราคาถูกสําหรับสื่อสารผาน
อินเทอรเน็ต อยางพวก เน็ตเวิรกคอมพิวเตอร อุปกรณสารสนเทศ หรือ เว็บทีวี
แตกลายเปนวาแนวคิดเรื่องเน็ตเวิรกพีซีนั้นโดนกระแสผลิตภัณฑพีซีราคาถูกมากระหน่ําจนกลายเปนหมันไปเรียบรอย
ในขณะที่เว็บทีวีและอุปกรณสารสนเทศก็ยังไมคืบหนาไปเทาที่ควร
ฉนั้น เมื่อไดอานเจอบทความ "Your PC in the New Millenium" ของไมเคิล เดสมอนด ที่ทํานาย
อนาคตของอุปกรณคอมพิวเตอรในชวงสองสามปแรกแหงศตวรรษ 2000 ไวในนิตยสารพีซีเวิลดฉบับกุมภาพันธ 1999
จึงสงผลใหผูเขียนรูสึกสองจิตสองใจวาจะแคอานไวประดับความรูของตัวเองดี หรือจะเก็บมาเลาสูผูอานดี ซึ่งในที่สุด ก็
ตัดสินใจวานาจะเอามาถายทอดสูกันฟงดีกวา เพราะถึงแมคําทํานายอาจจะผิดพลาดจากความเปนจริงไปบางในอนาคต
แตอยางนอยมันก็จะชวยยืนยันกาลามสูตรเทศนาของพระบรมศาสดาพุทธเจาที่วา อยาเชื่อโดยมิไดไตรตรองใหรอบคอบ
และไมควรเชื่อเพียงเพราะมีครูบาอาจารยมาเลาใหฟง (ที่สําคัญ ผูเขียนยังจะไดมีคาขนมเล็กนอยเหลือไวใหลูกอีกดวย)
ไมเคิล เดสมอนด ชี้วาการพยากรณอนาคตของอุปกรณคอมพิวเตอรในป 2000 นั้น แมวาจะเปนเรื่อง
ที่ทํานายยาก แตอยางนอยที่สุดเราก็นาจะปกใจเชื่อไดวามันจะตองไดรับการพัฒนาใหมีหนวยประมวลผลซึ่งชาญฉลาด
และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะบริษัทยักษใหญดานซีพียูอยางอินเทลไดออกมาแถลงไปเรียบรอยแลววา จะทยอย
เปดตัวผลิตภัณฑใหมจํานวนไมนอยกวาสองโหลภายในชวงระยะเวลาสิบแปดเดือนขางหนา ซึ่งในเรื่องความชาญฉลาด
ของเครื่องคอมพิวเตอรป 2000 นี้ หากใชวิธีระบุเปนจํานวนคําสั่งตอวินาที ความสลับซับซอนของโปรแกรมคําสั่งที่
รองรับ หรือความเร็วสัญญาณนาฬิกาของหนวยประมวลผลกลาง ฯลฯ อาจจะฟงดูเขาใจยากสําหรับผูซึ่งไมไดมีพื้น
ฐานความรูทางคอมพิวเตอร
ในทางปฏิบัติจึงมักจะบอกระดับความฉลาดของเครื่องคอมพิวเตอรเปนขีดความสามารถในการนําเสนอ
ผลงานในรูปแสง สี เสียงของระบบมัลติมีเดีย หรือใชจัดการกับภาพกราฟฟกหรือสัญญาณวิดีโอไดดีขนาดไหนแทน
อยางไรก็ตาม ไมเคิล เดสมอนด เชื่อวาในอนาคตอันใกลนี้ ความฉลาดของเครื่องคอมพิวเตอรอาจจะแสดงออกดวย
ลักษณะปฏิสัมพันธที่ดีขึ้น (ไมเคิลใชคําวา "Listen better" หรือกลอมแกลมใหเปนไทยๆ วา "รูฟงมากขึ้น") คือแทนที่
เครื่องคอมพิวเตอรจะรับคําสั่งทางคียบอรดและเมาส ก็จะมีการรับคําสั่งผานเสียงพูด หรือแมจนกระทั่งการรูสังเกต
ทาทาง และตําแหนงทิศทางของลูกตา (เริ่มใชในคนพิการคนเปนอัมพาต แตก็นาจะถูกประยุกตมาใชกับคนปรกติ
ธรรมดาทั่วไปไดเชนกัน) ฯลฯ
เครื่องคอมพิวเตอรป 2000 นั้นนอกจากจะชาญ
ฉลาดขึ้นเกงขึ้นแลวยังนาจะมี รูปลักษณดีไซนที่ทันสมัย
สวยงามอีกดวย ทั้งนี้ ก็เพื่อ ตอบสนองตอความตองการ
ของนักคอมพิวเตอรเจเนอเรชั่นใหม ที่ เติบโตมากับวัฒนธรรมเอ็มที
วี และอินเทอรเน็ต สวนวาจะ ออกแบบดีไซนของเครื่อง
คอมพิวเตอรไดโฉบเฉี่ยวไฉไลขนาด ไหน ก็ขึ้นอยูกับวานักวิจัย
จะลดขนาดความเทอะทะของหนาจอลงไปไดมากนอยขนาดไหน (คงตองเปลี่ยนไปใชเทคโนโลยีผลึกเหลว LCD ในการ
ผลิตจอ เพราะถายังขืนใชจอแบบหลอดคาโถด CRT ก็คงจะลดขนาดลงยาก) และที่แนๆ อุปกรณคอมพิวเตอรป
2000 จะตองมีขนาดเล็กกระทัดรัดลงเพื่อความสะดวกในการพกพา พรอมๆ กันนั้น ก็จะตองเพิ่มความสามารถในการ
สื่อสารทั้งที่ผานเครือขายอินเทอรเน็ตและเครือขายการสื่อสารคมนาคมอื่นๆ
"ซีพียู" เร็วเทาไรไมเคยพอ
ไมเกินสิ้นป 2000 นี้ เชื่อวาขีดความเร็วสัญญาณนาฬิกาของผลิตภัณฑชิปซีพียูรุนใหมคงจะถูกเรงใหเร็ว
จี๋ขึ้นไปถึงระดับ 700 เมกะเฮิรซ พรอมๆ ไปกับการขยายขีดสมรรถนะองคประกอบอื่นๆ ที่อยูแวดลอมตัวซีพียู ไมวาจะ
เปนขีดความเร็วของหนวยความจําแรม, มาตรฐานการรับ/สงสัญญาณขอมูลระหวางซีพียูกับแรม หรือแมกระทั่ง
สมรรถนะของแผงวงจรหลักอันเปนที่สิงสถิตยของทั้งชิปแรมและชิปซีพียู ฯลฯ ทั้งนี้ ก็เพื่อสนองตอความตองการของ
โปรแกรมรูปแบบใหมๆ ที่กําลังจะทยอยออกสูตลาดภายในอีกไมกี่เดือนขางหนา ตัวอยางของโปรแกรมสมัยใหมที่วา
นั้นไดแก โปรแกรมประเภทที่เนนในเรื่องการแสดงภาพสามมิติมากๆ, โปรแกรมจัดการสัญญาณวิดีโอ MPEG-2 ซึ่งให
ความสมจริงมากขึ้นในแงเสียงหรือความเคลื่อนไหว, และโปรแกรมวิเคราะหจําแนกสัญญาณเสียง (Voice
recognition) ฯลฯ
ตัวอยางของการเรงขีดสมรรถนะใหกับเครื่องคอมพิวเตอรยุคป 2000 นั้นไดแกการที่บริษัทอินเทลได
คิดคนระบบมาตรฐานหนวยความจําแรมรูปแบบใหมขึ้นมา ชื่อวา Direct Rambus DRAM (RDRAM) ซึ่งใช
สายสัญญาณที่เร็วขึ้นและบางขึ้น ทําใหสามารถรับ/สงขอมูลจากชิปซีพียูไดเร็วกวามาตรฐานแรมแบบ synchronous
DRAM (SDRAM) ที่ใชๆ กันอยูในปจจุบันถึงสองเทา และคาดวามันจะถูกนํามาใชแทนที่มาตรฐาน SDRAM ภายในเวลา
ไมเกินป 2001 เปนอยางชา เพราะบรรดาบริษัทผูผลิตชิปซีพียูชั้นนําอื่นๆ อยาง AMD และ Compaq's Alpha ตางก็ให
การขานรับเทคโนโลยี RDRAM ที่วานี้เปนอยางดี
นอกจากเรื่องเทคโนโลยี RDRAM แลว บริษัทอินเทลยังไดพัฒนาระบบบัสนําสัญญาณกราฟฟกเวอร
ชั่นใหมภายใตชื่อรหัส AGP 4x ขึ้นมา สําหรับงานประมวลผลภาพสามมิติอีกดวย โดย
ระบบบัสแบบ AGP 4x ที่วานี้จะเปด โอกาสใหแผงวงจรควบคุมสัญญาณภาพ
(graphic card) สามารถเรียกดึงขอมูล ออกมาจากหนวยความจําแรมโดยไดตรง จึง
เพิ่มความเร็วในการแสดงภาพสามมิติบน หนาจอไดมากขึ้นเปนสองเทาเมื่อเทียบกับ
มาตรฐาน AGP 2x ที่ใชกันอยูในขณะนี้ อันจะสงผลใหภาพวิดีโอบนจอคอมพิวเตอรมีการ
เคลื่อนไหวที่ตอเนื่อง และนุมนวลมากขึ้น ไมเคลื่อนไหวกระตุกๆ เปนผีดิบเหมือนที่เห็นๆ
กันอยูในทุกวันนี้
อยางไรก็ตาม การเรง แขงขันกันพัฒนาสมรรถนะของบริษัทผูผลิตชิป
ซีพียูกันอยางเอาเปนเอาตายเชนนี้ ก็กอใหเกิดคําถามชวนคิดติดตามมาวา มันจะคุมคาแคไหนสําหรับผูบริโภคที่จะตอง
เสียเงินมากขึ้นเพื่อใหไดมาซึ่งสมรรถนะความเร็วสูงสุดที่วานั้น เพราะลําพังดวยสมรรถนะของเครื่องคอมพิวเตอรที่มีอยู
ในปจจุบันก็มากมายเหลือเฟอเกินกวาจะใชกันไดหมดอยูแลว (ผูใชคอมพิวเตอรสวนใหญมักจะใชงานเครื่องไดแค 20 %
- 30 % ของสมรรถนะที่มีอยูจริง) และถึงแมวาผูใชคอมพิวเตอรจะตองการใชงานเครื่องใหไดประสิทธิภาพเต็มรอยกัน
จริงๆ ก็ยังติดขัดในแงที่ไมมีโปรแกรมซอฟทแวรรุนใหมถูกพัฒนาขึ้นมารองรับสมรรถนะกําลังของตัวซีพียูใหเลือกใชได
สักเทาไรนัก (เปรียบงายๆ เหมือนพวกเศรษฐีกรุงเทพที่มีรถสปอรต 200 แรงมา จะไปหาถนนที่ไหนมาวิ่งใหเต็มกําลัง
ได)
ยิ่งถาคิดจะนํามาใชเพื่อการสื่อสารทางอินเทอรเน็ตก็ดูจะยิ่งัหนักไปใหญ เพราะลําพังเครื่อง
คอมพิวเตอรของตัวเองเร็วอยูเครื่องเดียวนั้นยอมไมมีคาใดๆ เลยในการสื่อสาร เพราะสุดทายก็ตองนั่งรอสัญญาณที่จะถูก
สงตอบกลับมาอยูดี (เหมือนรถเฟอรารี่ติดอยูแถวอโศก เครื่องจะแรงแคไหนก็ไปไดเร็วเทาตุกๆ อยูนั่นเอง)
หรือถามองเฉพาะเรื่องการจัดการกับโปรแกรมสามมิติ ผูใชคอมพิวเตอรก็ยังพอมีทางเลือกอื่น
นอกเหนือไปจากการใชเทคโนโลยี RDRAM และ AGP 4x เพราะหากเลือกกันดีๆ ผลิตภัณฑแผงวงจร AGP 2x หลายๆ
ยี่หอก็ยังสามารถสามารถสรางภาพสามมิติคุณภาพดีได เพียงแตอาจจะตองเลือกเฟนแผงวงจรหลักเปนพิเศษหนอย
เทานั้น เชน อาจจะตองใชแผงวงจร Intel Celeron รุนใหมที่มีการติดตั้งชุดชิป 810 chip set ซึ่งมีวงจรควบคุม
กราฟฟกมาดวยในตัว หรือหากจะเลือกผลิตภัณฑของไซริกซเพราะราคาถูกหนอย ก็ใหรอไปอีกสักสองสามเดือน
เพราะไซริกซกําลังจะเปดตัวซีพียู MXi ที่มีวงจรควบคุมสัญญาณกราฟฟก 3 มิติออกมา
มีอะไรใหมในตลาดซีพียู
พูดเรื่องซีพียูแลวชวนใหสับสน เพราะเทาที่มีอยูในทองตลาดก็งงจะแยอยูแลว (เฉพาะชิปเพนเที่ยม
ยี่หออินเทลอยางเดียวก็มีไมนอยกวา 15 แบบ) แตถาแคนี้วาสับสน หลังจากป ค.ศ. 2000 ไปแลวคงตองเรียกวาอภิ
มหาสับสน เพราะบริษัทผูผลิตชิปซีพียูตางวางแผนจะเปดตัวผลิตภัณฑใหมๆ กันไมนอยกวา 12 รุน ตอหนึ่งบริษัท ทีนี้
พอคูณเขากับตัวเลขจํานวนบริษัทที่มีการผลิตและจําหนายซีพียูอีก 5 บริษัท (มี Intel, AMD, Cyrix, Centaur, และ
Rise Technology) ก็เทากับวาเราจะมีชิปซีพียูใหเลือกใชไดไมต่ํากวา 60 รุน แถมถาคิดวาชิปแตละรุนก็จะถูกประยุกต
ไปใชกับเครื่องคอมพิวเตอรอีกสัก 20 ยี่หอ ก็จะกลายเปนวาผูบริโภคจะตองตัดสินใจเลือกเครื่องที่เหมาะกับตนจากที่มี
อยูราวๆ 1000 แบบเลยทีเดียว
ฉนั้น เพื่อไมใหเวียนหัวชวนงวงกันจนเกินไป เราจะเลือกเอาเฉพาะพัฒนาการที่สําคัญๆ ของวงการ
ซีพียูขึ้นมาพูด เรื่องแรกที่เราจะนาจะใหความสนใจคือเรื่องความเร็วของซีพียูซึ่งนาจะถูกเรงขึ้นไปถึง 700 MHz ภายใน
เวลาไมเกินสองป เพราะเทาที่เห็นตอนนี้ บริษัทพี่ใหญอินเทลก็เริ่มเกทับ
นองๆ ดวยการวางแผนเปดตัวชิปเพนเที่ยม ทู รุน 450 MHz และ 500 MHz
ออกมา โดยชิปรุนที่วานี้จะถูกติดตั้งไวดวย ชุดคําสั่ง Katmai ซึ่งไดรับการ
พัฒนาตอเนื่องมาจากชุดคําสั่ง MMX และ ประกอบไปดวยกลุมคําสั่งใหมๆ
จํานวนกวา 70 คําสั่ง ในการที่จะชวยเรงขีด ความสามารถของการประมวผล
สัญญาณภาพสามมิติ, สัญญาณเสียง, การ จดจําเสียงพูด, ไปจนถึงการถอด/ใส
รหัสสัญญาณวิดีโอระบบ MPEG-2
ในเวลาเดียวกันกับที่อินเทล เปดตัว เพนเที่ยม ทู 450 MHz นั้น
บริษัท AMD ก็ไมยอมนอยหนามีการเปดตัวชิปใหมชื่อ 400 MHz Shraptooth ออกมาชนทันที โดยมีผลการทดสอบ
ยืนยันวาชิป SharpTooth นั้นสามารถทํางานไดเร็วกวาชิปเพนเที่ยมทูอยางเห็นไดชัดในกรณีที่มีความเร็วสัญญาณ
นาฬิกาเทาๆ กัน ทั้งนี้อาจจะเปนผลมาจากการที่ชิป Sharptooth นั้นมีการติดตั้งวงจรหนวยความจําแคช 256 K
secondary cache ไวภายในตัว และเปนแคชที่ทํางานดวยความเร็วเทาๆ กับซีพียูเลย (ชิปเพนเที่ยมทูใชวิธีติดตั้ง
Secondary cache ไวนอตัวชิป และทํางานดวยความเร็วเพียงครึ่งหนึ่งของซีพียู) และเมื่อเสร็จจากชิป 400 MHz
Sharptooth บริษัท AMD ก็มีแผนการที่จะออกผลิตภัณฑใหมตามมาภายในระยะเวลาไมเกินสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ นั่น
คือชิป 500 MHz K7 พรอมๆ กันนั้นก็มีแผนจะขยายขีดความสามารถของบัสนําสัญญาณขนาด 200 MHz บน
แผงวงจรหลัก (system bus) ใหมีสมรรถนะสูงๆ ยิ่งขึ้นไปอีก
ซึ่งอาจจะเปนดวยเหตุนี้ก็ได ทําใหบริษัทอินเทลรีบประกาศตัวผลิตภัณฑใหมของตนออกมาทันที มีทั้ง
ชิป Pentium II Katmai รุน 533 MHz และชุดชิปสําเร็จรูป 820 chip set ที่รองรับ system bus ขนาด 133 MHz
แถมยังวางแผนยาวตอเนื่องไปอีกหนึ่งไตรมาสวาจะออกผลิตภัณฑรุนใหมชื่อ 600 MHz Coppermine ซึ่งใชเทคโนโลยี
การเดินสายสัญญาณภายในตัวชิปเล็กบางขนาด 18 ไมครอน พรอมกันนั้นก็จะติดตั้งหนวยความจําแคช Secondary
cache 256 KB มาดวยในตัว ทําใหสามารถเรงความเร็วในการสงผานสัญญาณขอมูลระหวางหนวยความจําหลักกับซีพียู
และเรงความเร็วของบัส system bus ขึ้นไปถึงระดับ 133 MHz
อยางไรก็ตาม บริษัทผูผลิตซีพียูนั้นไมไดแขงขันกันเฉพาะเรื่องการเพิ่มขีดสมรรถนะและความเร็ว
เทานั้น ในทางตรงกันขาม พวกเขายังแขงขันกันผลิตสินคาซีพียูมาปอนตลาดคอมพิวเตอรราคาถูกอีกดวยเชนกัน
โดยเฉพาะทางฟากของบริษัท AMD, Cyrix, Centaur, และ Rise Technology นั้น หากคิดจะแขงขันดานเทคโนโลยี
หรือแขงขันดานภาพลักษณกับอินเทลก็คงเหมือนกับเอาสมรักษ คําสิงหไปชกกับไมค ไทสัน (เจอแคหมัดเด็ดอยาง
สโลแกน "Intel Inside" ก็แทบจะโดนนอกกันไปเปนแถวแลว) ฉนั้น บรรดาบริษัทผูผลิตซีพียูพวกนี้จึงหันมาจับสินคา
คอมพิวเตอรระดับลางแทน ซึ่งก็สรางผลดีใหกับผูใชคอมพิวเตอรทั่วไปอยางเราๆ ทานๆ มิใชนอย เพราะถาไมไดสินคา
ซีพียูราคาถูกเหลานี้มาชวยดึงราคา เราคงไมไดมีโอกาสเห็นเครื่องคอมพิวเตอรราคาถูกขนาด $699 - $999 หรือเครื่อง
โนตบุคราคาไมถึง $1000 เหมือนทุกวันนี้หรอก
รูปที่ 1 ไมวาจะมีคูแขงมากมายขนาดไหนในทองตลาด ชิปซีพียูยี่หออินเทลก็ยังครองใจผูบริโภคอยูเสมอ (อยางนอย
ที่สุดก็ตลอดชวงตนทศวรรษ 2000 นั่นแหละ) เพราะถาจะ
เลือกสมรรถนะ อินเทลก็มีชิปเพนเที่ยมทูใหเลือก หรือรัก
ประหยัดก็มีชิปเซลีรอนใหเลือกไดอีกเชนกัน
ตัวอยางผลิตภัณฑซีพียูที่กําลังจะออกสูตลาด
ผลิตภัณฑที่มีแผนเปดตัวในไตรมาสแรกของป 1999
Intel Celeron-366 & 400 : ความเร็วสัญญาณนาฬิกาก็ตาม
ชื่อรหัสนั่นแหละ คือ 366 MHz และ 400 MHz, ออกแบบมาสําหรับใชกับเครื่องคอมพิวเตอรกลุมที่มี
ราคายอมเยาหนอย (ราว $1499 ตามสไตลลของเครื่องรุนเซลีรอน) แตในระยะแรกๆ นั้นอาจจะ
ทํางานไดไมเต็มประสิทธิภาพเทาที่ควรนัก เพราะยังไมคอยมีโปรแกรมมัลติมีเดียที่ถูกออกแบบมา
รองรับการทํางานของชุดคําสั่ง Katmai instruction ใหเลือกใชไดมากนักในทองตลาด
AMD Sharptooth : นาจะมีความเร็วสัญญาณนาฬิกาสูงถึง 450 MHz (หรืออยางนอยก็ 400 MHz) ทางบริษัท
เอเอ็มดีตั้งเปาไววาจะใชกับเครื่องคอมพิวเตอรตั้งโตะระดับไฮเอน แตก็มีแผนจะพัฒนาไปใชกับเครื่อง
โนตบุคดวยเชนกัน จุดเดนของมันอยูที่การติดตั้งหนวยความจํา 256KB secondary cache มาในตัว
ทําใหสามารถประมวลผลไดเร็วกวาชิปเพนเที่ยมทูรุนเดียวกันอยางเห็นไดชัด (เปนแคราคาคุย คงตอง
รอใหเห็นของจริงกอนจึงจะยืนยันได นอกจากนั้น เผลอๆ จะเร็วกวาเฉพาะการใชโปรแกรมจัดการ
ธุรกิจทั่วไปเทานั้น เพราะหลังๆ นี้ ชิปของเอเอ็มดีดูจะดอยกวาชิปอินเทลเล็กนอยในเรื่องระบบ
มัลติมีเดีย)
Intel Celeron for notebooks : ใชความเร็วสัญญาณนาฬิกาสัก 266 MHz และ 300 MHz, ออกแบบมา
สําหรับเครื่องโนตบุคราคาประหยัด (คาดวานาจะตัดราคาจําหนายของเครื่องโนตบุคลงมาเหลือเพียง
$1599) อยางไรก็ตาม จะบอกวามันทํางานไดดีหรือไมดีแคไหนคงตองไดเห็นของจริงเสียกอน
โดยเฉพาะเรื่องของมาตรการประหยัดพลังงานซึ่งจําเปนมากสําหรับเครื่องโนตบุค
Cyrix M II -350 & -366 : ประชาสัมพันธบริษัทไซริกซย้ําผลการทดสอบมาแลววามีความเร็วสัญญาณนาฬิกา
350 MHz และ 366 MHz จริง ทั้งๆ ที่ตั้งราคาจําหนายไวคอนขางต่ํา โดยตั้งเปาไววาจะนําไปใช
ติดตั้งบนผลิตภัณฑคอมพิวเตอรรุนราคา $899 อยางไรก็ตาม มีขาวเลาลือวาชิปตัวนี้ทําความเร็วได
ไมดีนักในการเลนเกมส โดยเฉพาะพวกเกมสที่ตองมีการสรางภาพสามมิติมากๆ
Intel Pentium II Katmai : มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาสูงถึง 450 MHz และ 500 MHz, ตั้งเปาไวที่เครื่อง
คอมพิวเตอรระดับไฮเอน โดยจะมีการเปดตัวชุดคําสั่งเด็ดๆ 70 คําสั่งที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มขีด
สมรรถนะการประมวลผลสัญญาณภาพและสัญญาณเสียงเปนการเฉพาะ (แตถาใหมเกินไปนัก ก็ให
ระวังวาบริษัทผูผลิตซอฟทแวรจะตามไมทัน เพราะเดี๋ยวจะใชงานไดไมสมราคา)
Rise Technology MP6 : ความเร็วสัญญาณนาฬิกาประมาณ 233 MHz และ 266 MHz โดยประมาณ,
เหมาะกับทั้งเครื่องคอมพิวเตอรตั๊งโตะและเครื่องโนตบุครุนราคาถูก ($799 - $999 สําหรับรุนตั้งโตะ)
ซึ่งแมวาจะมีราคาถูก แตก็โดดเดนเปนพิเศษในเรื่องคําสั่ง MMX และการใชงานรวมกับกับอุปกรณ
DVD จะมีที่ดอยลงไปบางก็ตรงที่มันไมมีหนวยความจํา secondary cache ติดตั้งมาดวย แถมยังเปน
ผลิตภัณฑซีพียูที่มีสวนแบงตลาดนอยมาก (นักคอมพิวเตอรเมืองไทยอาจจะไมมีโอกาสสัมผัสกับสินคา
ยี่หอนี้เลยก็ได)
Intel PII-333 & -366 for notebooks : ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 333 MHz และ 366 MHz เหมาะกับ
เครื่องโนตบุคระดับไฮเอน เพราะมีการติดตั้งหนวยความจําแคช secondary cache มาพรอมในตัว
ทําใหประมวลผลไดเร็วกวาชิปเพนเที่ยมทูในระดับเดียวกัน แตก็อีกนั่นแหละ มันคงทําใหผูใช
คอมพิวเตอรระดับโลวเอนอยางผูเขียนหมดโอกาสสัมผัส (เพราะแพงเกินไป)
ผลิตภัณฑที่มีแผนเปดตัวในไตรมาสที่สองของป 1999
Cyrix MXi : ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 333 MHz และ 350 MHz, เปนรุนที่พัฒนาตอเนื่องมาจากรุน M II โดย
ยังคงจุดเดนเรื่องราคา และตั้งเปาไปไวที่เครื่องคอมพิวเตอรและเครื่องโนตบุคราคาถูกเชนเดิม ที่พิเศษ
ยิ่งขึ้นไปกวานั้นคือการนําเอาชุดคําสั่งดานการประมวลผลสัญญาณภาพสามมิติของ AMD เขามาผนวก
เขาไวดวย อันจะสงผลใหสามารถใชเลนเกมสไดดี
AMD K7 : เปนผลิตภัณฑซีพียูเจเนอเรชั่นที่เจ็ดของบริษัทเอเอ็มดี, ใชความเร็วสัญญาณนาฬิกาตั้งแต 500 MHz
ขึ้นไป, ตั้งเปาไวที่ผลิตภัณฑคอมพิวเตอรที่ตองการสมรรถนะสูงมากๆ อยางพวกเครื่องเซิรฟเวอรอะไร
ทํานองนั้น เพราะไดรับการปรับปรุงโครงสรางคําสั่งภายในชิปขึ้นมาก ทําใหสามารถคํานวนตัวเลข
ทศนิยมสูงๆ ไดในพริบตา รวมทั้งยังออกแบบใหรองรับบัส System bus ความเร็วสูง (200 MHz) ไว
ดวย
Cyrix M II-400 : ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 400 MHz, เหมาะกับเครื่องคอมพิวเตอรรุนประหยัดตามสไตลลของ
ไซริกซ แตไมรูวาขอดอยเรื่องการประมวลผลสัญญาณกราฟฟกรายละเอียดสูงจะไดรับการปรับปรุง
หรือยังเมื่อถึงเวลานั้น
Rise Technology MP6 II : มีความเร็วสัญญาณนาฬิการาวๆ 333 MHz ถึง 366 MHz, ถูกตั้งเปาไวที่เครื่อง
คอมพิวเตอรตั้งโตะราคาถูก และมีแผนจะพัฒนาไปใชกับเครื่องโนตบุคราคาถูกตอไป, จุดเดนคือการ
ติดตั้งหนวยความจําแคช secondary cache มาในตัว ทําใหมีความเร็วเพิ่มสูงขึ้นจากชิปรุน MP6
อยางเห็นไดชัด
Intel PII-533 Katmai : เรงความเร็วสัญญาณนาฬิกาขึ้นไปถึง 533 MHz เปนอยางนอยล เหมาะกับพวกนัก
คอมพิวเตอรเงินถึงที่เนนสมรรถนะมากกวาความประหยัด, จุดเดนพิเศษอยูตรงที่ทางอินเทลมีการออก
ชุดชิปสําเร็จรูปรุน 820 chip set มาไวสําหรับมันโดยเฉพาะ (ชุดชิป 820 มีการรองรับระบบรับ/สง
ขอมูล 133 MHz ของบัส system bus และหนวยความจําหลัก)
Centaur WinChip 2A : มี 3 รุน คือ ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 233 MHz, 250 MHz, และ 266 MHz , นาจะ
มีราคาถูกมากเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑซีพียูยี่หอ
อื่นๆ ในระดับเดียวกัน แถมยังมีการรองรับบัส
system bus ขีดความเร็ว 100 MHz อีกดวย
(มีขอสังเกตวา แมจะมีหนวยความจําแคชมาให
64 KB แตไมมี secondary cache อันนาจะ
สงผลกระทบใหกับความเร็วในการประมวลผล
ไดบางพอสมควร)
ผลิตภัณฑที่มีแผนเปดตัวในไตรมาสที่สามของป 1999
Intel Pentium Coppermine : เรงความเร็วสัญญาณนาฬิกาขึ้นไดถึง 600 MHz เปนอยางนอย อันเปนผลสืบ
เนื่องมาจากการปฏิวัติเทคโนโลยีการเชื่อมโยงสายสัญญาณภายในตัวชิปเสียใหม มีการติดตั้ง
หนวยความจํา secondary cache ขนาด 256 KB มาในตัว, รวมทั้งมีการนําเอาเทคนิค Geyserville
มาใชกับการรับสงสัญญาณขอมูลในเครื่องโนตบุค ทําใหสามารถเรงความเร็วของการประมวลขึ้นไปถึง
ระดับ 600 MHz ได แมวาตัวแบตตารี่ที่จายกระแสไฟจะมีความถี่สัญญาณสูงสุดเพียง 400 MHz นับ
ไดวาชิปซีพียูตัวนี้เหมาะกับเครื่องคอมพิวเตอรและเครื่องโนตบุคระดับไฮเอนเปนอยางยิ่ง (มีปญหา
อยางเดียววา ลูกคาจะสูราคาไหวหรือเปลาเทานั้น)
Centaur WinChip 3 : บริษัทเซนทอรนิยมออกสินคามาทีละ 3 รุนเสียจริง คราวนี้ก็เชนกัน มีรุน 200 MHz ,
233 MHz , และ 266 MHz , แตคราวนี้มีจุดเดนตรงความประหยัดพลังงาน และใชระบบบัส 100
MHz System Bus จึงเหมาะมากกับเครื่องโนตบุครุนประหยัด แถมยังใจปาติดตั้งหนวยความจําแคช
ขนาด 128 KB ใหมาดวย (แตใจปาไมพอ เพราะไมไดใหแคชชนิด secondary cache )
Cyrix Media PC Integrated chip : ความเร็วสัญญาณนาฬิกาขนาด 233 MHz และ 300 MHz ตั้งเปามาไว
ใชสําหรับอุปกรณคอมพิวเตอรราคาถูกโดยเฉพาะ ประเภทอุปกรณสารสนเทศ หรือพวกเว็บทีวีอะไร
ทํานองนี้ และถาออกแบบผลิตภัณฑดีๆ ไมแนวาเราจะไดใชอุปกรณราคาต่ํากวา $500 กันคราวนี้แห
ละ
Cyrix Jedi : ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 400 MHz และ 450 MHz, เปนชิปราคาประหยัดที่เนนการพัฒนาดาน
การประมวลผลแบบ MMX, การคํานวนตัวเลขทศนิยมสูงๆ, และการประมวลผลสัญญาณภาพสามมิติ
ฯลฯ โดเฉพาะ เรียกวาออกมาชนกับชิปเซลีรอนของอินเทลโดยตรงทีเดียว เพราะมีราคาถูกกวากัน
อยางเห็นไดชัด
ผลิตภัณฑที่มีแผนเปดตัวในไตรมาสที่สี่ของป 1999
Intel Celeron-450 : อินเทลตั้งเปาไวใหเปนชิปซีพียูราคาถูกที่มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาสูงถึง 450 MHz
Intel PII-650 Coppermine (หรืออาจจะไปไกลถึงรุน PII-700 ก็ได) : สมรรถนะนั้นรับประกันไดวาสูงแนแต
ราคาก็คงจะแพงตามไปดวย เหมาะกับเครื่องคอมพิวเตอรระดับไฮเอน
Centaur WinChip 4 : ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 400 MHz ถึง 450 MHz, เหมาะกับทั้งเครื่องคอมพิวเตอรตั้ง
โตะและเครื่องโนตบุคราคาประหยัด, มีการติดตั้งหนวยความจํา primary cache ขนาด 128 KB มา
ดวยในตัว และรองรับระบบบัส 100 MHz system Bus
Cyrix MXi-400 : เหมาะกับเครื่องตั้งโตะและเครื่องโนตบุคราคาถูก โดยเนนไปที่การประมวลระบบมัลติมีเดีย
และสัญญาณภาพสามมิติโดยเฉพาะ
Cyrix Jedi-500 : เนนที่ความเร็ว, ราคา และประสิทธิภาพในการประมวลผลระบบมัลติมีเดียโดยเฉพาะ
เรียกวาออกมาขมชิปเซลีรอนโดยเฉพาะ
ผลิตภัณฑที่มีแผนเปดตัวหลังจากป 1999
Intel Celeron-500 : แมจะใชชื่อรหัส 500 แตความเร็ว
สัญญาณนาฬิกาสามารถเรงขึ้นไปไดถึง 600
MHz มีการรองรับชุดคําสั่ง Katmai
instruction (สงสัยทีมงานวิจัยของอินเทล
จะบลั้ฟกับไซริกซเสียละกระมัง)
Cyrix Jalapeno (P3) : มีความเร็วสัญญาณนาฬิกา
ตั้งแต 600 MHz ถึง 800 MHz, ใชเทคโนโลยี
การประมวลผลสัญญาณภาพแบบ Integrated 3D graphic เหมาะกับทั้งเครื่องตั้งโตะและเครื่อง
โนตบุค ที่สําคัญ คือมันนาจะมีราคาไมแพง
Intel PII-700 : มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาตั้งแต 700 MHz ขึ้นไป ตั้งเปาไปที่เครื่องคอมพิวเตอรระดับไฮเอน
Centaur WinChip 2000 : ความเร็วสัญญาณนาฬิกาตั้งแต 500 MHz ขึ้นไป เนนที่ความประหยัด และ
ความสามารถในการเลนเกมส
Intel Willamette : อินเทลคุยวาจะเรงความเร็วสัญญาณนาฬิกาขึ้นไปถึง 1 GHz เปนชิปซีพียูเจเนอเรชั่นที่จะ
ถูกนํามาใชทดแทน เพนเที่ยมทู และเซลีรอนในเครื่องคอมพิวเตอรไฮเอนแหงทศวรรษ 2000
Intel Merced : เรงความเร็วสัญญาณนาฬิกาขึ้นไปไดถึง 800 MHz, เหมาะกับเครื่องคอมพิวเตอรที่ใชหนวย
ประมวลผลหลายตัว (Multiprocessor) อยางพวกเครื่องเซิรฟเวอรหรือเครื่องเวิรกสเตชั่น รวมทั้งจะ
เปนเครื่องคอมพิวเตอรรุนแรกที่ใชโครงสรางทางสถาปตยกรรมแบบ 64 บิทอยางสมบูรณแบบ (ปญหา
อยูตรงวา จะหาโปรแกรมซอฟทแวรมาใชงานรวมดวยไดมากนอยแคไหน)
แผงวงจรหลักตองเร็ว
สิ่งที่ตองไดรับการพัฒนาดานสมรรถนะความเร็วตอจากผลิตภัณฑซีพียู ก็คือสวนของแผงวงจรหลัก
(Motherboard) ซึ่งรองรับตัวซีพียูอยูนั่นเอง เพราะหากปลอยใหซีพียูทํางานไดเร็วเพียงตัวเดียว ในที่สุดประดาขอมูล
จํานวนมหาศาลที่ทะลักไปจากซีพียูก็จะไปออกันอยูเปนการจราจรคอขวดที่บัสนําสัญญาณบนแผงวงจรหลัก หรือในทาง
กลับกัน การจราจรของขอมูลที่ถูกเรียกเขามาประมวลผลในซีพียูผานทางบัสนําสัญญาณขาเขาก็จะมีลักษณะเบาบาง
ชนิดที่ซีพียูตัวขยันตองวนลูป (Loop) รอรอบแลวรอบเลา กลายเปนการสิ้นเปลืองพลังงานอยางที่พวกโปรแกรมเมอร
ระบบเรียกวาเปนการโอเวอรเฮด
ดวยเหตุผลดังกลาว ทําใหบรรดาบริษัทผูผลิตชิปซีพียูชั้นนํามักจะมีการปรับปรุงสมรรถนะของบัสบน
แผงวงจรหลักอยูเปนระยะๆ ยกตัวอยางเชน บริษัทยักษใหญอินเทลนั้นก็เพิ่งจะมีการเปดเผยระบบชุดชิปสําเร็จรูปใหม
ภายใตชื่อรหัสวา "คามิโน" ออกสูตลาด (โครงการ Camino นี้เปนการปรับปรุงขีดความเร็วของบัสนําสัญญาณครั้งสอง
ของอินเทล ในรอบสามปที่ผานมา) โดยตัวแทนของอินเทลระบุวาระบบคามิโนจะชวยเรงขีดความเร็วของบัสนํา
สัญญาณจาก 100 MHz ไปเปน 133 MHz ในกรณีของชิปเพนเที่ยม ทู และจะเรงขีดความเร็วของชุดชิปเซลีรอนจาก
66 MHz ไปเปน 100 MHz
หลังจากเสร็จสิ้นจากโครงการคามิโนที่วานี้แลว บริษัทอินเทลยังมีแผนการปรับเปลี่ยนโครงสรางระบบ
บัสนําสัญญาณบนแผงวงจรหลักกันขนานใหญในป ค.ศ. 2000 และ 2001 อันจะสงผลใหผลิตภัณฑแผงวงจรหลักใน
อนาคตของอินเทลสามารถรองรับงานประมวลขอมูลชั้นสูง อยางพวกโปรแกรมจดจําสัญญาณเสียงพูดชนิด real-time
natural speech recognition, โปรแกรมสรางแบบจําลองสามมิติรูปแบบใหมๆ, ตลอดไปจนกระทั่งถึงการแสดงภาพ
สัญญาณวิดีโอในมาตรฐาน MPEG-2 ฯลฯ ไดโดยไมจําเปนตองอาศัยการทํางานของแผงวงจรเสริมชนิดอื่นๆ เขามาชวย
เลย (ปจจุบัน การจะประมวลผลสัญญาณขอมูลชั้นสูงเหลานี้ ยังคงตองอาศัยการประสานงานระหวางแผงวงจรหลัก
และแผงวงจรเฉพาะทางอยู เชน จะแสดงภาพกราฟฟกก็ตองมีวงจรควบคุมสัญญาณกราฟฟก, จะสรางสัญญาณเสียง
ไฮไฟสเตอริโอก็ตองมีซาวนการด, จะฉายภาพยนตจากแผนวิดีโอซีดีก็ตองมีแผงวงจรวิดีโอ ฯลฯ)
อยางไรก็ตาม แหลงขาวจากอินเทลไมไดชี้แจงถึงรายละเอียดวา การเพิ่มขีดความเร็วของบัสนํา
สัญญาณบนแผงวงจรหลักไปจนถึงขนาดที่จะสงผลใหสามารถเลิกใชแผงวงจรเสริมอื่นๆ ไปไดเลยนั้นอาศัยหลักการอะไร
ทําใหบรรดานักวิเคราะหตองมานั่งถกกันวาอินเทลนาจะใชเทคนิคเชนไรในกระบวนการดังกลาว เชน ปเตอร กลาส
คาวสกี้ นักวิเคราะหอาวุโสแหงบริษัทไมโครดีไซน รีซอรซไดตั้งขอสังเกตุวา อินเทลนาจะเพิ่มความเร็วของแผงวงจรหลัก
ดวยการใชสายนําสัญญาณที่มีขนาดเล็กบางลง แตทํางานไดเร็วขึ้น (การใชเสนบางทําใหเพิ่มจํานวนเสนสัญญาณไดมาก
ขึ้นในพื้นที่เทาเดิม) และคงจะเพิ่มการเชื่อมโยงสัญญาณชนิดจุดตอจุด (point-to-point) มากขึ้น และในบางครั้ง
อาจจะตองออกแบบใหขอมูลถูกสงผานไปมาระหวางซีพียูกับแรมโดยตรง โดยไมตองผานวงจรในชุดชิปสําเร็จรูป
ซึ่งผลจากลดขั้นตอนการสงผานสัญญาณและลดระยะทาง
เคลื่อนที่ของขอมูลนี้ ปเตอร กลาสคาวสกี้ระบุวานาจะทําใหแผงวงจรหลัก
มีความเร็วเพิ่มขึ้นไปไดถึง 200 MHz เปนอยางนอย หรือถาหากปรับโนน
ขยายนี่อีกสักหนอยหนึ่งก็อาจจะสงผลใหแผงวงจรหลักหลังยุคป 2000 มี
ความเร็วในการนําสัญญาณเทียบไดเปนสิบเทาของบัสนําสัญญาณตาม
มาตรฐาน PCI ที่มีใชๆ กันอยูในปจจุบัน และเมื่อถึงตอนนั้น มันก็นาจะ
ไดรับการยอมรับกันโดยทั่วไปในฐานะของมาตรฐานการเชื่อมโยงสัญญาณ
กราฟฟก หรือการเขาถึงขอมูลในหนวยความจําสํารอง (disk access) และผูคนในวงการคอมพิวเตอรสมัยนั้นก็จะลืม
เลือนไปเลยวาเคยมีมาตรฐานการเชื่อมโยงสัญญาณที่ชื่อ AGP อยูบนโลกนี้
ดีไซนภายนอกก็สําคัญ
เมื่อคาดการณกันวาแผงวงจรหลักขนาดไมใหญนักเพียงแผงเดียวในอนาคตจะสามารถทํางานทดแทน
แผงวงจรเสริม และชุดชิปสําเร็จรูปอื่นๆ ไดเชนดังที่วาแลว ก็ทําใหงายสําหรับบรรดาดีไซนเนอรที่จะออกแบบเครื่อง
คอมพิวเตอรยุคป 2000 ใหมีขนาดกระทัดรัด และมีรูปลักษณที่โฉบเฉี่ยวไฉไลมากขึ้น เพราะไมจําเปนตองถูกจํากัดอยู
กับรูปทรงของกลองสี่เหลี่ยมเชนที่เคยเปนมา (แตกอน ผูผลิตคอมพิวเตอรมักจะออกแบบแผงวงจรหลักออกมาเปน
แผนสี่เหลี่ยมขนาดใหญ ซึ่งเรียงรายไปดวยชองสลอตสําหรับเสียบแผงวงจรเสริมจํานวนหลายๆ แผงเขามาในลักษณะ
ตั้งฉาก ทําใหกลายเปนขอจํากัดวาตัวเคสของเครื่องคอมพิวเตอรตองมีลักษณะกลองสี่เหลี่ยมที่มีฐาน หรือดานขางใหญ
พอจะรองรับแผงวงจรหลักไดพอดี และมีความหนาของกลองในระดับที่มากกวาความสูงของแผงวงจรเสริมอยู
พอประมาณ)
องคประกอบสําคัญอีกสวนที่นาจะไดรับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปเปนอยางมากในเครื่อง
คอมพิวเตอรยุค 2000 ก็คือ สวนของจอมอนิเตอร เพราะแนวโนมของการนําเอาเทคโนโลยีจอแผนผลึกเหลว LCD เขา
มาใชแทนที่จอตูเทอะทะอยางจอหลอดคาโถด CRT ที่ทวีความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ดวยเหตุผลงายๆ วาจอ LCD นั้นมี
คุณสมบัติที่เหนือกวาจอ CRT ในทุกประการ ไมวาจะเปนเรื่อง ขนาด น้ําหนัก หรือ การบริโภคพลังงาน ยกตัวอยาง
เชน การนําเอาจอ LCD มาใชทดแทนจอ CRT ขนาดมาตรฐาน 17 นิ้ว หรือ 19 นิ้วที่มีน้ําหนักมากถึง 12 กิโลกรัมนั้น จะ
สงผลใหสามารถลดพื้นที่จัดวางเครื่องคอมพิวเตอรลงไปรวม 66 %, ลดน้ําหนักลงได ~ 80 %, และลดปริมาณการ
บริโภคกระแสไฟฟาลงไปกวา 50 %
แตการปรับเปลี่ยนนั้นอาจจะตองคอยๆ เปน คอยๆ ไป เพราะเทคโนโลยีการผลิตจอ LCD ยังคงมี
ราคาแพงกวาจอ CRT มาก ยกตัวอยางเชน จอ LCD ขนาด 15 นิ้วที่พอจะใชงานไดนั้นก็ยังคงมีราคาสูงถึง $ 900
ในขณะที่จอ LCD ขนาด 20 นิ้ว ก็มีราคาสูงพรวดขึ้นไปถึง $2000 เลยทีเดียว (มีขาวดีวา จอ LCD ขนาด 15 นิ้วจะปรับ
ลดลงไปอยูประมาณ $ 825 ภายในสิ้นปนี้ แตหากใครหวังใหจอ LCD มีราคาถูกพอที่จะนํามาใชแทนที่จอ CRT ไดจริงๆ
ก็อาจจะตองรอไปอีกสักสองสามป ) นอกจากนี้ ยังมีปญหาอีกวาบริษัทผูผลิตคอมพิวเตอรและผูผลิตจอ LCD นั้นดู
เหมือนจะยังพูดภาษาไมตรงกันนักทีเดียว เพราะตามปรกติ สัญญาณภาพที่ถูกสงออกจากเครื่องคอมพิวเตอรไปยัง
จอมอนิเตอรมักจะอยูในรูปสัญญาณอนาล็อก แตสัญญาณที่จอ LCD รองรับกลับเปนสัญญาณดิจิตัล ทําใหจําเปนตองมี
แผงวงจรสําหรับแปลงสัญญาณภาพกลับมาอยูในรูปดิจิตัลเสียกอน จึงเปนไปไดวาในอนาคตผูผลิตจอ LCD อาจจะตอง
จําหนายผลิตภัณฑของตนมาพรอมกับแผงวงจรแปลงสัญญาณดิจิตัลเสียเลย เพื่อ
ความสะดวกของลูกคา
ความสดใสในอนาคตของเทคโนโลยีจอ LCD มิไดเปนผลมาจากเรื่อง
ขนาด น้ําหนัก และความประหยัดพลังงานเทานั้น แตเปนเพราะมันไมมีขอจํากัดเรื่อง
คุณภาพของรายละเอียดภาพเชนจอ CRT นักวิจัยยังสามารถพัฒนาคุณภาพความ
คมชัดของจอ CRT เพิ่มขึ้นไดอีกมากในอนาคต ยกตัวอยางเชน จอ CRT รุนลาสุด
ของหองวิจัยไอบีเอ็มนั้นก็สามารถแสดงภาพที่มีรายละเอียดและความคมชัดเทียบเทา
กับงานพิมพสีชั้นดีเลยทีเดียว (จอ CRT นั้นใชเทคโนโลยีการกราดลําแสงอิเล็กตรอนผานดานหลังจอซึ่งเคลือบไวดวย
สารเรืองแสง หรือที่มักจะเรียกรวมกันวาสารฟอสเฟอร แลวอาศัยการเรืองแสงของสารฟอสเฟอรเปนสารแสดงภาพ จึง
ไมสามารถเพิ่มรายละเอียด หรือลดขนาดจุดภาพลงไปไดมากนัก รายละเอียดภาพสูงสุดยังอยูในชวง 1024 x 1024
จุดภาพตอหนึ่งจอ ดังจะสังเกตุไดจากการที่เราเริ่มอานตัวอักษรบนจอ CRT ไมรูเรื่องเมื่อใชตัวอักษรเล็กกวา 8 พอยต
นอกจากนั้น จอ CRT ยังตองมีการหนวงเวลาแสดงภาพเล็กนอย เนื่องจากมีพลังงานตกคางอยูชั่วขณะบนสารฟอสเฟอร
ดังจะแสดงใหเห็นไดหากเราปดสวิทซไฟเลี้ยงจอ CRT ในหองมืด จะพบวามันจะยังคงมีภาพสุดทายปรากฏอยูเลือนๆ บน
หนาจออีกระยะหนึ่ง)
รูปที่ 2 ดวยรูปลักษณดีไซนที่แปลกตาของเครื่องคอมพิวเตอร IMAC ตัวนี้ นาจะถือเปนกาวยางสําคัญกาวหนึ่งของ
วงการนักออกแบบเครื่องคอมพิวเตอร ในการที่กาวไปใหพนจากขีดจํากัดเรื่องรูปทรงกลองสี่เหลี่ยมเทอะทะ
เชนที่เคยคุนตากันมานาน
พอรตนําสัญญาณตองถูกปรับปรุง
เมื่อเสร็จจากสวนประกอบหลักๆ บนตัวเคสของเครื่องคอมพิวเตอร องคประกอบถัดมาที่ตองให
ความสําคัญคือเรื่อง "พอรตนําสัญญาณ" ซึ่งเชื่อขนมกินไดเลยวาผลิตภัณฑคอมพิวเตอรป 2000 นั้นจะตองขนาดของ
พอรตเล็กกระทัดรัดลง ในขณะที่มีประสิทธิภาพและความเร็วสูงขึ้นมาก อยางนอยที่สุด มาตรฐานบัสนําสัญญาณแบบ
USB (Universal Serial Bus) ก็จะตองถูกนํามาใชแพรหลายมากยิ่งขึ้นในหมูผูผลิตอุปกรณประกอบระบบ ไมวาจะเปน
คียบอรด, เมาส, เครื่องพิมพ หรือแสกนเนอร ฯลฯ อันจะสงผลใหเครื่องคอมพิวเตอรซึ่งใชวินโดวสเปนระบบปฏิบัติการ
มาตรฐานสามารถทํางานไดอยางเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ยิ่งไปกวานั้น ปจจุบันเทคโนโลยีพอรต USB ยัง
ไดรับการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ดวยการประยุกตเขาไปสูมาตรฐานบัส
อนุกรมแบบ IEEE 1394 หรือที่หลายๆ คนรูสักกันในชื่อรหัสวา
"FireWire" อันเปนมาตรฐานการสงผานสัญญาณขอมูลแบบ
อนุกรมที่มีความเร็วสูงกวามาตรฐาน USB ปรกติถึง 100 เทาตัว
ซึ่งผลจากการผนวกเอาความเปนสากลของ USB และสมรรถนะ
ความเร็วของ FireWire เขามาไวไดวยกัน ก็จะสงผลใหการเชื่อมตออุปกรณประกอบระบบชนิดตางๆ มีทั้งความ
สะดวกสบาย และความมีประสิทธิภาพ เพราะผูใชคอมพิวเตอรสามารถจะลากสายออกจากพอรตๆ เดียวเพื่อตอพวงไป
ยังอุปกรณที่มีอยูหลายๆ ตัวไดเลย (ภาษาคอมพิวเตอรเรียกวิธีการตอพวงอุปกรณเรียงไปเปนพวงนี้วา daisy chain)
โดยผูใชคอมพิวเตอรยุคป 2000 ไมตองกังวลเลยวาอุปกรณที่ถูกพวงอยูกับบัส FireWire USB นั้นจะมี
ขีดความตองการดานความเร็วของการรับ/สงขอมูลสูงขนาดไหน เพราะถึงจะมีการตอพวงวงจรจับสัญญาณวิดีโอระบบดิ
จิตัล, วงจรแสดงภาพสัญญาณวิดีโอรายละเอียดสูง และฮารดดิสกความเร็วสูง พรอมๆ กันสามอยาง บัสนําสัญญาณ
FireWire USB ก็ยังรับมือไดสบายมาก แถมการติดตั้งอุปกรณประกอบระบบเหลานี้เขากับพอรต USB ก็ยังเปนสิ่งที่
ผูใชคอมพิวเตอรทั่วๆ ไปสามารถทําไดเองโดยไมตองไปงอบริษัทที่ขายเครื่อง เพราะเดี๋ยวนี้บรรดาโปรแกรม
ระบบปฏิบัติการสมัยใหมอยางพวกตระกูลวินโดวสทั้งหลาย จะมีการทํางาน Plug-and-Play ทําหนาที่ตรวจสอบ และ
ติดตั้งอุปกรณฮารดแวรใหอยางอัตโนมัตอยูแลว (หมายเหตุ แตหลายคนบอกวามันไมหมูอยางที่ไมโครซอฟทคุยหรอก
เพราะลูกคาหลายคนที่ซื้อเครื่องคอมพิวเตอรไปแลว บอกวามันนาจะเรียก Plug-and-Pray หรือเสียบสายเสร็จแลวตอง
ภาวนาใหมันไมมีปญหามากกวา)
เมื่อระบบบัสนําสัญญาณแบบ FireWire USB มีขอดีมากมายขนาดนี้ หลายคนอาจจะนึกสงสัยวาทําไม
มันถึงไมถูกนํามาใชแทนระบบบัส SCSI และ IDE ที่มีใชงานกันอยูในขณะนี้เสียเลย คําตอบ ก็คือมีความเปนไปไดสูง
มากที่ระบบบัสแบบ SCSI และ IDE จะถูกแทนที่โดย FireWire USB ในอีกสักสองสามปขางหนา เพราะเทาที่ทราบ มี
บริษัทผูผลิตคอมพิวเตอรชั้นนําสองสามรายเริ่มนําเอาระบบบัส FireWire USB มาใชกับผลิตภัณฑของตนบางแลว
ยกตัวอยางเชน บริษัทโซนี่ และบริษัทคอมแพ็ค โดยเฉพาะบริษัทโซนี่นั้นถึงกับออกแบบมาตรฐาน FireWire ขึ้นมาเปน
การเฉพาะสําหรับตนเองเลย เรียกวา "I. Link" (มีใชในผลิตภัณฑคอมพิวเตอรรุน VAIO PCG-505FX)
อยางไรก็ตาม ใชวาอนาคตของมาตรฐานบัส FireWire USB จะไมมีอุปสรรคเสียเลยทีเดียว เพราะถึง
อยางไรมันก็ยังเปนเทคโนโลยีที่มีตนทุนแพงอยู อีกทั้งยังไมมีชิปซีพียู และชุดชิปสําเร็จรูปมารองรับการทํางานของมัน
(กวาบริษัทอินเทลจะเริ่มติดตั้งมาตรฐานบัส FireWire USB ใหกับชุดชิปสําเร็จรูปของตนก็ตองพนเดือนมิถุนายนปนี้ไป
แลวเปนอยางเร็ว) ในระหวางนี้ บรรดาบริษัทผูผลิตคอมพิวเตอรทั่วไปก็คงตองหาทางเพิ่มความเร็วใหกับมาตรฐานบัส
SCSI หรือ IDE ที่มีอยูเดิมกันไปกอน เหมือนอยางบริษัทควอนตัมเทคโนโลยีก็จัดการปรับเปลี่ยนมาตรฐานการ
อินเทอรเฟซจาก ATA-33 ไปเปน ATA-66 พรอมกับคุยโอวามันจะสงผลใหการรับ/สงขอมูลระหวางอุปกรณประกอบ
ระบบกับซีพียูเพิ่มขึ้นเปนเทาตัว (ไมเคิล เดสมอนด เตือนวาอานขอมูลจากตรงนี้แลวอยาเพิ่งรีบไปซื้ออุปกรณมาตรฐาน
ATA-66 มาเสียหละ เพราะเทาที่เปนอยู มาตรฐาน ATA-33 ก็สามารถ
รองรับปริมาณขอมูลมากๆ ดวยความเร็วพอประมาณอยูแลว)
ผลจากพัฒนาการของมาตรฐานบัส FireWire USB ยัง
สงผลใหเกิดมาตรฐานอุปกรณคอมพิวเตอรรูปแบบใหมขึ้นมาอีกอยาง นั่น
คือ "ฐานรองอุปกรณ" หรือ "device bay" สําหรับใชเสียบอุปกรณ
ประกอบระบบภายใตมาตรฐาน Plug-and-Play โดยเฉพาะ เรียกวาตอไป
ผูใชคอมพิวเตอรก็ไมตองมาวุนวายกับการถอด/เสียบสายสัญญาณเขากับ
ดานหลังเครื่อง รวมทั้งไมตองมาเสียเวลาระบุพอรตระบุประเภทอุปกรณกัน
ตอนติดตั้งระบบ (set up) ใหวุนวายอีกตอไป เพราะแคมีผลิตภัณฑฐานรองอุปกรณที่วานี้เพียงตัวเดียว เวลาจะใชงาน
อุปกรณประกอบระบบชนิดไหนก็เอามาเสียบเขาบนฐานรองอุปกรณไดทันที ทั้งสะดวกและมากประโยชน ที่สําคัญ
ตอไปอาจจะไมจําเปนตองมีการสํารองขอมูลใสฟลอปปดิสกไวใหมากมายเกินเหตุ เพราะเราสามารถจะถอดเอา
ฮารดดิสกไปเสียบเขากับเครื่องคอมพิวเตอรเครื่องนั้นเครื่องนี้ผานทางฐานรองอุปกรณไดตามความพอใจ
อันนี้ตองชมเจาของไอเดีย "ฐานรองอุปกรณ" วาเขาใจคิดจริงๆ และถาจะใหไอเดียเรื่องฐานรอง
อุปกรณบรรเจิดยิ่งขึ้นไปกวานี้ ก็นาจะลองฟงความเห็นของ มารติน เรยโนลด แหงบริษัทดาตาเควสทกันดูบาง เขาวา
ไวนาฟงวา "ตอไป แมกระทั่งตัวชิปซีพียูเองก็อาจจะถูกออกแบบใหติดตั้งเขากับฐานเสียบลักษณะคลายๆ กับ device
bay ไดดวย ซึ่งจะชวยใหเราสะดวกและประหยัดขึ้นมากเลยในการอัพเกรดเครื่องคอมพิวเตอร ลองคิดถึงเครื่อง
คอมพิวเตอรที่ชิ้นสวนวงจรทุกชิ้นสามารถประกอบเขาดวยกันดวยฐานเสียบที่มีลักษณะเปนมาตรฐานสากลดูสิ ไมตอง
เสียบสายเคเบิ้ล ไมตองขันสกรู และสุดทาย เราอาจจะลืมไปเลยก็ไดวาเคยมีคําวา "เปดฝาเครื่องคอมพิวเตอร" อยูบน
โลกนี้มากอน"
หนวยความจําสํารองแบบไหนเหมาะ ?
เมื่อพูดถึงหนวยความจําสํารอง เรามักจะมองกันที่สองตัวหลัก คือ ฮารดดิสก และ ฟลอปปดิสก ซึ่ง
ตรงนี้มีขอสังเกตุวามันมีวิวัฒนาการที่แตกตางกันอยางมโหฬาร เทียบใหเห็นงายๆ จากเมื่อสิบปกอนตอนที่ฮารดดิสกที่
ถูกติดตั้งมากับเครื่องคอมพิวเตอร 80386 มักจะมีขนาดความจุเทากับ 100 MB ขนาดความจุของฟลอปปดิสกมาตรฐาน
ของเครื่องคือ 1.44 MB ตอมา สิบปใหหลัง เครื่องคอมพิวเตอรถูกพัฒนากลายมาเปนเพนเที่ยมทู และฮารดดิสกถูกเพิ่ม
ขีดความจุขึ้นไป 16 GB หรือ 160 เทาตัว แตฟลอปปดิสกมาตรฐานก็ยังคงเปน 1.44 MB อยูเชนเดิม
คําถามที่ปรากฏขึ้นมาในใจทันทีที่เห็นผลการเปรียบเทียบนี้ จึงมีอยูวา "เกิดอะไรขึ้นกับพัฒนาการของ
ฟลอปปดิสก ?" มันเหมือนกับวาตลาดหนวยความจําสํารองชนิดพกพานั้นเปนตลาดสัมปทาน หรือจมปลักอยูในวังวนน้ํา
เนาเชนเดียวกับละครทีวีเมืองไทย แตเมื่อเราคอยๆ วิเคราะหเจาะลึกลงไปในรายละเอียด ก็จะพบวาความจริงที่
นาสนใจวาตลาดฟลอปปดิสกไมเคยถูกผูกขาด และมีผลิตภัณฑที่พอจะเปนตัวเลือกอื่นๆ ใหเลือกซื้อหามาใชทดแทนได
อยางมากมาย ไมวาจะเปน Iomega Zip, LS-120 SuperDisk, Syquest EZ Flyer หรือจนแมกระทั่งที่กําลังเขียน
บทความนี้อยู ก็ทราบวาทางบริษัทโซนี่กําลังเข็นผลิตภัณฑฟลอปปดิสกชนิดใหมความจุสูงถึง 200 MB ออกมาภายใตชื่อ
วา HiFD
คําตอบที่ผูเขียนมีใหกับตัวเองในขณะนี้ จึงกลายเปนวา ฟลอปปดิสก
ขนาด 1.44 MB นั้นคือจุดลงตัวพอดีสําหรับผูบริโภค ทั้งในแงความจุขอมูลที่ไมมากไมนอย
เกินไป ทั้งในแงราคาจําหนายที่ถูกลงไปเปนอยางมากตลอดชวงระยะเวลาสิบป และหาก
จะมีผลิตภัณฑใดถูกนํามาแทนที่ฟลอปปดิสก ผลิตภัณฑดังกลาวก็จะตองตอบสนองตอความตองการเรื่องความสะดวก
ในการบันทึกซ้ํา และราคาจําหนายที่ยอมเยาพอ ยกตัวอยางเชนมีหลายคนมองวาซีดีรอมนาจะถูกนํามาใชทดแทน
ฟลอปปดิสกไดเพราะพกพาสะดวก และมีขนาดความจุขอมูลสูงมาก แตซีดีรอมก็ยังมีปญหาอยูตรงที่ไมสะดวกในการ
บันทึกซ้ํา (ซีดีรอมเหมาะกับการผลิตแบบใชเครื่องจักรปมออกมาที่ละเปนรอยเปนพันแผน เหมือนพวกแผนละเมิดลิข
สิทธที่มีอยูเกรอแถวคลองถมและพันทิพยขณะนี้)
อยางไรก็ตาม อาจจะมีคนแยงวาเดี๋ยวนี้มีซีดีรอมชนิดบันทึกซ้ํา (CD-RW) ใหเลือกใชไดแลว แตก็อีก
นั่นแหละ ราคาของเครื่องอาน/บันทึกแผน CD-RW ก็ยังคงมีราคาคอนขางสูงมากอยูดี และจากความไมสะดวกตอการ
บันทึกซ้ําของหนวยความจําสํารองชนิดที่ใชแสงเลเซอรเปนตัวอานสัญญาณอยางพวกซีดีรอมนี่เอง ทําใหเชื่อไดวา
ผลิตภัณฑหนวยความจําสํารองกลุมที่ใชสนามแมเหล็กเปนตัวเก็บขอมูลอยางพวกฮารดดิสก และฟลอปปดิสกจะยังคงมี
อนาคตที่ยาวนานตอไปอีกพอสมควร ในปหนาคือ ค.ศ. 2000 นั้น ไดยินวาฮารดดิสกจะไดรับการพัฒนาไปใหมีความจุ
50 GB และจะจุเพิ่มขึ้นไปอีกไปเปน 75 GB หรือ 100 GB ในป ค.ศ. 2001
"โนตบุค" บางขนาดไหนถึงจะเฉียบ
ปญหาสําคัญในการพัฒนาอุปกรณโนตบุค ซึ่งเปนที่รับรูกันมานานนับตั้งแตมันไดรับการประดิษฐคิดคน
ขึ้นมา คือ ทําอยางไรถึงจะคงสมรรถนะและความสะดวกสบายในการใชงานไวได ในขณะที่ตองพยายามลดขนาดและ
คอมพิวเตอร์ปี 2000
คอมพิวเตอร์ปี 2000
คอมพิวเตอร์ปี 2000
คอมพิวเตอร์ปี 2000
คอมพิวเตอร์ปี 2000
คอมพิวเตอร์ปี 2000
คอมพิวเตอร์ปี 2000
คอมพิวเตอร์ปี 2000

Contenu connexe

En vedette

Copyright
CopyrightCopyright
Copyright
Surapol Imi
 
การเปลี่ยนแปลงหลังการตาย
การเปลี่ยนแปลงหลังการตายการเปลี่ยนแปลงหลังการตาย
การเปลี่ยนแปลงหลังการตาย
Surapol Imi
 
ผลสรุปเบื้องต้นของแบบสอบถามนโยบายการศึกษา
ผลสรุปเบื้องต้นของแบบสอบถามนโยบายการศึกษาผลสรุปเบื้องต้นของแบบสอบถามนโยบายการศึกษา
ผลสรุปเบื้องต้นของแบบสอบถามนโยบายการศึกษา
Surapol Imi
 

En vedette (6)

Copyright
CopyrightCopyright
Copyright
 
Gnr&doomsday
Gnr&doomsdayGnr&doomsday
Gnr&doomsday
 
Linuxของแจกฟรีแต่มีกำไร
Linuxของแจกฟรีแต่มีกำไรLinuxของแจกฟรีแต่มีกำไร
Linuxของแจกฟรีแต่มีกำไร
 
การเปลี่ยนแปลงหลังการตาย
การเปลี่ยนแปลงหลังการตายการเปลี่ยนแปลงหลังการตาย
การเปลี่ยนแปลงหลังการตาย
 
ผลสรุปเบื้องต้นของแบบสอบถามนโยบายการศึกษา
ผลสรุปเบื้องต้นของแบบสอบถามนโยบายการศึกษาผลสรุปเบื้องต้นของแบบสอบถามนโยบายการศึกษา
ผลสรุปเบื้องต้นของแบบสอบถามนโยบายการศึกษา
 
Psion vs win ce
Psion vs  win ce Psion vs  win ce
Psion vs win ce
 

Plus de Surapol Imi

1ก่อกำเนิดมนุษย์
1ก่อกำเนิดมนุษย์1ก่อกำเนิดมนุษย์
1ก่อกำเนิดมนุษย์
Surapol Imi
 
เคล็ดลับวินโดวส์ ไอทีซอฟต์ ปีที่ 7 ฉบับที่ 81 ธ.ค. 2541 87-102
เคล็ดลับวินโดวส์  ไอทีซอฟต์   ปีที่ 7 ฉบับที่ 81 ธ.ค. 2541 87-102 เคล็ดลับวินโดวส์  ไอทีซอฟต์   ปีที่ 7 ฉบับที่ 81 ธ.ค. 2541 87-102
เคล็ดลับวินโดวส์ ไอทีซอฟต์ ปีที่ 7 ฉบับที่ 81 ธ.ค. 2541 87-102
Surapol Imi
 
แนะวิธีเปิดร้านบนอินเทอร์เน็ต
แนะวิธีเปิดร้านบนอินเทอร์เน็ตแนะวิธีเปิดร้านบนอินเทอร์เน็ต
แนะวิธีเปิดร้านบนอินเทอร์เน็ต
Surapol Imi
 
ระบบสั่งงานคอมพิวเตอร์ด้วยเสียง
ระบบสั่งงานคอมพิวเตอร์ด้วยเสียงระบบสั่งงานคอมพิวเตอร์ด้วยเสียง
ระบบสั่งงานคอมพิวเตอร์ด้วยเสียง
Surapol Imi
 
ศึกหลายด้านของไมโครซอฟท์
ศึกหลายด้านของไมโครซอฟท์ศึกหลายด้านของไมโครซอฟท์
ศึกหลายด้านของไมโครซอฟท์
Surapol Imi
 

Plus de Surapol Imi (20)

ตำแหน่งทางวิชาการกับคุณภาพอุดมศึกษา
ตำแหน่งทางวิชาการกับคุณภาพอุดมศึกษาตำแหน่งทางวิชาการกับคุณภาพอุดมศึกษา
ตำแหน่งทางวิชาการกับคุณภาพอุดมศึกษา
 
แนวทางสำหรับผู้ต้องการลดฝุ่นในห้องสะอาด
แนวทางสำหรับผู้ต้องการลดฝุ่นในห้องสะอาดแนวทางสำหรับผู้ต้องการลดฝุ่นในห้องสะอาด
แนวทางสำหรับผู้ต้องการลดฝุ่นในห้องสะอาด
 
1ก่อกำเนิดมนุษย์
1ก่อกำเนิดมนุษย์1ก่อกำเนิดมนุษย์
1ก่อกำเนิดมนุษย์
 
เคล็ดลับวินโดวส์ ตอน เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน
เคล็ดลับวินโดวส์ ตอน เก็บเบี้ยใต้ถุนร้านเคล็ดลับวินโดวส์ ตอน เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน
เคล็ดลับวินโดวส์ ตอน เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน
 
เคล็ดลับวินโดวส์ ไอทีซอฟต์ ปีที่ 7 ฉบับที่ 81 ธ.ค. 2541 87-102
เคล็ดลับวินโดวส์  ไอทีซอฟต์   ปีที่ 7 ฉบับที่ 81 ธ.ค. 2541 87-102 เคล็ดลับวินโดวส์  ไอทีซอฟต์   ปีที่ 7 ฉบับที่ 81 ธ.ค. 2541 87-102
เคล็ดลับวินโดวส์ ไอทีซอฟต์ ปีที่ 7 ฉบับที่ 81 ธ.ค. 2541 87-102
 
แนะวิธีเปิดร้านบนอินเทอร์เน็ต
แนะวิธีเปิดร้านบนอินเทอร์เน็ตแนะวิธีเปิดร้านบนอินเทอร์เน็ต
แนะวิธีเปิดร้านบนอินเทอร์เน็ต
 
ระบบสั่งงานคอมพิวเตอร์ด้วยเสียง
ระบบสั่งงานคอมพิวเตอร์ด้วยเสียงระบบสั่งงานคอมพิวเตอร์ด้วยเสียง
ระบบสั่งงานคอมพิวเตอร์ด้วยเสียง
 
Personal videoconference system
Personal videoconference systemPersonal videoconference system
Personal videoconference system
 
ปกิณกะคดีในแวดวงพีซีปี1998
ปกิณกะคดีในแวดวงพีซีปี1998ปกิณกะคดีในแวดวงพีซีปี1998
ปกิณกะคดีในแวดวงพีซีปี1998
 
Van หนึ่งในธุรกิจมาแรงของสหรัฐ
Van  หนึ่งในธุรกิจมาแรงของสหรัฐVan  หนึ่งในธุรกิจมาแรงของสหรัฐ
Van หนึ่งในธุรกิจมาแรงของสหรัฐ
 
ศึกหลายด้านของไมโครซอฟท์
ศึกหลายด้านของไมโครซอฟท์ศึกหลายด้านของไมโครซอฟท์
ศึกหลายด้านของไมโครซอฟท์
 
Telecommuting เมื่อออฟฟิซเป็นฝ่ายวิ่งมาหาคน
Telecommuting เมื่อออฟฟิซเป็นฝ่ายวิ่งมาหาคนTelecommuting เมื่อออฟฟิซเป็นฝ่ายวิ่งมาหาคน
Telecommuting เมื่อออฟฟิซเป็นฝ่ายวิ่งมาหาคน
 
สุดยอดประดิษฐกรรมและการค้นพบแห่งปี 96
สุดยอดประดิษฐกรรมและการค้นพบแห่งปี 96สุดยอดประดิษฐกรรมและการค้นพบแห่งปี 96
สุดยอดประดิษฐกรรมและการค้นพบแห่งปี 96
 
อุปกรณ์ลูกผสมPctv
อุปกรณ์ลูกผสมPctvอุปกรณ์ลูกผสมPctv
อุปกรณ์ลูกผสมPctv
 
PCI local bus
PCI  local busPCI  local bus
PCI local bus
 
คอมพิวเตอร์รุ่นพกกระเป๋า
คอมพิวเตอร์รุ่นพกกระเป๋าคอมพิวเตอร์รุ่นพกกระเป๋า
คอมพิวเตอร์รุ่นพกกระเป๋า
 
Open doc คำจำกัดความใหม่ของระบบเปิด
Open doc คำจำกัดความใหม่ของระบบเปิดOpen doc คำจำกัดความใหม่ของระบบเปิด
Open doc คำจำกัดความใหม่ของระบบเปิด
 
กลิ่น สื่อมัลติมีเดียชนิดล่าสุด
กลิ่น  สื่อมัลติมีเดียชนิดล่าสุด กลิ่น  สื่อมัลติมีเดียชนิดล่าสุด
กลิ่น สื่อมัลติมีเดียชนิดล่าสุด
 
Object oriented computing พยุหยาตราของเหล่า objects
Object oriented computing พยุหยาตราของเหล่า objectsObject oriented computing พยุหยาตราของเหล่า objects
Object oriented computing พยุหยาตราของเหล่า objects
 
นู๊ดออนไลน์ อันตรายของนักคอมพิวเตอร์วัยเยาว์
นู๊ดออนไลน์ อันตรายของนักคอมพิวเตอร์วัยเยาว์นู๊ดออนไลน์ อันตรายของนักคอมพิวเตอร์วัยเยาว์
นู๊ดออนไลน์ อันตรายของนักคอมพิวเตอร์วัยเยาว์
 

คอมพิวเตอร์ปี 2000

  • 1. อุปกรณคอมพิวเตอรป 2000 ฉลาด กระทัดรัด งดงาม และสื่อสารดีเยี่ยม สุรพล ศรีบุญทรง บทความป 1999 การกาวยางเขาสูคริสตทศวรรษใหมในอีกไมกี่เดือนขางหนา ทําใหผูเขียนออกจะรูสึกหวั่นไหวอยูลึกๆ กับกระแสความเปลี่ยนแปลงที่เปนไปอยูทั่วโลก เพราะชวงระยะเวลาสองสามปที่ผานมา สังคมโลกดูจะสับสนวุนวาย ไปหมด ไมวาจะเปนเรื่องสังคม, เศรษฐกิจ หรือการเมือง ยกตัวอยางเชนเหตุการณ วิกฤตเศรษฐกิจเอเชีย ภาวะทุกพิกข ภัยสารพันอันเนื่องจากบรรยากาศโลกถูกคุกคาม ปญหาการเมืองในอินโดนีเซีย/ในมาเลเซีย สงครามอาวเปอรเชีย วิกฤตการณเซอรเบีย และการประทวงของชาวเคิรด ที่เพิ่งจะเปนขาวไปเมื่อเร็วๆ นี้ ทีนี้ พอหันมามองสังคมของวงการคอมพิวเตอรบางก็จะพบความวุนวายสับสนไมแพกัน แมวาจะไม โหดรายชวนเศราหมองเหมือนวิกฤตการณโลก แตความที่เทคโนโลยีดานนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปอยางรวดเร็วมาก (ชนิดที่วาเพิ่งซื้อเครื่องคอมพิวเตอรมาจากพันธทิพยไดอาทิตยเดียว พอยอนกลับไปดูใหมปรากฏวาตกรุนไปเรียบรอย แลว หรืออยางในกลุมผลิตภัณฑโปรแกรมซอฟทแวรนั้น สวนใหญก็มักจะสูญหายตายจากไปจากตลาดทั้งๆ ที่ยังพัฒนา ไดไมพนเวอรชั่น 1.0 เสียดวยซ้ําไป) การเปลี่ยนแปลงในโลกคอมพิวเตอรเปนไปอยางเรงดวนเสียจนบางครั้งมีความรูสึกวา โลกคอมพิวเตอร นั้นใชมาตรฐานเวลาที่เร็วกวาเวลาบนโลกมนุษยทั่วไปอยูรวมสิบเทา ทําใหผูเขียนรูสึกตัววาตนเองนั้นกาวตามเทคโนโลยี คอมพิวเตอรไมทัน (ผูเขียนคาดเอาเองวาตนเองนาจะลาสมัยไปโดยเฉลี่ยสักสองสามป เพราะถึงแมวาจะเก็บเอา เรื่องราวอันทันสมัยมาเลาสูทานผูอานบอยๆ แตกวาที่ตัวเองจะไดมีโอกาสใชงานเทคโนโลยีเหลานั้น ก็มักจะตองลวงไป เปนปเปนอยางนอย) นอกจากนั้น ประสบการณจากการเขียนบทความดาน คอมพิวเตอรกวาแปดปของตนเอง ก็สอนใหผูเขียนตระหนักถึงความไมเที่ยงแหง เทคโนโลยีคอมพิวเตอร เชน เคยเขียนถึงเครือขายสื่อสารระบบดิจิตัล ISDN ไวในป ค.ศ. 1991 วานาจะมีอนาคตดี แตหลังจากนั้นมารวมเจ็ดปมันก็ยังไมเปนที่นิยม, หรือในป ค.ศ. 1994 เคยเขียนเรื่องระบบปฏิบัติการ OS/2 warp ของไอบีเอ็มวาดู ดีนาใช แตกระแสผูบริโภคทั่วโลกกลับไปหลงไหลไดปลื้มกับวินโดวส 95 ที่มี สมรรถนะแทบไมตางกันและออกลาชากวากันถึงปครึ่งแทน, และเมื่อสามปกอน ก็ เคยเขียนเกี่ยวกับแนวคิดอุปกรณคอมพิวเตอรราคาถูกสําหรับสื่อสารผาน อินเทอรเน็ต อยางพวก เน็ตเวิรกคอมพิวเตอร อุปกรณสารสนเทศ หรือ เว็บทีวี แตกลายเปนวาแนวคิดเรื่องเน็ตเวิรกพีซีนั้นโดนกระแสผลิตภัณฑพีซีราคาถูกมากระหน่ําจนกลายเปนหมันไปเรียบรอย ในขณะที่เว็บทีวีและอุปกรณสารสนเทศก็ยังไมคืบหนาไปเทาที่ควร ฉนั้น เมื่อไดอานเจอบทความ "Your PC in the New Millenium" ของไมเคิล เดสมอนด ที่ทํานาย อนาคตของอุปกรณคอมพิวเตอรในชวงสองสามปแรกแหงศตวรรษ 2000 ไวในนิตยสารพีซีเวิลดฉบับกุมภาพันธ 1999 จึงสงผลใหผูเขียนรูสึกสองจิตสองใจวาจะแคอานไวประดับความรูของตัวเองดี หรือจะเก็บมาเลาสูผูอานดี ซึ่งในที่สุด ก็ ตัดสินใจวานาจะเอามาถายทอดสูกันฟงดีกวา เพราะถึงแมคําทํานายอาจจะผิดพลาดจากความเปนจริงไปบางในอนาคต
  • 2. แตอยางนอยมันก็จะชวยยืนยันกาลามสูตรเทศนาของพระบรมศาสดาพุทธเจาที่วา อยาเชื่อโดยมิไดไตรตรองใหรอบคอบ และไมควรเชื่อเพียงเพราะมีครูบาอาจารยมาเลาใหฟง (ที่สําคัญ ผูเขียนยังจะไดมีคาขนมเล็กนอยเหลือไวใหลูกอีกดวย) ไมเคิล เดสมอนด ชี้วาการพยากรณอนาคตของอุปกรณคอมพิวเตอรในป 2000 นั้น แมวาจะเปนเรื่อง ที่ทํานายยาก แตอยางนอยที่สุดเราก็นาจะปกใจเชื่อไดวามันจะตองไดรับการพัฒนาใหมีหนวยประมวลผลซึ่งชาญฉลาด และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะบริษัทยักษใหญดานซีพียูอยางอินเทลไดออกมาแถลงไปเรียบรอยแลววา จะทยอย เปดตัวผลิตภัณฑใหมจํานวนไมนอยกวาสองโหลภายในชวงระยะเวลาสิบแปดเดือนขางหนา ซึ่งในเรื่องความชาญฉลาด ของเครื่องคอมพิวเตอรป 2000 นี้ หากใชวิธีระบุเปนจํานวนคําสั่งตอวินาที ความสลับซับซอนของโปรแกรมคําสั่งที่ รองรับ หรือความเร็วสัญญาณนาฬิกาของหนวยประมวลผลกลาง ฯลฯ อาจจะฟงดูเขาใจยากสําหรับผูซึ่งไมไดมีพื้น ฐานความรูทางคอมพิวเตอร ในทางปฏิบัติจึงมักจะบอกระดับความฉลาดของเครื่องคอมพิวเตอรเปนขีดความสามารถในการนําเสนอ ผลงานในรูปแสง สี เสียงของระบบมัลติมีเดีย หรือใชจัดการกับภาพกราฟฟกหรือสัญญาณวิดีโอไดดีขนาดไหนแทน อยางไรก็ตาม ไมเคิล เดสมอนด เชื่อวาในอนาคตอันใกลนี้ ความฉลาดของเครื่องคอมพิวเตอรอาจจะแสดงออกดวย ลักษณะปฏิสัมพันธที่ดีขึ้น (ไมเคิลใชคําวา "Listen better" หรือกลอมแกลมใหเปนไทยๆ วา "รูฟงมากขึ้น") คือแทนที่ เครื่องคอมพิวเตอรจะรับคําสั่งทางคียบอรดและเมาส ก็จะมีการรับคําสั่งผานเสียงพูด หรือแมจนกระทั่งการรูสังเกต ทาทาง และตําแหนงทิศทางของลูกตา (เริ่มใชในคนพิการคนเปนอัมพาต แตก็นาจะถูกประยุกตมาใชกับคนปรกติ ธรรมดาทั่วไปไดเชนกัน) ฯลฯ เครื่องคอมพิวเตอรป 2000 นั้นนอกจากจะชาญ ฉลาดขึ้นเกงขึ้นแลวยังนาจะมี รูปลักษณดีไซนที่ทันสมัย สวยงามอีกดวย ทั้งนี้ ก็เพื่อ ตอบสนองตอความตองการ ของนักคอมพิวเตอรเจเนอเรชั่นใหม ที่ เติบโตมากับวัฒนธรรมเอ็มที วี และอินเทอรเน็ต สวนวาจะ ออกแบบดีไซนของเครื่อง คอมพิวเตอรไดโฉบเฉี่ยวไฉไลขนาด ไหน ก็ขึ้นอยูกับวานักวิจัย จะลดขนาดความเทอะทะของหนาจอลงไปไดมากนอยขนาดไหน (คงตองเปลี่ยนไปใชเทคโนโลยีผลึกเหลว LCD ในการ ผลิตจอ เพราะถายังขืนใชจอแบบหลอดคาโถด CRT ก็คงจะลดขนาดลงยาก) และที่แนๆ อุปกรณคอมพิวเตอรป 2000 จะตองมีขนาดเล็กกระทัดรัดลงเพื่อความสะดวกในการพกพา พรอมๆ กันนั้น ก็จะตองเพิ่มความสามารถในการ สื่อสารทั้งที่ผานเครือขายอินเทอรเน็ตและเครือขายการสื่อสารคมนาคมอื่นๆ "ซีพียู" เร็วเทาไรไมเคยพอ ไมเกินสิ้นป 2000 นี้ เชื่อวาขีดความเร็วสัญญาณนาฬิกาของผลิตภัณฑชิปซีพียูรุนใหมคงจะถูกเรงใหเร็ว จี๋ขึ้นไปถึงระดับ 700 เมกะเฮิรซ พรอมๆ ไปกับการขยายขีดสมรรถนะองคประกอบอื่นๆ ที่อยูแวดลอมตัวซีพียู ไมวาจะ เปนขีดความเร็วของหนวยความจําแรม, มาตรฐานการรับ/สงสัญญาณขอมูลระหวางซีพียูกับแรม หรือแมกระทั่ง สมรรถนะของแผงวงจรหลักอันเปนที่สิงสถิตยของทั้งชิปแรมและชิปซีพียู ฯลฯ ทั้งนี้ ก็เพื่อสนองตอความตองการของ โปรแกรมรูปแบบใหมๆ ที่กําลังจะทยอยออกสูตลาดภายในอีกไมกี่เดือนขางหนา ตัวอยางของโปรแกรมสมัยใหมที่วา นั้นไดแก โปรแกรมประเภทที่เนนในเรื่องการแสดงภาพสามมิติมากๆ, โปรแกรมจัดการสัญญาณวิดีโอ MPEG-2 ซึ่งให
  • 3. ความสมจริงมากขึ้นในแงเสียงหรือความเคลื่อนไหว, และโปรแกรมวิเคราะหจําแนกสัญญาณเสียง (Voice recognition) ฯลฯ ตัวอยางของการเรงขีดสมรรถนะใหกับเครื่องคอมพิวเตอรยุคป 2000 นั้นไดแกการที่บริษัทอินเทลได คิดคนระบบมาตรฐานหนวยความจําแรมรูปแบบใหมขึ้นมา ชื่อวา Direct Rambus DRAM (RDRAM) ซึ่งใช สายสัญญาณที่เร็วขึ้นและบางขึ้น ทําใหสามารถรับ/สงขอมูลจากชิปซีพียูไดเร็วกวามาตรฐานแรมแบบ synchronous DRAM (SDRAM) ที่ใชๆ กันอยูในปจจุบันถึงสองเทา และคาดวามันจะถูกนํามาใชแทนที่มาตรฐาน SDRAM ภายในเวลา ไมเกินป 2001 เปนอยางชา เพราะบรรดาบริษัทผูผลิตชิปซีพียูชั้นนําอื่นๆ อยาง AMD และ Compaq's Alpha ตางก็ให การขานรับเทคโนโลยี RDRAM ที่วานี้เปนอยางดี นอกจากเรื่องเทคโนโลยี RDRAM แลว บริษัทอินเทลยังไดพัฒนาระบบบัสนําสัญญาณกราฟฟกเวอร ชั่นใหมภายใตชื่อรหัส AGP 4x ขึ้นมา สําหรับงานประมวลผลภาพสามมิติอีกดวย โดย ระบบบัสแบบ AGP 4x ที่วานี้จะเปด โอกาสใหแผงวงจรควบคุมสัญญาณภาพ (graphic card) สามารถเรียกดึงขอมูล ออกมาจากหนวยความจําแรมโดยไดตรง จึง เพิ่มความเร็วในการแสดงภาพสามมิติบน หนาจอไดมากขึ้นเปนสองเทาเมื่อเทียบกับ มาตรฐาน AGP 2x ที่ใชกันอยูในขณะนี้ อันจะสงผลใหภาพวิดีโอบนจอคอมพิวเตอรมีการ เคลื่อนไหวที่ตอเนื่อง และนุมนวลมากขึ้น ไมเคลื่อนไหวกระตุกๆ เปนผีดิบเหมือนที่เห็นๆ กันอยูในทุกวันนี้ อยางไรก็ตาม การเรง แขงขันกันพัฒนาสมรรถนะของบริษัทผูผลิตชิป ซีพียูกันอยางเอาเปนเอาตายเชนนี้ ก็กอใหเกิดคําถามชวนคิดติดตามมาวา มันจะคุมคาแคไหนสําหรับผูบริโภคที่จะตอง เสียเงินมากขึ้นเพื่อใหไดมาซึ่งสมรรถนะความเร็วสูงสุดที่วานั้น เพราะลําพังดวยสมรรถนะของเครื่องคอมพิวเตอรที่มีอยู ในปจจุบันก็มากมายเหลือเฟอเกินกวาจะใชกันไดหมดอยูแลว (ผูใชคอมพิวเตอรสวนใหญมักจะใชงานเครื่องไดแค 20 % - 30 % ของสมรรถนะที่มีอยูจริง) และถึงแมวาผูใชคอมพิวเตอรจะตองการใชงานเครื่องใหไดประสิทธิภาพเต็มรอยกัน จริงๆ ก็ยังติดขัดในแงที่ไมมีโปรแกรมซอฟทแวรรุนใหมถูกพัฒนาขึ้นมารองรับสมรรถนะกําลังของตัวซีพียูใหเลือกใชได สักเทาไรนัก (เปรียบงายๆ เหมือนพวกเศรษฐีกรุงเทพที่มีรถสปอรต 200 แรงมา จะไปหาถนนที่ไหนมาวิ่งใหเต็มกําลัง ได) ยิ่งถาคิดจะนํามาใชเพื่อการสื่อสารทางอินเทอรเน็ตก็ดูจะยิ่งัหนักไปใหญ เพราะลําพังเครื่อง คอมพิวเตอรของตัวเองเร็วอยูเครื่องเดียวนั้นยอมไมมีคาใดๆ เลยในการสื่อสาร เพราะสุดทายก็ตองนั่งรอสัญญาณที่จะถูก สงตอบกลับมาอยูดี (เหมือนรถเฟอรารี่ติดอยูแถวอโศก เครื่องจะแรงแคไหนก็ไปไดเร็วเทาตุกๆ อยูนั่นเอง) หรือถามองเฉพาะเรื่องการจัดการกับโปรแกรมสามมิติ ผูใชคอมพิวเตอรก็ยังพอมีทางเลือกอื่น นอกเหนือไปจากการใชเทคโนโลยี RDRAM และ AGP 4x เพราะหากเลือกกันดีๆ ผลิตภัณฑแผงวงจร AGP 2x หลายๆ ยี่หอก็ยังสามารถสามารถสรางภาพสามมิติคุณภาพดีได เพียงแตอาจจะตองเลือกเฟนแผงวงจรหลักเปนพิเศษหนอย เทานั้น เชน อาจจะตองใชแผงวงจร Intel Celeron รุนใหมที่มีการติดตั้งชุดชิป 810 chip set ซึ่งมีวงจรควบคุม กราฟฟกมาดวยในตัว หรือหากจะเลือกผลิตภัณฑของไซริกซเพราะราคาถูกหนอย ก็ใหรอไปอีกสักสองสามเดือน เพราะไซริกซกําลังจะเปดตัวซีพียู MXi ที่มีวงจรควบคุมสัญญาณกราฟฟก 3 มิติออกมา
  • 4. มีอะไรใหมในตลาดซีพียู พูดเรื่องซีพียูแลวชวนใหสับสน เพราะเทาที่มีอยูในทองตลาดก็งงจะแยอยูแลว (เฉพาะชิปเพนเที่ยม ยี่หออินเทลอยางเดียวก็มีไมนอยกวา 15 แบบ) แตถาแคนี้วาสับสน หลังจากป ค.ศ. 2000 ไปแลวคงตองเรียกวาอภิ มหาสับสน เพราะบริษัทผูผลิตชิปซีพียูตางวางแผนจะเปดตัวผลิตภัณฑใหมๆ กันไมนอยกวา 12 รุน ตอหนึ่งบริษัท ทีนี้ พอคูณเขากับตัวเลขจํานวนบริษัทที่มีการผลิตและจําหนายซีพียูอีก 5 บริษัท (มี Intel, AMD, Cyrix, Centaur, และ Rise Technology) ก็เทากับวาเราจะมีชิปซีพียูใหเลือกใชไดไมต่ํากวา 60 รุน แถมถาคิดวาชิปแตละรุนก็จะถูกประยุกต ไปใชกับเครื่องคอมพิวเตอรอีกสัก 20 ยี่หอ ก็จะกลายเปนวาผูบริโภคจะตองตัดสินใจเลือกเครื่องที่เหมาะกับตนจากที่มี อยูราวๆ 1000 แบบเลยทีเดียว ฉนั้น เพื่อไมใหเวียนหัวชวนงวงกันจนเกินไป เราจะเลือกเอาเฉพาะพัฒนาการที่สําคัญๆ ของวงการ ซีพียูขึ้นมาพูด เรื่องแรกที่เราจะนาจะใหความสนใจคือเรื่องความเร็วของซีพียูซึ่งนาจะถูกเรงขึ้นไปถึง 700 MHz ภายใน เวลาไมเกินสองป เพราะเทาที่เห็นตอนนี้ บริษัทพี่ใหญอินเทลก็เริ่มเกทับ นองๆ ดวยการวางแผนเปดตัวชิปเพนเที่ยม ทู รุน 450 MHz และ 500 MHz ออกมา โดยชิปรุนที่วานี้จะถูกติดตั้งไวดวย ชุดคําสั่ง Katmai ซึ่งไดรับการ พัฒนาตอเนื่องมาจากชุดคําสั่ง MMX และ ประกอบไปดวยกลุมคําสั่งใหมๆ จํานวนกวา 70 คําสั่ง ในการที่จะชวยเรงขีด ความสามารถของการประมวผล สัญญาณภาพสามมิติ, สัญญาณเสียง, การ จดจําเสียงพูด, ไปจนถึงการถอด/ใส รหัสสัญญาณวิดีโอระบบ MPEG-2 ในเวลาเดียวกันกับที่อินเทล เปดตัว เพนเที่ยม ทู 450 MHz นั้น บริษัท AMD ก็ไมยอมนอยหนามีการเปดตัวชิปใหมชื่อ 400 MHz Shraptooth ออกมาชนทันที โดยมีผลการทดสอบ ยืนยันวาชิป SharpTooth นั้นสามารถทํางานไดเร็วกวาชิปเพนเที่ยมทูอยางเห็นไดชัดในกรณีที่มีความเร็วสัญญาณ นาฬิกาเทาๆ กัน ทั้งนี้อาจจะเปนผลมาจากการที่ชิป Sharptooth นั้นมีการติดตั้งวงจรหนวยความจําแคช 256 K secondary cache ไวภายในตัว และเปนแคชที่ทํางานดวยความเร็วเทาๆ กับซีพียูเลย (ชิปเพนเที่ยมทูใชวิธีติดตั้ง Secondary cache ไวนอตัวชิป และทํางานดวยความเร็วเพียงครึ่งหนึ่งของซีพียู) และเมื่อเสร็จจากชิป 400 MHz Sharptooth บริษัท AMD ก็มีแผนการที่จะออกผลิตภัณฑใหมตามมาภายในระยะเวลาไมเกินสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ นั่น คือชิป 500 MHz K7 พรอมๆ กันนั้นก็มีแผนจะขยายขีดความสามารถของบัสนําสัญญาณขนาด 200 MHz บน แผงวงจรหลัก (system bus) ใหมีสมรรถนะสูงๆ ยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งอาจจะเปนดวยเหตุนี้ก็ได ทําใหบริษัทอินเทลรีบประกาศตัวผลิตภัณฑใหมของตนออกมาทันที มีทั้ง ชิป Pentium II Katmai รุน 533 MHz และชุดชิปสําเร็จรูป 820 chip set ที่รองรับ system bus ขนาด 133 MHz แถมยังวางแผนยาวตอเนื่องไปอีกหนึ่งไตรมาสวาจะออกผลิตภัณฑรุนใหมชื่อ 600 MHz Coppermine ซึ่งใชเทคโนโลยี การเดินสายสัญญาณภายในตัวชิปเล็กบางขนาด 18 ไมครอน พรอมกันนั้นก็จะติดตั้งหนวยความจําแคช Secondary cache 256 KB มาดวยในตัว ทําใหสามารถเรงความเร็วในการสงผานสัญญาณขอมูลระหวางหนวยความจําหลักกับซีพียู และเรงความเร็วของบัส system bus ขึ้นไปถึงระดับ 133 MHz อยางไรก็ตาม บริษัทผูผลิตซีพียูนั้นไมไดแขงขันกันเฉพาะเรื่องการเพิ่มขีดสมรรถนะและความเร็ว เทานั้น ในทางตรงกันขาม พวกเขายังแขงขันกันผลิตสินคาซีพียูมาปอนตลาดคอมพิวเตอรราคาถูกอีกดวยเชนกัน
  • 5. โดยเฉพาะทางฟากของบริษัท AMD, Cyrix, Centaur, และ Rise Technology นั้น หากคิดจะแขงขันดานเทคโนโลยี หรือแขงขันดานภาพลักษณกับอินเทลก็คงเหมือนกับเอาสมรักษ คําสิงหไปชกกับไมค ไทสัน (เจอแคหมัดเด็ดอยาง สโลแกน "Intel Inside" ก็แทบจะโดนนอกกันไปเปนแถวแลว) ฉนั้น บรรดาบริษัทผูผลิตซีพียูพวกนี้จึงหันมาจับสินคา คอมพิวเตอรระดับลางแทน ซึ่งก็สรางผลดีใหกับผูใชคอมพิวเตอรทั่วไปอยางเราๆ ทานๆ มิใชนอย เพราะถาไมไดสินคา ซีพียูราคาถูกเหลานี้มาชวยดึงราคา เราคงไมไดมีโอกาสเห็นเครื่องคอมพิวเตอรราคาถูกขนาด $699 - $999 หรือเครื่อง โนตบุคราคาไมถึง $1000 เหมือนทุกวันนี้หรอก รูปที่ 1 ไมวาจะมีคูแขงมากมายขนาดไหนในทองตลาด ชิปซีพียูยี่หออินเทลก็ยังครองใจผูบริโภคอยูเสมอ (อยางนอย ที่สุดก็ตลอดชวงตนทศวรรษ 2000 นั่นแหละ) เพราะถาจะ เลือกสมรรถนะ อินเทลก็มีชิปเพนเที่ยมทูใหเลือก หรือรัก ประหยัดก็มีชิปเซลีรอนใหเลือกไดอีกเชนกัน ตัวอยางผลิตภัณฑซีพียูที่กําลังจะออกสูตลาด ผลิตภัณฑที่มีแผนเปดตัวในไตรมาสแรกของป 1999 Intel Celeron-366 & 400 : ความเร็วสัญญาณนาฬิกาก็ตาม ชื่อรหัสนั่นแหละ คือ 366 MHz และ 400 MHz, ออกแบบมาสําหรับใชกับเครื่องคอมพิวเตอรกลุมที่มี ราคายอมเยาหนอย (ราว $1499 ตามสไตลลของเครื่องรุนเซลีรอน) แตในระยะแรกๆ นั้นอาจจะ ทํางานไดไมเต็มประสิทธิภาพเทาที่ควรนัก เพราะยังไมคอยมีโปรแกรมมัลติมีเดียที่ถูกออกแบบมา รองรับการทํางานของชุดคําสั่ง Katmai instruction ใหเลือกใชไดมากนักในทองตลาด AMD Sharptooth : นาจะมีความเร็วสัญญาณนาฬิกาสูงถึง 450 MHz (หรืออยางนอยก็ 400 MHz) ทางบริษัท เอเอ็มดีตั้งเปาไววาจะใชกับเครื่องคอมพิวเตอรตั้งโตะระดับไฮเอน แตก็มีแผนจะพัฒนาไปใชกับเครื่อง โนตบุคดวยเชนกัน จุดเดนของมันอยูที่การติดตั้งหนวยความจํา 256KB secondary cache มาในตัว ทําใหสามารถประมวลผลไดเร็วกวาชิปเพนเที่ยมทูรุนเดียวกันอยางเห็นไดชัด (เปนแคราคาคุย คงตอง รอใหเห็นของจริงกอนจึงจะยืนยันได นอกจากนั้น เผลอๆ จะเร็วกวาเฉพาะการใชโปรแกรมจัดการ ธุรกิจทั่วไปเทานั้น เพราะหลังๆ นี้ ชิปของเอเอ็มดีดูจะดอยกวาชิปอินเทลเล็กนอยในเรื่องระบบ มัลติมีเดีย) Intel Celeron for notebooks : ใชความเร็วสัญญาณนาฬิกาสัก 266 MHz และ 300 MHz, ออกแบบมา สําหรับเครื่องโนตบุคราคาประหยัด (คาดวานาจะตัดราคาจําหนายของเครื่องโนตบุคลงมาเหลือเพียง $1599) อยางไรก็ตาม จะบอกวามันทํางานไดดีหรือไมดีแคไหนคงตองไดเห็นของจริงเสียกอน โดยเฉพาะเรื่องของมาตรการประหยัดพลังงานซึ่งจําเปนมากสําหรับเครื่องโนตบุค Cyrix M II -350 & -366 : ประชาสัมพันธบริษัทไซริกซย้ําผลการทดสอบมาแลววามีความเร็วสัญญาณนาฬิกา 350 MHz และ 366 MHz จริง ทั้งๆ ที่ตั้งราคาจําหนายไวคอนขางต่ํา โดยตั้งเปาไววาจะนําไปใช
  • 6. ติดตั้งบนผลิตภัณฑคอมพิวเตอรรุนราคา $899 อยางไรก็ตาม มีขาวเลาลือวาชิปตัวนี้ทําความเร็วได ไมดีนักในการเลนเกมส โดยเฉพาะพวกเกมสที่ตองมีการสรางภาพสามมิติมากๆ Intel Pentium II Katmai : มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาสูงถึง 450 MHz และ 500 MHz, ตั้งเปาไวที่เครื่อง คอมพิวเตอรระดับไฮเอน โดยจะมีการเปดตัวชุดคําสั่งเด็ดๆ 70 คําสั่งที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มขีด สมรรถนะการประมวลผลสัญญาณภาพและสัญญาณเสียงเปนการเฉพาะ (แตถาใหมเกินไปนัก ก็ให ระวังวาบริษัทผูผลิตซอฟทแวรจะตามไมทัน เพราะเดี๋ยวจะใชงานไดไมสมราคา) Rise Technology MP6 : ความเร็วสัญญาณนาฬิกาประมาณ 233 MHz และ 266 MHz โดยประมาณ, เหมาะกับทั้งเครื่องคอมพิวเตอรตั๊งโตะและเครื่องโนตบุครุนราคาถูก ($799 - $999 สําหรับรุนตั้งโตะ) ซึ่งแมวาจะมีราคาถูก แตก็โดดเดนเปนพิเศษในเรื่องคําสั่ง MMX และการใชงานรวมกับกับอุปกรณ DVD จะมีที่ดอยลงไปบางก็ตรงที่มันไมมีหนวยความจํา secondary cache ติดตั้งมาดวย แถมยังเปน ผลิตภัณฑซีพียูที่มีสวนแบงตลาดนอยมาก (นักคอมพิวเตอรเมืองไทยอาจจะไมมีโอกาสสัมผัสกับสินคา ยี่หอนี้เลยก็ได) Intel PII-333 & -366 for notebooks : ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 333 MHz และ 366 MHz เหมาะกับ เครื่องโนตบุคระดับไฮเอน เพราะมีการติดตั้งหนวยความจําแคช secondary cache มาพรอมในตัว ทําใหประมวลผลไดเร็วกวาชิปเพนเที่ยมทูในระดับเดียวกัน แตก็อีกนั่นแหละ มันคงทําใหผูใช คอมพิวเตอรระดับโลวเอนอยางผูเขียนหมดโอกาสสัมผัส (เพราะแพงเกินไป) ผลิตภัณฑที่มีแผนเปดตัวในไตรมาสที่สองของป 1999 Cyrix MXi : ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 333 MHz และ 350 MHz, เปนรุนที่พัฒนาตอเนื่องมาจากรุน M II โดย ยังคงจุดเดนเรื่องราคา และตั้งเปาไปไวที่เครื่องคอมพิวเตอรและเครื่องโนตบุคราคาถูกเชนเดิม ที่พิเศษ ยิ่งขึ้นไปกวานั้นคือการนําเอาชุดคําสั่งดานการประมวลผลสัญญาณภาพสามมิติของ AMD เขามาผนวก เขาไวดวย อันจะสงผลใหสามารถใชเลนเกมสไดดี AMD K7 : เปนผลิตภัณฑซีพียูเจเนอเรชั่นที่เจ็ดของบริษัทเอเอ็มดี, ใชความเร็วสัญญาณนาฬิกาตั้งแต 500 MHz ขึ้นไป, ตั้งเปาไวที่ผลิตภัณฑคอมพิวเตอรที่ตองการสมรรถนะสูงมากๆ อยางพวกเครื่องเซิรฟเวอรอะไร ทํานองนั้น เพราะไดรับการปรับปรุงโครงสรางคําสั่งภายในชิปขึ้นมาก ทําใหสามารถคํานวนตัวเลข ทศนิยมสูงๆ ไดในพริบตา รวมทั้งยังออกแบบใหรองรับบัส System bus ความเร็วสูง (200 MHz) ไว ดวย Cyrix M II-400 : ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 400 MHz, เหมาะกับเครื่องคอมพิวเตอรรุนประหยัดตามสไตลลของ ไซริกซ แตไมรูวาขอดอยเรื่องการประมวลผลสัญญาณกราฟฟกรายละเอียดสูงจะไดรับการปรับปรุง หรือยังเมื่อถึงเวลานั้น Rise Technology MP6 II : มีความเร็วสัญญาณนาฬิการาวๆ 333 MHz ถึง 366 MHz, ถูกตั้งเปาไวที่เครื่อง คอมพิวเตอรตั้งโตะราคาถูก และมีแผนจะพัฒนาไปใชกับเครื่องโนตบุคราคาถูกตอไป, จุดเดนคือการ ติดตั้งหนวยความจําแคช secondary cache มาในตัว ทําใหมีความเร็วเพิ่มสูงขึ้นจากชิปรุน MP6 อยางเห็นไดชัด
  • 7. Intel PII-533 Katmai : เรงความเร็วสัญญาณนาฬิกาขึ้นไปถึง 533 MHz เปนอยางนอยล เหมาะกับพวกนัก คอมพิวเตอรเงินถึงที่เนนสมรรถนะมากกวาความประหยัด, จุดเดนพิเศษอยูตรงที่ทางอินเทลมีการออก ชุดชิปสําเร็จรูปรุน 820 chip set มาไวสําหรับมันโดยเฉพาะ (ชุดชิป 820 มีการรองรับระบบรับ/สง ขอมูล 133 MHz ของบัส system bus และหนวยความจําหลัก) Centaur WinChip 2A : มี 3 รุน คือ ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 233 MHz, 250 MHz, และ 266 MHz , นาจะ มีราคาถูกมากเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑซีพียูยี่หอ อื่นๆ ในระดับเดียวกัน แถมยังมีการรองรับบัส system bus ขีดความเร็ว 100 MHz อีกดวย (มีขอสังเกตวา แมจะมีหนวยความจําแคชมาให 64 KB แตไมมี secondary cache อันนาจะ สงผลกระทบใหกับความเร็วในการประมวลผล ไดบางพอสมควร) ผลิตภัณฑที่มีแผนเปดตัวในไตรมาสที่สามของป 1999 Intel Pentium Coppermine : เรงความเร็วสัญญาณนาฬิกาขึ้นไดถึง 600 MHz เปนอยางนอย อันเปนผลสืบ เนื่องมาจากการปฏิวัติเทคโนโลยีการเชื่อมโยงสายสัญญาณภายในตัวชิปเสียใหม มีการติดตั้ง หนวยความจํา secondary cache ขนาด 256 KB มาในตัว, รวมทั้งมีการนําเอาเทคนิค Geyserville มาใชกับการรับสงสัญญาณขอมูลในเครื่องโนตบุค ทําใหสามารถเรงความเร็วของการประมวลขึ้นไปถึง ระดับ 600 MHz ได แมวาตัวแบตตารี่ที่จายกระแสไฟจะมีความถี่สัญญาณสูงสุดเพียง 400 MHz นับ ไดวาชิปซีพียูตัวนี้เหมาะกับเครื่องคอมพิวเตอรและเครื่องโนตบุคระดับไฮเอนเปนอยางยิ่ง (มีปญหา อยางเดียววา ลูกคาจะสูราคาไหวหรือเปลาเทานั้น) Centaur WinChip 3 : บริษัทเซนทอรนิยมออกสินคามาทีละ 3 รุนเสียจริง คราวนี้ก็เชนกัน มีรุน 200 MHz , 233 MHz , และ 266 MHz , แตคราวนี้มีจุดเดนตรงความประหยัดพลังงาน และใชระบบบัส 100 MHz System Bus จึงเหมาะมากกับเครื่องโนตบุครุนประหยัด แถมยังใจปาติดตั้งหนวยความจําแคช ขนาด 128 KB ใหมาดวย (แตใจปาไมพอ เพราะไมไดใหแคชชนิด secondary cache ) Cyrix Media PC Integrated chip : ความเร็วสัญญาณนาฬิกาขนาด 233 MHz และ 300 MHz ตั้งเปามาไว ใชสําหรับอุปกรณคอมพิวเตอรราคาถูกโดยเฉพาะ ประเภทอุปกรณสารสนเทศ หรือพวกเว็บทีวีอะไร ทํานองนี้ และถาออกแบบผลิตภัณฑดีๆ ไมแนวาเราจะไดใชอุปกรณราคาต่ํากวา $500 กันคราวนี้แห ละ Cyrix Jedi : ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 400 MHz และ 450 MHz, เปนชิปราคาประหยัดที่เนนการพัฒนาดาน การประมวลผลแบบ MMX, การคํานวนตัวเลขทศนิยมสูงๆ, และการประมวลผลสัญญาณภาพสามมิติ ฯลฯ โดเฉพาะ เรียกวาออกมาชนกับชิปเซลีรอนของอินเทลโดยตรงทีเดียว เพราะมีราคาถูกกวากัน อยางเห็นไดชัด
  • 8. ผลิตภัณฑที่มีแผนเปดตัวในไตรมาสที่สี่ของป 1999 Intel Celeron-450 : อินเทลตั้งเปาไวใหเปนชิปซีพียูราคาถูกที่มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาสูงถึง 450 MHz Intel PII-650 Coppermine (หรืออาจจะไปไกลถึงรุน PII-700 ก็ได) : สมรรถนะนั้นรับประกันไดวาสูงแนแต ราคาก็คงจะแพงตามไปดวย เหมาะกับเครื่องคอมพิวเตอรระดับไฮเอน Centaur WinChip 4 : ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 400 MHz ถึง 450 MHz, เหมาะกับทั้งเครื่องคอมพิวเตอรตั้ง โตะและเครื่องโนตบุคราคาประหยัด, มีการติดตั้งหนวยความจํา primary cache ขนาด 128 KB มา ดวยในตัว และรองรับระบบบัส 100 MHz system Bus Cyrix MXi-400 : เหมาะกับเครื่องตั้งโตะและเครื่องโนตบุคราคาถูก โดยเนนไปที่การประมวลระบบมัลติมีเดีย และสัญญาณภาพสามมิติโดยเฉพาะ Cyrix Jedi-500 : เนนที่ความเร็ว, ราคา และประสิทธิภาพในการประมวลผลระบบมัลติมีเดียโดยเฉพาะ เรียกวาออกมาขมชิปเซลีรอนโดยเฉพาะ ผลิตภัณฑที่มีแผนเปดตัวหลังจากป 1999 Intel Celeron-500 : แมจะใชชื่อรหัส 500 แตความเร็ว สัญญาณนาฬิกาสามารถเรงขึ้นไปไดถึง 600 MHz มีการรองรับชุดคําสั่ง Katmai instruction (สงสัยทีมงานวิจัยของอินเทล จะบลั้ฟกับไซริกซเสียละกระมัง) Cyrix Jalapeno (P3) : มีความเร็วสัญญาณนาฬิกา ตั้งแต 600 MHz ถึง 800 MHz, ใชเทคโนโลยี การประมวลผลสัญญาณภาพแบบ Integrated 3D graphic เหมาะกับทั้งเครื่องตั้งโตะและเครื่อง โนตบุค ที่สําคัญ คือมันนาจะมีราคาไมแพง Intel PII-700 : มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาตั้งแต 700 MHz ขึ้นไป ตั้งเปาไปที่เครื่องคอมพิวเตอรระดับไฮเอน Centaur WinChip 2000 : ความเร็วสัญญาณนาฬิกาตั้งแต 500 MHz ขึ้นไป เนนที่ความประหยัด และ ความสามารถในการเลนเกมส Intel Willamette : อินเทลคุยวาจะเรงความเร็วสัญญาณนาฬิกาขึ้นไปถึง 1 GHz เปนชิปซีพียูเจเนอเรชั่นที่จะ ถูกนํามาใชทดแทน เพนเที่ยมทู และเซลีรอนในเครื่องคอมพิวเตอรไฮเอนแหงทศวรรษ 2000 Intel Merced : เรงความเร็วสัญญาณนาฬิกาขึ้นไปไดถึง 800 MHz, เหมาะกับเครื่องคอมพิวเตอรที่ใชหนวย ประมวลผลหลายตัว (Multiprocessor) อยางพวกเครื่องเซิรฟเวอรหรือเครื่องเวิรกสเตชั่น รวมทั้งจะ เปนเครื่องคอมพิวเตอรรุนแรกที่ใชโครงสรางทางสถาปตยกรรมแบบ 64 บิทอยางสมบูรณแบบ (ปญหา อยูตรงวา จะหาโปรแกรมซอฟทแวรมาใชงานรวมดวยไดมากนอยแคไหน) แผงวงจรหลักตองเร็ว
  • 9. สิ่งที่ตองไดรับการพัฒนาดานสมรรถนะความเร็วตอจากผลิตภัณฑซีพียู ก็คือสวนของแผงวงจรหลัก (Motherboard) ซึ่งรองรับตัวซีพียูอยูนั่นเอง เพราะหากปลอยใหซีพียูทํางานไดเร็วเพียงตัวเดียว ในที่สุดประดาขอมูล จํานวนมหาศาลที่ทะลักไปจากซีพียูก็จะไปออกันอยูเปนการจราจรคอขวดที่บัสนําสัญญาณบนแผงวงจรหลัก หรือในทาง กลับกัน การจราจรของขอมูลที่ถูกเรียกเขามาประมวลผลในซีพียูผานทางบัสนําสัญญาณขาเขาก็จะมีลักษณะเบาบาง ชนิดที่ซีพียูตัวขยันตองวนลูป (Loop) รอรอบแลวรอบเลา กลายเปนการสิ้นเปลืองพลังงานอยางที่พวกโปรแกรมเมอร ระบบเรียกวาเปนการโอเวอรเฮด ดวยเหตุผลดังกลาว ทําใหบรรดาบริษัทผูผลิตชิปซีพียูชั้นนํามักจะมีการปรับปรุงสมรรถนะของบัสบน แผงวงจรหลักอยูเปนระยะๆ ยกตัวอยางเชน บริษัทยักษใหญอินเทลนั้นก็เพิ่งจะมีการเปดเผยระบบชุดชิปสําเร็จรูปใหม ภายใตชื่อรหัสวา "คามิโน" ออกสูตลาด (โครงการ Camino นี้เปนการปรับปรุงขีดความเร็วของบัสนําสัญญาณครั้งสอง ของอินเทล ในรอบสามปที่ผานมา) โดยตัวแทนของอินเทลระบุวาระบบคามิโนจะชวยเรงขีดความเร็วของบัสนํา สัญญาณจาก 100 MHz ไปเปน 133 MHz ในกรณีของชิปเพนเที่ยม ทู และจะเรงขีดความเร็วของชุดชิปเซลีรอนจาก 66 MHz ไปเปน 100 MHz หลังจากเสร็จสิ้นจากโครงการคามิโนที่วานี้แลว บริษัทอินเทลยังมีแผนการปรับเปลี่ยนโครงสรางระบบ บัสนําสัญญาณบนแผงวงจรหลักกันขนานใหญในป ค.ศ. 2000 และ 2001 อันจะสงผลใหผลิตภัณฑแผงวงจรหลักใน อนาคตของอินเทลสามารถรองรับงานประมวลขอมูลชั้นสูง อยางพวกโปรแกรมจดจําสัญญาณเสียงพูดชนิด real-time natural speech recognition, โปรแกรมสรางแบบจําลองสามมิติรูปแบบใหมๆ, ตลอดไปจนกระทั่งถึงการแสดงภาพ สัญญาณวิดีโอในมาตรฐาน MPEG-2 ฯลฯ ไดโดยไมจําเปนตองอาศัยการทํางานของแผงวงจรเสริมชนิดอื่นๆ เขามาชวย เลย (ปจจุบัน การจะประมวลผลสัญญาณขอมูลชั้นสูงเหลานี้ ยังคงตองอาศัยการประสานงานระหวางแผงวงจรหลัก และแผงวงจรเฉพาะทางอยู เชน จะแสดงภาพกราฟฟกก็ตองมีวงจรควบคุมสัญญาณกราฟฟก, จะสรางสัญญาณเสียง ไฮไฟสเตอริโอก็ตองมีซาวนการด, จะฉายภาพยนตจากแผนวิดีโอซีดีก็ตองมีแผงวงจรวิดีโอ ฯลฯ) อยางไรก็ตาม แหลงขาวจากอินเทลไมไดชี้แจงถึงรายละเอียดวา การเพิ่มขีดความเร็วของบัสนํา สัญญาณบนแผงวงจรหลักไปจนถึงขนาดที่จะสงผลใหสามารถเลิกใชแผงวงจรเสริมอื่นๆ ไปไดเลยนั้นอาศัยหลักการอะไร ทําใหบรรดานักวิเคราะหตองมานั่งถกกันวาอินเทลนาจะใชเทคนิคเชนไรในกระบวนการดังกลาว เชน ปเตอร กลาส คาวสกี้ นักวิเคราะหอาวุโสแหงบริษัทไมโครดีไซน รีซอรซไดตั้งขอสังเกตุวา อินเทลนาจะเพิ่มความเร็วของแผงวงจรหลัก ดวยการใชสายนําสัญญาณที่มีขนาดเล็กบางลง แตทํางานไดเร็วขึ้น (การใชเสนบางทําใหเพิ่มจํานวนเสนสัญญาณไดมาก ขึ้นในพื้นที่เทาเดิม) และคงจะเพิ่มการเชื่อมโยงสัญญาณชนิดจุดตอจุด (point-to-point) มากขึ้น และในบางครั้ง อาจจะตองออกแบบใหขอมูลถูกสงผานไปมาระหวางซีพียูกับแรมโดยตรง โดยไมตองผานวงจรในชุดชิปสําเร็จรูป ซึ่งผลจากลดขั้นตอนการสงผานสัญญาณและลดระยะทาง เคลื่อนที่ของขอมูลนี้ ปเตอร กลาสคาวสกี้ระบุวานาจะทําใหแผงวงจรหลัก มีความเร็วเพิ่มขึ้นไปไดถึง 200 MHz เปนอยางนอย หรือถาหากปรับโนน ขยายนี่อีกสักหนอยหนึ่งก็อาจจะสงผลใหแผงวงจรหลักหลังยุคป 2000 มี ความเร็วในการนําสัญญาณเทียบไดเปนสิบเทาของบัสนําสัญญาณตาม มาตรฐาน PCI ที่มีใชๆ กันอยูในปจจุบัน และเมื่อถึงตอนนั้น มันก็นาจะ ไดรับการยอมรับกันโดยทั่วไปในฐานะของมาตรฐานการเชื่อมโยงสัญญาณ
  • 10. กราฟฟก หรือการเขาถึงขอมูลในหนวยความจําสํารอง (disk access) และผูคนในวงการคอมพิวเตอรสมัยนั้นก็จะลืม เลือนไปเลยวาเคยมีมาตรฐานการเชื่อมโยงสัญญาณที่ชื่อ AGP อยูบนโลกนี้ ดีไซนภายนอกก็สําคัญ เมื่อคาดการณกันวาแผงวงจรหลักขนาดไมใหญนักเพียงแผงเดียวในอนาคตจะสามารถทํางานทดแทน แผงวงจรเสริม และชุดชิปสําเร็จรูปอื่นๆ ไดเชนดังที่วาแลว ก็ทําใหงายสําหรับบรรดาดีไซนเนอรที่จะออกแบบเครื่อง คอมพิวเตอรยุคป 2000 ใหมีขนาดกระทัดรัด และมีรูปลักษณที่โฉบเฉี่ยวไฉไลมากขึ้น เพราะไมจําเปนตองถูกจํากัดอยู กับรูปทรงของกลองสี่เหลี่ยมเชนที่เคยเปนมา (แตกอน ผูผลิตคอมพิวเตอรมักจะออกแบบแผงวงจรหลักออกมาเปน แผนสี่เหลี่ยมขนาดใหญ ซึ่งเรียงรายไปดวยชองสลอตสําหรับเสียบแผงวงจรเสริมจํานวนหลายๆ แผงเขามาในลักษณะ ตั้งฉาก ทําใหกลายเปนขอจํากัดวาตัวเคสของเครื่องคอมพิวเตอรตองมีลักษณะกลองสี่เหลี่ยมที่มีฐาน หรือดานขางใหญ พอจะรองรับแผงวงจรหลักไดพอดี และมีความหนาของกลองในระดับที่มากกวาความสูงของแผงวงจรเสริมอยู พอประมาณ) องคประกอบสําคัญอีกสวนที่นาจะไดรับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปเปนอยางมากในเครื่อง คอมพิวเตอรยุค 2000 ก็คือ สวนของจอมอนิเตอร เพราะแนวโนมของการนําเอาเทคโนโลยีจอแผนผลึกเหลว LCD เขา มาใชแทนที่จอตูเทอะทะอยางจอหลอดคาโถด CRT ที่ทวีความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ดวยเหตุผลงายๆ วาจอ LCD นั้นมี คุณสมบัติที่เหนือกวาจอ CRT ในทุกประการ ไมวาจะเปนเรื่อง ขนาด น้ําหนัก หรือ การบริโภคพลังงาน ยกตัวอยาง เชน การนําเอาจอ LCD มาใชทดแทนจอ CRT ขนาดมาตรฐาน 17 นิ้ว หรือ 19 นิ้วที่มีน้ําหนักมากถึง 12 กิโลกรัมนั้น จะ สงผลใหสามารถลดพื้นที่จัดวางเครื่องคอมพิวเตอรลงไปรวม 66 %, ลดน้ําหนักลงได ~ 80 %, และลดปริมาณการ บริโภคกระแสไฟฟาลงไปกวา 50 % แตการปรับเปลี่ยนนั้นอาจจะตองคอยๆ เปน คอยๆ ไป เพราะเทคโนโลยีการผลิตจอ LCD ยังคงมี ราคาแพงกวาจอ CRT มาก ยกตัวอยางเชน จอ LCD ขนาด 15 นิ้วที่พอจะใชงานไดนั้นก็ยังคงมีราคาสูงถึง $ 900 ในขณะที่จอ LCD ขนาด 20 นิ้ว ก็มีราคาสูงพรวดขึ้นไปถึง $2000 เลยทีเดียว (มีขาวดีวา จอ LCD ขนาด 15 นิ้วจะปรับ ลดลงไปอยูประมาณ $ 825 ภายในสิ้นปนี้ แตหากใครหวังใหจอ LCD มีราคาถูกพอที่จะนํามาใชแทนที่จอ CRT ไดจริงๆ ก็อาจจะตองรอไปอีกสักสองสามป ) นอกจากนี้ ยังมีปญหาอีกวาบริษัทผูผลิตคอมพิวเตอรและผูผลิตจอ LCD นั้นดู เหมือนจะยังพูดภาษาไมตรงกันนักทีเดียว เพราะตามปรกติ สัญญาณภาพที่ถูกสงออกจากเครื่องคอมพิวเตอรไปยัง จอมอนิเตอรมักจะอยูในรูปสัญญาณอนาล็อก แตสัญญาณที่จอ LCD รองรับกลับเปนสัญญาณดิจิตัล ทําใหจําเปนตองมี แผงวงจรสําหรับแปลงสัญญาณภาพกลับมาอยูในรูปดิจิตัลเสียกอน จึงเปนไปไดวาในอนาคตผูผลิตจอ LCD อาจจะตอง จําหนายผลิตภัณฑของตนมาพรอมกับแผงวงจรแปลงสัญญาณดิจิตัลเสียเลย เพื่อ ความสะดวกของลูกคา ความสดใสในอนาคตของเทคโนโลยีจอ LCD มิไดเปนผลมาจากเรื่อง ขนาด น้ําหนัก และความประหยัดพลังงานเทานั้น แตเปนเพราะมันไมมีขอจํากัดเรื่อง คุณภาพของรายละเอียดภาพเชนจอ CRT นักวิจัยยังสามารถพัฒนาคุณภาพความ คมชัดของจอ CRT เพิ่มขึ้นไดอีกมากในอนาคต ยกตัวอยางเชน จอ CRT รุนลาสุด ของหองวิจัยไอบีเอ็มนั้นก็สามารถแสดงภาพที่มีรายละเอียดและความคมชัดเทียบเทา
  • 11. กับงานพิมพสีชั้นดีเลยทีเดียว (จอ CRT นั้นใชเทคโนโลยีการกราดลําแสงอิเล็กตรอนผานดานหลังจอซึ่งเคลือบไวดวย สารเรืองแสง หรือที่มักจะเรียกรวมกันวาสารฟอสเฟอร แลวอาศัยการเรืองแสงของสารฟอสเฟอรเปนสารแสดงภาพ จึง ไมสามารถเพิ่มรายละเอียด หรือลดขนาดจุดภาพลงไปไดมากนัก รายละเอียดภาพสูงสุดยังอยูในชวง 1024 x 1024 จุดภาพตอหนึ่งจอ ดังจะสังเกตุไดจากการที่เราเริ่มอานตัวอักษรบนจอ CRT ไมรูเรื่องเมื่อใชตัวอักษรเล็กกวา 8 พอยต นอกจากนั้น จอ CRT ยังตองมีการหนวงเวลาแสดงภาพเล็กนอย เนื่องจากมีพลังงานตกคางอยูชั่วขณะบนสารฟอสเฟอร ดังจะแสดงใหเห็นไดหากเราปดสวิทซไฟเลี้ยงจอ CRT ในหองมืด จะพบวามันจะยังคงมีภาพสุดทายปรากฏอยูเลือนๆ บน หนาจออีกระยะหนึ่ง) รูปที่ 2 ดวยรูปลักษณดีไซนที่แปลกตาของเครื่องคอมพิวเตอร IMAC ตัวนี้ นาจะถือเปนกาวยางสําคัญกาวหนึ่งของ วงการนักออกแบบเครื่องคอมพิวเตอร ในการที่กาวไปใหพนจากขีดจํากัดเรื่องรูปทรงกลองสี่เหลี่ยมเทอะทะ เชนที่เคยคุนตากันมานาน พอรตนําสัญญาณตองถูกปรับปรุง เมื่อเสร็จจากสวนประกอบหลักๆ บนตัวเคสของเครื่องคอมพิวเตอร องคประกอบถัดมาที่ตองให ความสําคัญคือเรื่อง "พอรตนําสัญญาณ" ซึ่งเชื่อขนมกินไดเลยวาผลิตภัณฑคอมพิวเตอรป 2000 นั้นจะตองขนาดของ พอรตเล็กกระทัดรัดลง ในขณะที่มีประสิทธิภาพและความเร็วสูงขึ้นมาก อยางนอยที่สุด มาตรฐานบัสนําสัญญาณแบบ USB (Universal Serial Bus) ก็จะตองถูกนํามาใชแพรหลายมากยิ่งขึ้นในหมูผูผลิตอุปกรณประกอบระบบ ไมวาจะเปน คียบอรด, เมาส, เครื่องพิมพ หรือแสกนเนอร ฯลฯ อันจะสงผลใหเครื่องคอมพิวเตอรซึ่งใชวินโดวสเปนระบบปฏิบัติการ มาตรฐานสามารถทํางานไดอยางเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกวานั้น ปจจุบันเทคโนโลยีพอรต USB ยัง ไดรับการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ดวยการประยุกตเขาไปสูมาตรฐานบัส อนุกรมแบบ IEEE 1394 หรือที่หลายๆ คนรูสักกันในชื่อรหัสวา "FireWire" อันเปนมาตรฐานการสงผานสัญญาณขอมูลแบบ อนุกรมที่มีความเร็วสูงกวามาตรฐาน USB ปรกติถึง 100 เทาตัว ซึ่งผลจากการผนวกเอาความเปนสากลของ USB และสมรรถนะ ความเร็วของ FireWire เขามาไวไดวยกัน ก็จะสงผลใหการเชื่อมตออุปกรณประกอบระบบชนิดตางๆ มีทั้งความ สะดวกสบาย และความมีประสิทธิภาพ เพราะผูใชคอมพิวเตอรสามารถจะลากสายออกจากพอรตๆ เดียวเพื่อตอพวงไป ยังอุปกรณที่มีอยูหลายๆ ตัวไดเลย (ภาษาคอมพิวเตอรเรียกวิธีการตอพวงอุปกรณเรียงไปเปนพวงนี้วา daisy chain) โดยผูใชคอมพิวเตอรยุคป 2000 ไมตองกังวลเลยวาอุปกรณที่ถูกพวงอยูกับบัส FireWire USB นั้นจะมี ขีดความตองการดานความเร็วของการรับ/สงขอมูลสูงขนาดไหน เพราะถึงจะมีการตอพวงวงจรจับสัญญาณวิดีโอระบบดิ จิตัล, วงจรแสดงภาพสัญญาณวิดีโอรายละเอียดสูง และฮารดดิสกความเร็วสูง พรอมๆ กันสามอยาง บัสนําสัญญาณ FireWire USB ก็ยังรับมือไดสบายมาก แถมการติดตั้งอุปกรณประกอบระบบเหลานี้เขากับพอรต USB ก็ยังเปนสิ่งที่ ผูใชคอมพิวเตอรทั่วๆ ไปสามารถทําไดเองโดยไมตองไปงอบริษัทที่ขายเครื่อง เพราะเดี๋ยวนี้บรรดาโปรแกรม ระบบปฏิบัติการสมัยใหมอยางพวกตระกูลวินโดวสทั้งหลาย จะมีการทํางาน Plug-and-Play ทําหนาที่ตรวจสอบ และ
  • 12. ติดตั้งอุปกรณฮารดแวรใหอยางอัตโนมัตอยูแลว (หมายเหตุ แตหลายคนบอกวามันไมหมูอยางที่ไมโครซอฟทคุยหรอก เพราะลูกคาหลายคนที่ซื้อเครื่องคอมพิวเตอรไปแลว บอกวามันนาจะเรียก Plug-and-Pray หรือเสียบสายเสร็จแลวตอง ภาวนาใหมันไมมีปญหามากกวา) เมื่อระบบบัสนําสัญญาณแบบ FireWire USB มีขอดีมากมายขนาดนี้ หลายคนอาจจะนึกสงสัยวาทําไม มันถึงไมถูกนํามาใชแทนระบบบัส SCSI และ IDE ที่มีใชงานกันอยูในขณะนี้เสียเลย คําตอบ ก็คือมีความเปนไปไดสูง มากที่ระบบบัสแบบ SCSI และ IDE จะถูกแทนที่โดย FireWire USB ในอีกสักสองสามปขางหนา เพราะเทาที่ทราบ มี บริษัทผูผลิตคอมพิวเตอรชั้นนําสองสามรายเริ่มนําเอาระบบบัส FireWire USB มาใชกับผลิตภัณฑของตนบางแลว ยกตัวอยางเชน บริษัทโซนี่ และบริษัทคอมแพ็ค โดยเฉพาะบริษัทโซนี่นั้นถึงกับออกแบบมาตรฐาน FireWire ขึ้นมาเปน การเฉพาะสําหรับตนเองเลย เรียกวา "I. Link" (มีใชในผลิตภัณฑคอมพิวเตอรรุน VAIO PCG-505FX) อยางไรก็ตาม ใชวาอนาคตของมาตรฐานบัส FireWire USB จะไมมีอุปสรรคเสียเลยทีเดียว เพราะถึง อยางไรมันก็ยังเปนเทคโนโลยีที่มีตนทุนแพงอยู อีกทั้งยังไมมีชิปซีพียู และชุดชิปสําเร็จรูปมารองรับการทํางานของมัน (กวาบริษัทอินเทลจะเริ่มติดตั้งมาตรฐานบัส FireWire USB ใหกับชุดชิปสําเร็จรูปของตนก็ตองพนเดือนมิถุนายนปนี้ไป แลวเปนอยางเร็ว) ในระหวางนี้ บรรดาบริษัทผูผลิตคอมพิวเตอรทั่วไปก็คงตองหาทางเพิ่มความเร็วใหกับมาตรฐานบัส SCSI หรือ IDE ที่มีอยูเดิมกันไปกอน เหมือนอยางบริษัทควอนตัมเทคโนโลยีก็จัดการปรับเปลี่ยนมาตรฐานการ อินเทอรเฟซจาก ATA-33 ไปเปน ATA-66 พรอมกับคุยโอวามันจะสงผลใหการรับ/สงขอมูลระหวางอุปกรณประกอบ ระบบกับซีพียูเพิ่มขึ้นเปนเทาตัว (ไมเคิล เดสมอนด เตือนวาอานขอมูลจากตรงนี้แลวอยาเพิ่งรีบไปซื้ออุปกรณมาตรฐาน ATA-66 มาเสียหละ เพราะเทาที่เปนอยู มาตรฐาน ATA-33 ก็สามารถ รองรับปริมาณขอมูลมากๆ ดวยความเร็วพอประมาณอยูแลว) ผลจากพัฒนาการของมาตรฐานบัส FireWire USB ยัง สงผลใหเกิดมาตรฐานอุปกรณคอมพิวเตอรรูปแบบใหมขึ้นมาอีกอยาง นั่น คือ "ฐานรองอุปกรณ" หรือ "device bay" สําหรับใชเสียบอุปกรณ ประกอบระบบภายใตมาตรฐาน Plug-and-Play โดยเฉพาะ เรียกวาตอไป ผูใชคอมพิวเตอรก็ไมตองมาวุนวายกับการถอด/เสียบสายสัญญาณเขากับ ดานหลังเครื่อง รวมทั้งไมตองมาเสียเวลาระบุพอรตระบุประเภทอุปกรณกัน ตอนติดตั้งระบบ (set up) ใหวุนวายอีกตอไป เพราะแคมีผลิตภัณฑฐานรองอุปกรณที่วานี้เพียงตัวเดียว เวลาจะใชงาน อุปกรณประกอบระบบชนิดไหนก็เอามาเสียบเขาบนฐานรองอุปกรณไดทันที ทั้งสะดวกและมากประโยชน ที่สําคัญ ตอไปอาจจะไมจําเปนตองมีการสํารองขอมูลใสฟลอปปดิสกไวใหมากมายเกินเหตุ เพราะเราสามารถจะถอดเอา ฮารดดิสกไปเสียบเขากับเครื่องคอมพิวเตอรเครื่องนั้นเครื่องนี้ผานทางฐานรองอุปกรณไดตามความพอใจ อันนี้ตองชมเจาของไอเดีย "ฐานรองอุปกรณ" วาเขาใจคิดจริงๆ และถาจะใหไอเดียเรื่องฐานรอง อุปกรณบรรเจิดยิ่งขึ้นไปกวานี้ ก็นาจะลองฟงความเห็นของ มารติน เรยโนลด แหงบริษัทดาตาเควสทกันดูบาง เขาวา ไวนาฟงวา "ตอไป แมกระทั่งตัวชิปซีพียูเองก็อาจจะถูกออกแบบใหติดตั้งเขากับฐานเสียบลักษณะคลายๆ กับ device bay ไดดวย ซึ่งจะชวยใหเราสะดวกและประหยัดขึ้นมากเลยในการอัพเกรดเครื่องคอมพิวเตอร ลองคิดถึงเครื่อง คอมพิวเตอรที่ชิ้นสวนวงจรทุกชิ้นสามารถประกอบเขาดวยกันดวยฐานเสียบที่มีลักษณะเปนมาตรฐานสากลดูสิ ไมตอง
  • 13. เสียบสายเคเบิ้ล ไมตองขันสกรู และสุดทาย เราอาจจะลืมไปเลยก็ไดวาเคยมีคําวา "เปดฝาเครื่องคอมพิวเตอร" อยูบน โลกนี้มากอน" หนวยความจําสํารองแบบไหนเหมาะ ? เมื่อพูดถึงหนวยความจําสํารอง เรามักจะมองกันที่สองตัวหลัก คือ ฮารดดิสก และ ฟลอปปดิสก ซึ่ง ตรงนี้มีขอสังเกตุวามันมีวิวัฒนาการที่แตกตางกันอยางมโหฬาร เทียบใหเห็นงายๆ จากเมื่อสิบปกอนตอนที่ฮารดดิสกที่ ถูกติดตั้งมากับเครื่องคอมพิวเตอร 80386 มักจะมีขนาดความจุเทากับ 100 MB ขนาดความจุของฟลอปปดิสกมาตรฐาน ของเครื่องคือ 1.44 MB ตอมา สิบปใหหลัง เครื่องคอมพิวเตอรถูกพัฒนากลายมาเปนเพนเที่ยมทู และฮารดดิสกถูกเพิ่ม ขีดความจุขึ้นไป 16 GB หรือ 160 เทาตัว แตฟลอปปดิสกมาตรฐานก็ยังคงเปน 1.44 MB อยูเชนเดิม คําถามที่ปรากฏขึ้นมาในใจทันทีที่เห็นผลการเปรียบเทียบนี้ จึงมีอยูวา "เกิดอะไรขึ้นกับพัฒนาการของ ฟลอปปดิสก ?" มันเหมือนกับวาตลาดหนวยความจําสํารองชนิดพกพานั้นเปนตลาดสัมปทาน หรือจมปลักอยูในวังวนน้ํา เนาเชนเดียวกับละครทีวีเมืองไทย แตเมื่อเราคอยๆ วิเคราะหเจาะลึกลงไปในรายละเอียด ก็จะพบวาความจริงที่ นาสนใจวาตลาดฟลอปปดิสกไมเคยถูกผูกขาด และมีผลิตภัณฑที่พอจะเปนตัวเลือกอื่นๆ ใหเลือกซื้อหามาใชทดแทนได อยางมากมาย ไมวาจะเปน Iomega Zip, LS-120 SuperDisk, Syquest EZ Flyer หรือจนแมกระทั่งที่กําลังเขียน บทความนี้อยู ก็ทราบวาทางบริษัทโซนี่กําลังเข็นผลิตภัณฑฟลอปปดิสกชนิดใหมความจุสูงถึง 200 MB ออกมาภายใตชื่อ วา HiFD คําตอบที่ผูเขียนมีใหกับตัวเองในขณะนี้ จึงกลายเปนวา ฟลอปปดิสก ขนาด 1.44 MB นั้นคือจุดลงตัวพอดีสําหรับผูบริโภค ทั้งในแงความจุขอมูลที่ไมมากไมนอย เกินไป ทั้งในแงราคาจําหนายที่ถูกลงไปเปนอยางมากตลอดชวงระยะเวลาสิบป และหาก จะมีผลิตภัณฑใดถูกนํามาแทนที่ฟลอปปดิสก ผลิตภัณฑดังกลาวก็จะตองตอบสนองตอความตองการเรื่องความสะดวก ในการบันทึกซ้ํา และราคาจําหนายที่ยอมเยาพอ ยกตัวอยางเชนมีหลายคนมองวาซีดีรอมนาจะถูกนํามาใชทดแทน ฟลอปปดิสกไดเพราะพกพาสะดวก และมีขนาดความจุขอมูลสูงมาก แตซีดีรอมก็ยังมีปญหาอยูตรงที่ไมสะดวกในการ บันทึกซ้ํา (ซีดีรอมเหมาะกับการผลิตแบบใชเครื่องจักรปมออกมาที่ละเปนรอยเปนพันแผน เหมือนพวกแผนละเมิดลิข สิทธที่มีอยูเกรอแถวคลองถมและพันทิพยขณะนี้) อยางไรก็ตาม อาจจะมีคนแยงวาเดี๋ยวนี้มีซีดีรอมชนิดบันทึกซ้ํา (CD-RW) ใหเลือกใชไดแลว แตก็อีก นั่นแหละ ราคาของเครื่องอาน/บันทึกแผน CD-RW ก็ยังคงมีราคาคอนขางสูงมากอยูดี และจากความไมสะดวกตอการ บันทึกซ้ําของหนวยความจําสํารองชนิดที่ใชแสงเลเซอรเปนตัวอานสัญญาณอยางพวกซีดีรอมนี่เอง ทําใหเชื่อไดวา ผลิตภัณฑหนวยความจําสํารองกลุมที่ใชสนามแมเหล็กเปนตัวเก็บขอมูลอยางพวกฮารดดิสก และฟลอปปดิสกจะยังคงมี อนาคตที่ยาวนานตอไปอีกพอสมควร ในปหนาคือ ค.ศ. 2000 นั้น ไดยินวาฮารดดิสกจะไดรับการพัฒนาไปใหมีความจุ 50 GB และจะจุเพิ่มขึ้นไปอีกไปเปน 75 GB หรือ 100 GB ในป ค.ศ. 2001 "โนตบุค" บางขนาดไหนถึงจะเฉียบ ปญหาสําคัญในการพัฒนาอุปกรณโนตบุค ซึ่งเปนที่รับรูกันมานานนับตั้งแตมันไดรับการประดิษฐคิดคน ขึ้นมา คือ ทําอยางไรถึงจะคงสมรรถนะและความสะดวกสบายในการใชงานไวได ในขณะที่ตองพยายามลดขนาดและ