Ce diaporama a bien été signalé.
Le téléchargement de votre SlideShare est en cours. ×

Luangpoo lar

Publicité
Publicité
Publicité
Publicité
Publicité
Publicité
Publicité
Publicité
Publicité
Publicité
Publicité
Publicité

Consultez-les par la suite

1 sur 10 Publicité

Plus De Contenu Connexe

Diaporamas pour vous (20)

Publicité

Plus par MI (20)

Plus récents (19)

Publicité

Luangpoo lar

  1. 1. ศีล..ก็ตัดสินลงในกาย วาจา ใจ ตามข้อที่ทรงอนุญาตและข้อที่เว้น สมาธิ..ก็ตั้งมั่นลงที่กาย วาจา ใจ ปัญญา..ก็ให้รอบรู้ในกาย วาจา ใจ ไม่ให้เป็นโทษ สิ่งไหนที่เป็นโทษให้เว้น ทีนี้ศีล สมาธิ ปัญญา ก็รวมลงเป็นตัวเดียวกัน หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
  2. 2. ตายคาภาวนายังดีกว่าตายคานึกถึงสิ่งของ เวลาเราจะตาย เรานึกถึงสิ่งของอันใด ใจขาดด้วย ก็ไปเป็นเขียดกะปาดบ้าง อยู่ตามรั้วอยู่ตามไร่ตามนา ถ้าเรานึกถึงหลานคนนั้นคนนี้ แล้วก็ใจขาดคาที่นั่น เราไปเกิดเป็นเป็ดเป็นไก่เขาหรือเป็นหลานเขา เวลาจะตายสาคัญ อสัญกรรม กรรมเมื่อจวนเจียน หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
  3. 3. เวลาใกล้จะตายเห็นแสงไฟ ปรากฏเห็นแสงไฟมา ยังไม่คิดไปทางอื่นแล้วก็เลยตายในขณะนั้นก็ไปเกิดในนรก ถ้าเวลาใกล้จะตายปรากฏเห็นท่าน้าหรือป่าไม้ แล้วก็สิ้นลมปราณใน เวลานั้นยังไม่คิดไปทางอื่น ก็ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เวลาใกล้จะตายปรากฏว่ามืดมนอนธกาล มองไม่เห็นอะไรเลย คล้ายๆว่ากลางคืน สิ้นลมปราณในขณะนั้นก็ไปเกิดเป็นเปรต หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
  4. 4. เวลาใกล้จะตาย ได้ปรากฏเห็นวิมานและปรากฏเห็นเทวบุตรเทวดา แล้วก็สิ้นลมปราณในขณะนั้น ก็ไปเป็นเทวบุตรเทวดา เป็นอินทร์เป็นพรหมอยู่ในสรวงสวรรค์หรือพรหมโลก เวลาใกล้จะตาย ปรากฏเห็นครรภ์มารดา ก็ไปถือปฏิสนธิเกิดอีกในครรภ์ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
  5. 5. ส่วนพระอรหันต์ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เวลาใกล้จะตายก็มาเห็นกายเราส่วนใดส่วนหนึ่ง เช่น ลมหายใจเข้าออกเป็นต้น หรือ กระดูกท่อนใดท่อนหนึ่งเป็นต้น หรือผม ขน เล็บ ฟัน อันใดอันหนึ่งเป็นต้น หรือธาตุน้าอันใดอันหนึ่งในสกลร่างกายเป็นต้น มีดี เสลด น้าเลือด เหงื่อ น้ามันข้น น้าลาย ไขข้อ น้ามูตร หรืออันใดอันหนึ่งเป็นต้น ต่อจากนั้นแล้วท่านก็พลิกจิต ไม่ได้ติดอยู่ในผู้รู้ทั้งหลาย ทั้งอดีต อนาคต ปัจจุบันด้วย ท่านก็เข้าสู่พระนิพพานไปซะ หาธรรมอันไม่ตาย หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
  6. 6. ถ้าเราไม่หัดไว้ทีนี้ ใกล้จะตายมาพุทโธๆแด่เด้อ พุทโธๆเด้อ พุทโธๆยังไงเมื่อมีชีวิตอยู่มันก็ยังไม่ภาวนา เดี๋ยวจะเจ็บอันนั้นปวดอันนี้ ร้องครางไปสารพัดแล้วไม่หัดไว้เดี๋ยวนี้ไม่ได้ จาเป็นต้องหัดไว้ ถ้าตายคาภาวนาพุทโธ ถึงจะมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย อีกก็ตาม เราก็ไปสุคตินานอยู่เหมือนกัน หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
  7. 7. การทาบุญเราจะเลือกพระนั้นมันก็ต้องขึ้นอยู่กับใจของเรา แต่ส่วนหลวงปู่ต้องพิจารณาว่าข้อวัตรปฏิบัติของพระเหล่านั้นไปแถวใด ไปแถวไสยศาสตร์ หรือพุทธศาสตร์ ท่านเหล่านั้นเท่าที่สังเกตบวชเพื่อเลี้ยงชีวิต หรือเพื่อลาภยศ หรือเพื่อพ้นทุกข์ในวัฏสงสาร เราก็คงพออ่านออก เรื่องแผ่ๆ ขอๆ เรี่ยๆ ไรๆ มีหรือไม่ มีข้อวัตรรักใคร่ในการปฏิบัติหรือไม่ คาพูดคาสอนของท่านหนักไปในทางอามิส หรือในทางโลกุตรเพื่อหลุดเพื่อพ้น เสนาสนะที่อยู่ที่อาศัยวิเวกบ้างหรือไม่ เราดูก็คงรู้แพล็บเดียวกระมัง หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
  8. 8. คาถาม หลายคนมีความคิดว่า น่าจะไปทาบุญกับวัดที่จนๆ ขาดแคลน ห่างไกลชนบทไม่น่าจะไปทาบุญกับวัดที่รวยมีเจ้าอาวาสดังๆ เป็นที่เคารพของพุทธศาสนาทั่วไป อยากขอความเห็นของหลวงปู่ครับ ว่าผิดถูกประการใด คาตอบ จะว่าถูกก็ถูก ถ้าปรารภตามอดีตชาติแล้ว ผู้เคยได้ทาบุญร่วมกันมา แต่ภพก่อนชาติก่อนแล้ว จะดีหรือไม่ดีก็บันดาลได้ทาบุญร่วมกัน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันต้องเกี่ยวกับบุญที่โยงมา แต่ภพก่อนชาติก่อนอันเคยได้ร่วมกันข้อนี้สาคัญมาก หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
  9. 9. คาถาม 1. ผู้ที่บริจาคดวงตาให้กับโรงพยาบาลมีอานิสงส์ไหม 2. เมื่อบริจาคดวงตา ถ้าเป็นบุญบารมี จะเป็นปัจจัยให้ได้ดวงตา เห็นธรรมได้หรือเปล่า คาตอบ 1. ผู้บริจาคดวงตาให้กับโรงพยาบาล มีอานิสงส์มาก 2. เมื่อบริจาคดวงตาแล้วจะได้กุศลเป็นส่วนไหนนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับผู้ปรารถนา ยกอุทาหรณ์ เช่น นางอุบลวรรณถวายดอกบัวต่อพระปัจเจกฯแล้วก็ปรารถนาว่า ข้าพเจ้าเกิดมาในภพใดชาติใด ขอให้สีกายเหมือนดอกบัว และก็ได้รับผลอย่างนั้นจริง จนได้ชื่อว่าอุบลวรรณานั่นเอง คาว่าอุบลแปลว่าดอกบัว คาว่าวรรณาแปลว่า ผิวพรรณ สีกายเหมือนดอกบัวอยู่ห้าร้อยชาติติดๆกัน ดังนี้ ส่วนที่จะได้ดวงตาเห็นธรรม หรือไม่นั้นก็ต้องอธิษฐานว่า "ขอให้ข้าพเจ้าได้ดวงตาเห็นธรรม" อย่างนี้ ก็จะได้จริงสมคาดังปรารถนาดังผลทาน หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
  10. 10. คาถาม บางคนก็ว่าสละดวงตาไปแล้วเป็นวิญญาณก็ดี หรือเป็นผี และไปเกิดในภพสัมภเวสีจะไม่มีลูกตา ดวงตา จริงหรือไม่ คาตอบ ให้ดวงตาเขาไปแล้ว เกิดชาติหน้าไม่พิการ เพราะเชื่อผลศีลผลทาน เพราะผลศีลผลทานไม่ทาให้คนมีรูปขี้เหร่ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต

×