SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  14
Télécharger pour lire hors ligne
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสาคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์


ความหมายและความสาคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
         เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีผลกระทบต่อความเจริญก้าวหน้าของสังคม ปัจจุบันเทคโนโลยี
ด้านนี้มีการ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงเป็นเรื่องยากที่ประชาชนจะคอยติดตามความก้าวหน้า
อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการศึกษาเทคโนโลยี ของคอมพิวเตอร์ จึงต้องศึกษาหลักการและเนื้อหา
พื้นฐานเป็นสาคัญ        การศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งจาเป็นเสมือนกับการศึกษา
วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ คอมพิวเตอร์ได้เปลี่ยนแปลง โลกของเราในด้านต่างๆ มากมาย ได้แก่
1. สังคมโดยส่วนใหญ่เปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมเป็นสังคมสารสนเทศ
2. การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มักขึ้นอยู่กับข้อมูลซึ่งได้จากระบบคอมพิวเตอร์
3. คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องมือที่สาคัญแทนเครื่องมืออื่นๆ ในอดีต เช่น เครื่องพิมพ์ดีด เครื่อง
คิดเลข เป็นต้น
4. คอมพิวเตอร์ถูกใช้ในการออกแบบสถานการณ์หรือปัญหาที่ซับซ้อนต่างๆ
5. คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในงานติดต่อสื่อสารของโลกปัจจุบัน
       การศึกษาด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีขึ้น เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจใน
วิทยาการคอมพิวเตอร์ และมีความสามารถในการพัฒนาโปรแกรมได้ การจัดทาโครงงาน
คอมพิวเตอร์จะเป็นสิ่งที่ทาให้ผู้เรียน สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้อย่างสมบูรณ์ จุดมุ่งหมายที่
สาคัญประการหนึ่งของการเรียน
        การสอน คอมพิวเตอร์ ในโรงเรียน คือ การที่ผู้เรียนได้มีโอกาสนาความรู้เกี่ยวกับ
คอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเอง ซึ่ง
วิธีการที่มีประสิทธิภาพมากวิธีหนึ่งคือการทาโครงงานคอมพิวเตอร์
       โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ในการศึกษา ทดลอง
แก้ปัญหาต่างๆ เพื่อนาผลงานที่ได้มาประยุกต์ใช้งานจริง หรือเพื่อใช้ช่วยสร้างสื่อเสริมการเรียน
การสอนให้มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โครงงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้
ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งเครื่องมือต่างๆใน
การแก้ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาเจตคติในการสร้างผลงาน
         โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ผู้เรียนสามารถศึกษาปัญหาที่ตนสนใจ ซึ่งอาจเป็น
ปัญหาที่ต้องใช้ความรู้ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาผสมผสานกัน ซึ่งบางโครงงานอาจต้องใช้ความรู้
อื่นๆ มาร่วมด้วย โดยผู้เรียนจะต้องวางแผนการดาเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรมหรืออุปกรณ์ที่
เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน              โครงงานบางเรื่องอาจต้องการวัสดุ
อุปกรณ์นอกเหนือจากที่มีอยู่ ซึ่งผู้เรียนจะต้องพัฒนาขึ้น หรือดัดแปลงเพื่อให้ใช้งานได้ตรงกับ
ความต้องการ โดยในการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์จะอยู่ภายใต้การดูแลและให้คาปรึกษาของ
ผู้สอน และผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ
         การทาโครงงานและการจัดงานแสดงโครงงานคอมพิวเตอร์จะมีคุณค่าต่อการฝึกฝนให้
ผู้เรียนมีความรู้ ความชานาญ และมีทักษะในการนาระบบคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา
ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเองดังที่ได้กล่าวมาแล้ว และยังมีคุณค่าอื่นๆ
อีกดังต่อไปนี้
· เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พัฒนาและแสดงความสามารถตามศักยภาพของตนเอง
· เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า และเรียนรู้ในเรื่องที่ผู้เรียนสนใจได้ลึกซึ้งกว่าการเรียนใน
ห้องตามปกติ
·ส่งเสริมและพัฒนากระบวนการคิด การแก้ปัญหา การตัดสินใจ รวมทั้งการสื่อสารระหว่างกัน
· กระตุ้นให้ผู้เรียนมีความสนใจในการศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ              และมีความสนใจที่จะ
ประกอบอาชีพทางด้านนี้
· ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์
· สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนและชุมชน รวมทั้งส่งเสริมให้ชุมชนสนใจคอมพิวเตอร์
และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมากขึ้น
· สร้างสานึกและความรับผิดชอบในการศึกษาและพัฒนาระบบด้วยตนเอง
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
       ประเภทของโครงงาน
1.โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
         ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อ
การศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บท
ทบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน
โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนา
บทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้น
เพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อใน
การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริย
จักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของประเทศ
ไทย เป็นต้น
2.โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
        โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วย สร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วน
ใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมอง
วัตถุในมุมต่างๆ เป็นต้นสาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคา
ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป
พัฒนาขึ้นเพื่ออานวยความสะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้ โดยง่าย สา
หรับซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สาหรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้วาด
แจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่าและ
ภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก
3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
          โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จาลองการทดลองของสาขา
ต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็น
โครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งใน
เรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิดแบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ
หรือคาอธิบาย พร้อมทั้งการจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะ
เปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทาให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงาน
ประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี
เช่นการทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการ
ทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
4.โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
       โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้
งานจริงในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร
ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะ
มีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้น
ใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้
จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และ
พัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์
แล้ว
ปรับ     ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์   โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
5.โครงงานพัฒนาโปแกรมประยุกต์
          โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้หรือเพื่อความ เพลิดเพลิน
เกมที่พัฒนาควรจะเป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงาน
ประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้
ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มี
อยู่ทั่วไป และนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่น
กลุ่มต่างๆ
       ขอบข่ายของโครงงาน
       ดาเนินงานโดยนักเรียน เป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ และครูอาจารย์ เป็นผู้ให้คาแนะนาปรึกษามี
องค์ประกอบดังนี้
1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการทาง
ทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว
2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาค
เรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเอง
ตามความถนัดสนใจ และความพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปลผล รายงาน
ผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กาหนดไว้
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งการ
ใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
3.ความสามารถในการแก้ปัญหา เกิดจากการที่ผู้เรียนวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจ และอธิบายปัญหา
ทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู้ ทักษะ และการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับการแก้ไข
ปัญหา
4.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เกิดจากการที่ผู้เรียนได้นาความรู้และกระบวนการต่าง ๆ ไป
ใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการ
พัฒนาโครงงาน ก่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อันนาไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต
5.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เกิดจากการที่ผู้เรียนสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
ในการแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และมีคุณธรรม


http://www.slideshare.net/Phkphoom/3-13694340
ใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา”
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
         ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อ
การศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บท
ทบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน
โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนา
บทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้น
เพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อใน
การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริย
จักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของประเทศ
ไทย เป็นต้น
ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาเครื่องมือ”
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
        โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วยสร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วน
ใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมอง
วัตถุในมุมต่างๆ เป็นต้น สาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคา
ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาด
รูป พัฒนาขึ้นเพื่ออานวยความสะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้โดยง่าย
สาหรับซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สาหรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้
วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่า
และภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก เป็น
ต้น
ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี”
โครงงานจาลองทฤษฏี
          โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการจาลองการทดลองของสาขา
ต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็น
โครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งใน
เรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ
หรือคาอธิบาย พร้อมทั้งจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไป
ตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทาให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงานประเภทนี้มี
จุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การ
ทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลอง
เรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภท “การประยุกต์ใช้งาน”
โครงงานประยุกต์ใช้งาน
       โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้
งานจริงในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร
ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะ
มีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้น
ใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้
จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และ
พัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์
แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์”
โครงงานพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
          โครงงานพัฒนาเกมเป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ และ/หรือ ความ
เพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรุก เกมทายคาศัพท์ และเกมการคานวณเลข เป็นต้น ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้น
นี้น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกความคิดอย่างมีหลักการ โครงงาน
ประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้
ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มี
อยู่ทั่วไป และนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่น
กลุ่มต่างๆ
การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์นั้น ผู้เรียนควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการทางานของเครื่อง
คอมพิวเตอร์ หลักการที่ใช้ในการแก้ปัญหา กระบวนการแก้ปัญหา หลักการเขียนโปรแกรม และ
การแทนข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ก่อนที่จะเริ่มทาโครงงาน และใช้ความรู้ดังกล่าวเป็นพื้นฐานในการ
สร้างความรู้ใหม่ในโครงงานคอมพิวเตอร์ โดยในการทาโครงงานผู้เรียนอาจจะมีโอกาสได้ทาความ
รู้จักกับความรู้ใหม่เพิ่มเติมอีกด้วย เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) การออกแบบ
ฐานข้อมูล (Database Design) และการสืบค้นข้อมูล (Information Retrieval) เป็นต้น ซึ่งจะ
ขึ้นอยู่กับหัวข้อที่ผู้เรียนเลือกทาโครงงาน
http://krumewstp.wordpress.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A0
%E0%B8%97%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%
87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B
8%B4%E0%B8%A7/
ใบงานที่ 9 เรื่อง ปัญหาและความจาเป็นในการทาโครงงาน
                     -----------------------------------------------------------------------------

      ให้นักเรียนคิดหาคาตอบว่า เราทาสิ่งต่อไปนี้เพื่อแก้ปัญหาอะไร ? ได้ประโยชน์อย่างไร ?


กิจกรรมต่อไปนี้ปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาอะไร ? ได้ประโยชน์อย่างไร ?
1. ไปเที่ยวศูนย์การค้า เพื่อแก้ปัญหา          การเกิดความเครียด ต้องการพักผ่อน และซื้อเครื่องใช้ประจาตัว
                         ได้ประโยชน์ คือ เพื่อขจัดความเครียด ได้พักผ่อนและได้เครื่องใช้ประจาตัว


2. ทาความสะอาดบ้าน เพื่อแก้ปัญหา บ้านสกปรก ป้องกันเชื้อโรค
                         ได้ประโยชน์ คือ บ้านสะอาด ออกกาลังกายสุขภาพแข็งแรงบ้านไม่มีเชื้อโรค.


3. ดูทีวี                เพื่อแก้ปัญหา        ความตึงเครียด
                         ได้ประโยชน์ คือ มีความรู้ รู้ทันโลกภายนอก มีความบันเทิง


4. ซื้อจักรยานยนต์       เพื่อแก้ปัญหา        รถติด น้ามันแพง
                         ได้ประโยชน์ คือ ไปที่ใกล้ได้รวดเร็ว เข้าช่องแคบๆ


5. ทานา                  เพื่อแก้ปัญหา        ไม่มีข้าวกิน
                         ได้ประโยชน์ คือ มีข้าวกิน ประหยัด ปลอดภัย


6. มาเรียนหนังสือ        เพื่อแก้ปัญหา        โง่ ไม่มีงานทา
                         ได้ประโยชน์ คือ มีความรู้
7. ตั้งใจเรียน เพื่อแก้ปัญหา   เรียนไม่รู้เรื่อง
              ได้ประโยชน์ คือ เก่ง มีความรู้ มีคนเชื่อถือ


8. เรียนภาษาอังกฤษ เพื่อแก้ปัญหา         สื่อสารกับชาวต่างชาติรู้เรื่อง
                       ได้ประโยชน์ คือ สื่อสารได้หลายภาษา


9. เรียนคอมพิวเตอร์ เพื่อแก้ปัญหา        การล่าช้า
                       ได้ประโยชน์ คือ มีความรวดเร็ว ง่าย


10. สมัครงาน เพื่อแก้ปัญหา     ไม่มีงานทา
              ได้ประโยชน์ คือ มีเงินใช้ ไม่ตาย
ใบงานที่ 10 เรื่อง คิดวิเคราะห์สร้างทางเลือก และเกณฑ์ที่ใช้
                             --------------------------------------------------------------
        ให้นักเรียนสร้างทางเลือกอย่างหลากหลาย โดยเลือกวิธีที่ทากิจกรรมที่กาหนดให้ต่อไปนี้


ให้นักเรียนเลือกกระบวนการหรือกิจกรรมที่ต้องน่าจะทาได้ เมื่อทากิจกรรมต่อไปนี้
        1. ปลูกไม้ดอกไม้ประดับที่บ้าน (ต้องตอบให้ครบทุกวิธี)
        วิธีที่ 1 ปลูกในกระถางดินเผา
                 เกณฑ์ที่เลือกใช้ ... พื้นที่มีจากัด ...
        วิธีที่ 2 ปลูกในกระบะไม้
                 เกณฑ์ที่เลือกใช้ ...เป็นไม้ที่สามารถปลูกในกระบะได้
        วิธีที่ 3 ปลูกในร่องสวน
                 เกณฑ์ที่เลือกใช้ ปลูกพืชที่ทีรากแข็งแรงติดหน้าดิน
        วิธีที่ 4 ปลูกพื้นที่ข้างบ้าน
                 เกณฑ์ที่เลือกใช้ ต้นไม้แข็งแรงขนาดเล็กกิ่งก้านน้อยป้องกันการรบกวนของเพื่อนบ้าน
        2. เก็บอาหารให้อยู่ได้นาน ๆ (ต้องตอบให้ครบทุกวิธี)
        วิธีที่ 1 ดองเค็ม
                 เกณฑ์ที่เลือกใช้ อาหารที่ต้องเก็บไว้นานๆ
        วิธีที่ 2 ตากแห้ง
                 เกณฑ์ที่เลือกใช้ อาหารที่ต้องเก็บไว้นานมาก
        วิธีที่ 3 รมควัน
                 เกณฑ์ที่เลือกใช้ อาหารที่มีการเน่าเหม็นง่าย
        วิธีที่ 4 แช่เย็น
เกณฑ์ที่เลือกใช้ ต้องการอาหารสด เก็บรัยะเวลาสั้น
3. ตกแต่งห้องเรียนให้สวยงาม (ต้องตอบให้ครบทุกวิธี)
วิธีที่ 1 บริเวณหน้าห้องเรียน
         เกณฑ์ที่เลือกใช้ สะอาด ไม่มีขยะเรี่ราด
วิธีที่ 2 บริเวณหลังห้องเรียน
         เกณฑ์ที่เลือกใช้ ตกแต่งให้สวยงาม
วิธีที่ 3 บริเวณกลางห้อง
         เกณฑ์ที่เลือกใช้ ใช้พื้นที่โล่งบนเพดาน
วิธีที่ 4 บนเพดาน
         เกณฑ์ที่เลือกใช้ ไม่มียักใย่สกปรกเกาะ
4. ข้าวเหนียวหมูปิ้ง
(ข้อนี้ ให้นักเรียนกาหนดกิจกรรมเอง 1 กิจกรรม ต้องตอบให้ครบทุกวิธี )
วิธีที่ 1 ซื้อที่ใกล้ๆบ้าน หรือโรงเรียน.
         เกณฑ์ที่เลือกใช้ มีอยู่ร้านเดียว
วิธีที่ 2 ทาเอง.
         เกณฑ์ที่เลือกใช้ ราคาถูก ปลอดภัย รสชาติตามใจ
วิธีที่ 3 ฝากเพื่อนซื้อระหว่างเพื่อนเดินทาง.
         เกณฑ์ที่เลือกใช้ ร้านที่เพื่อนซื้อเป็นร้านที่อร่อยสาหรับเพื่อน
วิธีที่ 4 ซื้อจากร้านสะดวกซื้อ7-11.
         เกณฑ์ที่เลือกใช้ หาง่าย กินง่าย

Contenu connexe

Tendances

สื่อการสอนม.6
สื่อการสอนม.6สื่อการสอนม.6
สื่อการสอนม.6
Tanatchapan Jakmanee
 
โครงงานคอม 60435
โครงงานคอม 60435โครงงานคอม 60435
โครงงานคอม 60435
Praw Vanitt
 
ใบความรู้ที่ 1
ใบความรู้ที่ 1ใบความรู้ที่ 1
ใบความรู้ที่ 1
Rattana Wongphu-nga
 
ใบงานคอมพ วเตอร 2-8
ใบงานคอมพ วเตอร  2-8 ใบงานคอมพ วเตอร  2-8
ใบงานคอมพ วเตอร 2-8
Peeranut Poungsawud
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
premmanu
 
ใบงาน2-8
ใบงาน2-8ใบงาน2-8
ใบงาน2-8
ApisitIce
 
งานยิม
งานยิมงานยิม
งานยิม
YIMMIE89
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
Mymi Santikunnukan
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
Ppt Itwc
 
งานคอมใบ 2 8
งานคอมใบ 2 8งานคอมใบ 2 8
งานคอมใบ 2 8
Puping Warakorn
 
โครงงานคอมพ วเตอร 2-8
โครงงานคอมพ วเตอร  2-8โครงงานคอมพ วเตอร  2-8
โครงงานคอมพ วเตอร 2-8
Prom Pan Pluemsati
 

Tendances (17)

ใบงาน 2-8
ใบงาน 2-8ใบงาน 2-8
ใบงาน 2-8
 
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
 
คอม
คอมคอม
คอม
 
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8
 
สื่อการสอนม.6
สื่อการสอนม.6สื่อการสอนม.6
สื่อการสอนม.6
 
โครงงานคอม 60435
โครงงานคอม 60435โครงงานคอม 60435
โครงงานคอม 60435
 
ใบความรู้ที่ 1
ใบความรู้ที่ 1ใบความรู้ที่ 1
ใบความรู้ที่ 1
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
ใบความรู้ที่ 2 ขั้นตอนการพัฒนาโครงงาน
ใบความรู้ที่ 2 ขั้นตอนการพัฒนาโครงงานใบความรู้ที่ 2 ขั้นตอนการพัฒนาโครงงาน
ใบความรู้ที่ 2 ขั้นตอนการพัฒนาโครงงาน
 
ใบงานคอมพ วเตอร 2-8
ใบงานคอมพ วเตอร  2-8 ใบงานคอมพ วเตอร  2-8
ใบงานคอมพ วเตอร 2-8
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงาน2-8
ใบงาน2-8ใบงาน2-8
ใบงาน2-8
 
งานยิม
งานยิมงานยิม
งานยิม
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
งานคอมใบ 2 8
งานคอมใบ 2 8งานคอมใบ 2 8
งานคอมใบ 2 8
 
โครงงานคอมพ วเตอร 2-8
โครงงานคอมพ วเตอร  2-8โครงงานคอมพ วเตอร  2-8
โครงงานคอมพ วเตอร 2-8
 

En vedette (14)

1332
13321332
1332
 
เฉลยคณิต
เฉลยคณิตเฉลยคณิต
เฉลยคณิต
 
M6 social-2551
M6 social-2551M6 social-2551
M6 social-2551
 
Pat อนุกรมเรขาคณิต
Pat อนุกรมเรขาคณิตPat อนุกรมเรขาคณิต
Pat อนุกรมเรขาคณิต
 
โครงงาน คอม
โครงงาน คอมโครงงาน คอม
โครงงาน คอม
 
โครงงานออกแบบ
โครงงานออกแบบโครงงานออกแบบ
โครงงานออกแบบ
 
Pat2 มี.ค. 55
Pat2 มี.ค. 55Pat2 มี.ค. 55
Pat2 มี.ค. 55
 
Pat2 ธ.ค. 54
Pat2 ธ.ค. 54Pat2 ธ.ค. 54
Pat2 ธ.ค. 54
 
เฉลย Pat2 55
เฉลย Pat2 55เฉลย Pat2 55
เฉลย Pat2 55
 
Pat 2 ตุลา2555
Pat 2  ตุลา2555 Pat 2  ตุลา2555
Pat 2 ตุลา2555
 
ข้อสอบ Pat 2 (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ)
ข้อสอบ Pat 2 (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ)ข้อสอบ Pat 2 (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ)
ข้อสอบ Pat 2 (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ)
 
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครูPat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
 
Pat2 มี.ค. 57
Pat2 มี.ค. 57Pat2 มี.ค. 57
Pat2 มี.ค. 57
 
กสพท. สังคม 2559
กสพท. สังคม 2559กสพท. สังคม 2559
กสพท. สังคม 2559
 

Similaire à K2

งานคอมค
งานคอมค  งานคอมค
งานคอมค
Kaka619
 
ใบงานที่2 8
ใบงานที่2 8ใบงานที่2 8
ใบงานที่2 8
Pornthip Nabnain
 
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ !!!
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ !!!ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ !!!
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ !!!
Amp'Amp Kankamols
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
dream051
 
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
Phkphoom
 
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงานใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
Warunchai Chaipunya
 
.ใบงานที่2
.ใบงานที่2.ใบงานที่2
.ใบงานที่2
Yokyok' Nnp
 
ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2
berry green
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Kanjanaporn Thompat
 

Similaire à K2 (20)

งานคอมค
งานคอมค  งานคอมค
งานคอมค
 
ใบงานที่2 8
ใบงานที่2 8ใบงานที่2 8
ใบงานที่2 8
 
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ !!!
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ !!!ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ !!!
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ !!!
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
K2
K2K2
K2
 
3 120719083921-phpapp01
3 120719083921-phpapp013 120719083921-phpapp01
3 120719083921-phpapp01
 
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงานที่ 2.1
ใบงานที่ 2.1ใบงานที่ 2.1
ใบงานที่ 2.1
 
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงานใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
 
.ใบงานที่2
.ใบงานที่2.ใบงานที่2
.ใบงานที่2
 
Gor2
Gor2Gor2
Gor2
 
K2jess
K2jessK2jess
K2jess
 
2
22
2
 
3
33
3
 
ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2
 
2
22
2
 
2
22
2
 
2
22
2
 
2
22
2
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 

Plus de Suwaraporn Chaiyajina

Pat7.4ความถนัดทางภาษาจีน
Pat7.4ความถนัดทางภาษาจีนPat7.4ความถนัดทางภาษาจีน
Pat7.4ความถนัดทางภาษาจีน
Suwaraporn Chaiyajina
 
Pat7.3 ความถนัดทางภาษาญี่ปุ่น
Pat7.3 ความถนัดทางภาษาญี่ปุ่นPat7.3 ความถนัดทางภาษาญี่ปุ่น
Pat7.3 ความถนัดทางภาษาญี่ปุ่น
Suwaraporn Chaiyajina
 
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
Suwaraporn Chaiyajina
 
Pat2ความถนัดทางวิทยาศาสตร์
Pat2ความถนัดทางวิทยาศาสตร์Pat2ความถนัดทางวิทยาศาสตร์
Pat2ความถนัดทางวิทยาศาสตร์
Suwaraporn Chaiyajina
 
Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
Suwaraporn Chaiyajina
 
Gatความถนัดทั่วไป
Gatความถนัดทั่วไปGatความถนัดทั่วไป
Gatความถนัดทั่วไป
Suwaraporn Chaiyajina
 
Pat7.6 ความถนัดทางภาษาบาลี
Pat7.6 ความถนัดทางภาษาบาลีPat7.6 ความถนัดทางภาษาบาลี
Pat7.6 ความถนัดทางภาษาบาลี
Suwaraporn Chaiyajina
 
Gatความถนัดทั่วไป
Gatความถนัดทั่วไปGatความถนัดทั่วไป
Gatความถนัดทั่วไป
Suwaraporn Chaiyajina
 

Plus de Suwaraporn Chaiyajina (9)

Pat7.4ความถนัดทางภาษาจีน
Pat7.4ความถนัดทางภาษาจีนPat7.4ความถนัดทางภาษาจีน
Pat7.4ความถนัดทางภาษาจีน
 
Pat7.3 ความถนัดทางภาษาญี่ปุ่น
Pat7.3 ความถนัดทางภาษาญี่ปุ่นPat7.3 ความถนัดทางภาษาญี่ปุ่น
Pat7.3 ความถนัดทางภาษาญี่ปุ่น
 
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
 
Pat2ความถนัดทางวิทยาศาสตร์
Pat2ความถนัดทางวิทยาศาสตร์Pat2ความถนัดทางวิทยาศาสตร์
Pat2ความถนัดทางวิทยาศาสตร์
 
Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
 
Gatความถนัดทั่วไป
Gatความถนัดทั่วไปGatความถนัดทั่วไป
Gatความถนัดทั่วไป
 
Pat7.6 ความถนัดทางภาษาบาลี
Pat7.6 ความถนัดทางภาษาบาลีPat7.6 ความถนัดทางภาษาบาลี
Pat7.6 ความถนัดทางภาษาบาลี
 
Gatความถนัดทั่วไป
Gatความถนัดทั่วไปGatความถนัดทั่วไป
Gatความถนัดทั่วไป
 
K11
K11K11
K11
 

K2

  • 1. ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสาคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ ความหมายและความสาคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีผลกระทบต่อความเจริญก้าวหน้าของสังคม ปัจจุบันเทคโนโลยี ด้านนี้มีการ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงเป็นเรื่องยากที่ประชาชนจะคอยติดตามความก้าวหน้า อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการศึกษาเทคโนโลยี ของคอมพิวเตอร์ จึงต้องศึกษาหลักการและเนื้อหา พื้นฐานเป็นสาคัญ การศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งจาเป็นเสมือนกับการศึกษา วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ คอมพิวเตอร์ได้เปลี่ยนแปลง โลกของเราในด้านต่างๆ มากมาย ได้แก่ 1. สังคมโดยส่วนใหญ่เปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมเป็นสังคมสารสนเทศ 2. การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มักขึ้นอยู่กับข้อมูลซึ่งได้จากระบบคอมพิวเตอร์ 3. คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องมือที่สาคัญแทนเครื่องมืออื่นๆ ในอดีต เช่น เครื่องพิมพ์ดีด เครื่อง คิดเลข เป็นต้น 4. คอมพิวเตอร์ถูกใช้ในการออกแบบสถานการณ์หรือปัญหาที่ซับซ้อนต่างๆ 5. คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในงานติดต่อสื่อสารของโลกปัจจุบัน การศึกษาด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีขึ้น เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจใน วิทยาการคอมพิวเตอร์ และมีความสามารถในการพัฒนาโปรแกรมได้ การจัดทาโครงงาน คอมพิวเตอร์จะเป็นสิ่งที่ทาให้ผู้เรียน สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้อย่างสมบูรณ์ จุดมุ่งหมายที่ สาคัญประการหนึ่งของการเรียน การสอน คอมพิวเตอร์ ในโรงเรียน คือ การที่ผู้เรียนได้มีโอกาสนาความรู้เกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเอง ซึ่ง วิธีการที่มีประสิทธิภาพมากวิธีหนึ่งคือการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ในการศึกษา ทดลอง แก้ปัญหาต่างๆ เพื่อนาผลงานที่ได้มาประยุกต์ใช้งานจริง หรือเพื่อใช้ช่วยสร้างสื่อเสริมการเรียน การสอนให้มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โครงงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้
  • 2. ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งเครื่องมือต่างๆใน การแก้ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาเจตคติในการสร้างผลงาน โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ผู้เรียนสามารถศึกษาปัญหาที่ตนสนใจ ซึ่งอาจเป็น ปัญหาที่ต้องใช้ความรู้ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาผสมผสานกัน ซึ่งบางโครงงานอาจต้องใช้ความรู้ อื่นๆ มาร่วมด้วย โดยผู้เรียนจะต้องวางแผนการดาเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรมหรืออุปกรณ์ที่ เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน โครงงานบางเรื่องอาจต้องการวัสดุ อุปกรณ์นอกเหนือจากที่มีอยู่ ซึ่งผู้เรียนจะต้องพัฒนาขึ้น หรือดัดแปลงเพื่อให้ใช้งานได้ตรงกับ ความต้องการ โดยในการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์จะอยู่ภายใต้การดูแลและให้คาปรึกษาของ ผู้สอน และผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ การทาโครงงานและการจัดงานแสดงโครงงานคอมพิวเตอร์จะมีคุณค่าต่อการฝึกฝนให้ ผู้เรียนมีความรู้ ความชานาญ และมีทักษะในการนาระบบคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเองดังที่ได้กล่าวมาแล้ว และยังมีคุณค่าอื่นๆ อีกดังต่อไปนี้ · เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พัฒนาและแสดงความสามารถตามศักยภาพของตนเอง · เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า และเรียนรู้ในเรื่องที่ผู้เรียนสนใจได้ลึกซึ้งกว่าการเรียนใน ห้องตามปกติ ·ส่งเสริมและพัฒนากระบวนการคิด การแก้ปัญหา การตัดสินใจ รวมทั้งการสื่อสารระหว่างกัน · กระตุ้นให้ผู้เรียนมีความสนใจในการศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และมีความสนใจที่จะ ประกอบอาชีพทางด้านนี้ · ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ · สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนและชุมชน รวมทั้งส่งเสริมให้ชุมชนสนใจคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมากขึ้น · สร้างสานึกและความรับผิดชอบในการศึกษาและพัฒนาระบบด้วยตนเอง
  • 3. ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน ประเภทของโครงงาน 1.โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อ การศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บท ทบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนา บทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้น เพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อใน การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริย จักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของประเทศ ไทย เป็นต้น 2.โครงงานพัฒนาเครื่องมือ โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วย สร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วน ใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมอง วัตถุในมุมต่างๆ เป็นต้นสาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออานวยความสะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้ โดยง่าย สา หรับซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สาหรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้วาด แจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่าและ ภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก 3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จาลองการทดลองของสาขา ต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็น โครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งใน เรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิดแบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ
  • 4. หรือคาอธิบาย พร้อมทั้งการจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะ เปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทาให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงาน ประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เช่นการทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการ ทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น 4.โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้ งานจริงในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะ มีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้น ใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้ จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และ พัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์ แล้ว ปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่อง คอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง 5.โครงงานพัฒนาโปแกรมประยุกต์ โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้หรือเพื่อความ เพลิดเพลิน เกมที่พัฒนาควรจะเป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงาน ประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มี อยู่ทั่วไป และนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่น กลุ่มต่างๆ ขอบข่ายของโครงงาน ดาเนินงานโดยนักเรียน เป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ และครูอาจารย์ เป็นผู้ให้คาแนะนาปรึกษามี องค์ประกอบดังนี้
  • 5. 1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการทาง ทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว 2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาค เรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่ 3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเอง ตามความถนัดสนใจ และความพร้อม 4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปลผล รายงาน ผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กาหนดไว้ 5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งการ ใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย 3.ความสามารถในการแก้ปัญหา เกิดจากการที่ผู้เรียนวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจ และอธิบายปัญหา ทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู้ ทักษะ และการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับการแก้ไข ปัญหา 4.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เกิดจากการที่ผู้เรียนได้นาความรู้และกระบวนการต่าง ๆ ไป ใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการ พัฒนาโครงงาน ก่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อันนาไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต 5.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เกิดจากการที่ผู้เรียนสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ในการแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และมีคุณธรรม http://www.slideshare.net/Phkphoom/3-13694340
  • 6. ใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา” โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อ การศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บท ทบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนา บทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้น เพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อใน การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริย จักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของประเทศ ไทย เป็นต้น
  • 7. ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาเครื่องมือ” โครงงานพัฒนาเครื่องมือ โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วยสร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วน ใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมอง วัตถุในมุมต่างๆ เป็นต้น สาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาด รูป พัฒนาขึ้นเพื่ออานวยความสะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้โดยง่าย สาหรับซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สาหรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้ วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่า และภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก เป็น ต้น
  • 8. ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี” โครงงานจาลองทฤษฏี โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการจาลองการทดลองของสาขา ต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็น โครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งใน เรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมทั้งจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไป ตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทาให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงานประเภทนี้มี จุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การ ทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลอง เรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
  • 9. ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภท “การประยุกต์ใช้งาน” โครงงานประยุกต์ใช้งาน โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้ งานจริงในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะ มีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้น ใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้ จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และ พัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์ แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่อง คอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • 10. ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์” โครงงานพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ โครงงานพัฒนาเกมเป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ และ/หรือ ความ เพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรุก เกมทายคาศัพท์ และเกมการคานวณเลข เป็นต้น ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้น นี้น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกความคิดอย่างมีหลักการ โครงงาน ประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มี อยู่ทั่วไป และนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่น กลุ่มต่างๆ การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์นั้น ผู้เรียนควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการทางานของเครื่อง คอมพิวเตอร์ หลักการที่ใช้ในการแก้ปัญหา กระบวนการแก้ปัญหา หลักการเขียนโปรแกรม และ การแทนข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ก่อนที่จะเริ่มทาโครงงาน และใช้ความรู้ดังกล่าวเป็นพื้นฐานในการ สร้างความรู้ใหม่ในโครงงานคอมพิวเตอร์ โดยในการทาโครงงานผู้เรียนอาจจะมีโอกาสได้ทาความ รู้จักกับความรู้ใหม่เพิ่มเติมอีกด้วย เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) การออกแบบ ฐานข้อมูล (Database Design) และการสืบค้นข้อมูล (Information Retrieval) เป็นต้น ซึ่งจะ ขึ้นอยู่กับหัวข้อที่ผู้เรียนเลือกทาโครงงาน http://krumewstp.wordpress.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A0 %E0%B8%97%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8% 87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B 8%B4%E0%B8%A7/
  • 11. ใบงานที่ 9 เรื่อง ปัญหาและความจาเป็นในการทาโครงงาน ----------------------------------------------------------------------------- ให้นักเรียนคิดหาคาตอบว่า เราทาสิ่งต่อไปนี้เพื่อแก้ปัญหาอะไร ? ได้ประโยชน์อย่างไร ? กิจกรรมต่อไปนี้ปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาอะไร ? ได้ประโยชน์อย่างไร ? 1. ไปเที่ยวศูนย์การค้า เพื่อแก้ปัญหา การเกิดความเครียด ต้องการพักผ่อน และซื้อเครื่องใช้ประจาตัว ได้ประโยชน์ คือ เพื่อขจัดความเครียด ได้พักผ่อนและได้เครื่องใช้ประจาตัว 2. ทาความสะอาดบ้าน เพื่อแก้ปัญหา บ้านสกปรก ป้องกันเชื้อโรค ได้ประโยชน์ คือ บ้านสะอาด ออกกาลังกายสุขภาพแข็งแรงบ้านไม่มีเชื้อโรค. 3. ดูทีวี เพื่อแก้ปัญหา ความตึงเครียด ได้ประโยชน์ คือ มีความรู้ รู้ทันโลกภายนอก มีความบันเทิง 4. ซื้อจักรยานยนต์ เพื่อแก้ปัญหา รถติด น้ามันแพง ได้ประโยชน์ คือ ไปที่ใกล้ได้รวดเร็ว เข้าช่องแคบๆ 5. ทานา เพื่อแก้ปัญหา ไม่มีข้าวกิน ได้ประโยชน์ คือ มีข้าวกิน ประหยัด ปลอดภัย 6. มาเรียนหนังสือ เพื่อแก้ปัญหา โง่ ไม่มีงานทา ได้ประโยชน์ คือ มีความรู้
  • 12. 7. ตั้งใจเรียน เพื่อแก้ปัญหา เรียนไม่รู้เรื่อง ได้ประโยชน์ คือ เก่ง มีความรู้ มีคนเชื่อถือ 8. เรียนภาษาอังกฤษ เพื่อแก้ปัญหา สื่อสารกับชาวต่างชาติรู้เรื่อง ได้ประโยชน์ คือ สื่อสารได้หลายภาษา 9. เรียนคอมพิวเตอร์ เพื่อแก้ปัญหา การล่าช้า ได้ประโยชน์ คือ มีความรวดเร็ว ง่าย 10. สมัครงาน เพื่อแก้ปัญหา ไม่มีงานทา ได้ประโยชน์ คือ มีเงินใช้ ไม่ตาย
  • 13. ใบงานที่ 10 เรื่อง คิดวิเคราะห์สร้างทางเลือก และเกณฑ์ที่ใช้ -------------------------------------------------------------- ให้นักเรียนสร้างทางเลือกอย่างหลากหลาย โดยเลือกวิธีที่ทากิจกรรมที่กาหนดให้ต่อไปนี้ ให้นักเรียนเลือกกระบวนการหรือกิจกรรมที่ต้องน่าจะทาได้ เมื่อทากิจกรรมต่อไปนี้ 1. ปลูกไม้ดอกไม้ประดับที่บ้าน (ต้องตอบให้ครบทุกวิธี) วิธีที่ 1 ปลูกในกระถางดินเผา เกณฑ์ที่เลือกใช้ ... พื้นที่มีจากัด ... วิธีที่ 2 ปลูกในกระบะไม้ เกณฑ์ที่เลือกใช้ ...เป็นไม้ที่สามารถปลูกในกระบะได้ วิธีที่ 3 ปลูกในร่องสวน เกณฑ์ที่เลือกใช้ ปลูกพืชที่ทีรากแข็งแรงติดหน้าดิน วิธีที่ 4 ปลูกพื้นที่ข้างบ้าน เกณฑ์ที่เลือกใช้ ต้นไม้แข็งแรงขนาดเล็กกิ่งก้านน้อยป้องกันการรบกวนของเพื่อนบ้าน 2. เก็บอาหารให้อยู่ได้นาน ๆ (ต้องตอบให้ครบทุกวิธี) วิธีที่ 1 ดองเค็ม เกณฑ์ที่เลือกใช้ อาหารที่ต้องเก็บไว้นานๆ วิธีที่ 2 ตากแห้ง เกณฑ์ที่เลือกใช้ อาหารที่ต้องเก็บไว้นานมาก วิธีที่ 3 รมควัน เกณฑ์ที่เลือกใช้ อาหารที่มีการเน่าเหม็นง่าย วิธีที่ 4 แช่เย็น
  • 14. เกณฑ์ที่เลือกใช้ ต้องการอาหารสด เก็บรัยะเวลาสั้น 3. ตกแต่งห้องเรียนให้สวยงาม (ต้องตอบให้ครบทุกวิธี) วิธีที่ 1 บริเวณหน้าห้องเรียน เกณฑ์ที่เลือกใช้ สะอาด ไม่มีขยะเรี่ราด วิธีที่ 2 บริเวณหลังห้องเรียน เกณฑ์ที่เลือกใช้ ตกแต่งให้สวยงาม วิธีที่ 3 บริเวณกลางห้อง เกณฑ์ที่เลือกใช้ ใช้พื้นที่โล่งบนเพดาน วิธีที่ 4 บนเพดาน เกณฑ์ที่เลือกใช้ ไม่มียักใย่สกปรกเกาะ 4. ข้าวเหนียวหมูปิ้ง (ข้อนี้ ให้นักเรียนกาหนดกิจกรรมเอง 1 กิจกรรม ต้องตอบให้ครบทุกวิธี ) วิธีที่ 1 ซื้อที่ใกล้ๆบ้าน หรือโรงเรียน. เกณฑ์ที่เลือกใช้ มีอยู่ร้านเดียว วิธีที่ 2 ทาเอง. เกณฑ์ที่เลือกใช้ ราคาถูก ปลอดภัย รสชาติตามใจ วิธีที่ 3 ฝากเพื่อนซื้อระหว่างเพื่อนเดินทาง. เกณฑ์ที่เลือกใช้ ร้านที่เพื่อนซื้อเป็นร้านที่อร่อยสาหรับเพื่อน วิธีที่ 4 ซื้อจากร้านสะดวกซื้อ7-11. เกณฑ์ที่เลือกใช้ หาง่าย กินง่าย