Contenu connexe
Similaire à Hematopoietic Stem Cell Transplantation: Current Practices in 2010 (19)
Plus de Utai Sukviwatsirikul (20)
Hematopoietic Stem Cell Transplantation: Current Practices in 2010
- 1. Hematopoietic Stem Cell Transplantation:
Current Practices in 2010
รศ.นพ.ปรีดา วาณิชยเศรษฐกุล
นับตั้งแตการปลูกถายไขกระดูกในมนุษยเพื่อรักษาโรคเลือด ประสบความสําเร็จ ใน
สหรัฐอเมริกาตั้งแตป ค .ศ. 1958 เปนตนมา มีการพัฒนาการรักษาโรครายดวยการปลูกถายไข
กระดูกเผยแพรขยายตัวในตามสถาบันการแพทยชั้นนํา ทั่วโลก ทั้งในผูปวยเด็ก และผูใหญ ทําให
ผูปวยโรคเลือด โรคมะเร็ง และโรครายแรงหลายชนิดที่ในอดีตไมมีทางรักษา สามารถไดรับการ
ปลูกถายไขกระดูกหรือเซลลตนกําเนิดเม็ดเลือดในปจจุบัน แลวหายขาดจากโรครายได ในประเท ศ
ไทยเราก็มีการปลูกถายไขกระดูกในสถาบันการแพทยใหญๆมาแลวไมต่ํากวา 20 ป ผลการรักษาก็
ไดรับการพัฒนาดีขึ้นตามลําดับ
จุดมุงหมายของการปลูกถายเซลลตนกําเนิดเม็ดเลือดคือ เพื่อจะแทนที่เซลลที่ไมแข็งแรง
หรือเซลลที่ผิดปรกติในไขกระดูก ดวยเซลลตนกําเนิดที่แข็งแรงและปรกติ เนื่องจากเซลลตนกําเนิด
เม็ดเลือด สามารถเก็บไดมาจาก 3 แหลงในรางกายมนุษย การปลูกถายเซลลตนกํา เนิดเม็ดเลือดจึง
มักถูกเรียกเปน
การปลูกถายเซลลตนกําเนิดเม็ดเลือด (Hematopoietic Stem Cell Transplantation) คืออะไร ?
1. การปลูกถายไขกระดูก (Bone marrow transplantation)
2. การปลูกถายเซลลตนกําเนิดจากกระแสเลือด (Peripheral blood stem cell
transplantation) และ
3. การปลูกถายเลือดจากสายสะดือ (Umbilical cord blood transplantation)
หรืออีกนัยหนึ่ง จุดประสงคของการปลูกถายเซลลตนกําเนิดคือเพิ่มศักยภาพในการรักษา
โรครายชนิดตางๆ ทั้งโรคมะเร็ง และไมใชโรคมะเร็ง ใหมีโอกาสหายขาดได
Stem cell ที่ปรกติ สามารถหาไดจากผูบริจาค ซึ่งอาจจะเปนพี่นองรวมบิดามารดาเดียวกัน
หรืออาจจะเปนอาสาสมัครผูบริจาคที่ไมใชญาติ (หรือในบางกรณีของโรคมะเร็ง อาจใชเซลลตน
กําเนิดของตัวผูปวยเอง) Stem cell นั้นจะถูกนํามาใหผูปวย (ผูรับ) ทางสายสวนหลอดเลือดดํา
หลังจากที่ผูปวยไดรับการเตรียมการโดยการรับยาเคมีบําบัดขนาดสูงแลว (บางกรณีใชการฉายรังสี
รักษาทั่วตัวรวมดวย) ขั้นตอนเตรียมการกอนปลูกถายนี้เรียกวา Conditioning ใชเวลาประมาณ 5-10
วันแลวแตสูตรการรักษา ในผูปวยโรคมะเร็ง จุดประสงคของการ conditioning ก็เพื่อกําจัด
เซลลมะเร็งที่ยังหลงเหลือคั่งคางในรางกายใหหมดสิ้น สําหรับผูปวยเด็กโรคทางพันธุกรรม เชน
การประชุมวิชาการร่วม
รพ.กรุงเทพ
2010
โดย
รศ.นพ.ปรีดา
วาณิชยเศรษฐกุล
- 2. โรคโลหิตจางเบตาธาลัสซีเมีย จุดประสงคของการ conditioning ก็เพื่อเปดเนื้อที่ในโพรงไขกระดูก
ใหเซลลตนกําเนิดเม็ดเลือดของผูบริจาคสามารถปลูกติด และเจริญแบงตัวขึ้นมาเปนเซลลที่ปรกติ
และเพื่อปรับภูมิตานทานของผูปวย (ผูรับ) ไมใหตอตานเซลลของผูบริจาค (ผูให)
กระบวนการปลูกถายจะกระทําตอเนื่องจากระยะ Conditioning วิธีการปลูกถายคือการให
stem cells ของผูบริจาคเขาไปในตัวผูปวยผานทางสายสวนหลอดเลือดดํา คลายคลึงกับวิธีการให
เลือดโดยทั่วไป เพียงแตตองมีการติดตามอาการและสัญญาณชีพตางๆอยางใกลชิด ขณะใหเซลลตน
กําเนิดแกผูปวย Stem cells ดังกลาวจะไหลเวียนไปในกระแสเลือดของผูปวย แ ละเขาสูโพรงไข
กระดูก ที่ซึ่งตอมา เซลลตนกําเนิดจะเจริญเติบโต เพิ่มจํานวน และพัฒนาไปเปนเซลลเม็ดเลือดชนิด
ตางๆ ที่แข็งแรง ในเวลา 2-3 สัปดาหถัดมา
รูปแบบของการปลูกถายขึ้นอยูกับใครคือผูบริจาคเซลลตนกําเนิด
การปลูกถายเซลลตนกําเนิดเม็ดเลือดมีกี่แบบ ?
• การปลูกถายแบบ Allogeneic จากพี่นอง: ผูบริจาค stem cells มีลักษณะทางหมู
เนื้อเยื่อ HLA (Human Leukocyte Antigen) ตรงกันกับผูปวย มักจะเปนพี่หรือนอง
รวมบิดามารดา
• การปลูกถายแบบ Allogeneic จากอาสาสมัครที่ไมใชญาติพี่นอง: ผูบริจาค stem
cells มีลักษณะทางหมูเนื้อเยื่อ HLA เขากันไดหรือใกลเคียงมากกับผูปวย โดยที่ผู
บริจาคนั้นไมใชเครือญาติพี่นองของผูปวย
• การปลูกถายแบบ Syngeneic: ผูบริจาคเปนพี่นองที่เปนฝาแฝดแท (ไขใบเดียวกัน)
กับผูปวย ซึ่งยอมมีลักษณะทางหมูเนื้อเยื่อ HLA ตรงกันทุกประการกับผูปวย
• การปลูกถายแบบ Autologous: ผูปวยโรคมะเร็ง (บางชนิด) จะตองบริจาคเซลลตน
กําเนิดของตนเอง เก็บสะสมและสงวนแชแข็งไวกอน แลวจะนําเซลลดังกลาว
กลับมาใหภายหลังจากระยะที่ผูปวยไดรับ conditioning ดวยยาเคมีบําบัดขนาดสูง
แลว
แพทยผูเชี่ยวชาญการปลูกถายเซลลตนกําเนิดเม็ดเลือด จะพิจารณาผูปวยแตละรายและแต
ละกรณีไปวา ควรจะใชการปลูกถายรูปแบบไหนถึงจะเหมาะสม
1. ไขกระดูก โดยการเจาะดูดไขกระดูกที่บริเวณกระดูกเชิงกราน (กระดูกสะโพก)
ดานหลัง ผูบริจาคจําเปนตองไดรับ การวางยาสลบขณะที่ทําการดูดไขกระดูก หลังการ
บริจาค เซลลในไขกระดูกจะแบงตัวเพิ่มจํานวนขึ้นมาทดแทนไดเอง ไมมีการสูญเสีย
อวัยวะหรือสมรรถภาพใดๆทั้งสิ้น
แหลงของเซลลตนกําเนิดเม็ดเลือดหาไดจากไหน ?
การประชุมวิชาการร่วม
รพ.กรุงเทพ
2010
โดย
รศ.นพ.ปรีดา
วาณิชยเศรษฐกุล
- 3. 2. กระแสเลือด โดยฉีดยา cytokine กระตุนที่เรียกวา G-CSF ใหเซลลในไขกระดูกแบงตัว
เพิ่มจํานวน แลวออกมาไหลเวียนในกร ะแสเลือด จากนั้นนําเลือดของผูบริจาคผาน
เครื่องมือคัดแยก stem cell เก็บไว แลวคืนเลือดและพลาสมากลับสูรางกายผูบริจาค
เปนวิธีที่ผูบริจาคจะรูตัวดีตลอด ไมตองวางยาสลบ ลักษณะการบริจาคคลายคลึงกับ
การบริจาคโลหิต
3. เลือดจากสายสะดือและรกของเด็กทารกแรกเกิด ซึ่งวงการแพทยคนพบวาอุดมไปดวย
เซลลตนกําเนิดเม็ดโลหิต เปนการนําสิ่งที่เคยถูกละทิ้งไปในอดีตมาทําใหเกิด
ประโยชนในการรักษาผูปวย วิธีการทําโดยการเก็บทันทีหลังจากทารกเพิ่งคลอดและ
ผูกตัดสายสะดือแลว ดวยวิธีปราศจากเชื้อโรคและปองกันไมใหเลือดแข็งตัวเปนลิ่ม
เลือด จากนั้นทําการเตรียมและเก็บสงวน cord blood ไวในสภาพแชแข็งในถัง
ไนโตรเจนเหลวที่อุณหภูมิเย็นจัด
จะเห็นไดวาแหลงของเซลลตนกําเนิดเม็ดเลือดที่นํามาใชเพื่อการปลูกถาย ไดมาจากไข
กระดูก จากกระแสเลือด และจากเลือดสายสะดือและรกของทารกแรกเกิด ดังนั้นเราจึงเรียกชื่อการ
รักษาวิธีนี้ตามแหลงของเซลลตนกําเนิดเม็ดโลหิตที่ใชวาเปนการปลูกถายไขกระดูก การปลูกถาย
เซลลตนกําเนิดจากกระแสเลือด และการปลูกถายเลือดสายสะดือ ตามลําดับ
หลังจากผูปวยไดรับการเตรียมสภาพและไดรับการปลูกถาย ตองใชเวลานาน 2-3 สัปดาห
กวาที่ stem cell ใหมจะเริ่มปลูกติด ผูปวยตองพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ที่ศูนยปลูกถายฯในหอง
เดี่ยวปลอดเชื้อซึ่งติดตั้งเครื่องกรองเชื้อโรค ฝุนละอองแบบประสิทธิภาพสูง และเปนแรงดันบวก
ผูปวยตองไดรับการใสสายสวนเสนเลือดดําใหญเพื่อเปนทางใหยา ใหเลือด ให stem cell ใหสารน้ํา
และเปนทางใหผูปวยไดรับการดูดเลือดตรวจทุกวัน ผูปวยไดรับการเฝาระวังปองกันรักษา
ภาวะแทรกซอน ตองไดรับยาปองกันการติดเชื้อ ตองไดรับเลือดและเกร็ดเลือดที่ผานการเตรียม
อยางพิเศษ ไดรับยาชวย กระตุนการปลูกถายติดและยากดภูมิตานทานเพื่อปองกันภาวะ GvHD
(Graft-versus-host disease เปนภาวะที่ T-lymphocyte ที่ปะปนอยูกับเซลลตนกําเนิดเม็ดเลือดของผู
บริจาค กระทําปฏิกิริยาตอ เนื้อเยื่อของผูปวย เกิดรอยโรคที่ผิวหนัง ลําไส และตับ เปน
ภาวะแทรกซอนที่เกิดไดในการปลูกถายแบบ allogeneic) ผูปวยบางรายตองไดรับสารอาหารทาง
หลอดเลือดดวย ผูปวยมักตองพักอยูในโรงพยาบาลนานประมาณ 6-8 สัปดาหจึงจะฟนตัวแข็งแรง
พอที่จะสามารถกลับบานได จากนั้น แพทยจะนัดติดตามอาการและผลเลือดแบบผูปวยนอก เปน
ระยะๆ อยางตอเนื่อง
กระบวนการปลูกถายเซลลตนกําเนิดเม็ดเลือดเปนอยางไร ?
โรคอะไรควรพิจารณารักษาดวยการปลูกถายเซลลตนกําเนิดเม็ดเลือด ?
การประชุมวิชาการร่วม
รพ.กรุงเทพ
2010
โดย
รศ.นพ.ปรีดา
วาณิชยเศรษฐกุล
- 4. ตามมาตรฐานการแพทยปจจุบัน โรคหรือกลุมโรคที่มีรายงานความสําเร็จของการปลูกถาย
เซลลตนกําเนิดเม็ดเลือด (Potentially curable by stem cell transplantation) มีดังตอไปนี้
กลุมโรครายที่ไมใชมะเร็ง (Non-malignant diseases)
1. โรคที่มีความผิดปรกติของเซลลตนกําเนิดในไขกระดูก (Marrow stem cell defects)
- โรคไขกระดูกฝอแบบรุนแรง (Severe aplastic anemia)
- โรคโลหิตจาง Beta-thalassemia diseases ทั้ง homozygous beta-thalassemia major
และ beta-thalassemia/hemoglobin E disease ในรายที่มีอาการซีดรุนแรง
- โรค Sickle cell diseases ในรายที่มีอาการซีดรุนแรง หรือมี severe vaso-occlusive
crisis
- Familial erythrophagocytic lymphohistiocytosis
- Histiocytic disorders เชนโรค Langerhans cell histiocytosis ที่กําเริบ หรือไม
ไดผลจากการรักษาตามมาตรฐาน
2. โรคไขกระดูกฝอหรือทํางานผิดปรกติที่ถายทอดทางพันธุกรรม (Inherited bone marrow
failure syndromes)
- Fanconi anemia
- Dyskeratosis congenita
- Reticular dysgenesis
- Pure red cell anemia (Diamond-Blackfan anemia)
- Congenital neutropenia (Kostmann syndrome)
- Shwachman-Diamond syndrome
- Amegakaryocytic thrombocytopenia
- Thrombocytopenia with absent radii (TAR syndrome)
3. โรคภูมิคุมกันบกพรองแตกําเนิด (Primary immunodeficiencies)
- Severe combined immunodeficiencies SCID)
- Wiskott-Aldrich syndrome
- X-linked lymphoproliferative disorders
- DiGeorge syndrome
- Cartilage-hair hypoplasia
- Ataxia telangiectasia
- Chronic granulomatous diseases
- Chediak-Higashi syndrome
การประชุมวิชาการร่วม
รพ.กรุงเทพ
2010
โดย
รศ.นพ.ปรีดา
วาณิชยเศรษฐกุล
- 5. - Leukocyte adhesion deficiency
- Griscelli syndrome
4. โรคความผิดปรกติทางเมตาบอลิสม (Inborn errors of metabolism)
- Adrenoleukodystrophy
- Hurler disease
- Gaucher disease
- Niemann-Pick disease
- Osteopetrosis
5. กลุมโรคออโตอิมมูน (Autoimmune diseases) ยังคงเปนการทดลองศึกษาวิจัยอยู โดยมาก
ใชแนวทางของการปลูกถายแบบ autologous transplant อาทิเชนโรค multiple sclerosis,
scleroderma, rheumatoid arthritis, และ SLE เปนตน
กลุมโรคมะเร็ง (Malignant diseases)
สวนใหญจะเปนมะเร็งทางโลหิตวิทยา (Hematologic malignancies) ของระบบเม็ดเลือด
ตอมน้ําเหลือง หรือไขกระดูก
1. โรคมะเร็งไขกระดูก Multiple myeloma สวนใหญจะใชวิธีการใหเคมีบําบัด รวมกับการ
ปลูกถายแบบ autologous
2. โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว Acute lymphoblastic leukemia ที่มีการกําเริบ กลับเปนซ้ํา ดื้อตอ
การรักษามาตรฐาน หรือมีปจจัยเสี่ยงในทางที่ไมดี (relapse, refractory, or poor prognostic
factors)
3. โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว Acute non-lymphoblastic leukemia ชนิด M0 ถึง M7, ยกเวนชนิด
M3 ซึ่งมักจะไดผลดีตอยาที่รักษา และมีการพยากรณโรคดี
4. โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว Chronic myeloid leukemia ในกรณีที่ผูปวยรักษาดวยยาในกลุม
tyrosine kinase inhibitor ไมไดผล
5. โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว Juvenile myelomonocytic leukemia ซึ่งพบไดในเด็ก
6. โรคไขกระดูกมีเซลลผิดปรกติ (Myelodysplasia)
7. โรคมะเร็งตอมน้ําเหลืองชนิด Non-Hodgkin lymphoma ที่เปน high grade หรือที่มีการ
กําเริบ กลับเปนซ้ํา
8. โรคมะเร็งตอมน้ําเหลืองชนิด Hodgkin disease ที่เปน high grade หรือที่มีการกําเริบ กลับ
เปนซ้ํา
9. กลุมโรคมะเร็งเนื้อเยื่อในเด็ก (Pediatric solid tumors with high risk factors or recurrence)
กลุมนี้แมจะไมใชมะเร็งทางระบบโลหิต แตก็เปนกลุมโรคมะเร็งที่ทําใหมีผลการรักษา
การประชุมวิชาการร่วม
รพ.กรุงเทพ
2010
โดย
รศ.นพ.ปรีดา
วาณิชยเศรษฐกุล
- 6. สําเร็จดีขึ้นไดโดยแนวทางของการปลูกถายแบบ autologous กลุมนี้ประกอบดวยโรคมะเร็ง
หลายชนิด อาทิเชน Ewing sarcoma, Osteosarcoma, Neuroblastoma, Wilms tumor เปนตน
จากประสบการณทางการแพทย
• โรคมะเร็งบางชนิด อยางมะเร็งไขกระดูก การใหเคมีบําบัดที่เหมาะสมรวมกับการปลูกถาย
ไขกระดูกผลการรักษาจะดีกวา เมื่อเปรียบเทียบกับการบําบัดมะเร็งดวยเคมีมาตรฐานเพียง
อยางเดียว
พบวา
• มะเร็งตอมน้ําเหลือง ซึ่งเปนมะเร็งชนิดที่แบงตัวเร็ว ถาการรักษามาตรฐานหลักไม
สามารถรักษาใหหายสนิท หรือมีโอกาสที่จะกําเริบเปนขึ้นมาใหมก็จะพิจารณาใหมีการ
ปลูกถายไขกระดูกรวมดวย
ซึ่งปกติถาเราเพิ่มยาเคมีบําบัดขนาดสูงๆ เซลลมะเร็งอาจจะตายหมด แตสงผลขางเคียงที่สําคัญ
ทําใหไขกระดูกผูปวยฝอไปดวย ทําใหผูปวยไมอาจทนการไดรับเคมีบําบัดขนาดสูงๆ เพื่อรักษา
มะเร็งได แตถาเสริมการปลูกถายไขกระดูกให หลังการใหเคมีบําบัดขนาดสูงผลการรักษายอมนา
พอใจกวาสําหรับผูปวยกลุมนี้ แพทยมักจะทําการเก็บสเต็มเซลลของผูปวยเองไวกอนใหเคมีบําบัด
และนําสเต็มเซลลนั้นไปแชแข็งในถังไนโตรเจนเหลว หลังจากใหยาเคมีบําบัดหรือฉายแสงรังสี
รักษาขนาดสูงจนครบคอรส ก็ปลูกถายสเต็มเซลลที่เก็บรักษาไวคืนใหกับผูปวย
• โรคมะเร็งเม็ดโลหิตขาวบางชนิด มีลักษณะผิดปกติทางโครโมโซมรวมดวย แมจะเปนชนิด
ที่นาจะไดผลดีจากเคมีบําบัดมาตรฐาน แตถามีตัวบงชี้วาจะกําเริบใหมไดหรือนาจะรักษา
ใหหายขาดไดยาก กลุมนี้จะพิจารณาใหปลูกถายไขกระดูกรวมดวยเลย ไมตองรอใหมะเร็ง
กําเริบซ้ํา จนทําใหผูปวยรางกายทรุดโทรมเกินไป
• เวลาปลูกถายสเต็มเซลลจะมีกรรมวิธีคลายกับการใหเลือดปรกติ นั่นคือใหเขาทางเสนเลือด
ดําใหญ ผานทาง Central venous catheter แบบ double-lumen โดยจะตองมีการติดตาม
อาการ และวัดสัญญาณชีพที่สําคัญอยางใกลชิดและตอเนื่อง สเต็มเซลลที่ใหผาน catheter
เขาสูรางกายนี้ก็จะไหลเวียนตามกระแสเลือด เขาไปฝ งตัวในไขกระดูกและผลิตเม็ดเลือด
และเกล็ดเลือดทดแทนสเต็มเซลลที่ถูกเคมีบําบัด (Conditioning regimen) ทําลายไป เฉลี่ย
ใชเวลา 2-3 สัปดาหกวาสเต็มเซลลใหมจะกอตัวและเริ่มผลิตเม็ดเลือดและเกล็ดเลือด
ระหวางนี้ผูปวยตองไดรับการใหเลือดพิเศษ ไดรับยาหลายขนาน และตองเฝาระวังการติด
เชื้อ เนื่องจากจํานวนเม็ดเลือดขาวที่ชวยตอสูเชื้อโรค รวมทั้งเม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือดจะ
การประชุมวิชาการร่วม
รพ.กรุงเทพ
2010
โดย
รศ.นพ.ปรีดา
วาณิชยเศรษฐกุล
- 7. ต่ํามาก มีภาวะโลหิตจาง เสี่ยงตอการติดเชื้องาย และอาจตกเลือดภายใน ผูปวยตองอยูใน
หองปลอดเชื้อที่ติดตั้งเครื่องกรองอากาศประสิทธิภาพสูงและเปนความดันบวก (Positive
pressure, HEPA filtration room) เพื่อผลักดันเชื้อโรคและฝุนละอองตางๆใหออกจากหอง
ผูปวย
ผูบริจาค stem cell ควรเปนผูที่มีหมูเนื้อเยื่อ HLA 6 หมูหลักตรงกันหรือเขากันไดกับผูปวย
จึงจะมีโอกาสปลูกถายติดสําเร็จสูง ไมมี graft rejection หรือ failure และเกิดภาวะแทรกซอน Graft-
versus-Host disease (GvHD) นอยหรือไมเกิดเลย หมู HLA หรือ Human Leukocyte Antigen หลัก
ดังกลาวประกอบดวย HLA-A, -B, -DR อยางละ 2 ตําแหนง ผูบริจาคสวนใหญที่หาไดมักจะเปนพี่
หรือนองรวมบิดามารดาเดียวกันกับผูปวย เนื่องจากโอกาสที่พี่นองจะมี HLA ตรงกันทุกประการ
เทากับรอยละ 25 หรือ 1 ใน 4 สวนตัวบิดามารดาเองจะมี HLA ตรงกับผูปวยเพียงครึ่งเดียวเทานั้น
ใครสามารถเปนผูบริจาคเซลลตนกําเนิดเม็ดเลือด ?
ถาผูปวยเปนบุตรคนเดียว หรือไมมีพี่นองที่มี HLA ตรงกัน แพทยสามารถสรรหาผูบริจาค
ที่เปนอาสาสมัคร (Unrelated, volunteer donor) ไดจากศูนยกลางการขึ้นทะเบียนอาสาสมัครบริจาค
stem cell คนไทยที่เรียกวา National Stem Cell Donor Registry ของศูนยบริการโลหิตแหงชาติ
สภากาชาดไทย นอกจากนี้ ศูนยฯยังเปนสื่อกลางในการติดตอแสวงหาผูบริจาคจากตางประเทศดวย
กรณีที่ผูปวยเปนโรคมะเร็งที่มีโอกาสกําเริบลุกลามสูง โรคไขกระดูกฝอชนิดรุนแรง โรค
ภูมิคุมกันบกพรองแตกําเนิด หรือโรคอันตรายใดๆก็ต าม ที่อาจคราชีวิตผูปวยไดในเวลาอันสั้นถา
ไมไดรับการปลูกถายในเร็ววัน แตผูปวยไมมี HLA-matched related donor ที่ available เลย แพทย
จําเปนตองพิจารณาผูบริจาคที่เปน alternative donor ใหแกผูปวย ดังตอไปนี้
ผูบริจาคที่เปนทางเลือกอื่น (Alternative stem cell donors)
• Matched unrelated donor อาจจะเปนผูบริจาคคนไทยหรือจากตางประเทศ เชน ไตหวัน
ฮองกง เปนตน ขอกําหนดคือ ตองมีลักษณะหมู HLA หลักคือ HLA-A, -B, -DRB1
เหมือนกับของผูปวยอยางละเอียดทั้ง 6 ตําแหนง โดยตรวจถึงระดับ DNA แบบ high-
resolution ในปจจุบัน หลายสถาบันการแพทยในตางประเทศมีคําแนะนําใหตรวจ HLA ถึง
อยางนอย 10 ตําแหนงคือ HLA-A, -B, -C, -DRB1, -DQB1 อยางละ 2 ตําแหนง เพื่อคัดสรร
หาผูบริจาคที่ไมใชญาติพี่นองที่มีลักษณะหมูเนื้อเยื่อเขากับผูปวยใหไดใกลเคียงที่สุด เพื่อ
ใหผลการปลูกถายมีโอกาสสําเร็จสูงขึ้นใหทัดเทียมกับผลการปลูกถายจาก matched related
donor หวังใหผลแทรกซอนจากการปลูกถายเชน การปลูกถายไมติด การเกิดภาวะ acute
GvHD ที่รุนแรง รวมถึงอัตราการเสียชีวิตลดลง
การประชุมวิชาการร่วม
รพ.กรุงเทพ
2010
โดย
รศ.นพ.ปรีดา
วาณิชยเศรษฐกุล
- 8. • Partially mismatched donor เชน เลือกผูบริจาคที่เปนแค 5/6 HLA-matched อาจพิจารณา
ผูบริจาคที่เปน HLA-mismatched แบบ high-resolution เพียง 1 ตําแหนงที่ HLA class I คือ
HLA-A หรือ -B ใชในกรณีที่ผูปวยเปนโรคมะเร็งที่มีโอกาสกําเริบลุกลามสูง โรคไข
กระดูกฝอชนิดรุนแรง โรคภูมิคุมกันบกพรองแตกําเนิด หรือโรคอันตรายใดๆก็ตาม ที่อาจ
คราชีวิตผูปวยไดในเวลาอันสั้นถาไมไดรับการปลูกถายในเร็ววัน ไมควรพิจารณาทําการ
ปลูกถายลักษณะนี้ในผูปวยที่เปนโรคธาลัสซีเมีย หรือโรคอื่นที่มีการรักษามาตรฐานแบบ
อื่นๆที่ไมเสี่ยงอันตราย เพราะผลการปลูกถายแบบนี้ มีโอกาสสําเร็จไมสูงนัก มีความเสี่ยง
ตอการเกิด acute GvHD ที่รุนแรง รวมถึงอัตราการเสียชีวิตสูง ขึ้น ยิ่งถาผูบริจาคเปน
mismatched unrelated donor จะยิ่งมีความไมสําเร็จเกิดขึ้นมากกวาใช mismatched related
donor และไมควรเสี่ยงเลือกผูบริจาคไขกระดูกหรือเซลลในกระแสเลือดที่มี HLA-
mismatched มากกวา 1 ตําแหนง คือ ไมควรเลือก donor ที่นอยกวา 5/6 matched
• Unrelated donor cord blood unit สามารถพิจารณาเลือกใชใหแกผูปวยเด็ก หรือผูปวยที่มี
น้ําหนักตัวนอย โดยจะตองมีจํานวน hematopoietic stem cell dose เพียงพอตอน้ําหนักตัว
ผูปวยตองมี viability ดีพอดวย ขอดีของการเลือกใชเลือดสายสะดือที่รับบริจาคและถูกเก็บ
แชแข็งไวในธนาคารเลือดสายสะดือคือ มีพรอมใชทันที (readily available) ไมมีภาวะเสี่ยง
ที่ผูบริจาคจะเจ็บตัวหรือปฏิเสธการบริจาค การเขากันไดของหมู HLA ของเลือดสายสะดือ
กับของผูปวยก็ไมเขมงวดมากนัก มีรายงานทางการแพทยวาการปลูกถายเลือดสายสะดือที่
เปน 5/6 หรือแมกระทั่ง 4/6 matched สามารถใหผลลัพธการรักษาเหมือนการปลูกถายไข
กระดูกจากผูบริจาคที่เปน 6/6 matched unrelated donor จํานวน stem cell dose เองก็
ตองการใช dose นอยกวาของการปลูกถายไขกระดูก ก็ยังสามารถปลูกถายสําเร็จได และมี
อุบัติการณและความรุนแรงของ acute GvHD นอยกวาดวย
• Double unrelated cord blood units (or multiple cord blood units) สามารถพิจารณาใช
ในผูปวยโรคมะเร็ง หรือโรครายที่มีความเสี่ยงสูง แตผูปวยเปนผูใหญหรือมีน้ําหนักตัวมาก
เกินไป ทําใหจํานวน cord blood stem cell dose ใน 1 unit ไมเพียงพอ จําเปนตองใช
unrelated cord blood 2 units แตมีขอแมวา แตละถุง (unit) ตองมี HLA match กันเอง และ
ตอง match กับผูปวยไมนอยกวา 4/6 matched ขึ้นไป ซึ่งอาจจะเปนการแกปญหาขอจํากัด
ของการปลูกถายในผูใหญที่เปนโรคมะเร็งทางระบบโลหิต ขณะนี้ บางสถาบันใน
ตางประเทศกําลังศึกษาคืบหนาถึงการใช unrelated cord blood มากกวา 2 units (multiple
cord blood units) วาผลดีผลเสียเปนอยางไร
• Haploidentical donor คือผูบริจาคที่มีหมู HLA เหมือนกันกับผูปวยเพียงครึ่งเดียว (one
haplotype matched, 3/6 matched) มักเปนมารดาหรือบิดาของผูปวยเด็ก หรือบุตรของ
ผูปวยผูใหญ หรืออาจเปนพี่นองรวมบิดามารดาเดียวกันก็ไดที่มีหมู HLA ซ้ํากันแคขางเดียว
การประชุมวิชาการร่วม
รพ.กรุงเทพ
2010
โดย
รศ.นพ.ปรีดา
วาณิชยเศรษฐกุล
- 9. (ครึ่งเดียว, haploidentical) ใชในกรณีโรคมะเร็ง โรคภูมิคุมกันบกพรองอยางรุนแรง หรือ
โรครายที่มีความเสี่ยงสูงมากๆเทานั้น เพราะมีโอกาสปลูกถายไมสําเร็จสูง หรือเกิดภาวะ
acute GvHD ที่รุนแรง เพราะหมู HLA อีกขางหนึ่งไมตรงกัน อยางไรก็ตาม อาจตอง
พิจารณาผูบริจาคลักษณะนี้ในกรณีที่ผูปวยไมมี available HLA-matched related or
unrelated donors เลย และผูปวยไมอาจมีชีวิตรอไ ดนานๆ เพราะอยางนอย haploidentical
donor มักเปนสมาชิกในครอบครัวที่มักเต็มใจยินดีรีบบริจาค stem cell ให การปลูกถาย
แบบ haploidentical นี้ อาจมีทั้งกระบวนการ unmanipulation และ manipulation of
hematopoietic stem cells กอนปลูกถาย แลวแตสูตรการรักษา
• CD34-purified autologous peripheral blood stem cells เปนเซลลตนกําเนิดจากกระแส
เลือดที่ผานกระบวนการคัดแยก CD34+ หรือ hematopoietic cell ใหบริสุทธิ์ กอนจะนําไป
ปลูกถายคืนใหแกตัวผูปวย เสมือนเปนวิธี indirect tumor purging ใชในกรณีปลูกถายแบบ
autologous เพื่อปองกัน tumor-contaminated stem cells ที่จะใสไป rescue ผูปวยเอง หวังวา
จะปองกัน recurrence of malignant disease
• CD34-positive selected allogeneic peripheral blood stem cells อาจทําใน stem cells
ของผูบริจาค haploidentical เพื่อใหไดเซลลตนกําเนิดเม็ดเลือดอยางแทจริง เปนการลด
CD3 หรือ T-cell ทางออม เพื่อลดปญหาการเกิด severe acute GvHD ในตัวผูปวย แตก็อาจ
มีปญหาของการปลูกถายไมติด หรือภูมิคุมกันโรคฟนตัวชามาก เสี่ยงตอการติดเชื้อฉวย
โอกาส บางครั้งแพทยจําเปนตองเติม stem cells หรือ T-cell (DLI) หรือ NK cells (CD56+)
ของผูบริจาคเขาไปชวยเสริมเพิ่มฟนสภาพภูมิคุมกันโรคของผูปวย ปญหาอีกอยางคือ หลัง
ปลูกถาย ถาผูปวยไมมีภาวะ graft-versus-host เลย ก็อาจไมมีภาวะ graft-versus-leukemia
ที่เพียงพอ เสี่ยงตอ relapse of leukemia ได แพทยจึงตองปรับสมดุลของ cellular
immunotherapy นี้ใหดี
• CD3/CD19 negative selected allogeneic peripheral blood stem cells อาจทําใน stem
cells ของผูบริจาค haploidentical เพื่อใหไดเซลลตนกําเนิดเม็ดเลือดอยางแทจริง เปนการ
ลด CD3 หรือ T-cell ทางออม เพื่อลดปญหาการเกิด severe acute GvHD ในตัวผูปวย แต
NK cells นาจะยังคงอยู อาจทําใหภูมิคุมกันโรคฟนตัวไมชาเกินไป และยังเปนการ
preserve เซลลที่มี killer effect ตอมะเร็งทางระบบโลหิต ทําใหภาวะ graft-versus-
leukemia ยังคงอยู
• CD3 depleted (TCD, T-cell depleted) allogeneic peripheral blood stem cells อาจทํา
ใน stem cells ของผูบริจาค haploidentical เพื่อใหไดเซลลตนกําเนิดเม็ดเลือดอยางแทจริง
เปนการลด CD3 หรือ T-cell ทางออม เพื่อลดปญหาการเกิด severe acute GvHD ในตัว
ผูปวย แต B-cells และ NK cells นาจะยังคงอยู ทําใหภูมิคุมกันโรคฟนตัวไมชาเกินไป และ
การประชุมวิชาการร่วม
รพ.กรุงเทพ
2010
โดย
รศ.นพ.ปรีดา
วาณิชยเศรษฐกุล
- 10. ยังเปนการ preserve เซลลที่มี killer effect ตอมะเร็งทางระบบโลหิต ทําใหภาวะ graft-
versus-leukemia ยังคงอยู แตก็ตองระมัดระวังการเกิด acute GvHD ดวย
ใชในกรณีที่ผูปวยผูใหญที่สูงอายุ เสี่ยงตอการทนตอเคมีบําบัด ขนาดสูงหรือการฉายรังสีทั่วตัว
ไมไหว หรือผูปวยอายุใดก็ตาม ที่มีอวัยวะสําคัญทํางานบกพรองชํารุด เชน หัวใจ ปอด ตับ ไต หรือ
มีเชื้อโรคหรือเชื้อราซอนเรน การให Conditioning regimen ขนาดสูงแบบมาตรฐาน อาจทําให
สภาพรางกายผูปวยทนรับไมไหว เกิดภาวะอวัยวะสําคัญทํางานลมเหลว มีโอกาสเสียชีวิตหรือเปน
อันตรายสูง จึงมีแนวทางใหม ใหใชยาเคมีบําบัดหรือฉายรังสีรักษาขนาดต่ําลง ทําใหการกดไข
กระดูกมีนอย เม็ดเลือดตางๆจะไมต่ําเกินไป ผูปวยที่สภาพรางกายไมแข็งแรงนัก จะทนกับการปลูก
ถายแบบนี้ได สูตรนี้จึงเรียกวา Non-myeloablative stem cell transplantation หรือถาใชสูตรที่ลด
ขนาดความแรงหรือความเขมลงบาง จะเรียกวา Reduced intensity stem cell transplantation ทําให
morbidity และ treatment-related mortality ลดนอยลง อยางไรก็ตาม การลดขนาดของ conditioning
อาจทําใหทําลายเซลลรายของผูปวยไดไมราบคาบ หรือกดภูมิคุมกันของผูปวยไดไมมากพอ เกิด
ภาวะ mixed chimerism ขึ้น คือมีทั้งเซลลตนกําเนิดของผูบริจาคและของผูปวยเอง ในไขกระดูก
ของผูปวย ทําใหแพทยตองสงกําลังเสริม คือให DLI (Donor lymphocyte infusion) แกผูปวย เพื่อไป
boost กระตุนใหในไขกระดูกผูปวย มีเซลลของผูบริจาคเพิ่มขึ้นๆ และจะทําลาย แทนที่เซลลราย
ของผูปวยไดในที่สุด อนึ่ง การทํา DLI ตองปรับใหขนาดและระยะเวลาที่เหมาะสม มิฉะนั้น อาจทํา
ใหเกิด acute GvHD ที่รุนแรงได
การปลูกถายที่ใชยาที่เตรียมการลดขนาดลง (Reduced intensity conditioning)
การประชุมวิชาการร่วม
รพ.กรุงเทพ
2010
โดย
รศ.นพ.ปรีดา
วาณิชยเศรษฐกุล